ตอนที่ 316-2 ความสูญเสียจนกระอักเลือดของเจิ้นหนานอ๋อง

ชายาเคียงหทัย

​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ยิ่ง​คิด​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​มีทาง​เป็นไปได้​อยู่​ ​จึง​พยักหน้า​ตาม​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“ฮู​หยิน​กล่าว​ได้​ถูกต้อง​ ​ระยะนี้​เจ้า​ก็​พักผ่อน​ให้​มาก​เถิด​ ​ไม่ต้อง​กังวล​อะไร​ ​เรื่อง​ของ​พระ​ชายา​นั้น​เดี๋ยว​ข้า​จัดการ​เอง​”

​“​เช่นนั้น​ก็​รบกวน​นายท่าน​แล้ว​”​ ​ไป๋ฮู​หยิน​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​ดวงตา​ที่​หลุบ​ต่ำ​ลง​เจือ​แวว​อาฆาตแค้น

​ข่าวคราว​ที่​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​บุก​ยึด​เมืองหลวง​เพิ่งจะ​แพร่สะพัด​ไป​ถึง​ต้า​ฉู่​ได้​ไม่นาน​ ​ก็​มี​ข่าว​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​เกือบจะ​ใช้​เลือด​ล้าง​เหล่า​ขุนนาง​ที่​มีอำนาจ​ของ​ซี​หลิง​แพร่​ต่อมา​อีก​ ​ยาม​ที่​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ที่​นำ​ทัพ​บูรพา​มุ่งหน้า​ลง​ใต้​ได้ยิน​ข่าว​ ​เขา​ยัง​ไม่ทัน​ตั้งสติ​จาก​ข่าว​ที่​เมืองหลวง​ถูก​บูก​โจมตี​จน​สูญเสีย​เมืองหลวง​อย่างรวดเร็ว​ได้​ ​ก็​มี​อีก​ข่าว​ที่​สะเทือนใจ​ยิ่งกว่า​มาถึง​อีกแล้ว​ ​ทำเอา​เขา​มึน​ลงง​ไป​หมด​ ​ต้อง​รู้​ก่อน​ว่า​ ​ในเมื่อ​เขา​ละทิ้ง​หนทาง​กลับ​สู่​ตะวันตก​แล้ว​ ​เช่นนั้น​การ​ที่จะ​เสีย​เมืองหลวง​ไป​ก็​แทบจะ​เป็นเรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​ถึงแม้​เหลย​เจิ​้น​ถิง​จะ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​รวดเร็ว​เพียงนี้​ ​แต่​ก็​ยัง​ถือว่า​พอ​เตรียมใจ​ไว้​บ้าง​ ​ส่วน​เรื่อง​ที่​ม่อ​ซิว​เหยา​จัดการ​ขุนนาง​ที่​มีอำนาจ​ของ​เมืองหลวง​ได้​อย่าง​โหดร้าย​และ​รวดเร็ว​หมดจด​นั้น​กลับเป็น​สิ่ง​ที่​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ไม่เคย​คาดคิด​มาก​่อน​ ​ดังนั้น​แล้ว​เส้นสาย​เครือข่าย​ลับ​ที่​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ติดต่อ​มานาน​หลาย​ปี​หรือ​แม้กระทั่ง​บรรดา​คนใน​ครอบครัว​ของ​นายทหาร​ชั้นสูง​ที่อยู่​ใน​มือ​เขา​ล้วน​ต้อง​ทนทุกข์ทรมาน​ ​เหล่า​บรรดา​หลานชาย​หลานสาว​ของ​เขา​ที่รวม​อยู่​ใน​นั้น​ด้วย​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ ​พอได้​ยิน​ข่าว​นี้​เข้า​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งก​็​โมโห​จน​ลม​แทบ​จับ​ ​ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน​กล่าว​รอด​ไรฟัน​ออกมา​ไม่​กี่​คำ​ว่า​ ​“​ม่อ​ซิว​เหยา​…​”

​“​ท่าน​อ๋อง​!​”​ ​องครักษ์​ข้าง​กาย​รีบ​มา​พยุง​เขา​ไว้​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ยกมือ​ขึ้น​ปิดปาก​ ​เลือด​สีแดง​สด​ไหล​ทะลัก​ผ่าน​ง่าม​นิ้ว​ออกมา

