บทที่ 358 พวกเจ้าอย่าหวังจะแตะต้อง

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 358 พวกเจ้าอย่าหวังจะแตะต้อง
น่าหลันหลิงลั่วมาตรงข้างโขดหินแดงเพลิงก้อนหนึ่ง มือเรียวยาวดุจหอมขาวดุจหยกขีดตารางเก้าช่องอย่างมีระเบียบบนโขดหิน

ทุกครั้งที่เขาวาดครั้งหนึ่ง ลักษณะพื้นที่ของถ้ำโลหิตก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลง

“เป็นค่ายกลซ่อนค่ายกล” กู้ชูหน่วนลูบคาง

นางกลับมองไม่ออก ที่นี่กลับยังซ่อนค่ายกลร้ายกาจขนาดนี้

เขาไม่เคยเห็นกระดิ่งทลายวิญญาณ แล้วรู้ได้อย่างไร?

สีหน้าน่าหลันหลิงลั่วเคร่งขรึม ทุกครั้งที่วาด ใบหน้าจะปรากฏเหงื่อเล็กๆ

ค่ายกลจะผิดพลาดไม่ได้ หากเกิดความผิดพลาด ทะเลโลหิตที่นี่ก็จะทะลักขึ้นมา แผ่ขยายไปทั้งถ้ำโลหิต แม้ความเร็วพวกเขาจะไวเพียงใด ก็ไม่อาจหนีออกจากถ้ำโลหิตได้ในเวลาอันสั้น ส่วนมุกมังกรสีฟ้าก็จะถูกทำลายไปด้วย

เสียงต่อสู้ข้างนอกดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฟังแล้วพวกเขาถึงด้านนอกนี้แล้ว บุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ

ผู้อาวุโสฮัวของหุบเขาตันหุยปาดเหงื่อร้อน เอ่ยเร่งเร้า “เจ้าหุบเขา พวกเขาใกล้บุกเข้ามาแล้ว”

“ข้าได้ยิน”

น่าหลันหลิงลั่วไม่แม้แต่จะเงยหน้า แก้ตารางเก้าช่องด้วยความจดจ่อนิ่งสงบ เขาต้องการได้มุกมังกรมาในเวลาอันสั้นที่สุด

“โครม…”

ลักษณะพื้นที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว หินหลอมเหลวในสระโลหิตเดือดพล่านมากขึ้นเรื่องๆ ผนังถ้ำก็สลับเปลี่ยนแปลง ไม่เห็นเค้าเดิม

กู้ชูหน่วนเขยิบเข้าใกล้ ชี้ตารางเก้าช่องบนโขดหินแดงเพลิง “ไปตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้ แล้วก็ทางซ้าย”

“เชื่อได้หรือ?”

“ตารางเก้าช่องซับซ้อนเช่นนี้ รอเจ้าจะศึกษาได้เอง พวกเขาก็บุกเข้ามานานแล้ว”

ผู้อาวุโสฮัวเอ่ยอย่างร้อนรน “เจ้าหุบเขา เรื่องนี้สำคัญใหญ่หลวง จะฟังคำพูดนางฝ่ายเดียวมิได้เป็นอันขาด ท่านวางใจแก้ค่ายกลเถอะ ต่อให้ข้าต้องแลกด้วยชีวิต ก็จะสกัดพวกเขาให้ได้!”

กู้ชูหน่วนแย้งกลับอย่างไม่เกรงใจสักนิด “เอาเถอะ ถ้าพวกเขายังสกัดไว้ไม่ได้ เจ้าคนเดียวสกัดพวกเลวทรามต่ำช้าพวกนั้นไม่ได้ไปกันใหญ่ ข้าว่าวรยุทธ์ของเผ่าเทียนเฟิ่นไม่ได้โม้นะ”

“อย่างไร? เจ้าดูถูกหุบเขาตันหุยเราหรือ?”

“เอาล่ะๆ ท่านอาฮัว ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร ท่านแค่ดูก็พอแล้ว”

น่าหลันหลิงลั่วเตือนไปก็ทำตามที่กู้ชูหน่วนบอก เกือบทำผู้อาวุโสฮัวโมโหตายดื้อๆ

เคราะห์ดีที่ทำตามกู้ชูหน่วนบอก แก้ตารางเก้าช่องได้ทีละช่องๆ ทะเลโลหิตหินหลอมเหลวก็ลดลงเรื่อยๆ หากยังลดต่อไปเช่นนี้ พอให้หินหลอมเหลวสลายไป พวกเขาก็จะได้กระดิ่งทลายวิญญาณมาแล้ว

“ซ้ายอีก ซ้ายอีกหน่อย เดินหน้าสองตา ขยับซ้ายสามตา หยุด แล้วถอยหลังห้าตา”

กู้ชูหน่วนแทบไม่คิด ปากก็กล่าวออกมาเป็นพรวนแล้ว ดูจนน่าหลันหลิงลั่วกับผู้อาวุโสฮัวต่างงงงัน

หรือนางเคยแก้ค่ายกลนี้มาก่อน? มิเช่นนี้ไยจึงคล่องขนาดนี้? แล้วยังแม่นอีกด้วย

ค่ายกลตารางเก้าช่องมิได้แก้ง่ายเช่นนั้น!

ผู้อาวุโสฮัวออกไปหนหนึ่ง แล้วกลับเข้ามาอีก อารมณ์บนใบหน้าตื่นตระหนกกว่าเดิม “เจ้าหุบเขา จะไม่ทันแล้ว เหลือแค่ประตูหินพวกเขาก็จะบุกเข้ามาแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังรวมกำลัง ทำลายเปิดประตูหินอยู่!”

“มาทางนี้”

ทั้งสองเมินถ้อยคำของผู้อาวุโสฮัว ทันใดนั้นมือเรียวของกู้ชูหน่วนก็ชี้ที่หัวใจของโขดหิน มุมปากผุดพรายประกายแห่งความมั่นใจ

มือเรียวยาวของน่าหลันหลิงลั่ววาดไปอีกครั้ง ลักษณะพื้นที่จึงเกิดความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

อย่างไม่มีสาเหตุ หินหลอมเหลวทะเลโลหิตเดือดพล่านที่นี่ ไหลสู่เบื้องล่างหน้าผาไม่หยุดราวกับอุทกภัยสัตว์ร้าย แม้แต่หินหลอมเหลวหยดสุดท้ายก็ไม่เหลือ

ทุกคนยินดีปรีดา ในที่สุดหินหลอมเหลวก็หายไปแล้ว

ขณะพวกเขาจะไปเอามุกมังกรสีฟ้าที่แท่นดอกบัว พลังแกร่งกล้าหนึ่งก็ซัดพวกเขาทั้งหมดออกอย่างไม่ทันตั้งตัว

สุดยอดผู้อาวุโสสามท่านของเผ่าเทียนเฟิ่นบุกเข้ามาอย่างอุกอาจ “มุกมังกรสีฟ้าเป็นของพวกเราเผ่าเทียนเฟิ่น พวกเจ้าอย่าหวังได้แตะต้อง!”