DC บทที่ 223: มิมีทางที่เขาจะดูแลพวกเราทั้งหมดในคราเดียวกัน

 

“เจ้าเจออะไรในห้องนั้น” บรรดาหญิงสาวถามซวนจิงหลินและอวี้เยียนหลังจากที่พวกเธอถูกเตะออกมาจากห้องโดยซางเหวินจี

 

“อืมม..ข้าคิดว่าจะเป็นการดีกว่าถ้าเจ้าประสบด้วยตนเองโดยไม่รู้เรื่องมาก่อน” อวี้เยียนกล่าว ในเมื่อเธอไม่อยากทำให้อีกฝ่ายสูญเสียความประหลาดใจ

 

“เอ๋.อ๋.อ๋.อย่างน้อยก็ควรเกริ่นให้พวกเรารู้บ้าง…ความสงสัยกำลังจะฆ่าข้าตายแล้ว”

 

“จะบอกให้รู้เพียงว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งแรกที่เรามา นี่ช่างสุขสนุกสนานอย่างน้อยกว่าสิบเท่า…” ซวนจิงหลินกล่าวกับพวกเธอ

 

“สนุกสนานกว่าสิบเท่าเลยรึ”

 

เหล่าหญิงสาวจ้องมองดูเธอด้วยท่าทางตกตะลึง ถ้าพวกเธอเกือบล่องลอยไปสู่สวรรค์ระหว่างการมาครั้งก่อน นี่มิหมายความว่าครานี้คงต้องตายไปจริงๆเพราะความสุขสม

 

เวลาผ่านไป ประตูก็เปิดออกมาอีกครั้งและซูหยางก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยท่าทางเรียบเฉย

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่หญิงสาวคนถัดไปจะทันได้ก้าวไป ซูหยางก็กล่าวขึ้นว่า “ข้ามีคำแนะนำ”

 

“คำแนะนำหรือ”

 

“เพื่อให้มีประสิทธิภาพ ทำไมมิให้ข้าดูแลพวกเจ้าทั้งหมดเลยทีเดียวล่ะ” ซูหยางกล่าวกับพวกเธอด้วยรอยยิ้ม เขาพบว่าหญิงสาวทั้งสามคนล่าสุดล้วนขอสิ่งเดียวกัน ซึ่งเขาสามารถดูแลพวกเธอทั้งหมดในครั้งเดียวได้ ด้วยวิธีนี้เขาไม่เพียงประหยัดเวลาแต่ยังคงสามารถดูดซับปราณหยินได้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

 

บรรดาหญิงสาวจ้องมองเขาด้วยดวงตากลมโต นอกจากซวนจิงหลินและอวี้เยียนแล้ว พวกเธอล้วนสับสนความหมายภายในคำพูดของเขา

 

“ศิษย์พี่ชาย ท่านหมายความว่าอะไรกับคำพูดนั้น” หนึ่งในพวกเธอตัดสินใจถาม

 

“ความหมายของข้าก็คือ…ข้าต้องการร่วมฝึกคู่กับพวกเจ้าทั้งหมด” ซูหยางกล่าวด้วยท่าทางสงบเรียบ สร้างความงงงันให้กับบรรดาหญิงสาวยิ่งขึ้นไปอีก

 

“ท-ท-ท่านต้องการร-ร-ร่วมฝึกคู้กับพวกเราทั้งหมด…ในทีเดียวรึ”

 

บรรดาหญิงสาวถามด้วยเสียงสั่นสะท้าน

 

สิ่งที่สร้างความตระหนกให้กับพวกเธอมากที่สุดไม่ใช่ความจริงที่ว่าซูหยางถามพวกเธอให้ร่วมฝึกคู่กับเขา แต่เป็นข้อเรียกร้องในการร่วมฝึกคู่กับพวกเธอทั้งหมดในคราเดียวกัน ในใจเธอไม่เชื่อว่าคนคนเดียวจะสามารถรับไหวถ้าเขาต้องที่จะสร้างความพึงใจให้กับหญิงสาวจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ในเมื่อปราณหยางและความอึดของเขาย่อมต้องไม่พอเพียง

 

ถึงจะกล่าวเช่นนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าบรรดาหญิงสาวไม่ต้องการจะร่วมฝึกคู่กับซูหยาง ในเมื่อเขามีเสน่ห์และพรสวรรค์สูงส่งอย่างไม่น่าเชื่อกับกลเม็ดของเขา ตามจริงพวกเธอก็จะถามเขาให้ร่วมฝึกคู่กับพวกเธอเมื่อถึงจุดหนึ่งในวันนี้หรือในอนาคต

 

พวกเธอเพียงกังวลว่าซูหยางอาจจะไม่สามารถรับมือพวกเธอทั้งหมดในคราเดียว ในเมื่อพวกเธอต้องดูดปราณหยางของเขาแห้งเหือดจนไม่เหลือแม้กระทั่งหยดเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจทำร้ายความเป็นชายและพลังการฝึกปรือของเขาได้

 

“ศิษย์พี่ชาย ข้ายินดีที่จะร่วมฝึกคู่กับท่าน แต่..ท่านมั่นใจรึ เผื่อว่าท่านอาจจะลืมไป พวกเรามิใช่หญิงสาวทั่วไป แต่เป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย”

 

“ใช่แล้ว ข้าดีใจมากที่จะร่วมฝึกคู่กับท่าน แต่ท่านมิคิดว่าท่านอาจจะกัดคำใหญ่เกินกว่าจะเคี้ยวได้ในตอนนี้”

 