​“​ท่าน​อ๋อง​ ​โปรด​รักษา​ร่างกาย​ด้วย​เถิด​!​”​ ​ผู้คน​ที่อยู่​ที่นั่น​ต่าง​ตระหนกตกใจ​ ​ไม่มีเวลา​จะ​มา​โกรธ​เกรี้ยว​เสียใจ​ ​รีบ​เข้าไป​ดู​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ ​แม้ว่า​เส้นทาง​ที่​พวกเขา​เดิน​นั้น​ยัง​นับว่า​ราบรื่น​อยู่​บ้าง​ ​ซ้ำ​ยัง​ครอบครอง​แผ่นดิน​ของ​ต้า​ฉู่​ได้​ไม่น้อย​ ​ทว่า​เนื่องด้วย​การแทรก​แซง​ของ​มู่​หรง​เซิ​่น​ ​พวกเขา​จึง​ยึดครอง​พื้นที่​ทางใต้​ทั้งหมด​ไม่ได้​ก่อนที่​ม่อ​จิ​่ง​หลี​จะ​อพยพ​ลง​ได้​ตา​ที่​คาดการณ์​เอาไว้​ล่วงหน้า​ ​ยาม​นี้​สถานการณ์​ใน​ต้า​ฉู่​เรียก​ได้​ว่าวุ​่​นวา​ยปั​่น​ป่วน​ไป​หมด​ ​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​แม่น้ำ​อวิ​๋น​หลัน​ลง​ไป​ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​ของ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ไป​แล้ว​ ​ส่วนที่เหลือ​ยู่​น้อย​นิด​นี้​ถูก​พวกเขา​ชิง​ยึดครอง​มา​ไว้​ได้​ก่อน​ ​ส่วน​ดินแดน​ทาง​ตอนเหนือ​ของ​แม่น้ำ​อวิ​๋น​หลัน​ขึ้นไป​นั้น​ถูก​กองทัพ​ใหญ่​ของ​ซี​หลิง​ควบคุม​อยู่​ ​แต่​เบื้องหลัง​ของ​พวกเขา​กลับเป็น​กองทหาร​ของ​มู่​หรง​เซิ​่​นที​่​เพิ่ง​ขึ้น​เหนือ​ไป​ ​แม้ว่า​จะ​มี​กำลัง​พล​เพียง​สอง​แสนนาย​แต่กลับ​นำ​ความยุ่งยาก​มา​ให้​พวกเขา​ที่​กำลัง​ลง​ใต้​อย่างต่อเนื่อง​ไม่น้อย​ ​ ​ส่วน​ทาง​ซีหนาน​ยัง​มี​กองกำลัง​ของ​หลี​่ว​์​ซ่ง​เสียน​อีก​หนึ่ง​แสนนาย​ ​ทาง​ซี​เป่ย​เป็น​ดินแดน​ของกอง​ทัพ​ตระกูล​ม่อ​ ​ขึ้นไป​ทางเหนือ​อีก​เป็นความ​ไม่​สงบสุข​ระหว่าง​ทหาร​รักษาการณ์​ของ​ต้า​ฉู่​ที่​เหลือกับ​แคว้น​เป่ย​หรง​และ​เป่ย​จิ้ง​ ​เรียก​ได้​ว่า​ตอนนี้​ดินแดน​ของ​ต้า​ฉู่​ผืน​นี้​ล้วน​ไม่​สงบสุข​ไป​ทั่วทุก​หย่อม​หญ้า​ ​และ​ใน​ยาม​นี้​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ก็​ไม่​อาจ​เกิด​ข้อผิดพลาด​ใดๆ​ ​ได้​อีกแล้ว

​เหลย​เจิ​้น​หลี​ปรับ​อารมณ์​ให้​คงที่​ ​กด​ความ​คาว​ที่​ตี​ขึ้น​มา​ใน​ลำคอ​กลับ​ลง​ไป​ ​ดัน​องครักษ์​ที่​กำลัง​ประครอง​ตน​ออก​แล้ว​กล่าว​เสียง​หนัก​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่เป็นไร​ ​พวก​เจ้า​ออก​ไป​ก่อน​เถิด​”

​ทุกคน​มอง​ใบหน้า​เขียวปั​๊ด​ของ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ ​สุดท้าย​ก็​กล่าว​ลาออก​จาก​ห้อง​หนังสือ​ไป

