ตอนที่ 317-2 ฮ่องเต้ซีหลิงย้ายเมืองหลวง

ชายาเคียงหทัย

เยี​่ย​หลี​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​นาง​ครุ่นคิด​พลาง​กล่าว​ ​“​เชิญ​ไป๋ฮู​หยิน​ที่​หอพัก​ม้า​เถิด​”​ ​องครักษ์​ข้าง​กาย​รับคำ​ ​พยุง​ไป๋ฮู​หยิน​ขึ้น​มา​ ​แล้ว​หาย​ลับ​ไป​ต่อหน้าต่อตา​ฝูงชน

​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​จากไป​แล้ว​ ​ทิ้ง​ไว้​เพียงพระ​ราช​วัง​อันว่าง​เปล่า​ ​พื้นที่​ของ​วัง​ใน​ซี​หลิง​หาก​เทียบ​กับ​วัง​ของ​ต้า​ฉู่​และ​วัง​เก่า​ที่อยู่​ทางใต้​ของ​ต้า​ฉู่​แล้ว​ถือว่า​เล็ก​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ต่อให้​เล็ก​กว่านี​้​ก็​ยัง​เป็น​พระราชวัง​อยู่ดี​ ​แต่​ม่อ​ซิว​เหยา​ไม่มีความคิด​ที่จะ​ย้าย​มา​อยู่​ที่​ซี​หลิง​เป็นการ​ถาวร​ ​เช่นนั้น​ตำแหน่งที่ตั้ง​ของ​พระราชวัง​แห่ง​นี้​ก็​เป็นปัญหา​เสีย​แล้ว​ ​จาก​ประวัติศาสตร์​เก่า​ก่อน​หาก​วัง​เก่า​ไม่ใช่​ที่ประทับ​ของ​ราชวงศ์​ใหม่​ก็​กลายเป็น​พระที่นั่ง​สำหรับ​เดินทาง​มา​พักผ่อน​ ​หรือไม่ก็​ปล่อย​ให้​มัน​รกร้าง​จน​นาน​วัน​เข้า​ก็​ค่อยๆ​ ​ผุพัง​ไป​ ​ทว่า​นี่​กลับ​ไม่ใช่​สิ่ง​ที่​คน​อย่าง​ติ้ง​อ๋อง​ควรจะ​ทำ​ ​สุดท้าย​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็ได้​ข้อสรุป​ว่า​ ​ให้​ทำลาย​ของ​ที่​ฮ่องเต้​ทรง​เคย​ใช้​ใน​ส่วน​ครึ่ง​หน้า​ของ​วัง​ไป​เสีย​ ​แล้ว​ทำเป็น​ศาลา​ว่าการ​สูงสุด​ของ​เมือง​ซี​หลิง​ในอนาคต​ ​ส่วน​อีก​ครึ่ง​ด้านหลัง​ของ​วัง​ที่​เป็น​วังหลัง​นั้น​ให้​ปิด​เอาไว้​ชั่วคราว​ก่อน​ ​ภายหน้า​ค่อย​คิด​อีกที​ว่า​จะ​จัดการ​เช่นไร

​เพราะ​อีกไม่นาน​ก็​ต้อง​ไป​จาก​ซี​หลิง​แล้ว​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​และ​เยี​่ย​หลี​จึง​ไม่มีความคิด​อัน​น่าเบื่อ​อย่าง​การ​เสพติด​ชีวิต​ใน​วัง​แล้ว​ย้าย​เข้ามา​พำนัก​ใน​วัง​หลวง​แห่ง​นี้​ ​หลังจาก​ส่ง​เสด็จ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​เสร็จ​แล้วจึง​กลับ​ไป​ที่​หอพัก​ม้า​ที่​เป็น​ที่พัก​ชั่วคราว​ดังเดิม​ ​พอก​ลับ​มาถึง​หอพัก​ม้า​เรื่อง​แรก​ที่​ทั้งคู่​ทำ​คือ​ไป​เยี่ยม​สวี​ชิงปั​๋​วที​่​ยังคง​พัก​รักษาตัว​อยู่

