ตอนที่ 315-3 ความโกรธเกรี้ยวของท่านอ๋อง

ชายาเคียงหทัย

ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ยิ้ม​อย่าง​จนใจ​แล้ว​ตรัส​ว่า​ ​“​ช่างเถิด​ ​เทียบ​กับ​คน​พวก​นั้นแล​้​ว.​..​นับว่า​นาง​จากไป​อย่างสงบ​ ​สั่งการ​ลง​ไป​ให้​กรม​พิธีการ​รีบ​จัด​พิธี​ฝังศพ​แก่​องค์​หญิง​ ​พวกเรา​จะ​เดินทาง​ไป​เมือง​อัน​ก่อนกำหนด​”​ ​ไม่ว่า​เพราะ​ความรู้สึก​ที่​พระองค์​ไม่​อยาก​เผชิญหน้า​กับ​ความพ่ายแพ้​ ​หรือ​จะ​เพราะ​เกรงกลัว​ม่อ​ซิว​เหยา​กับ​พระ​ชายา​ก็ตาม​ ​ฮ่องเต้​แห่ง​ซี​หลิง​ไม่​เหลือ​ความอาลัย​อาวรณ์​ใน​เมืองหลวง​ที่อยู่​ใน​สภาพ​นี้​อีกแล้ว

​“​รับ​บัญชา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ฝ่า​บาท​ ​เมื่อ​ครู่​นอก​วัง​ส่งข่าว​จาก​ตำหนัก​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​มา​ว่า​บุตรชาย​สาย​รอง​ของ​รุ่ยจ​วิ​้​นอ​๋​อง​จำนวน​หนึ่ง​เสียชีวิต​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ตรอง​ดู​ครู่หนึ่ง​ ​ขันที​รู้สึก​ว่า​ควรจะ​บอกข่าว​ดีนี​้​แก่​ฝ่า​บาท​เสียหน่อย​ ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​เบิก​เนตร​กว้าง​ ​“​หา​ ​จริง​หรือ​”

​“​จริง​แท้​แน่นอน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เรื่อง​ครานี​้​เกรง​ว่า​จะ​เกี่ยวข้อง​กับ​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ ​ติ้ง​อ๋อง​โกรธ​เกรี้ยว​จน​ฆ่า​และ​ยึดทรัพย์​ตำหนัก​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​และ​ตำหนัก​รุ่ยจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ ​ทั้ง​ตระกูล​…​ถูก​ฆ่า​จน​ไม่​เหลือหลอ​…​”​ ​กล่าวถึง​ตรงนี้​ขันที​ที่​มีอายุ​ผู้​นั้น​ก็​อด​สั่นสะท้าน​ขึ้น​มา​ไม่ได้

​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ตะลึง​ไป​ครู่หนึ่ง​จึง​หัวเราะ​หึๆ​ ​ออกมา​สอง​คำ​ตรัส​ว่า​ ​“​เหลย​เจิ​้น​ถิ​ง.​..​เกรง​ว่าความ​ฉลาด​ของ​เขา​จะ​มา​ได้​เท่านี้​แล้ว​กระมัง​ ​ช่างเถิด​ ​อย่างน้อย​…​อำนาจ​ของ​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งก​็​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​ทำลาย​ลง​จน​เหลือ​ไม่​มาก​แล้ว​ ​พวกเรา​รีบ​ออกจาก​ซี​หลิง​ไป​ยัง​เมือง​อัน​กัน​เถิด​ ​สั่งการ​ลง​ไป​ ​อย่า​ได้​ยั่วยุ​ดาว​หายนะ​ดวง​นี้​ให้​พิโรธ​ขึ้น​มา​อีก​”

​“​กระหม่อม​รับ​บัญชา​”

