บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 476

เธอควรที่จะเลิกให้ความสำคัญกับพวกเขาไปตั้งนานแล้ว แต่ทำไมเธอยังรู้สึกถึงน้ำตาที่คลอเบ้าเธออยู่ เมื่อเห็นเอโลอิสที่ก้าวเดินอย่างยากลำบาก

หลังจากที่เจเรมี่กลับจากอพาร์ทเม้นท์ของเมเดลีน เขาก็ได้เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องของเขาในคฤหาสน์วิทแมนเ

ในช่วงเวลานี้ ทั้งอีวอนและคาเรนต่างพากันมาเคาะประตูห้องเขานับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็ไม่ใส่ใจที่จะตอบกลับเลยสักครั้ง

เขานั่งดูวีดีโอแต่งงานของตัวเองกับเมเดลีนต่อเนื่องติดต่อกันอยู่ที่เดิมตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

ปู่ของเขาพูดถูก เป็นเขาเองที่ตกหลุมรักเมเดลีนมาตั้งนานมากแล้ว หลักฐานชั้นดีและชัดเจนที่สุดว่าเขาเลือกเธอเป็นคู่ชีวิตก็คือ การที่เขาแต่งงานกับเมเดลีนภายใต้การใช้ชื่อของคุณปู่

อย่างไรก็ตาม เมเรดิธหลอกเขามาตลอดหกปีเต็ม เนื่องด้วยคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้เมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็ก

ท้ายที่สุดแล้ว เมเรดิธก็เป็นแค่ตัวปลอม

ผู้หญิงที่เขารักมาตลอดคือ ผู้หญิงคนเดียวกันกับเด็กหญิงที่เขาเคยให้คำมั่นสัญญาในตอนนั้น

เจเรมี่เอนตัวพิงเก้าอี้อย่างเงียบงัน ฉับพลันเขาก็ระเบิดหัวเราะออกมา

‘คนที่ฉันรัก ไม่ว่าจะเป็นในตอนนั้น หรือในอนาคตก็จะเป็นเธอเสมอ ลินนี่…’

บี๊บ บี๊บ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่นขึ้น

เจเรมี่รับโทรศัพท์ ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป “ว่าไงนะ? แมดดี้เกือบถูกรถชนเพราะวิ่งไล่ตามโรส? เข้าใจแล้วล่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

เขาดีดตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปในทันที

อีวอนเตรียมขนมมาให้เขา ตอนที่เห็นว่าเขากำลังออกจากห้อง เธอรีบเข้าไปหาเขาในทันทีเพื่อที่จะเอาใจ “เจเรมี่ ในที่สุดพี่ก็ออกมาได้สักที… เจเรมี่ พี่จะรีบไปไหนกัน?”

เจเรมี่เดินผ่านเธอไปอย่างเมินเฉย และลงบันไดไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว

เมื่อคาเรนเห็นว่าเขาเดินลงมาอย่างรีบร้อน เธอก็รีบเข้าไปห้ามเขาทันที “เจเรมี่ นี่กำลังจะไปหาเมเดลีนงั้นหรอ? ที่ดินและสมบัติของเราทั้งหมดถูกผู้หญิงคนนั้นและเฟลิเป้แย่งชิงไปแล้ว นอกจากแกจะไม่จัดการอะไรแล้ว แกยังจะไปหานางนั่นอีก แกเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไง? อย่าบอกนะว่า ตอนนี้แกกำลังตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นอย่างจริงจังแล้ว?”

“ผมจะไปหาใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องของแม่” เจเรมี่ใช้คำพูดที่เย็นชาตอบกลับ “แล้วถ้ายังอยากใช้ชีวิตแบบที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ ก็อย่าเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของผม”

“…” คาเรนพูดไม่ออก เธอทำได้เพียงแต่ดูเจเรมี่เดินจากไป

หลังจากที่แยกทางกับเอโลอิสที่โรงพยาบาล เมเดลีนก็ไม่มีสมาธิหลงเหลืออยู่เลยตลอดช่วงบ่ายของวันนี้ และเธอลืมที่จะไปรับแจ็คสันด้วยซ้ำ

เมื่อเธอนึกได้ มันก็เป็นเวลาค่ำเสียแล้ว

ในขณะนี้เองที่เอโลอิสก็ได้โทรเข้ามาหาเธอ

คราวนี้เธอไม่ลังเลอีกแล้วที่จะกดรับสาย เธอได้ยินเสียงแผ่วเบาของเอโลอิส ดังมาจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์ “เอวลีน แม่รู้ว่าลูกเกลียดพวกเรา และไม่ต้องการที่จะเห็นพวกเรา แต่แม่อยากจะขอ แม่หวังว่าลูกจะกลับมาที่บ้านตอนนี้สักครั้ง หลังจากนี้แม่จะไม่บังคับอะไรลูกอีก”

เมเดลีนตอบตกลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้ยินคำวิงวอนที่ดูระมัดระวังของเอโลอิส “ในเมื่อวันนี้ คุณช่วยฉันเอาไว้ แล้วฉันก็ไม่ต้องการที่จะเป็นหนี้อะไรกันคุณอีก ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”

แม้ว่าเธอจะพูดออกไปอย่างนั้น แต่เธอก็รู้ดีว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างที่เธอจะไปที่คฤหาสน์มอนต์โกเมอรี

กว่าสิบนาทีต่อมา เธอก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์

หลังจากที่เธอลงจากรถแล้ว เธอก็เห็นว่าเจเรมี่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกันกับเค้ก

เมื่อทั้งสองสบตากัน สายตาของเจเรมี่อ่อนโยนราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิที่กำลังลูบไล้เธอ

เขาเดินเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว และก่อนที่เขาจะพูดอะไร เขาก็เห็นว่าเมเดลีนกำลังยิ้มให้เขา แม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะเต็มไปด้วยการเสียดสีก็ตาม

“คุณชาย วิทแมน คุณช่างเป็นพ่อที่ประเสริฐเหลือเกิน ในวันที่คุณกำลังจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป แต่คุณก็ยังจำได้ว่าต้องอวยพรวันเกิดให้ลูกชายอันมีค่าของคุณ”

เจเรมี่หัวเราะเยาะตัวเอง “ไม่เลย ฉันไม่ใช่พ่อที่ประเสริฐหรือดีอะไรทั้งนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ฉันคงจะฉลองวันเกิดให้ลูกชายที่มีค่าของฉันทุกปีแล้ว และไม่ใช่เพิ่งมาเริ่มทำในตอนนี้”

“ลูกชายอันล้ำค่า…” เมเดลีนพูดย้ำคำพวกนั้น ความเจ็บปวดเกิดขึ้นที่หน้าอกของเธอ “ลูกชายของเมเรดิธล้ำค่า แล้วลูกของฉันล่ะ?

“ฉันอุ้มท้องเด็กคนนั้นมาตลอดระยะเวลา 10 เดือน และอดทนต่อทั้งความเจ็บปวดทั้งหมด และความคับข้องใจกับตัวเอง ถึงอย่างนั้นในท้ายที่สุด ฉันก็ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นหน้าเธอ แล้วสิ่งที่นายทำคืออะไร? จำได้ไหมว่าทำอะไรกับเด็กคนนั้นบ้าง? นายทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง เพื่อที่จะทำให้เมเรดิธมีความสุข”

ดวงตาของเมเดลีนเต็มไปด้วยน้ำตา เธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ได้เมื่อพูดถึงลูกสาวของเธอ เธอมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกเป็นศัตรู ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยอันความเกลียดชังแรงกล้า

“เจเรมี่ ฉันเกลียดนายมากจนแทบจะขาดใจ ฉันจะไม่มีวันให้อภัยนายตราบเท่าที่ฉันยังมีลมหายใจอยู่”

“ถ้างั้นเธอจะยกโทษให้ฉันได้ไหม ถ้าฉันพาลูกของเรามาหาเธอตอนนี้?”