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”​ ​ครู่ใหญ่​ทีเดียว​จึง​มีเสียง​ของ​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งดัง​ขึ้น​ใน​ห้อง​หนังสือ​แห่ง​นี้​ ​บุรุษ​ที่มา​ส่งข่าว​ก่อนหน้านี้​สีหน้า​ดู​ไม่ดี​นัก​ ​เขา​เอ่ย​เสียง​ขรึม​เล่าเรื่อง​ราว​ทุก​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​เมืองหลวง​แห่ง​ซี​หลิง​ใน​ช่วง​หลาย​วันที่​ผ่าน​มา​โดยละเอียด​ ​ตั้งแต่​การปรากฏ​ตัว​ของ​สวี​ชิงปั​๋​วที​่​เมืองหลวง​จนถึง​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ยอม​ออกจาก​เมืองหลวง​ซี​หลิง​ไป​ด้วย​องค์​เอง​ ​รวมถึง​เรื่อง​พระ​ชายา​ติ้ง​ถูก​ลอบสังหาร​จน​ติ้ง​อ๋อง​โกรธ​กริ้ว​และ​ทำให้เกิด​เหตุ​นองเลือด​ไป​ทั้ง​ตระกูล

​“​โง่เง่า​!​”​ ​ฟัง​รายงาน​จาก​บุรุษ​ผู้​นั้น​จบ​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งก​็​สบถ​ออกมา​สอง​คำ​ ​เสียง​หอบ​หายใจ​ค่อยๆ​ ​หนัก​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​“​ไอ้​คนโง่เง่า​!​ ​ปีนั​้​นข​้า​น่าจะ​กำจัด​ทิ้ง​ไป​เสีย​!​ ​เหตุใด​เขา​จึง​ไม่​ตรอง​ดู​สักนิด​…​เหตุใด​จึง​ไม่​คิด​ให้​ดี​เสียหน่อย​ ​คนที​่​ตาย​เหล่านั้น​ไม่เพียงแต่​เป็น​คนที​่​ข้า​ไว้ใจ​ ​แต่​ยัง​เป็นกอง​กำลัง​ทหาร​ของ​ซี​หลิง​อีกด้วย​!​ ​คน​พวก​นี้​ล้วน​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​ฆ่า​ตาย​จน​หมด​แล้ว​ ​เขา​คงจะ​แอบ​ดีใจ​อยู่​เงียบๆ​ ​กระมัง​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​ไตร่ตรอง​ดู​บ้าง​ว่า​หาก​คน​พวก​นี้​ตาย​หมด​จริง​ ​แล้ว​ซี​หลิง​…​เขา​คนเดียว​จะ​มีปัญญา​มาป​กค​รอง​ซี​หลิง​หรือ​!​?​”​ ​น้ำเสียง​เหลย​เจิ​้น​ถิง​สูง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เห็นชัด​ว่า​โกรธ​เกรี้ยว​จน​เหลือคณา​แล้ว​ ​ที่​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งก​ล่าว​มานั​้น​ถูกต้อง​อย่างยิ่ง​ ​แม้​คนที​่​ถูก​ฆ่า​ตาย​ล้วน​เป็น​คน​ของ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ ​แต่​ก็​ควรจะ​รู้​ว่า​เหลย​เจิ​้น​ถิง​นั้น​ควบคุม​ดูแล​ด้าน​การเมือง​ของ​ราชสำนัก​มา​เป็น​สิบ​ปี​ ​คนที​่​มี​ความสามารถ​ใน​ราชสำนัก​นั้น​มี​กี่​คน​กันที่​ไม่ใช่​คน​ของ​เขา​ ​พอ​ถูก​ม่อ​ซิว​เหยา​ฆ่า​ตาย​ไป​หมด​เช่นนี้​ ​ที่​เหลืออยู่​ก็​เป็น​เพียง​คนธรรมดา​พื้นๆ​ ​ไร้ความสามารถ​อะไร​ ​ต่อให้​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​จะ​ย้าย​เมืองหลวง​ไป​ที่​เมือง​อัน​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่มี​ประสบการณ์​ใน​การปกครอง​ดูแล​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ซ้ำ​ยัง​พา​คนธรรมดา​ไร้ความสามารถ​ไป​ด้วย​อีก​ ​จะ​เป็น​เช่นไร​ก็​มี​แต่​ฟ้า​เท่านั้น​ที่จะ​รู้​ได้

​“​หึๆ​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ตัวดี​ ​วิธีการ​ก็ดี​ ​แผนการ​ใน​ใจ​ก็ดี​!​”​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ยิ้ม​เย็น​ออกมา

​พอได้​ระบาย​โทสะ​ออก​ไป​บ้าง​แล้ว​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งก​็​กลับมา​สงบ​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​ซ้ำ​ยัง​มอง​จุด​ที่​ผิดปกติ​ออก​ได้​อย่างว่องไว​ ​สายตา​คมเข้ม​หรี่​ลง​เล็กน้อย​ ​กล่าว​เสียง​หนัก​ว่า​ ​“​ข้า​จำ​ไม่ได้​แล้ว​ว่า​เมื่อใด​กันที่​ออกคำสั่ง​ให้​ลอบสังหาร​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​ ​เป็น​ผู้ใด​กันที่​ออกคำสั่ง​นี้​”