​เยี​่ย​หลี​ฟื้น​ขึ้น​มาก​็​เป็นเวลา​หลังจากนั้น​สาม​วัน​แล้ว​ ​แม้ว่า​เวลา​สาม​วัน​จะ​ไม่​นับว่า​ยาวนาน​อะไร​ ​แต่​การ​จัดการ​เรื่องราว​ของ​ติ้ง​อ๋อง​นั้น​ดีเยี่ยม​มาโดยตลอด​ ​ดังนั้น​ใน​สาม​วันนี้​อำนาจ​ที่​ยัง​หลงเหลือ​อยู่​ทั้ง​นอก​และ​ใน​เมืองหลวง​ล้วน​ถูก​ฉิน​เฟิง​ ​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​และ​คนอื่นๆ​ ​เก็บกวาด​จน​หมดจด​ ​ส่วน​กิจการ​ของ​สามสี​่​ตระกูล​ที่​สูญสลาย​หรือ​ศีรษะ​กี่​คนที​่​หล่น​ลงพื้น​ ​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​ประชาชน​ปกติธรรมดา​จะ​มารั​บรู​้​ได้​ ​ทว่า​แม้​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​มี​คน​ไม่น้อย​ที่​รับรู้​ได้​ว่า​คน​คุ้นหน้า​คุ้นตา​ใน​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​ถูก​เก็บกวาด​จน​เรียบ​ราบ​ภายใน​คืน​เดียว​ไป​แล้ว​ ​ใน​ยุค​ที่​วุ่นวาย​ปั่นป่วน​นี้​ ​แค่​การ​จะ​มีชีวิต​อย่างสงบ​ก็​นับว่า​ยาก​ยิ่ง​แล้ว​ ​หาก​มี​ความสงสัย​ใน​เรื่อง​ใด​ก็​ต้อง​แอบ​สงสัย​อยู่​ใน​ใจ​อย่าง​เงียบๆ​ ​เท่านั้น

​“​พี่​สี่​…​พี่​สี่​!​”​ ​เยี​่ย​หลี​ที่​จม​อยู่​ใน​นิทรา​ลืมตา​ขึ้น​โดยพลัน​ ​นาง​ยื่นมือ​ไป​กำ​ข้อมือ​ใครคนหนึ่ง​ที่อยู่​เบื้องหน้า​ไว้​แน่น​ ​ผู้​ที่​คอย​เฝ้า​อยู่​ข้าง​เตียง​จึง​ตกใจ​เล็กน้อย​ ​“​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​…​”

​ผู้​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​เตียง​ก็​คือฮู​หยิน​ใหญ่​สกุล​สวี​ ​ใน​มือ​ยัง​ถือ​ผ้า​อุ่นๆ​ ​กำลังจะ​เช็ด​เหงื่อ​ให้​นาง​อยู่​ ​นึกไม่ถึง​ว่า​จะ​ถูก​เยี​่ย​หลี​จับ​ไว้​อย่างแรง​จึง​ตกใจ​เข้า​ ​“​เยี​่ย​เอ๋อร​์​ ​ในที่สุด​เจ้า​ก็​ฟื้น​แล้ว​”​ ​เมื่อ​เห็น​ว่านาง​ฟื้น​แล้ว​ ​สวีฮู​หยิน​ก็ดี​ใจ​ยิ่ง​ ​ใบหน้า​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความรัก​และ​เมตตา​ปรากฏ​รอยยิ้ม​โล่งใจ

​นาง​รีบ​มาซี​หลิง​ที่​ไกล​นับ​พัน​ลี้​นี้​เพื่อ​ลูกชาย​ ​นอกจาก​ครา​แรก​ที่​เดินทาง​จาก​อวิ​๋น​โจว​ไป​ถึง​เมือง​หลี​แล้ว​ ​นี่​นับเป็น​ครั้งแรก​ที่ฮู​หยิน​ใหญ่​สกุล​สวี​จาก​บ้าน​มา​ไกล​ขนาด​นี้​ ​ลูกชาย​และ​หลานสาว​ต่าง​สลบไสล​อยู่​บน​เตียง​ ​หาก​เฟิ​่ง​จือ​เหยา​ที่มา​ต้อนรับ​ไม่ได้​อธิบาย​อย่างชัดเจน​ไว้​ก่อน​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​สวีฮู​หยิน​ก็​คงได้​ตกใจ​จน​เป็นลม​เป็น​แล้ง​ไป​อีก​คน​แน่​แล้ว

