ด้วย ‘พร’ ของเขา ‘ยักษ์น้ำแข็ง’ ลีโอยังไม่มีสติ เมื่อได้ยินคำพูดของลูเซียน เขาพยายามลืมตาขึ้นด้วยความยากลำบากและมองไปที่ชายหนุ่มแปลกหน้าตรงหน้าเขาเรื่องความรู้สึกทั้งประหลาดใจและเป็นกังวล
เมื่อได้ยินคำสั่งของลูเซียน เจ้าของบาร์ก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน เขาสงสัยเหลือเกินว่าชายหนุ่มคนนี้รู้หรือไม่ว่าวอร์เร็นเป็นใคร และพ่อของเขาเป็นใคร
วอร์เร็นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับว่าเขาเห็นเรื่องตลกโปกฮา แล้วเขาก็ระงับความโกรธเอาไว้ก่อนพูดกับลูเซียน “ทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าจะยอมให้เจ้าเอาตัวลีโอไป? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาพูดกับข้าแบบนี้?”
วอร์เร็นมีอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างเห็นได้ชัดเจน ข้อตกลงอันงดงามกลับดยุกในจักรวรรดิชาชรานถูกทำลายด้วยน้ำมือลีโอ จนในที่สุด เขาหาตัวลีโอพบและกำลังจะทำให้เขาต้องชดใช้ กลับมีคนแปลกหน้าโผล่ขึ้นมาและสั่งให้เขาปล่อยตัวลีโอไป นอกจากพ่อของเขาและขุนนางเมืองทั้งเก้าคน ไม่มีใครหน้าไหนกล้าพูดกับเขาแบบนี้!
ตอนนั้นเอง ยาโรลิมก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับกริชสีดำในมือทั้งสองข้าง พร้อมจะเปิดการโจมตีด้วยระดับพลังอัศวินใส่ลูเซียน
ถ้าลูเซียนมีท่าทีหวาดกลัว ยาโรลิมก็เข้าใจว่าชายหนุ่มผู้นี้เพียงแค่ปากเก่งอวดดีเท่านั้น และยาโรลิมคงจัดการเขาได้ภายในพริบตา
ดวงตาสีเทาของยาโรลิมมองตาของลูเซียนอย่างเกรี้ยวกราด ปล่อยให้ลูเซียนได้สัมผัสถึงพลังแห่งอัศวิน
ทันใดนั้น เขากลับเห็นแสงสีขาววูบวาบในดวงตาสีน้ำตาลของลูเซียน และเพียงเสี้ยววินาที เขาก็สัมผัสถึงความกลัวตายที่นั่นเข้าสู่สมอง
หลังจากนั้น ยาโรลิมก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดเกินต้านทาน และรู้สึกชาไปทั้งตัว ก่อนที่จะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ผู้คนในโถงบาร์ต่างกรีดร้อง เมื่อเห็นมือและหน้าของยาโรลิมเต็มไปด้วยแผลเวอะหวะและน้ำหนองสีเหลืองอ่อนทะลักออกมา
เมื่อรู้ว่านี่เป็นเวทมนตร์ ยาโรลิมก็รีบใช้ชั้นเพลิงสีดำปกคลุมทั่วตัว อย่างไรก็ตาม แผลหนองเวอะหวะกลับเอาชนะไฟและลุกลามไปทั่วตัวของเขา
วอร์เร็นกับองครักษ์ของเขาก็สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างของยาโรลิม ภายในไม่กี่วินาที ยาโรลิมหมดสิ้นเรี่ยวแรง ถึงขั้นต้องคุกเข่าลงกับพื้น และใช้กำลังที่เหลือทั้งหมดเพียงเพื่อสูดอากาศหายใจ แม้ว่าแผลหนองจะหยุดลุกลามแล้ว เขาก็ยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าจะฟื้นคืนพลังขึ้นมา
ลูเซียนมองที่เขา ยืนนิ่งๆ และเพียงยิ้ม ลูเซียนหยุดการโจมตีไว้เพียงแค่นั้น
อาคมศาสตร์มืดระดับสาม ‘เวทคำสาปผิวเน่าหนอง’
“เจ้าเป็น… นักเวทศาสตร์มืดอย่างนั้นหรือ?” วอร์เร็นพยายามรวบรวมสติ แม้เสียงของเขาจะสั่นเครือ นักเวทศาสตร์มืดไม่เคยได้รับการพูดถึงในแง่ดี โดยเฉพาะในดินแดนตอนเหนือเช่นนี้
ลูเซียนเพียงแค่ยิ้ม แต่ไม่มีคำตอบออกมา
อัศวินร่างสูงร่างกายกำยำอีกคนโน้มตัวไปด้านข้างของวอร์เร็นและกระซิบกับเขาไม่กี่คำ
วอร์เร็นยืนขึ้น สีหน้าของเขามีนัยบางอย่างซ่อนอยู่ “ถ้าอย่างนั้น… ท่านนักเวทชั้นกลาง ท่านมาจากสภาเวทมนตร์ หรือมาจากที่ใดในตอนเหนือกันเล่า?”
