ที่ไหนสักแห่งบนหลังคาของตึกใจกลางเมืองในหลิงเฉิง

 

“ตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้…” ชูฮันชี้ไปที่กฎระเบียบทหารที่หลิวยู่ติงเป็นคนร่างขึ้นมา “มันต้องแก้ไข บทลงโทษพวกนี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขากลัวและสำนึก การเตือนแบบนี้มันยังเบาไป”

 

สมองของหลิวยู่ติงรีบแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว “ฉันว่า ฉันไม่สามารถคิดได้ออก ฉันไม่รู้ว่านายต้องการระดับไหน แล้วความผิดแบบไหนถึงจะนับ ถ้านายมีความคิดทุกอย่างไว้ในหัวอยู่แล้ว ถ้างั้นจะใช้ฉันเขียนไปทำไม?”

 

ชูฮันกรอกตา “นายพูดอะไร นายกำลังคิดจะทำอะไร? ฉันมีเรื่องให้คิดมากมายเต็มไปหมด หลังจากนี้มันยังมีความผิดระดับ 2 ถึง 5 อีก นายอยากจะให้ฉันหัวระเบิดใช่มั้ย?”

 

หลิวยู่ติงถอนหายใจ “งั้นนายก็ช่วยชี้แนวทางเพื่อให้ฉันหาแรงบันดาลในใจการคิดหน่อยที?”

 

ชูฮันเอามือแตะคางอย่างกำลังใช้ความคิด “ความผิดฐานเบาที่สุดของระดับหนึ่งคือพวกความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ไม่จำเป็นต้องกำหนดโทษหนักเกินไป แต่มันก็ไม่ควรง่ายดายจนพวกเขาไม่รู้สึกกลัว ความผิดเล็กๆน้อยๆก็อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่โตร้ายแรงได้ในภายหลังถ้าไม่รู้จักแก้ไขก่อนให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้นโทษมันต้องไม่หนักไปและไม่เบาไป ไม่อาจเป็นการลงโทษทางร่างกายได้ จุดประสงค์คือทำให้พวกเขาจำและสัญญาว่าจะไม่ทำอีก”

 

หลิวยู่ติงอยากจะสลบไปให้รู้แล้วรู้รอด “หัวหน้า แล้วผมจะทำตามข้อกำหนดนี้ได้ยังไง? ห้ามให้หนักไปหรือเบาไปแต่ต้องพิเศษพอให้พวกเขาจดจำ ประหลาดอะไรอย่างงี้!”

 

“ใครบอกว่าแปลกประหลาด” ชูฮันส่งสายดุๆให้หลิวยู่ติง “ตัวอย่างเช่นครั้งนี้ทีมที่หนึ่งของหลี่บี๋เฟิงใช้อำนาจตามอำเภอใจนำพากลุ่มไปโดยไม่คิดตามหาซุปเปอร์ซอมบี้ พวกเขาเอาแต่ไล่ฆ่าซอมบี้ตลอดทาง ถึงแม้พวกเขาจะได้ชัยชนะในเรื่องความเร็วที่มาถึงจุดหมายก่อนกลุ่มอื่น แต่คำสั่งภารกิจของฉันกลับทำไม่สำเร็จและมองข้ามอย่างสิ้นเชิง แต่เป็นเพราะมันไม่มีผู้บาดเจ็บ สถานการณ์ในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นความผิดสถานเบาอยู่”

 

“แล้วต้องลงโทษอย่างไร?” ตาของหลิวยู่ติงเป็นประกาย เขารีบกระดิกหูฟังชูฮันอย่างตั้งใจ นี่คือโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากมาก…คำแนะนำจากปากชูฮันตัวต่อตัว

 

“ใช้ประโยชน์จากเบาะแสของซุปเปอร์ซอมบี้ที่แต่ละกลุ่มเจอ” ชูฮันมีรอยยิ้มอยู่ในแววตา “จากนั้นเราก็ไปดูที่กลุ่มแรก พวกเขาได้ออกตัวไปกลุ่มแรกแต่พวกเขากลับเอาแต่สนใจที่จะล้มซอมบี้ หลี่บี๋เฟิงจะต้องได้รับโทษมากที่สุดเพราะเขาเป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่บทลงโทษก็ควรยืดหยุ่นได้ตามอารมณ์ของผู้ที่ถูกลงโทษและจุดอ่อนของแต่ละคน”

 

“เอ่อ อืม” หลิวยู่ติงพยักหน้า “แล้วมันมี?”

