ตอนที่ 496 ตามหาพระสูตรหัวใจ

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 496 ตามหาพระสูตรหัวใจ
ฉินหยุนไม่คาดคิด ว่าแก่นเต๋าราชันยุทธ์ที่ยิงออกไป พลังของมันจะ
รุนแรงมากพอฉีกกระชากมิติของแดนอ้างว้างลึกลับโบราณ
หยางฉีเย่ว์เมื่อนําฉินหยุนหนีออกมาได้แล้ว จ้าวสํานักตะวันทองคํา
และขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณอีกหลายคนขณะนี้ไล่ตาม
ก่อนหน้านี้ที่ลานกว้างมีคนมากมาย ขณะนี้หลงเหลือเพียงน้อยนิดที่
ยังรอดชีวิต!
สํานักเก้าตะวัน ตําหนักโทเทม และสํานักใหญ่ รวมถึงตระกูลใหญ่
อีกหลายแห่ง ต้องสูญเสียกันหนักหนาในครั้งนี้ หากคิดฟื้นคืนใน
อนาคตอันสั้น ก็ถือเป็ นเรื่องยากมากแล้ว
เมื่อบรรดาราชันยุทธ์และขอบเขตวรยุทธ์ลึกลํ้าไปยังแดนวิญญาณ
อ้างว้าง พวกเขานําทรัพยากรไปด้วยจํานวนไม่น้อย
ตระกูลผู้ฝึกตนและหลายสํานักของสามแดนอ้างว้าง ขณะนี้อยู่ใน
ช่วงเวลายากลําบากและอ่อนแอ
“ฉินหยุน เจ้าคิดจัดการใคร?” หยางฉีเย่ว์เอ่ยถาม
“จ้าวสํานักตะวันทองคําแข็งแกร่งที่สุด ให้ข้าจัดการมันเอง! ผู้อื่น
ล้วนได้รับบาดเจ็บ พี่หยางน่าจะรับมือพวกมันได้!” ฉินหยุนกล่าว
พร้อมนําเอาค้อนเทวะเก้าตะวันออกมา
“ตกลง!” หยางฉีเย่ว์พยักหน้ารับ
ฉินหยุนฟาดหวดค้อนเทวะเก้าตะวัน พุ่งทะยานเข้าหาจ้าวสํานักตะวัน
ทองคํา ขณะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ าย เขาปลดปล่อยเสียงคํารามราชสีห์
สวรรค์ ทําให้จ้าวสํานักตะวันทองคําที่ไม่เตรียมการอะไรไว้ ต้องจม
ดิ่งสู่สภาวะความตื่นตระหนก
ทันทีเมื่อเข้าถึงตัวอีกฝ่ าย วิชามังกรหลอมหกกระบวนจึงถูกปลดปล่อย
ออก พลังเต๋าแรกเริ่มสั่นไหวรุนแรง มาพร้อมกับสายฟ้าอสนีบาตสีดํา
พุ่งเข้าปะทะร่างของจ้าวสํานักตะวันทองคํา
จ้าวสํานักตะวันทองคําพอได้เห็นออร่าแกร่งกล้าของฉินหยุน เขาเร่ง
รีบหลบเลี่ยงค้อนที่ฟาดหวดเข้าใส่
เขาคือผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ กระนั้นหากโดนแรงปะทะ
นั่นเข้าต้องบาดเจ็บหนัก กระนั้นเขาก็ยังมั่นใจว่ามีความสามารถมาก
พอจัดการฉินหยุนได้
แต่แล้วตอนนี้ เขาได้เห็นว่าค้อนในมือฉินหยุนน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
ความนึกคิดอดไม่ได้ที่จะเผยความหวาดกลัวออก
“พลังเต๋ากระดูก… นี่เจ้า… เจ้าอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่แปด
แล้ว!”
จ้าวสํานักตะวันทองคําตื่นตระหนก ตามข้อมูลที่รวบรวมมา ฉินหยุน
เลื่อนจากระดับที่หนึ่งสู่ระดับที่แปดในระยะเวลาเพียงแค่สองปี
เท่านั้น!