​บุรุษ​ผู้​นั้น​ก็​งงงวย​เช่นกัน​ ​เขา​แค่​ถูก​เจิ​้น​หนา​นอ​๋​อง​ส่ง​เข้าไป​แทรกซึม​ยัง​เมืองหลวง​โดย​ไม่​ให้​สะดุดหู​สะดุดตา​ใคร​เท่านั้น​ ​ยาม​ปกติ​แล้ว​มักจะ​รับผิดชอบ​แค่​เพียง​เรื่อง​ข่าวคราว​ทั่วไป​ ​ดังนั้น​พอ​หนีรอด​จาก​เคราะห์ร้าย​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ครานี​้​มา​ได้​ ​จึง​รีบ​มารา​ยงาน​เรื่อง​นี้​ให้​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ฟัง​ทันที​ ​แต่ทว่า​ต้นสายปลายเหตุ​ของ​เรื่อง​นี้​ตัว​เขา​เอง​ก็​ไม่รู้​ ​เพราะ​เพียง​ทำตาม​คำสั่ง​ที่​ได้รับ​มอบหมาย​มา​เท่านั้น​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​เห็น​หน้าตา​งงงวย​ของ​เขา​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​คง​ซักไซ้​ไม่ได้ความ​อะไร​ ​จึง​โบกมือ​ให้​เขา​ออก​ไป

​รอ​จน​บุรุษ​ผู้​นั้น​ออก​ไป​แล้ว​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งก​็​ยกมือ​ปัด​เอา​แท่น​ฝน​หมึก​บน​โต๊ะ​ตกลง​พื้น​ไป​จน​แตก​เป็น​เสี่ยง​ๆ​ ​เกิด​เสียงดัง​ขึ้น​ทั่ว​ห้อง​ ​“​ไป​สืบมา​ให้​ข้า​!​ ​ผู้ใด​กันที่​มัน​บังอาจ​ทำ​เช่นนี้​…​ม่อ​จิ​่ง​หลี​…​ไม่​ ​ม่อ​จิ​่ง​หลี​ไม่มี​น้ำอดน้ำทน​เพียงนั้น​ ​ไป​ตรวจสอบ​เห​ริน​ฉี​หนิง​ ​เยีย​หลี​่ว​์​หง​และ​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยมา​ให้​ข้า​!​”

​“​ขอรับ​ท่าน​อ๋อง​”​ ​ ​องครักษ์​เกราะ​ทองที​่​แฝงตัว​อยู่​รับคำ​แล้ว​จากไป​ ​ภายใน​ห้อง​หนังสือ​จึง​เหลือ​เพียง​เหลย​เจิ​้น​ถิง​แต่เพียง​ผู้เดียว​ ​เขา​เงียบ​อยู่​เนิ่นนาน​จน​ในที่สุด​ก็​กระอัก​เลือด​ออกมา​อีกครั้ง

​ทาง​ด่าน​เฟย​หง​แคว้น​ซี​เป่ย​ ​คุณชาย​ชิง​เฉิน​ที่อยู่​ใน​อาภรณ์​ขาว​พิสุทธิ์​กำลัง​มองออก​มาจาก​หอบน​ประตู​ด่าน​เฟย​หง​ ​ห่าง​จากนั้น​ไป​ไม่​ไกล​ประมาณ​สิบ​กว่า​ลี้​คือ​ค่าย​ทัพ​ของ​ซี​หลิง​และ​เป่ย​หรง​ ​มอง​ขึ้นไป​จาก​ข้างล่าง​ของ​ด่าน​จะ​เห็น​คุณชาย​หน้าตา​งดงาม​สวม​อาภรณ์​ขาว​ยืน​ตระหง่าน​อยู่​ท่ามกลาง​สายลม​ ​สีหน้า​นิ่งเฉย​อย่าง​ไม่แยแส​ราวกับ​เทพ​เซียน​ ​อย่า​ว่าแต่​พลทหาร​ทั่วไป​ของ​ทั้งสอง​กองทัพ​เลย​ ​ต่อให้​เป็น​ผู้บัญชาการ​ของกอง​ทัพ​เห็นท่า​ทาง​เช่นนี้​ของ​เขา​แล้ว​ต้อง​ทอดถอนใจ​ออกมา​เงียบๆ​ ​กับ​ให้​กับ​สง่า​ราศี​นี้​ของ​คุณชาย​ชิง​เฉิน