 

“โอ้ะ!” ชูฮันมองหลิวยู่ติงและเขาก็เฉลยทางออกให้หลิวยู่ติงอย่างง่ายดาย “ตัวอย่างเช่น บางกลุ่มอาจจะไม่ได้รับชัยชนะของการมาถึงสามกลุ่มแรกหรือไม่ได้ฆ่าซอมบี้มากมายอะไรหรืออาจจะไม่ได้เจอเบาแสของซุปเปอร์ซอมบี้เลยสักนิด แน่นอนว่ากลุ่มพวกนี้ทำตัวง่ายๆสบายๆและไม่จริงจังกับการฝึกครั้งนี้ทั้งๆที่มันเป็นสิ่งจำเป็น ในเมื่อพวกเขาไม่ยอมทำตามแผนการฝึก งั้นก็ให้อยู่แบบใส่ถุงเท้าเน่าๆไปสำหรับหนึ่งอาทิตย์”

 

“พุฟ! แค่ก! แค่ก!” หลิวยู่ติงสำลักน้ำลายตัวเองทันทีที่ได้ยิน “นั่น? นั่นมัน นั่นมัน?”

 

ถุงเท้าเน่า…หลังจากฆ่าซอมบี้ตั้งมากมาย เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดข้นเน่าเหม็นและยังต้องอยู่กับถุงเท้าเน่าและตัวที่เหม็นเหงื่อท่วมตัวอีก นี่มันโหดร้ายมาก!

 

“โหดร้าย! นี่มันแย่มาก!” หลิวยู่ติงร้องลั่น “แต่ฉันชอบ!”

 

เมื่อมองไปที่แววตาของหลิวยู่ติง ชูฮันก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ลองคิดไปในแนวนี้ดู อะไรที่จะทำคนขยาดและไม่อยากต้องเจออีก ลองคิดถึงบทลงโทษแบบนี้สำหรับความผิดฐานเบาดู ก็นะ…เพราะเราไม่สามารถลงโทษทางร่างกายได้ แต่เราสามารถทำให้มันเป็นที่จดจำและเข็ดขยาดได้!”

 

“นี่มัน นี่มัน…” จู่ๆอารมณ์ของหลิวยู่ติงก็เปลี่ยนไปเป็นท่าทางตื่นเต้น “ในอนาคต กฏระเบียบทางทหารนี้จะไม่ได้ใช้เฉพาะเจาะจงแค่กับคนพวกนี้ แต่ฉันอยากจะนำมันไปใช้กับทุกคน”

 

“ใช่ ฉันต้องการมอบอำนาจนั้นให้นาย กองทัพของฉันห้ามได้รับการปฏิบัติอย่างพิเศษ ใครก็ตามที่ทำผิดจะต้องถูกลงโทษทุกคน!” ชูฮันพูดอย่างใส่อารมณ์ “คนที่ทำผิดฉันจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายจัดการ นายสามารถจัดการได้ตามที่เห็นสมควร ส่วนเรื่องจะลงโทษอย่างไรนั่นสิ่งที่ฉันขอให้นายเขียนวันนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง ฉันต้องการบทลงโทษหลายร้อยข้อตามลำดับความผิดตั้งแต่ฐานเบาไปจนถึงฐานหนัก ฉันต้องการให้บทลงโทษเข้าถึงคนที่โดนลงโทษ ลงโทษเพื่อให้เกิดการพัฒนาและก้าวหน้า เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกๆวันและเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กล้าที่จะทำผิดอีกครั้ง!”