​สวี​ชิงปั​๋ว​แม้​จะ​บาดเจ็บ​ไม่​ถึง​ชีวิต​ ​แต่​อย่างไร​ก็​ยังคง​สาหัส​อยู่ดี​ ​ต่อให้​พัก​รักษาตัว​อยู่​หลาย​วัน​เช่นนี้​แต่​ก็​ยัง​ทำได้​เพียง​เอนกาย​บน​หมอน​ใบ​สูง​พูดคุย​กับ​พวกเขา​เท่านั้น​ ​ตอน​เยี​่ย​หลี​เข้าไป​ ฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​กำลัง​ป้อน​ยา​ให้​เขา​อยู่​ ​นี่​ทำให้​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ว่า​ไม่มี​อิสระ​เท่าที่ควร​ ​โต​จน​ป่านนี้​แล้ว​ ​อีกทั้ง​มือ​ก็​ไม่ได้​บาดเจ็บ​อะไร​ ​ยัง​จะ​ให้​มารดา​ป้อน​ยา​ให้​อีก​ ​จึง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​นัก​ ​พอ​เห็น​เยี​่ย​หลีกั​บม​่อ​ซิว​เหยา​เดิน​เข้ามา​ ​ตาเขา​จึง​เป็นประกาย​ราวกับ​เห็น​ดาว​ชั่วชีวิต​ ฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​ไม่​หรือ​จะ​ไม่รู้​ว่า​เขา​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ ​นาง​ส่งเสียง​หึ​เบา​ๆ​ ​ที​หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไม่ว่า​เป็น​ใคร​กำลัง​เข้ามา​ ​เจ้า​ต้อง​กิน​ยา​ให้​เสร็จ​เสียก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​!​”​

​สวี​ชิงปั​๋​วก​ล่า​วอ​ย่าง​จนใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​เอา​ถ้วย​มา​ให้​ข้า​ ​ข้า​ดื่ม​เอง​ได้​”​ ​เขา​กระดก​ถ้วย​ยา​เข้า​ดื่ม​อึก​ๆ​ ​ลง​ไป​จน​หมด​ ​การ​ที่​เขา​ดื่ม​อึก​ใหญ่​ๆ​ ​ลง​ไป​เช่นนี้​…​ต้อง​รู้​ก่อน​ว่า​รสชาติ​ของ​ยานั​้น​แต่ไหนแต่ไร​ก็​ไม่เคย​มี​!​ ฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่​ยิ้ม​มอง​เขา​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​รู้​ว่ายา​ขม​แล้ว​หรือ​ ​เช่นนั้น​ยัง​จะ​ไม่​พัก​รักษาตัว​ดี​ๆ​ ​อีก​ ​เจ้า​นึก​ว่า​ข้า​ไม่รู้​เรื่อง​ที่​เมื่อคืน​วาน​เจ้า​อ่าน​สาส์น​เหล่านั้น​อีกแล้ว​หรือ​”

​คำพูด​ประโยค​นี้​ทำ​เยี​่ย​หลี​รู้สึก​ทุกข์ใจ​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​หาก​ไม่ใช่​พวก​นาง​ต้อง​รีบ​ไป​จาก​ซี​หลิง​ ​พี่​สี่​ไหน​เลย​จะ​ต้อง​มา​ลำบาก​ยาม​กำลัง​พัก​รักษาตัว​เช่นนี้

ฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​มอง​ใบหน้า​อัน​หล่อเหลา​ของ​บุตรชาย​ที่​กลายเป็น​หน้า​ยาม​กิน​มะระ​ขม​จน​พอแล้ว​ก็​ส่ง​ยาเม็ด​ให้​เขา​ ​สวี​ชิงปั​๋​วรีบ​ผงกศีรษะ​ขึ้น​ดื่ม​ยา​อีก​ครึ่ง​ชาม​ลง​ไป​ ​ยาขม​เสีย​จน​เขา​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ ฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​ป้อน​ผลไม้​อบ​น้ำผึ้ง​เม็ด​หนึ่ง​เข้า​ปาก​เขา​เสร็จ​ก็​รับ​ถ้วย​เปล่า​มา​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

​ถูก​ลูกพี่ลูกน้อง​หญิง​และ​สามี​ของ​นาง​เห็น​เขา​ใน​สภาพ​เช่นนี้​เข้า​ก็​กลืน​ไม่​เข้า​คลาย​ไม่​ออก​ ​คุณชาย​สวี​สี่​รู้สึก​ละอาย​อยู่​บ้าง​ ​จึง​ยิ้มแย้ม​กล่าว​กับ​ทั้งคู่​ว่า​ ​“​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ไป​แล้ว​หรือ​”​

​เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​นั่งลง​ข้าง​เตียง​มอง​สีหน้า​ของ​สวี​ชิงปั​๋​วอ​ย่าง​ละเอียด​ ​พอ​เห็น​ว่า​ดูดี​กว่า​เมื่อวาน​อยู่​บ้าง​ ​จึง​กล่าวว่า​ ​“​เพิ่งจะ​ส่ง​เสด็จ​ไป​เมื่อ​ครู่​ ​พี่​สี่​ท่าน​ใจร้อน​ดู​ของ​พวก​นั้น​อีกแล้ว​หรือ​ ​ยัง​ไม่​หาย​ดี​ก็​พักผ่อน​ให้​มาก​ๆ​ ​เถิด​ ​หาก​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​ก็​ยัง​มี​ซิว​เหยา​และ​เฟิ​่ง​ซาน​อยู่​ไม่ใช่​หรือ​”​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​นอน​อยู่​บน​เตียง​มา​หลาย​วัน​เพียงนี้​ ​ทำ​อะไร​ก็​ไม่ได้​ออกจะ​น่าเบื่อ​ไม่น้อย​ ​จึง​ดู​ฆ่าเวลา​เท่านั้น​”​ ​เขามอ​งม​่อ​ซิว​เหยา​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​อีก​ด้าน​ครา​หนึ่ง​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​ถาม​ ​“​พวก​เจ้า​จะ​กลับ​ไป​เมื่อใด​”​ ​ยาม​นี้​ต้า​ฉู่​กำลัง​ปั่นป่วน​วุ่นวาย​ ​เดิม​เป็น​โอกาสดี​ที่​พวกเขา​จะ​ยึด​ตรอง​ซี​หลิง​ ​แต่​ซี​หลิง​อาณาเขต​กว้างใหญ่​ ​ครั้งนี้​แม้​จะ​จัดการ​เมืองหลวง​ของ​ซี​หลิง​ได้​ง่ายๆ​ ​แต่​นี่​เป็น​เพราะ​โชคช่วย​โดยแท้​ ​หาก​คิด​อยาก​จะ​ยึด​ดินแดน​ทั้งหมด​ของ​ซี​หลิง​ ​ใช้เวลา​สาม​ปี​ห้า​ปีก​็​ไม่​นับว่า​นาน​อะไร​ ​ถึง​ยาม​นั้น​หาก​ให้​เป่ย​หรง​ ​เป่ย​จิ้ง​และ​เหลย​เจิ​้น​ถิง​ตั้งหลัก​ได้ที่​ต้า​ฉู่​แล้ว​ ​นั่น​จึง​เรียกว่า​ได้​ไม่​คุ้ม​เสีย​ ​อย่างไร​เสีย​ไม่ว่า​ซี​หลิง​จะ​ใหญ่โต​เพียงใด​ก็​เทียบ​กับ​ต้า​ฉู่​ที่​อุดมสมบูรณ์​ไม่ได้​เลย

​ม่อ​ซิว​เหยา​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​ครึ่ง​เดือน​หลังจากนี้​ ​อา​หลี​มีครรภ์​ระยะเวลา​ใน​การ​เดินทาง​จึง​ต้อง​ช้า​มา​ขึ้น​ ​ดังนั้น​จึง​อยู่นาน​ไม่ได้​แล้ว​”

​สวี​ชิงปั​๋ว​พยักหน้า​ ​คิด​คำนวณ​ครู่หนึ่ง​จึง​กล่าว​ ​“​ครึ่ง​เดือน​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​ก็​คง​ลง​จาก​เตียง​ได้​แล้ว​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​กล่าว​ ​“​ข้า​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​เสิ่น​หยาง​แล้ว​ ​เขา​น่า​จเร​่ง​เดินทาง​มาถึง​ก่อน​พวกเรา​ไป​”

​สวี​ชิงปั​๋ว​ตะลึง​ ​ส่ายหน้า​พลาง​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ไม่ต้อง​ทำ​เช่นนี้​หรอก​ ​ท่าน​หมอ​เสิ่น​ต้อง​คอย​ดูแล​หลี​เอ๋อร​์​ไม่ใช่​หรือ​”

