โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.466 – เปิดเผย 

 

 

  

 

 

พลังสมาธิของฉินเฟิงสัมผัสถึงสิ่งรอบข้างที่เกิดขึ้น 

 

 

  

 

 

ปรากฏว่าเป็นเฉิงต้าเฉิงที่หลบหนีราชันย์หอยทากเกราะเหล็กไป ทว่าหอยทากไม่ได้ไล่ตาม แต่ตรงมายังรอยแยกแทน 

 

 

  

 

 

คลื่นน้ำที่ผสานไปด้วยสารพิษ โถมลงมาถมรอยแยกทันที 

 

 

  

 

 

ปราณกำลังภายในของฉินเฟิง ถูกรีดออกไปใช้เป็นโล่ป้องกันอย่างรวดเร็ว 

 

 

  

 

 

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ฉินเฟิงคงถูกราชันย์หอยทากปิดเส้นทางหลบหนีจนตาย 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงเร่งคว้านมีดกษัตริย์คราม ขุดดินโคลนอย่างบ้าคลั่ง 

 

 

  

 

 

ดินถูกขุดโดยกำลังภายในของฉินเฟิง กลายเป็นโพรงแยกไปอีกทาง เปิดช่องว่างให้ฉินเฟิงออกจากใต้ดิน ไปโผล่เบื้องหลังศัตรู 

 

 

  

 

 

ราชันย์หอยทากยังคงอยู่หน้ารอยแยก ปลดปล่อยอบิลิตี้น้ำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อฉินเฟิงโผล่ขึ้นมา มันก็ตระหนักถึงการปรากฏตัวของเขาทันที 

 

 

  

 

 

ร่างใหญ่โตบิดกลับหลัง ระดมรูนน้ำและ– 

 

 

  

 

 

–เปรี้ยง! 

 

 

  

 

 

กระแสน้ำซัดสาดออกไป 

 

 

  

 

 

“ก้าวอัคคี” 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงดีดผึงไปปรากฏกายขึ้นในอีกทิศทางหนึ่ง หลบเลี่ยงคลื่นน้ำ พลังสมาธิถูกเร่งเร้า รูนไฟพรั่งพรู หนึ่งมือยกขึ้นชี้นิ้วออกไป 

 

 

  

 

 

“เสาแมกมา!” 

 

 

  

 

 

ตูม! 

 

 

  

 

 

เสาแมกมาขนาดใหญ่ ระเบิดขึ้นทันใดจากใต้ดินที่หอยทากยืนอยู่ ยกราชันย์หอยทากขึ้นทันใด 

 

 

  

 

 

เปลือกของหอยทากเกราะเหล็กน่ะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยามเมื่อมันต้องการเคลื่อนที่ สุดท้ายก็ต้องยื่นหัวและเนื้ออ่อนนุ่มออกมาเพื่อคลานไปข้างหน้า แม้มันจะเป็นระดับราชันย์ แต่พลังป้องกันย่อมลดทอนลงเป็นอย่างมาก 

 

 

  

 

 

และในด้านความแข็งแกร่ง มันไม่สามารถเทียบกับฉินเฟิงได้ 

 

 

  

 

 

การโจมตีในครั้งนี้ ทำร้ายหอยทากเกราะเหล็กจนได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากเปลือกหอยที่หนัก ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนตัวหลบเสาลาวาไปได้ แต่ระดับราชันย์ย่อมมีสติปัญญา มันระเบิดอบิลิตี้น้ำทันที ใช้แรงดันดับไฟและเบี่ยงไปอีกทาง 

 

 

  

 

 

แต่ฉินเฟิงไหนเลยจะยินยอมให้อีกฝ่ายบรรลุความปรารถนา อัดฉีดกำลังภายในอันน่าสะพรึงลงบนมีดกษัตริย์คราม 

 

 

  

 

 

“มีดเปลวเพลิง!” 

 

 

  

 

 

รังสีสาดไสว ใบมีดถูกปกคลุม เคลือบไปด้วยสสารที่สะท้อนแสง แผ่ไอร้อนราวกับแมกมา โบกสะบัดออกไป 

 

 

  

 

 

ต่อให้อีกฝ่ายเป็นราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C เวลานี้ก็มิอาจทานทน ลำตัวถูกสะบั้น ขาดครึ่งในพริบตา! 