​“​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​…​”​ ​เพิ่งจะ​ฟื้น​เยี​่ย​หลี​จึง​รู้สึก​มึนงง​สับสน​ใน​หัว​ ​พอนึก​ถึง​เหตุการณ์​ก่อนที่​ตน​จะ​สลบ​ไป​ก็​พลัน​ถลึง​ตัว​ขึ้น​ ​“​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​ ​พี่​สี่​…​”​ ​สวีฮู​หยิน​รีบ​จับ​นาง​ไว้​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ไม่เป็นอะไร​ ​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ปลอดภัย​ดี​ ​เด็ก​คน​นี้​นี่​เหตุใด​จึง​ไม่​ระวัง​เช่นนี้​…​”

​“​ขออภัย​เจ้าค่ะ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ ​พี่​สี่​ทำ​เพื่อ​ข้า​ถึง​ได้​…​”​ ​นึก​ไป​ถึง​ตอนที่​พี่​สี่​ทะยาน​มา​ขวางหน้า​นาง​ไว้​ ​ซ้ำ​เห็น​กระบี่​ที่​ปัก​ทะลุ​อก​พี่​สี่สี​หน้า​ของ​เยี​่ย​หลีก​็​ค่อยๆ​ ​ซีดเผือด​ลง​ ​พี่​สี่​ที่​เป็น​บัณฑิต​ร่างกาย​อ่อนแอ​ไม่มี​เรี่ยวแรง​มากมาย​ ​ได้รับบาดเจ็บ​เช่นนี้​ ​เยี​่ย​หลี​ไม่กล้า​นึก​จริงๆ​ ​ว่า​เหตุการณ์​ใน​ตอนท้าย​นั้น​จะ​เป็น​เช่นไร

​นึกถึง​ลูกชาย​ที่​ยังคง​นอน​บน​เตียง​ขยับ​ไม่ได้​แล้ว​ ​สวีฮู​หยิน​ก็​ขอบตา​แดงก่ำ​ขึ้น​มา​ ​เห็น​ความ​หนา​ของ​ผ้าพันแผล​ที่​พัน​อยู่​บน​ร่าง​ลูกชาย​และ​ใบหน้า​ซีดเซียว​ไร้​สี​เลือด​แล้ว​ ​สวีฮู​หยิน​ที่​เป็น​แม่​ไหน​เลย​จะ​ไม่​เจ็บปวด​ใจ​ ​แต่​เรื่องราว​เช่นนี้​จะ​ไป​โทษ​เยี​่ย​หลีก​็​ไม่​ถูก​ ​อุปนิสัย​ใจคอ​ของ​ลูกชาย​เป็น​อย่างไร​ ​คน​เป็น​แม่​อย่าง​นาง​มี​หรือ​จะ​ไม่รู้​ ​ต่อให้​ไม่ใช่​เยี​่ย​หลี​ ​ใน​บรรดา​พวกเขา​พี่น้อง​ผู้ใด​ที่​กำลัง​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​ ​สวี​ชิงปั​๋​วก​็​ย่อม​เอา​ตัว​ออกหน้า​ไป​ขวาง​ไว้​อยู่ดี​ ​หาก​ลูกชาย​ไม่​ไปรั​บก​ระ​บี่​เล่ม​นั้น​แทน​นั่น​จึง​เรียกว่า​ผิดปกติ​ ​สวีฮู​หยิน​ยกมือ​ตบหลัง​มือ​เยี​่ย​หลี​เบา​ๆ​ ​แล้ว​กล่าว​อย่าง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​เด็ก​โง่​ ​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ปลอดภัย​แล้ว​ ​จะ​ร้องไห้​ทำไม​อีก​ ​ป้า​ว่า​เจ้า​น่ะ​ ​เด็ก​อย่าง​เจ้า​ไม่ใช่​ว่า​เคย​เรียน​วิชาแพทย์​กับ​ท่าน​หมอ​หลิน​มา​หรือ​ ​เหตุใด​ร่างกาย​ตัวเอง​ไม่​ปกติ​เช่นนี้น​จึง​ไม่รู้​ได้​”