“คนเช่นเจ้าหรือที่คิดว่าเหนือกว่าและสามารถสังหารข้า ปรามาสข้า
มากเกินไปแล้ว!” ฉินหยุนหัวเราะ ยันต์สะกดกายในมือจํานวนหนึ่ง
ถูกขว้างปาออก
จ้าวสํานักตะวันทองคําร่างกายหยุดชะงักเพราะฤทธิ์ยันต์ กระนั้น
ร่างกายไม่ได้ถูกตรึงเอาไว้ ชุดเกราะที่กายของเขาสามารถป้องกัน
พลังอํานาจของยันต์ได้ระดับหนึ่ง
ฉินหยุนเองก็ทราบ ว่าชุดเกราะของผู้คนจากสํานักเก้าตะวันมีพลัง
อํานาจขวางกั้นยันต์สะกดกาย
อักขระสะกดกาย เป็นอักขระโบราณ ดังนั้นชุดเกราะส่วนใหญ่ที่
สร้างขึ้นโดยสํานักเก้าตะวัน ย่อมต้องมีอํานาจต้านทานยันต์สะกดกาย
แม้ว่ายันต์สะกดกายทํางานไม่เต็มประสิทธิภาพ ฉินหยุนก็ยังมั่นใจ
ว่าสามารถโค่นล้มจ้าวสํานักตะวันทองคําได้!
ด้วยค้อนเทวะเก้าตะวัน ฉินหยุนสามารถปลดปล่อยพลังระดับ
ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณช่วงต้นออกมา เมื่อผสานรวมเข้ากับเคล็ด
วิชายุทธ์เลิศลํ้าของเขา จึงสามารถสะกดจ้าวสํานักตะวันทองคําได้
อย่างรวดเร็ว
“ราชสีห์น้อย ออกมา!” ฉินหยุนพลันใช้เคล็ดวิชาเรียกราชสีห์
สวรรค์ อัญเชิญราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพออกมาสองตัว
ตั้งแต่ที่เขาก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่หก วิญญาณยุทธ์สีดํา
ของเขาจึงแปรสภาพเป็นครั้งที่สอง ดังนั้นความสามารถเทวะจึง
เพิ่มพูนพลังอย่างมหาศาล ขณะนี้เขาอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่
แปด ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพทั้งสองตัวที่อัญเชิญมาจึงทรงพลังยิ่ง
ชั่วขณะที่ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพทั้งสองตัวปรากฏ พวกมันปิ ดล้อม
จ้าวสํานักตะวันทองคํา ปลดปล่อยเสียงคํารามราชสีห์สวรรค์ออกมา
อย่างพร้อมกัน!
คลื่นเสียงทรงพลังเข้าปะทะ มันสั่นสะเทือนจนเกิดขึ้นเป็นคลื่นพลัง
จิต เข้าสะกดลงที่ร่างของจ้าวสํานักตะวันทองคําจากทั้งสามทิศทาง!
คลื่นเสียงทั้งสามเมื่อเข้าปะทะเป้าหมาย จ้าวสํานักตะวันทองคําจึง
กระอักเลือดออกคําโต
ฉินหยุนพุ่งทะยาน ค้อนฟาดหวดลง สายฟ้าอสนีบาตนับไม่ถ้วนสีดํา
ทะลักพวยพุ่งสั่นสะเทือนผืนโลก
แม้จ้าวสํานักตะวันทองคําครอบครองชุดเกราะลํ้าค่า ร่างกายยังถูก
ทะลวงผ่าน กระดูกเต๋าและสามมหาวิถีถูกทําลาย ร่างร่วงหล่นกับ
พื้นนอนแน่นิ่ง
“ฉินหยุน เมื่อข้าไล่ล่าเจ้า ข้าได้ใช้อุปกรณ์สื่อสารลึกลํ้ากระจาย
ความชั่วร้ายของเจ้าสู่แดนวิญญาณอ้างว้าง ชะตาเจ้ามีแต่รอวันดับ
สูญ!” จ้าวสํานักตะวันทองคําส่งเสียงทางจิตร้องบอก
“ความชั่วร้าย? เป็ นเจ้าคิดฉกชิงสายเลือดและโทเทมข้า นี่ไม่ใช่หรือ
ที่เรียกว่าความชั่วร้าย?” ฉินหยุนพบว่าเรื่องราวนี้ทั้งชวนหัวเราะและ
โกรธเกรี้ยว
ขั้วอํานาจเหล่านี้บ่อยครั้งมักยั่วยุผู้อื่นที่อ่อนแอกว่า หากผู้ใดต่อต้าน
พวกมัน เช่นนั้นความชั่วร้ายจะถูกยัดเยียด เป็นความชั่วร้ายที่พวกมัน
ใช้แอบอ้างเพื่อเรียกหาความยุติธรรมจอมปลอม!