​“​ชิงปั​๋ว​ได้รับบาดเจ็บ​หรือ​”​ ​สวี​ชิง​เฉิน​ที่อยู่​ใน​หอบน​ประตู​ด่าน​หันหลัง​กลับมา​มอง​องครักษ์​ลับ​ที่มา​ส่งข่าว​พลาง​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย

​องครักษ์​ลับ​พลัน​ใจเต้น​แรง​ ​หนาว​ยะเยือก​ไป​ทั่วทั้ง​สันหลัง​ ​แม้​คุณชาย​ชิง​เฉิน​จะ​ถูก​เรียกว่า​คุณชาย​เทพ​เซียน​ ​ยาม​ปกติ​นั้น​พูดจา​อ่อนโยน​ไม่​เหมือนกับ​ท่าน​อ๋อง​ที่​มีท​่า​ทาง​กดดัน​ผู้คน​ ​แต่ทว่า​กลับ​กดดัน​ผู้คน​ได้​ไม่​เป็น​สอง​รอง​ใคร​ ​“​เรียน​คุณชาย​ ​เป็น​เช่นนั้น​ขอรับ​ ​เพียงแต่​…​ใน​จดหมาย​เขียน​ว่า​อาการ​ของ​คุณชาย​สี่​นั้น​ไม่​หนัก​จนถึง​แก่​ชีวิต​ ​คาด​ว่ายา​มนี​้​คงจะ​ฟื้น​คืนสติ​แล้ว​”

​สวี​ชิง​เฉิน​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​เจ้า​ไป​เถิด​”

​องครักษ์​ลับ​แอบ​เช็ด​เหงื่อ​อยู่​เงียบๆ​ ​ก่อน​ยกมือ​ประสาน​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​น้อย​ขอตัว​”

​“​คุณชาย​ชิง​เฉิน​คิด​ว่า​เป็น​เหลย​เจิ​้น​ถิง​จริงๆ​ ​หรือ​ที่​ลอบสังหาร​พระ​ชายา​ติ้ง​ ​เหลย​เจิ​้น​ถิ​ง.​..​ไม่น่า​จะ​ใช่​คนโง่​เช่นนี้​”​ ​บุรุษ​ที่​ยืน​รับลม​อยู่​ข้าง​กาย​สวี​ชิง​เฉิน​สอง​คน​ ​คน​หนึ่ง​ผมหงอก​ขาวโพลน​แล้ว​ ​แม้​จะ​มีท​่า​ที​อ่อนโยน​แต่​สีหน้า​กลับ​หนักแน่น​อยู่​ไม่น้อย​ ​อีก​คน​หนึ่ง​เป็น​บุรุษ​วัยกลางคน​อายุ​ราวๆ​ ​สามสิบ​ต้นๆ​ ​สีหน้า​ดูใจ​เย็น​สงบนิ่ง​ ​หน้าตา​มีส่วน​คล​้า​นคน​แรก​อยู่​ไม่น้อย

​ทั้งสอง​คน​นี้​คือ​หนาน​โหว​ซื่อ​จื่อ​ที่​เกือบจะ​ถูก​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​ฆ่า​ตาย​ใน​ปีนั​้น​ ​ครา​แรก​ทั้งสอง​ต่าง​โดน​ม่อ​จิ​่ง​ฉีกด​ขี่​และ​ประทุษร้าย​จน​เกือบจะ​เอาชีวิต​ไม่รอด​ ​แม้ว่า​จะ​มี​ม่อ​ซิว​เหยา​และ​เยี​่ย​หลี​ช่วย​เอาไว้​แต่ทว่า​กลับ​มี​ความท้อแท้​หดหู่​อยู่​ไม่น้อย​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ล้วน​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ซี​เป่ย​อย่าง​เงียบๆ​ ​ไร้​ซึ่ง​ชื่อเสียง​ ​แต่​ยาม​นี้​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​ได้​ตาย​ไป​แล้ว​ ​เหลือ​เพียงแค่​นาม​ทิ้ง​ไว้​ใน​ต้า​ฉู่​ ​ส่วน​ซี​เป่ย​ก็​กำลัง​เผชิญหน้า​กับ​ซี​หลิง​และ​กองทัพ​ขนาดใหญ่​ของ​เป่ย​หรง​ที่​บุก​มาป​ระ​ชิด​เขตแดน​ ​แน่นอน​ว่า​หนาน​โหว​ซื่อ​จื่อ​ทั้งสอง​ต่าง​นั่ง​ไม่​ติด​ ​พวกเขา​จึง​เป็น​ฝ่าย​ขอ​ติดตาม​สวี​ชิง​เฉิน​มาที​่​ด่าน​เฟย​หง​แห่ง​นี้​ด้วย