 

 

  

 

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าราชันย์เลเวล C ได้รับบาดเจ็บจากการปิดล้อมของเฉิงต้าเฉิงและคนอื่นๆอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นมันไม่สามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมาได้ 

 

 

  

 

 

ไม่ถึง 20 กระบวนท่า ฉินเฟิงก็สามารถสังหารราชันย์หอยทากเกราะเหล็กลงโดยสิ้นเชิง 

 

 

  

 

 

“เพลิงโลกันต์” 

 

 

  

 

 

เปลวไฟลุกไหม้ เผาทำลายร่างของราชันย์หอยทาก ทันใดนั้นปรากฏก้อนกลมๆ 2 ลูกร่วงตกลงมา 

 

 

  

 

 

หนึ่งคือแก่นอบิลิตี้น้ำเลเวล C อีกหนึ่งคือผลึกชีพจรธรณีขนาดเท่าลูกบาสเกตบอล เกรงว่าราชันย์หอยทากคงกินมันมานานกว่า 3 วันแล้ว หากให้เวลามันอีกสักหน่อย น่ากลัวว่าการวิวัฒนาการเป็นจักรพรรดิสัตว์ร้าย คงไม่ใช่ปัญหา 

 

 

  

 

 

หรืออาจกล่าวได้อีกกรณีนึง นั่นคือถ้าเราไม่รีบเก็บกู้ผลึกชีพจรธรณี หรือสังหารแมลงสัตว์ร้ายเหล่านี้โดยเร็วที่สุด พื้นที่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

  

 

 

และในช่วงเวลาต่อมา มันคงกลายเป็นพื้นที่ต้องห้าม 

 

 

  

 

 

มีเวลาแค่เฉพาะเดือนแรกเท่านั้นที่มีโอกาสเก็บกู้ผลึกชีพจรธรณี หลังจากนั้นไป หากต้องการได้มัน เกรงว่าไม่โชคดีมากๆ ก็คงต้องสู้เสี่ยงชีวิตแย่งชิงจากสัตว์ร้าย! 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงยัดสมบัตที่ได้มาใส่ลงในอุปกรณ์รูนมิติอย่างลวกๆ กระโจนลงไปในรอยแยกอีกครั้ง 

 

 

  

 

 

เวลานี้ราชันย์หอยทากตายแล้ว ดังนั้นน้ำพิษที่เจิ่งนองอยู่ในรอยแยกย่อมหายไปเป็นธรรมดา ฉินเฟิงเริ่มขุดอีกครั้ง 

 

 

  

 

 

ยังไม่พอ กลิ่นอายแห่งความตายของราชันย์หอยทาก ยังช่วยให้แมลงตัวอื่นๆไม่กล้าเข้ามาใกล้ เรื่องนี้อำนวยความสะดวกให้ฉินเฟิงเป็นอย่างมาก 

 

 

  

 

 

อย่างไรก็ตาม แม้แมลงไม่กล้า แต่มนุษย์กล้า 

 

 

  

 

 

อีกร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในรอยแยก เป็นประธานกลุ่มต้าเฉิง –เฉิงต้าเฉิงได้วกกลับมา 

 

 

  

 

 

“มิสเตอร์ฉิน ต้องขอบคุณจริงๆ” เฉิงต้าเฉิงกล่าวกับฉินเฟิงอย่างสุภาพ 

 

 

  

 

 

เพราะศัตรูของศัตรู คือมิตร 

 

 

  

 

 

ในครั้งนี้ โชคดีที่มีฉินเฟิง มิฉะนั้นเฉิงต้าเฉิงอย่างไรย่อมมิอาจหลบหนี 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงหยุดมือ หลังจากเห็นเฉิงต้าเฉิง เขาก็ชี้คมมีดไปทางอีกฝ่าย 

 

 

  

 

 

“คำขอบคุณของประธานเฉิง ผมคงไม่กล้ารับไว้ เพราะหากรับไว้ บางทีอาจถูกโยนภาระ ชักนำสัตว์ร้ายระดับราชันย์มาอีกก็ได้!” ฉินเฟิงกล่าวประชดประชัน 

 

 

  

 

 

หากเหตุการณ์เมื่อครู่ จะบอกว่าเฉิงต้าเฉิงมิได้ตั้งใจ คงเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ หลอกผีเถอะ! 