 

“เข้าใจแล้วครับ!” หลิวยู่ติงเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เขารีบกลับไปตั้งใจทำงานของตัวเองต่อ

 

หลังจากหลิวยู่ติงจากไป เสียงของหวังไคก็ดังขึ้นในหัวชูฮัน “ชูฮัน อยู่ดีๆตัวเลขความจงรักภักดีต่อนายก็เพิ่มขึ้น”

 

ชูฮันปาดข้อมูลของความจงรักภักดีที่แสดงบนหน้าจอระบบล่มสลายออกไป แน่นอนว่า หลายสิบชื่อที่อยู่ในนั้นความจงรักภักดีไม่ใช่เลขศูนย์อีกต่อไปและมีตัวเลขของอีกหลายคนที่ไม่คงที่อย่างเคย ตัวเลขความภักดีต่อชูฮันกำลังระเบิดพุ่งขึ้นอย่างถล่มทลาย หนึ่งในนั้นก็คือของเสี่ยวฉี

 

“ดูเหมือนจะเป็นคนมาใหม่ของกลุ่มที่สอง สาม เจ็ดและสิบ? หวังไคตกใจมากที่ได้เห็นแถวของข้อมูลที่ขึ้นแสดง เขารู้ว่าปกติตัวเลขของความจงรักภักดีนั่นมักจะเชื่อมโยงกับคนที่อยู่กับชูฮันในเหตุการณ์ แต่ตอนนี้สมาชิกของกลุ่มพวกนี้กำลังแยกย้ายไปฝึกตามลำพัง ชูฮันอยู่ไหนก็ไม่รู้สำหรับคนพวกนั้น!

 

ชูฮันคลำคางตัวเองอย่างใช้ความคิด “เอาล่ะ ตอนนี้เสี่ยวฉีมีความจงรักภักดีสูงที่สุด จากทั้งสี่กลุ่มของคนมาใหม่มีคนตายไปหนึ่งคน ส่วนสมาชิกที่เหลือต่างมีความจงรักภักดีต่อฉันกันหมดและยังเพิ่มขึ้นอีก นั่นหมายความว่าพวกเขาพึ่งร่วมต่อสู้ด้วยกันมา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีกลุ่มของเฉินช่าวเย่ที่ซึ่งความจงรักภักดีของเฉินช่าวเย่นั้นสูงที่สุดอยู่แล้วที่ 100% ฉันชื่นชมที่เขามอบความภักดีให้ฉันมากที่สุดอย่างเดิม เขาน่าจะเป็นคนสั่งการรบ”

 

หวังไคมองชูฮันด้วยสายตาสยอง ชูฮันพูดต่อ “มันเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่พอควรและพวกเขาได้รับชัยชนะ ตามรายงานจากซูเฟิง มันเป็นการต่อสู้ของวิวัฒนาการระยะ 5  สองคนที่ดึงดูดฝูงซอมบี้เข้ามา”

 

หวังไคยิ่งประหลาดใจเข้าไปอีก มันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “นายใช้อะไรวิเคราะห์?”

 

“ทั้งเวลา สถานที่ คนและเหตุการณ์ มันเป็นการวิเคราะห์ที่ดี”

 

หวังไคส่ายหัว “มันไม่ใช่การวิเคราะห์ที่ดี นี้มันคือการคาดเดาของนายเองล้วนๆ ไม่มีพื้นฐานหลักการ”

 

และในจังหวะหวังไคไม่เชื่อสิ่งที่ชูฮันบอกและชูฮันก็ขี้เกียจเกินกว่าจะมานั่งอธิบาย หลิวยู่ติงก็เข้ามาจากทางด้านหลังและร้องอุทานขึ้นอย่างตื่นเต้น

 

“หัวหน้า!” หลิวยู่ติงวิ่งเข้ามาและส่งแบบร่างที่ได้ทำการปรับปรุงบทลงโทษแล้วให้ชูฮัน “นี่คือบทลงโทษระดับ 2 สำหรับความผิดที่แรงกว่าระดับแรก บมลงโทษเองก็รุนแรงขึ้น หัวหน้าว่ายังไง?”

 

ชูฮันรับเอกสารมาและทันทีที่ได้เห็นเนื้อหาข้างในหัวใจของชูฮันก็เต้นรัว เขาแทบจะทำกระดาษในมือหล่น จากนั้นเขาก็หันหน้ามองไปหลิวยู่ติงด้วยความตกใจทันที