“ผู้ใดครอบครองสายเลือดและโทเทมราชสีห์สวรรค์ ถือเป็นการขัด
ต่อกฎแห่งโลก สํานักเก้าตะวันของเราเป็นที่ชอบพอของมหาวิถี
แห่งเต๋า เพราะเหตุนั้นพวกเราจึงเป็นผู้ถูกต้อง…”
ฉินหยุนขณะนี้คํารามกราดเกรี้ยว ค้อนในมือฟาดหวดลง ทําลายจ้าว
สํานักตะวันทองคําจนสิ้นชีพ จากนั้น เขาค่อยนําวิญญาณยุทธ์
อสนีบาตระดับทองม่วงของอีกฝ่ ายออกมา!
“คนสารเลวเช่นนี้กลับมีวิญญาณยุทธ์ที่ดีไม่เลว!” ช่วงที่ผ่านมา ฉิน
หยุนได้รับวิญญาณยุทธ์ระดับทองม่วงมาไม่น้อย
นี่จะยิ่งทําให้เขาสามารถขัดเกลาวิญญาณอุปกรณ์ที่แกร่งกล้าในภาย
หน้าได้
ศึกทางด้านหยางฉีเย่ว์จบไปนานแล้ว นางปลดปล่อยเส้นใยที่แปร
สภาพเป็นอักขระชีวิต เข้าพันธนาการร่างผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์
วิญญาณ รอให้ฉินหยุนมาจัดการต่อ
ฉินหยุนพอมาถึง ฉับพลันเขารับรู้ได้ถึงออร่าแกร่งกล้า
ความรู้สึกนี้ มันเปรียบดังแรงกดดันจนทําให้หายใจแทบไม่ออก
“พี่หยาง นี่ขุมพลังเต๋าท่านหรือ? น่ากลัวเกินไปแล้ว!” ฉินหยุนเผย
ความตระหนก พลังระดับนี้ตัวเขายังไม่อาจปลดปล่อยออกมาได้
เดิมเขาสามารถใช้ขุมพลังเต๋าได้ที่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่หกหรือ
เจ็ด แต่มันจําเป็นต้องใช้ความรู้และเข้าใจต่อพลังของตนเอง
ขุมพลังเต๋า โดยหลักนั้นใช้เพื่อสร้างแรงกดดันต่อผู้อื่น ทําให้เกิด
สภาวะทางจิตอันไร้รูปร่างขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อทําการวาดอักขระ การผสานออร่าเต๋าเข้าไป จะช่วย
ทําให้ตัวอักขระเต็มเปี่ ยมด้วยขุมพลังเต๋า เมื่อใช้อุปกรณ์ในระหว่าง
การต่อสู้ มันจะส่งผลต่อสภาวะทางจิตของศัตรูด้วย
ฉินหยุนมีความสามารถรู้และเข้าใจยอดเยี่ยม กระนั้นก็ยังไม่คล้ายจะ
เข้าถึงเต๋าระดับนี้ได้
“บางทีอาจเป็นเพราะวิญญาณยุทธ์ของเจ้าค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้นจึง
ยังไม่อาจทําความเข้าใจได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ อย่าได้กังวลไป
ภายหน้าเจ้าต้องทําได้อย่างแน่นอน!” หยางฉีเย่ว์ปลอบ ดวงตาของ
นางเผยท่าทีการให้กําลังใจออกมา
ฉินหยุนค่อยรู้สึกวางใจ ถัดจากนั้น เขาจึงแยกเอาวิญญาณยุทธ์ออก
จากร่างผู้ฝึกตนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณทั้งเจ็ด ทั้งหมดล้วนเป็น
วิญญาณยุทธ์ระดับแพลทินัม
“วิญญาณยุทธ์สวะ!” เขากล่าวพร้อมมองอย่างเดียดฉันท์
คําของเขา สร้างแผลทางใจแก่บรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้รุนแรง
วิญญาณยุทธ์พวกเขาที่บํารุงเลี้ยงมานานนับ ขณะนี้ถูกเรียกเป็น
วิญญาณยุทธ์สวะเมื่อถูกนําออกมา
ชายชราคนหนึ่งถึงกับโกรธจนตายตกคาที่!
ฉินหยุนใช้ยันต์อัคคีเผาร่างผู้คนเหล่านั้น
ขณะมองไปยังทิศทางที่ตั้งของแดนอ้างว้างลึกลับโบราณ เขากลายเป็น
เสียดายขึ้นมา แม้ว่าเกิดเรื่องใหญ่ในมิติแห่งนั้น แต่กลับไม่มีเสียงใด
ส่งออกถึงภายนอก
หยางฉีเย่ว์ยิ้ม “มิตินั่นแตกสลายแล้ว สารเลวเหล่านั้นล้วนตายสิ้น!”