เมื่อได้ยินวอร์เร็นเรียกชายหนุ่มผู้นี้ คนอื่นๆ ที่เหลือในบาร์ต่างตกตะลึง ชายผู้นี้เป็นถึงนักเวทชั้นกลาง!
แม้ว่านักเวทชั้นกลางจะเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ในเมืองอัลลิน แต่นักเวทชั้นกลางก็มีพลังเทียบเท่าอัศวินหลวงหรือบาทหลวง หากไม่นับเมืองใหญ่บางเมือง เช่น แลนซ์ อัลลิน เรนทาโต และอัลโต้ นักเวทชั้นกลาง อัศวินหลวง หรือบาทหลวงมีอำนาจพอจะปกครองเมืองทั้งเมือง ในอีสต์เฮเวน มีขุนนางเมืองเพียงเก้าคนเท่านั้นที่มีพลังขนาดนี้ ส่วนพวกเจ้าของที่ดินคนอื่นๆ ก็ยังมีพลังต่ำต้อยกว่าลูเซียน
ในความเป็นจริง ด้วยความหลากหลายในพลัง โดยพื้นฐานแล้ว พลังของนักเวทชั้นกลางเทียบเท่าได้กับอัศวินหลวง ซึ่งเป็นจริงมีระดับสูงกว่านักเวทชั้นกลางอยู่ขั้นหนึ่ง
แหวนรางวัลมงกุฎแห่งโฮล์มของลูเซียนถูกซ่อนไว้ภายใต้ถุงมือ เขาขยับแว่นตาข้างเดียวจะตอบคำถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสุขุม “ไม่สำคัญหรอกว่าข้ามาจากที่ไหน สิ่งที่สำคัญคือข้าต้องการตัวลีโอไปกับข้า ท่านมีปัญหาหรือไม่?”
น้ำเสียงของลูเซียนเตือนสติวอร์เร็นให้คิดถึงเหล่านักเวทอัจฉริยะจาก ‘สภาเวทมนตร์’ โดยเฉพาะนักเวทจาก ‘กลุ่มหัตถ์ไร้ชีวา’ เขารีบยิ้มออกมาระยะไกล “ท่านก็ทราบดี… ท่านได้แสดงพลังของท่านแล้ว คงถึงเวลาที่ข้าต้องไปก่อน”
แม้ว่าวอร์เร็นยังอยู่ภายใต้การคุ้มครองจากพ่อของเขา แต่เขาเข้าใจกฎของอีสต์เฮเวน เป็นอย่างดี เขารู้ว่าควรตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในสถานการณ์
“ฉลาดมาก ท่านวอร์เร็น” ลูเซียนยิ้ม
หากพูดกันตรงๆ ลูเซียนเกลียดพวกค้ามนุษย์เข้าไส้ อย่างไรก็ตาม ที่นี่ในอีสต์เฮเวน แห่งนี้ เขาไม่อาจเปิดศึกกับบุตรชายแกนนำท้องถิ่นคนสำคัญโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ นั่นเป็นสาเหตุที่ลูเซียนพยายามแสดงพลังกดดันให้เขาล่าถอยไปเอง
อย่างไรก็ตาม วอร์เร็นเพียงแค่ชักสีหน้าไม่พอใจ แล้วเขาก็จากไปโดยไม่กล่าวอะไรสักคำ
องครักษ์คนอื่นต่างก็ตามวอร์เร็นออกจากบาร์ไป ขณะที่ยาโรลิมกำลังเดินไปที่ประตู เขาต้องเกาะแขนองครักษ์อีกคนเดินออกไป
“ท่านวอร์เร็น ข้าจะส่งค่าเสียหายของบาร์ไปเก็บจากท่าน มิฉะนั้น เราคงได้เจอกันที่สภาประชุมขุนนางเมือง” เจ้าของบาร์พูดออกมาเสียงดัง
วอร์เร็นเกือบจะเดินสะดุดธรณีประตู
…
ในห้องด้านหลังบาร์ ลีโอค่อยๆ ฟื้นตัวด้วยพลังชีวิตอันแข็งแกร่งในฐานะอัศวิน ลูเซียนดึงตัวเขาออกจากเปลวไฟสีดำที่คลุมทั่วตัว
ขณะลีโอกำลังนอนบนเตียง เขาเห็นลูเซียนร่ายเวทมนตร์แปลกๆ และมวลแสงในมือก็หายไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากปล่อยคลื่นพลังเวทมนตร์ออกมา ลูเซียนก็อ้าปากเล็กน้อยแต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไร
“ท่านทำอะไรขอรับ?” ลีโอถามด้วยความซาบซึ้งและสงสัย “มีอะไรให้ข้าช่วยไม่ขอรับ?”
