ตอนที่ 1525 สำนักธาราเมฆ (2)
พอชายชราตัวเล็กอธิบายให้ฟัง ชายคนนั้นก็เข้าใจถึงความละเอียดอ่อนในเรื่องนี้ทันที “แต่จากที่ท่านพูด……เด็กคนนั้นเลือกวิหารหยกวิญญาณเพราะเขาอยากหลีกเลี่ยงสิบสองวิหารงั้นหรือ? แต่ถ้าอย่างนั้น ทำไมเขาถึงมาร่วมงานชุมนุมเทพยุทธ์ล่ะขอรับ?”
ชายคนนั้นเข้าใจแค่บางส่วน แต่เขาก็ยังสับสนในบางส่วนอยู่ดี
ทางเลือกของจวินอู๋เสีย จากการวิเคราะห์ของชายชราตัวเล็ก แสดงให้เห็นว่าจวินอู๋เสียไม่ได้อยากเกี่ยวข้องกับสิบสองวิหาร แต่นางก็ยังมาเข้าร่วมงานชุมนุมเทพยุทธ์ที่จัดโดยสิบสองวิหาร นั่นมันไม่ขัดแย้งกันหรอกหรือ?
ชายชราตัวเล็กทำเสียงต่ำในลำคออย่างไม่พอใจ “ข้าจะไปรู้ได้ยังไง? ใครจะไปรู้ว่าเจ้าหนูนั่นคิดอะไรอยู่? เขาอาจจะชอบบรรยากาศบนภูเขาที่เงียบสงบและน้ำใสไหลเย็นที่สำนักธาราเมฆของเรา เลยอยากจะมาใช้ชีวิตที่สงบเงียบที่นี่บ้างก็ได้ เจ้าไม่มีทางรู้หรอก”
เสียงของชายชราเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างมาก
ชายคนนั้นมองชายชราตัวเล็กที่กำลังยกย่องตัวเองอย่างไร้ยางอาย แล้วเขาก็อ้าปากค้างนิ่งอยู่กับที่ พูดอะไรไม่ออก
“เออ ใช่ ตั้งนานแล้ว ข้ายังไม่รู้ชื่อของเจ้าหนูนั่นเลย เขาชื่ออะไรล่ะ?” ชายชราตัวเล็กถาม
“จวินอู๋ขอรับ”
“จวินอู๋?” ชายชราทวนคำพร้อมกับเลิกคิ้วและลูบเคราสีขาวของตัวเอง
“ยังไงซะ เมื่อจวินอู๋ได้เข้าสำนักธาราเมฆ เขาก็จะกลายเป็นคนของสำนักธาราเมฆเรา ให้คนคอยดูแลเขาหน่อยแล้วกัน”
ชายคนนั้นพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร แต่เขาก็อดบ่นในใจไม่ได้
[นายท่านพูดอยู่ตลอดว่าไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องของสิบสองวิหารและไม่สนงานของสำนักด้วย แต่เด็กคนนี้ยังไม่ได้เข้าสำนักธาราเมฆด้วยซ้ำ ท่านก็จัดให้ดูแลเป็นพิเศษแล้ว นี่ยังเรียกว่ายุติธรรมอยู่อีกหรือ?]
แต่คำพูดในใจพวกนั้นจะไม่มีวันออกจากปากเขาแน่
ไม่นานหลังจากงานชุมนุมเทพยุทธ์ปิดม่านลง สำนักธาราเมฆก็เปิดประตูรับผู้โชคดีที่สิบสองวิหารเลือกไว้
ในงานชุมนุมเทพยุทธ์ครั้งนี้ คนของสิบสองวิหารได้เลือกผู้สมัครเอาไว้ตั้งแต่เริ่มงานจนจบงาน ทำให้มีศิษย์เข้ามาเกือบพันคน ในจำนวนนั้น วิหารปีศาจเพลิงมีจำนวนคนมากที่สุด และวิหารจิงหงมีจำนวนคนน้อยที่สุด ในตอนท้ายของงานชุมนุมเทพยุทธ์ วิหารทั้งหลายต่างก็เจอกับสถานการณ์ที่พวกเขาตั้งเป้าหมายไว้ที่ผู้สมัครคนเดียวกัน และผู้สมัครพวกนี้ก็จะเลือกจากอำนาจของวิหารนั้นๆ
อาณาจักรกลางเป็นสถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งครองอำนาจ ทำให้พวกผู้เยาว์ที่เข้าร่วมงานชุมนุมเทพยุทธ์มีความโน้มเอียงที่จะเข้าหาผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ยิ่งวิหารมีอำนาจมากเท่าไร ก็สามารถดึงดูดผู้มีพรสวรรค์ได้มากเท่านั้น ดังนั้น ถ้าดูจากความยาวของรายชื่อผู้สมัครที่ได้รับจากวิหารต่างๆเพื่อเข้าสำนักธาราเมฆแล้วล่ะก็ ก็จะสามารถเห็นความแตกต่างได้เลย
และในบรรดาผู้เยาว์ทั้งหมดที่ถูกส่งมาจากวิหารต่างๆนั้น คนที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุดก็คือเด็กหนุ่มรูปร่างผอมบางคนนั้น
ตอนที่สำนักธาราเมฆเปิดประตู วิหารต่างๆได้ส่งคนมาหลายคนเพื่อมาส่งกองกำลังสำรองเหล่านี้เข้าสู่สำนักธาราเมฆ และเพื่อพูดเตือนพวกเขาในบางเรื่องก่อนที่จะเข้าสำนัก
มีเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ตามลำพังด้านนอกประตูใหญ่ของสำนักธาราเมฆ ดูแล้วโดดเด่นเป็นอย่างมาก
“นั่นคือคนจากวิหารหยกวิญญาณหรือ?” ผู้เยาว์หลายคนอกกระซิบกระซาบกันไม่ได้เมื่อเห็นร่างเล็กๆยืนอยู่เพียงลำพัง
“นอกจากเขาแล้วจะเป็นใครได้อีก?”
“งั้นก็จริงน่ะซิ มีคนเลือกวิหารหยกวิญญาณจริงๆหรือ? ข้าเกือบลืมไปแล้วว่ามีที่ที่เรียกว่าวิหารหยกวิญญาณอยู่ด้วย เจ้าหมอนั่นคิดอะไรอยู่นะ? เลือกวิหารหยกวิญญาณนี่ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย?”
“เจ้ามันไม่รู้อะไร จะบอกให้นะ ข้าได้ยินมาจากคนที่ไปสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดว่าเจ้าหมอนั่นได้รับคำเชิญจากทั้งสิบสองวิหารเลย แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้วิหารไหนเลย แต่กลับเอาตราที่ได้จากประมุขวิหารหยกวิญญาณออกมา แปลกจริงๆ” กลุ่มผู้เยาว์รวมตัวกันพูดคุยด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ร่างที่ยืนอยู่โดดเดี่ยวของจวินอู๋เสีย