“พวกเราอาจจะเป็นเพียงแค่ศิษย์นอก แต่พวกเราโลภมากถ้านั่นเป็นปราณหยางท่านรู้ไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปราณหยางนั้นมาจากคนที่จ้าวเสน่ห์อย่างเช่นศิษย์พี่ชาย…”

 

บรรดาหญิงสาวต่างพากันตักเตือนเขาเพราะว่าพวกเธอเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ความต้องการปราณหยางและความอึดของพวกเธอเกินกว่าหญิงสาวทั่วไป

 

บางทีซูหยางอาจจะสามารถรับมือกับผู้หญิงมากมายเช่นนี้ได้ในครั้งเดียวถ้าพวกเธอไม่ได้มีวิถีชีวิตเป็นการร่วมฝึกคู่ แต่ว่าเขาโชคร้ายบรรดาหญิงสาวตรงหน้าเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ช่ำชองเต็มไปด้วยความทนทานที่เกินปกติในเรื่องของการร่วมฝึกคู่

 

เมื่อเห็นบรรดาหญิงสาวกังวลว่าเขาอาจไม่สามารถรับมือกับพวกเธอทั้งหมด ซูหยางก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา อย่าว่าแต่เด็กหญิงแค่เก้าคน เขาสามารถรับมือแม้กระทั่งมีพวกเธอถึงหนึ่งร้อยคนได้ในคราเดียวถ้าเขาต้องการ

 

“ศ-ศิษย์พี่ชาย” บรรดาหญิงสาวค่อนข้างตะลึงเล็กน้อยกับการที่เขาพลันหัวเราะขึ้นมา

 

ซูหยางปากน้ำตาออกจากดวงตาและกล่าวว่า “ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าคิดว่าข้ากำลังกัดเกินจะเคี้ยว แต่ข้าสามารถรับประกันพวกเจ้าได้ว่ามิจำเป็นต้องกังวลเช่นนั้น”

 

“ถ้าพวกเจ้ายังคงสงสัยตัวข้า เช่นนั้นทำไมมิให้ข้าพิสูจน์ให้ดู” ซูหยางกล่าวขณะที่เขาเปิดเสื้อคลุมออกมาต่อหน้าบรรดาหญิงสาว เผยให้เห็นถึงร่างกายอันทรงเสน่ห์และท่อนแกร่งขนาดมโหฬาร

 

“โอนั่น…”

 

ดวงตาบรรดาหญิงสาวกว้างขึ้นด้วยด้วยความตื่นตระหนก จ้องมองร่างอันสมบูรณ์เปี่ยมล้นด้วยความจับใจ พวกเธอต่างรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นให้โถมตัวเข้าไปหาเขาหลังจากที่ได้แสดงภาพอันน่าโอชะนั้นเรียบร้อยแล้ว

 

“ตามข้ามาถ้าพวกเจ้าต้องการร่วมฝึกคู่ วันนี้ข้าจักแสดงให้พวกเจ้าเห็นว่าข้ามีความสามารถเช่นไร” ซูหยางหันกายและเดินเข้าไปภายในห้องของเขาด้วยกลิ่นอายที่เปี่ยมความมั่นใจรอบกาย ปล่อยให้ประตูเปิดค้างไว้สำหรับบรรดาหญิงสาว

 

“…”

 

สถานที่นั้นพลันเงียบกริบ บรรดาหญิงสาวต่างพากันสบสายตาไปมา ไม่มีใครในพวกเธอกล่าวถ้อยคำใดออกมา แต่พวกเธอล้วนเหมือนว่าเข้าใจถึงสิ่งที่ทุกคนต้องการจะพูดและพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

“แม้ว่าเขาอาจจะเป็นผู้อาวุโสในแง่ของฐานะ เขาก็ยังคงอายุน้อยกว่าพวกเราสองสามปี เรามาแสดงให้เขาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาท้าทายพวกเราทั้งหมดในคราเดียว”

 

“ใช่แล้ว มิมีทางที่เขาสามารถรับมือพวกเราทั้งหมดพร้อมกันได้ เรามาทำให้เขาเสียใจที่ดูถูกพวกเรากันเถอะ”

 

“ข้าจักมิหยุดดูดปราณหยางให้หมดแม้กระทั่งเขาจะขอร้องให้ข้าหยุด”

 

บรรดาหญิงสาวถือเอาคำพูดของซูหยางเป็นคำท้าทายต่อพวกเธอและตัดสินใจที่จะรับคำท้าทายนั้น

 

เวลาต่อมายามเมื่อพวกเธอเตรียมตัวพร้อมด้วยการถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้ว พวกเธอก็เข้าไปในห้องของซูหยาง ซึ่งมีเพียงจุดมุ่งหมายเดียวในใจ เพื่อเอาชนะซูหยางและรีดทุกหยดของปราณหยางของเขาออกไปจนกระทั่งเขาล้มพับเพราะว่าหมดเรี่ยวแรง

 

ยามเมื่อบรรดาหญิงสาวข้างซวนจิงหลินและอวี้เยียนเข้าไปในห้องของซูหยาง หญิงสาวทั้งสองคนก็สบสายตากัน

 

“ท-ท่านคิดว่าอย่างไร ท่านคิดว่าศิษย์พี่ชายจักสามารถรับมือพวกเธอทั้งหมดหรือไม่” อวี้เยียนถาม

 

ซวนจิงหลินครุ่นคิดชั่วขณะและกล่าวว่า “น้องหญิง…ข้าขอถามเจ้าหน่อยว่า…ซูหยางได้ปล่อยปราณหยางออกมาสักครั้งหรือไม่ขณะที่เขาร่วมฝึกกับพวกเรา”

 

อวี้เยียนดวงตาเบิกกว้างด้วยความตระหนก เธอหันไปมองดูห้องซูหยางด้วยท่าทางสับสน