​เยี​่ย​หลี​ตกใจ​ ​สวีฮู​หยิน​อมยิ้ม​พลาง​ส่ายหน้า​กล่าวว่า​ ​“​เด็ก​โง่​ ​เจ้า​ตั้งครรภ์​ได้​สาม​เดือน​แล้ว​ ​เจ้า​ยัง​เคย​คลอดลูก​มา​แล้ว​คน​หนึ่ง​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​สังเกต​เลย​เล่า​”

​ขณะนั้น​เยี​่ย​หลี​ตะลึงงัน​ ​ขนาด​สวีฮู​หยิน​ยกมือ​ขึ้น​เช็ดน้ำ​ตา​ให้​นาง​ ​นาง​ก็​ยัง​ไม่ได้​เรียก​สติก​ลับ​คืน​มา​ไม่ได้​ ​ครู่​ต่อมา​จึง​ก้มหน้า​ลง​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​หน้าท้อง​แบน​ราบ​ของ​ตัวเอง​ ​จากนั้น​จึง​ใช้​มือซ้าย​จับชีพจร​มือ​อีก​ข้าง​ดู​ ​กล่าว​อย่าง​ตื่นตกใจ​ว่า​ ​“​ขะ​…​ข้า​จับจุด​ไม่​เจอ​ ​ละ​…​ลูก​เป็น​อะไร​หรือไม่​”​ ​เยี​่ย​หลี​แม้​จะ​เคย​เรียน​วิชาแพทย์​จาก​ท่าน​หมอ​หลิน​มาก​่อน​ ​แต่​ส่วนใหญ่​เนื้อหา​ล้วน​เกี่ยวกับ​ยา​และ​พิษ​ต่างๆ​ ​แต่​ใน​ด้าน​การแพทย์​นั้น​กลับ​ไม่ใช่​ศาสตร์​ที่นาง​เข้าใจ​ได้​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​จิตใจ​ของ​เยี​่ย​หลี​ยาม​นี้​กำลัง​ตื่นตระหนก​ ​ดังเช่น​ม่อ​ซิว​เหยา​เมื่อยาม​ตื่นตระหนก​ก็​จับชีพจร​เยี​่ย​หลี​ไม่​เจอ​ ​เรื่อง​การ​ตรวจ​วิเคราะห์​ชีพจร​นั้น​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง

​สวีฮู​หยิน​อมยิ้ม​กล่าว​ปลอบ​ว่า​ ​“​ปลอดภัย​ดี​ ​ลูก​เจ้า​ไม่เป็นอะไร​ ​เพียงแต่​เจ้า​ควรระวัง​ให้​มาก​หน่อย​ ​ต่อไปนี้​ไม่ได้​มี​เจ้าตัว​คนเดียว​แล้ว​นะ​”