 

 

  

 

 

อย่างไรก็ตาม นี่ใช่ว่าจะเกินความคาดหมายของฉินเฟิง เพราะผู้ใช้พลังเลเวล C มีคนไหนบ้างที่ไม่เจ้าเล่ห์แกมโกง?  

 

 

  

 

 

“ฮ่าฮ่า มิสเตอร์ฉินพูดเรื่องอะไรกัน? ฉันถูกกดดันจนทำอะไรไม่ได้ต่างหาก เป็นราชันย์หอยทากเองที่เลือกตรงไปหาคุณ” 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงส่ายมีดกษัตริย์ครามในมือ “คำพวกนี้ เอาไว้พูดให้คนอื่นๆฟังเถอะ บางทีพวกเขาอาจจะเชื่อ แต่ถ้าพูดกับผม มันคงเป็นแค่เรื่องตลกไร้สาระ!” 

 

 

  

 

 

“มิสเตอร์ฉินหมายความว่ายังไง?” เฉิงต้าเฉิงเริ่มคิดในใจว่าฉินเฟิงไม่ใช่คนที่ง่ายจะรับมือ  

 

 

  

 

 

ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเราร่วมมือกันเป็นอย่างดีหรอกหรือ? ฉินเฟิงยังมอบชีวิตของหลิวเป่ยให้เขาอยู่เลย 

 

 

  

 

 

ต้องไม่ลืมนะว่า ค่าหัวของหลิวเป่ยสูงมากในเครือข่ายนักล่าเงินรางวัล 

 

 

  

 

 

“ไม่ได้หมายความว่าอะไรทั้งนั้น มันก็แค่ผมกับประธานเฉิงไม่รู้จักกัน และผมโดนออกหมายจับโดยพันธมิตรมนุษย์ ดังนั้นตอนนี้ไม่ชอบให้มีใครมาวุ่นวายข้างๆ ขอประธานเฉิงออกไปเถอะ” 

 

 

  

 

 

ใบหน้าของเฉิงต้าเฉิงกลายเป็นดำคล้ำ 

 

 

  

 

 

“มิสเตอร์ฉิน เมื่อครู่พวกเรายังร่วมมือกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ดันมาบอกว่าพวกเราไม่รู้จักกัน? และฉันเกรงว่านั่นอาจไม่ใช่คำพูดจากความปรารถนาดีของคุณ แต่เป็นเพราะคุณต้องการฮุบสมบัติในที่นี้เอาไว้คนเดียวต่างหาก!” เฉิงต้าเฉิงรู้สึกเสียใจมาก 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงเลิกคิ้ว “ร่วมมือกันงั้นหรือ? ประธานเฉิงเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เมื่อกี้เห็นอยู่ชัดๆว่าผมช่วยชีวิตคุณเอาไว้ และผมไม่ขอรางวัลตอบแทนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้คุณกลับบอกว่าผมต้องการฮุบสมบัติไว้คนเดียว! นี่คือสิ่งที่ผมควรได้รับอยู่แล้วรึเปล่า? ตรงกันข้าม เป็นประธานเฉิง คุณต่างหากที่กำลังละโมบ และต้องการส่วนแบ่งผลึกธรณีกับผม ช่างหน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่ากำแพงเมือง!” 

 

 

  

 

 

ใบหน้าของเฉิงต้าเฉิงยิ่งฟังยิ่งร้อนผ่าว หากเป็นคนไม่รู้จักกัน มาได้ยินเรื่องนี้เข้า เกรงว่าพวกเขาคงมองเฉิงต้าเฉิงเป็นคนไร้ยางอาย 

 

 

  

 

 

แต่ก็นะ … ผลึกชีพจรธรณี ใครบ้างเล่าจะไม่ต้องการ 

 

 

  

 

 

เฉิงต้าเฉิงเกิดความลังเลอย่างเห็นได้ชัด 

 

 

  

 

 

ขณะนั้นเอง ทั้งร่างของฉินเฟิง ปะทะรังสีสังหารขึ้นทันใด 

 

 

  

 

 