“ไม่มีอะไร แค่ปลอดภัยไว้ก่อน” ลูเซียนยิ้มและส่ายหน้า
ลีโอไม่ได้เค้นถามเอาคำตอบ แต่เปลี่ยนเรื่องสนทนา “ท่านขอรับ ท่านอยากให้ข้าเรียกว่าอย่างไร? ภารกิจอะไรหรือขอรับ?”
“ตอนนี้ ให้เจ้าเรียกข้าว่า ท่านเอ็กซ์ ข้าอยากให้เจ้าช่วยนำทางข้าผ่านจักรวรรดิชาชราน และไปยังตะวันออกเฉียงเหนือของเทือกเขาแห่งความมืด” ลูเซียนพูดอย่างตรงไปตรงมา
เนื่องจากลีโอมีประสบการณ์อันเจ็บปวดในอดีตจากจักรวรรดิชาชราน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ปลายทางของท่านคือที่ใดกันแน่ ท่านเอ็กซ์? เดินทางผ่านจักรวรรดิโดยไม่ให้ถูกจับได้ ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แต่ข้าต้องการปลายทางที่ชัดเจนเพื่อที่จะกำหนดเส้นทางที่เราควรใช้ และตัวตนที่เราควรปลอมขึ้นมา หากท่านไม่สบายใจที่จะบอกข้า เราก็สามารถทำสัญญาเวทมนตร์กันก่อนได้ขอรับ”
ลีโอตอบรับงานโดยไม่ถามถึงอันตรายที่เขาต้องเผชิญจากภารกิจนี้ เขารู้ว่า หากไม่มี ‘ท่านเอ็กซ์’ เขาคงตายไปแล้ว
ลูเซียนพยักหน้าและหยิบสัญญาที่เขาเตรียมก่อนออกมา
หลังจากลงนามในสัญญาและดูเหมือนกระดาษถูกเผาด้วยไฟเวทมนตร์สีน้ำเงินอ่อน แม้ลีโอจะรู้จักชื่อลูเซียน เขาก็ยังพูดกับลูเซียนด้วยความเคารพ “ท่านเอ็กซ์ พวกขุนนางของจักรวรรดิชาชรานเป็นพวกอนุรักษ์นิยมและโกงกิน นอกจากพวกขุนนางและพวกบาทหลวงแล้ว คนทั่วไปล้วนเจอปัญหามากมายระหว่างเดินทางข้ามดินแดนจักรวรรดิ หากท่านต้องการไปยังนครอัลโต้ การสวมบทขุนนางจากมณฑลทางตะวันตกเฉียงเหนือของจักรวรรดิน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกขุนนางตัวจริงแทบจะไม่ออกจากเขตแดนของตัวเองเลยขอรับ”
เมื่อนักเวทพัฒนาถึงระดับหก หากเขาหรือนางต้องการทำสัญญาเวทมนตร์ระดับต้น นักเวทสามารถซ่อนหรือเปลี่ยนชื่อจริงของตัวเองได้โดยใช้พลังวิญญาณและทักษะเวทมนตร์ที่แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ ยังเหลือหนทางอีกยาวไกลกว่าที่ลูเซียนจะถึงระดับหก
“ข้าเข้าใจ” ลูเซียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ลีโอเป็นคนนำทางมืออาชีพ
ลีโอชี้ไปยังดินแดนตะวันตกเฉียงเหนือของจักรวรรดิบนแผนที่ตรงหน้าพวกเขา “ตระกูลวลาดิเมียร์ปกครองดินแดนเขตนี้ เป็นหนึ่งในสิบตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในจักรวรรดิ ตระกูลวลาดิเมียร์มีดยุกหนึ่งคน มาร์ควิสหนึ่งคน เอิร์ลสามคน รวมถึงไวเคานต์ บารอน และลอร์อีกมากมาย หากไม่มาไล่ลำดับเครือญาติแล้ว คงไม่มีใครรู้ว่าท่านไม่ใช่ญาติจริงๆ ของตระกูลนี้ แม้ดยุกวลาดิเมียร์เองก็ตามขอรับ”
“แต่คนคงไม่เชื่อคำเราง่ายๆ เราต้องการอะไรที่พิสูจน์ตัวตนของเราด้วย” ลูเซียนพูดด้วยความลังเล
ลีโอตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ในจักรวาลแห่งนี้ คนชนะย่อมหัวเราะ ผู้แพ้ย่อมร้องไห้ ถ้าใครตัดสินใจต่อสู้แย่งชิงการสืบทอดอำนาจ แต่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ผลร้ายแสนสาหัสย่อมตามมาแน่นอน ในอีสต์เฮเวน มีอัศวินที่เคยสู้กับดยุกวลาดิเมียร์เพื่อแย่งชิงการสืบทอดตำแหน่ง และเขายังรู้วิธีการสร้างเอกสารตัวตนของตระกูลวลาดิเมียร์ และเขายังมีตราประทับของตระกูลอยู่ครบ เขาชื่อวาเลนไทน์”
……………………