​เยี​่ย​หลีก​้​มห​น้า​มองหน้า​ท้อง​ตัวเอง​อย่าง​ตื่น​ตะลึง​ ​ครั้งนี้​เป็น​นาง​ที่​ประมาท​ไป​จริงๆ​ ​แม้​จะ​มีประสบการณ์​มาค​รั้ง​หนึ่ง​แล้ว​ ​แต่​ครั้งนี้​นอกจาก​จะ​อารมณ์​ขึ้น​ๆ​ ​ลง​ๆ​ ​แล้ว​ ​ลูก​กลับ​สงบ​เรียบร้อย​มาโดยตลอด​ ​ไม่เคย​ทำให้​นาง​เกิด​ปัญหา​ใด​กับ​ร่างกาย​ขึ้น​เลย​ ​และ​ใน​ทุกๆ​ ​เดือน​นาง​มี​รอบ​เดือน​เดือน​ละ​สอง​วัน​เท่านั้น​ ​เพราะ​ครา​แรก​ที่​คลอด​ม่อ​ตัว​น้อย​ได้​สูญเสีย​เลือด​ไปมาก​ ​แม้ว่า​จะ​บำรุง​ร่างกาย​อย่างระมัดระวัง​แล้วแต่​ก็​ยัง​มา​ไม่​ตรง​ใน​บางครั้ง​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​คิด​ว่า​เพราะ​ดิน​และ​น้ำ​ของ​ซี​หลิง​จึง​ทำให้​รอบ​เดือน​คลาดเคลื่อน​ ​อีก​อย่างหนึ่ง​ ​เพราะ​หลาย​ปี​มานี​้​ไม่มี​สัญญาณ​ใดๆ​ ​เลย​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​เกือบจะ​ชิน​จน​ไม่ได้​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ไป​เลย

​“​เอาล่ะ​ ​เจ้า​ฟื้น​แล้วก็​ดี​ ​ข้า​ยัง​ไม่ได้​ให้​คน​ไป​บอก​ติ้ง​อ๋อง​เลย​”​ ​สวีฮู​หยิน​ยิ้ม​เอ่ย

​“​อา​หลี​!​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ได้​ตอบ​อะไร​ไป​ ​เสียง​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ดัง​ลอย​เข้ามา​จาก​นอก​ประตู​ ​พอ​เห็น​เงา​สีขาว​ทะยาน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ ​สวีฮู​หยิน​ก็​ตกใจ​ ​คงจะ​มี​คน​ไปรา​ยงาน​แล้ว​เขา​สะสาง​งาน​เสร็จ​จึง​ได้​รีบ​มา​เช่นนี้

​“​ซิว​เหยา​…​”​ ​เยี​่ย​หลี​ช้อนตา​มอง​บุรุษ​ผม​ขาว​เบื้องหน้า​ ​แม้​ภายนอก​จะ​ดูดี​ไม่มีที่ติ​ ​แต่​เยี​่ย​หลีก​็​รู้สึก​ถึง​ความเหนื่อย​ล้า​และ​ความตึงเครียด​ของ​เขา​ ​เงา​ร่าง​สีขาว​ขยับ​ไหว​ ​เยี​่ย​หลีก​็​ถูก​ดึง​เข้ามา​กอด​ไว้​ใน​อ้อมอก​ที่​เย็น​เล็กน้อย​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ซบ​หน้า​ลง​บน​ไหล่​นาง​ ​สูด​หายใจ​ดมกลิ่น​หอม​อัน​คุ้นเคย​เข้า​ปอด​ ​น้ำเสียง​แหบ​ต่ำ​กล่าวว่า​ ​“​อา​หลี​…​เจ้า​ฟื้น​เสียที​…​”

​เยี​่ย​หลี​ใน​ใจ​พลัน​เจ็บปวด​ขึ้น​มา​อย่าง​ไม่ทราบ​สาเหตุ​ ​ยื่นมือ​ไป​โอบรอบ​เอว​ที่​ผอม​ลง​ของ​เขา​ ​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ขอโทษ​ ​ทำให้​เจ้า​เป็นห่วง​เสีย​แล้ว​”

​ไม่​ไกล​จากนั้น​นัก​ ​สวีฮู​หยิน​มองดู​สามีภรรยา​ตรงหน้า​ ​ยิ้ม​อย่าง​ปลื้มใจ​แล้ว​เลี่ยง​ออก​ไป​ ​เพื่อ​หลีกทาง​ให้​สอง​สามีภรรยา​ได้​พูดคุย​กัน