“ประธานเฉิง ในเมื่อผมพูดดีๆด้วยแล้ว แต่คุณก็ยังไม่ฟัง หมายความว่าคุณต้องการบังคับให้ผมใช้กำลังใช่ไหม? อย่าลืมสิว่าผมถูกบังคับให้เข้าร่วมกับองค์กรมืดแล้ว ต่อให้ฆ่าคุณ มันก็ไม่เป็นการสร้างปัญหาแก่ผมไปมากกว่านี้อยู่ดี” 

 

 

  

 

 

เฉิงต้าเฉิงสะดุ้งตกใจทันที ชักฝีเท้าถอยไปสองสามก้าว 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงเพียงยกมือ หลิวเป่ยก็มิอาจเป็นคู่ต่อกร ไร้หนทางตอบโต้ ฉะนั้นเฉิงต้าเฉิงในสภาพนี้ จะสู้ได้หรือ? 

 

 

  

 

 

คนเบื้องหน้าเขา มันสัตว์ประหลาดชัดๆ 

 

 

  

 

 

‘เจ้าเด็กนี่มันมีพื้นเพมาจากที่ไหนกัน กลับไปคงต้องรีบตรวจสอบ ’ 

 

 

  

 

 

เนื่องจากภัยคุกคามจากกวงเว่ย บันทึกการต่อสู้อันทรงพลังของฉินเฟิงจึงยังไม่เผยแพร่ออกไป วีรกรรมดั่งวีรบุรุษของเขา กลับกลายเป็นถูกต้อนรับด้วยความเย็นชา 

 

 

  

 

 

ดังนั้นเฉิงต้าเฉิงจึงไม่รู้ประวัติของฉินเฟิง 

 

 

  

 

 

“ก็ได้ ตกลง ฉันจะไป” เฉิงต้าเฉิงเร่งกล่าว 

 

 

  

 

 

ฉินเฟิงพยักหน้าพอใจ เอ่ยเสียงเรียบ “แน่นอน หากหลังจากนี้ประธานเฉิงไม่สามารถหาผลึกธรณีได้ ก็สามารถมาขอซื้อจากผม ผมจะให้สิทธิพิเศษแก่คุณสักครั้ง” 

 

 

  

 

 

“ฮี่ฮี่ ขอบคุณสำหรับน้ำใจของมิสเตอร์ฉิน” 

 

 

  

 

 

หากอีกฝ่ายเป็นพันธมิตรมนุษย์ ด้วยอาการบาดเจ็บของเฉิงต้าเฉิง เจ้าตัวอาจยังพอทำหน้าด้าน ดึงดันจะอยู่เพื่อขอส่วนแบ่งได้ 

 

 

  

 

 

แต่ช่างน่าเสียดายที่อีกฝ่ายดันเป็นคนขององค์กรมืดอย่างกะทันหัน แต่ที่เขาพูดเมื่อกี้มันอะไรกัน? เหมือนจะบอกว่าถูกบังคับให้เป็นคนขององค์กรมืดใช่ไหม? 

 

 

  

 

 

สิ่งนี้ทำให้ในหัวใจของเฉิงต้าเฉิงเกิดข้อสงสัย 

 

 

  

 

 

“อย่าให้บิดารู้เชียวนะ ว่าใครมันทำเรื่องเลวทรามแบบนี้ ดันทำลายเส้นทางความมั่งคั่ง และโอกาสรอดชีวิตของฉัน รอให้หายดีก่อนเถอะ ฉันจะไปฆ่ามัน!” เฉิงต้าเฉิงสบถให้กับความโชคร้าย เขาไม่กล้าเกลียดฉินเฟิง ดังนั้นคิดระบายอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหมด ไปยังคนที่ขับไล่ฉินเฟิงแทน 

 

 

  

 

 

ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงมองเฉิงต้าเฉิงเดินจากไป ก็เริ่มหันกลับมาเก็บกู้ผลึกธรณีต่อ 

 

 

  

 

 

ช่วยชีวิตเฉิงต้าเฉิง , สังหารหลิวเป่ยอย่างง่ายดาย , กดดันเล่ยหยิงราวกับเด็กน้อย ฉินเฟิงแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ยังคิดจะมาแย่งส่วนแบ่งไปจากเขา 

 

 

  

 

 

ฝันไปเถอะ!