“ขั้วอํานาจของพวกมันในแดนวิญญาณอ้างว้างย่อมทราบเรื่อง! เมื่อ
ครู่จ้าวสํานักตะวันทองคํา มันบอกต่อข้าว่าได้แพร่กระจายข่าวคราว
เรื่องที่เกิดขึ้นสู่แดนวิญญาณอ้างว้างแล้ว!” ฉินหยุนมองท้องฟ้าด้วย
สีหน้าเป็นกังวล
“อย่าได้กังวลไป เมื่อพวกเราไปยังแดนวิญญาณอ้างว้าง เมื่อนั้นพวก
เราจะไม่ต้องหวั่นเกรงใดต่อพวกมัน! สํานักเก้าตะวันหาได้ใช่นาย
เหนือของแดนวิญญาณอ้างว้าง!” หยางฉีเย่ว์ตบไล่ฝุ่นที่เสื้อผ้าของ
ฉินหยุนพลางเอ่ยคําเบา
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ ในที่สุดก็จัดการสํานักเก้าตะวันแห่งหนึ่งได้
ขณะนี้จึงคิดกลับไปฝึกฝน
เขาคิดอยากก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า!
ขณะบินผ่านอากาศ พวกเขารับรู้ได้ถึงออร่าแกร่งกล้า
“เป็นออร่าของราชันยุทธ์!” หยางฉีเย่ว์สีหน้าแปรเปลี่ยน คิดดึงฉิน
หยุนให้หนีพ้น
“รอประเดี๋ยว!” ราชันยุทธ์ที่ใกล้เข้ามา เป็ นเว่ยจงเจิ้ง
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ตื่นตระหนก นี่ก็เพราะพลังอํานาจการสะกด
ขณะนี้มันเริ่มปรากฏในสามแดนอ้างว้างแล้ว
ราชันยุทธ์ที่ยังคิดอยู่ที่นี่ ถือว่ามีอันตรายมากล้น!
“จ้าวสํานัก!” ฉินหยุนมองผู้อาวุโสชุดดําพร้อมเกิดความรู้สึกวางใจ
เป็ นเขายินดีอย่างยิ่งที่ได้พบเว่ยจงเจิ้งอีกครั้งหนึ่ง
เว่ยจงเจิ้งเมื่อได้เห็นฉินหยุนยังอยู่สบายดี เขาค่อยยิ้มกล่าว “ข้าได้ยิน
ว่าสํานักตะวันทองคําถูกเจ้ากวาดล้าง ดังนั้นจึงเร่งรีบมา ดูเหมือนเจ้า
ยังสบายดี!”
หยางฉีเย่ว์เอ่ยถามด้วยความสงสัย “จ้าวสํานักเว่ย ท่านไม่ได้รับผล
ของแรงกดดันหรือ?”
“ขณะนี้ยังไม่เป็นไร! หากปล่อยต่อไป ข้าก็ยังสะกดการฝึกฝนสู่
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้าได้!” เว่ยจงเจิ้งยิ้ม “ตําหนักจันทรา
ทมิฬได้สอนเคล็ดวิชาลับนี้แก่ข้า!”
ไค่เซียงจิ้งอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ก่อนหน้านี้นางยังสามารถเข้า
สู่นครโบราณยุทธ์เต๋า ดังนั้นต้องเป็นเคล็ดวิชาลับเช่นนี้อย่างแน่นอน
“จ้าวสํานัก แล้วคนอื่นของประตูลึกลํ้าเก้าสมบูรณ์เล่าขอรับ? อีกทั้ง
เหตุใดท่านยังไม่ไปแดนวิญญาณอ้างว้าง?” ฉินหยุนเมื่อเอ่ยถึงประตู
ลึกลํ้าเก้าสมบูรณ์ ขณะนี้เขาเกิดความรู้สึกเศร้าขึ้นมา
“ข้าฝากมู่เฟิ งนําพวกเขาไปยังแดนวิญญาณอ้างว้างแล้ว! ขณะนี้ มู่
เฟิ งคงจัดแจงให้พวกเขาอยู่กันอย่างสงบแล้ว” เว่ยจงเจิ้งเผยเสียง
ถอนหายใจยาว “เสี่ยวหยุน ประตูลึกลํ้าเก้าสมบูรณ์ของพวกเรา เมื่อ
ไม่มีลูกศรเทพกําราบตะวันก็ถือว่าจบสิ้นกันแล้ว”
ฉินหยุนถอนหายใจหนัก ตําหนักดวงดาววิญญาณสีครามที่เขาได้
สังกัดก่อนหน้านี้ก็ดี คราวนี้ก็ยังเป็นประตูลึกลํ้าเก้าสมบูรณ์
“เสี่ยวหยุน ข้ายังคิดอยู่ในสามแดนอ้างว้างต่อเพื่อค้นหาพระสูตร
หัวใจเก้าสมบูรณ์! ข้าคิดเพียงว่าพวกเราเสียบทที่สอง ไม่คาดคิดว่าที่
เสียไปจะเป็นทั้งเล่ม!”
เว่ยจงเจิ้งจ้องมองที่เก้าตะวันบนฟากฟ้า “พระสูตรหัวใจเก้าสมบูรณ์
มีทั้งสิ้นสองเล่ม พวกมันย่อมต้องอยู่ในแดนปี ศาจอ้างว้างและแดน
สัตว์อสูรอ้างว้าง! พระสูตรหัวใจเก้าสมบูรณ์มีความสําคัญอย่างยิ่ง
หากพวกเรารวบรวมพวกมันได้ครบ เช่นนั้นพวกเราก็มีหวังฟื้นคืน
ประตูลึกลํ้าเก้าสมบูรณ์ให้ยืนหยัดในเก้าแดนอ้างว้าง!”
พระสูตรหัวใจเก้าสมบูรณ์ ยังคงเป็นตัวตนเลิศลํ้า แม้ฉินหยุนครอบ
ครองมัน ก็ใช้ได้เพียงแต่พลังภายในเก้าสมบูรณ์ และฝ่ ามือมังกร
สัมบูรณ์
“จ้าวสํานัก ให้ข้าไปกับท่านด้วยดีหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ไม่เป็นไร! เมื่อใดข้าพบพวกมัน ข้าจะไปยังแดนวิญญาณอ้างว้าง
เพื่อพบเจอเจ้า!” เว่ยจงเจิ้งมองที่หยางฉีเย่ว์ ก่อนจะตบไหล่ฉินหยุน
เขากล่าว่ “พวกเจ้าล้วนแกร่งกล้า ดังนั้นแม้เข้าแดนวิญญาณอ้างว้างก็
ยังคงปลอดภัยอย่างแน่นอน!”
“จ้าวสํานักขอรับ! พี่หยางมีภูมิความรู้เคล็ดวิชาฝึกฝนอย่างเลิศลํ้า ข้า
ขอส่งต่อพระสูตรหัวใจเก้าสมบูรณ์แก่นางได้หรือไม่? ข้าต้องขอ
อนุญาตท่านก่อน!” ฉินหยุนเกาหลังศีรษะพร้อมยิ้มเอ่ยถาม
เว่ยจงเจิ้งยิ้มรับ “ย่อมได้ ข้าเข้าใจว่าเจ้าคิดถ่ายทอดต่อแม่นางหยาง
หากได้นางช่วยชี้นําพระสูตรหัวใจเก้าสมบูรณ์ นั่นอาจเป็นตัวเลือก
ที่ดีที่สุดแล้ว!”
“ขอบคุณจ้าวสํานักเว่ยที่ไว้วางใจ!” หยางฉีเย่ว์กล่าวอย่างตื้นตัน
อย่างไรแล้ว นางก็เป็นคนนอก หาได้ใช่ศิษย์ของประตูลึกลํ้าเก้า
สมบูรณ์ เมื่อนางได้รับอนุญาตให้เรียนรู้มัน หมายความถึงเว่ยจงเจิ้ง
ไว้วางใจต่อนางไม่ใช่น้อย
“พวกเจ้าดูแลตนเองให้ดี ข้าคิดรีบไปยังแดนปี ศาจอ้างว้างแล้ว!” เว่ย
จงเจิ้งมองที่ฉินหยุนพร้อมยิ้มอบอุ่นส่งมอบ
“จ้าวสํานักก็ดูแลตัวเองด้วยนะขอรับ!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ
“จ้าวสํานักเว่ย ขอท่านเดินทางอย่างปลอดภัย!” หยางฉีเย่ว์กล่าว
เว่ยจงเจิ้งนําเรือบินออกมา พร้อมเร่งรีบมุ่งหน้าไปยังแดนปี ศาจอ้างว้าง
ฉินหยุนและหยางฉีเย่ว์ ขณะนี้เร่งรีบเดินทางกลับสู่นครโบราณยุทธ์
เต๋า