​เยี​่ย​หลี​ขมวดคิ้ว​แย้ง​เขา​ ​“​จะ​ไม่ต้อง​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​แค่​ตั้งครรภ์​ไม่ได้​ป่วย​อะไร​เสียหน่อย​ ​คนที​่​ต้องการ​ยาม​คลอดลูก​คือ​หมอตำแย​ไม่ใช่​หมอยา​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ใน​เมือง​หลี​จะ​ขาด​หมอ​ไป​สัก​คน​ไม่ได้​เชียว​หรือ​ ​หาก​พี่​สี่​ไม่​พัก​รักษาตัว​ให้​ดี​แล้ว​ทิ้ง​อาการ​เรื้อรัง​เอาไว้​ ​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​จะ​เสียใจ​เพียงใด​”​ ​สวี​ชิงปั​๋​วอ​ยาก​จะ​กล่าว​ต่อ​อีก​ ​แต่​โดน​เยี​่ย​หลี​ถลึงตา​มอง​อย่าง​แน่วแน่​กล่าวว่า​ ​“​ห้าม​เถียง​ข้า​!​ ​ท่าน​หมอ​เสิ่น​ก็​เคย​บอกว่า​อยู่​ที่​เมือง​หลี​มานาน​หลาย​ปีก​็​เริ่ม​จะ​รำคาญ​แล้ว​ ​ได้​ออกมา​เดิน​ดู​นั่น​ดู​นี่​บ้าง​ก็​นับว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ซี​หลิง​เป็น​เมือง​ที่​เรา​พึ่ง​จะ​ได้มา​ ​โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่า​มังกร​ที่​แข็งแกร่ง​ก็​ยัง​ไม่​อาจ​สยบ​งู​พื้นถิ่น​ได้[1] ​มี​หมอ​ที่​ฝีมือ​การแพทย์​ยอดเยี่ยม​อยู่​ ​พวกเรา​จะ​ได้​พอ​วางใจ​ขึ้น​มา​ได้​บ้าง​”

​สวี​ชิงปั​๋​วรู​้​ว่า​เถียง​ไม่​ชนะ​เยี​่ย​หลี​ ​จึง​ทำ​เพียง​ยิ้ม​อย่าง​จนใจ​ซึ่ง​ถือเป็น​การตอบรับ​แล้ว

​ม่อ​ซิว​เหยา​จึง​กล่าว​ต่อ​ ​“​ข้า​จะ​ทิ้ง​กองกำลัง​ที่​เหลือ​อีก​สาม​แสนนาย​ไว้​ที่นี่​ ​ผู้นำ​ทัพ​คือ​จาง​ฉี่​หลัน​ ​นิสัย​ของ​เขา​ตรงไปตรงมา​แต่กลับ​หัวรั้น​และ​ไม่ยอมรับ​ฟัง​ความคิดเห็น​ของ​ผู้อื่น​ ​พวก​เจ้า​สอง​คน​คน​หนึ่ง​บุ๋น​คน​หนึ่ง​บู๊​คง​ไม่น่า​จะ​มีปัญหา​อะไร​ ​เจ้า​คิดเห็น​เช่นไร​”​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​ย่อม​ไม่มีความคิด​เห็น​ใด​ ​แม้​ยาม​นี้​กองกำลัง​ตระกูล​ม่อ​จะ​ยึด​ดินแดน​ผืน​ใหญ่​ของ​ซี​หลิง​ไว้​ได้​ ​แต่ทว่า​สวี​ชิงปั​๋​วก​ลับ​ไม่​อาจ​วางใจ​ลง​ได้​ ​ซ้ำ​จาง​ฉี่​หลัน​ยัง​เป็น​แม่ทัพ​เก่า​ของกอง​กำลัง​ตระกูล​ม่อ​ ​ประสบการณ์​ใน​การนำ​ทัพ​จึง​มากมาย​ ​หาก​ให้​เขา​นำ​ทัพ​สาม​แสน​กว่านาย​ได้​ล่ะ​ก็​ ​สวี​ชิงปั​๋​วก​็​วางใจ​ไป​ได้มาก

​เยี​่ย​หลี​นึกถึง​เรื่องฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​ขึ้น​มา​ได้​จึง​รีบ​เอ่ย​ถาม​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​จะ​กลับ​ไป​กับ​เรา​หรือไม่​”

​สวี​ชิงปั​๋ว​ยิ้ม​ขื่น​อย่าง​จนใจ​ ​ส่ายหน้า​ตอบ​ ​“​ท่าน​แม่​ทราบ​ว่า​ข้า​จะ​อยู่​ที่​ซี​หลิง​ต่อ​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​อยู่​ที่นี่​ต่อ​อีก​สักพัก​”​ ​ใน​ความจริง​แล้ว​คำพูด​เดิม​ของฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​คือ​ ​‘​พี่ใหญ่​เจ้าข้า​อบรม​อะไร​ไม่ได้​แล้ว​ ​น้องชาย​เจ้า​ยัง​เด็ก​กว่า​เจ้า​อยู่​หน่อย​ ​หาก​ไม่ได้​เห็น​เจ้า​แต่งงาน​มีครอบครัว​ข้า​ก็​จะ​ไม่​กลับ​ตระกูล​สวี​อีก​!​’​ ​ยาม​นี้​มาตรฐาน​ที่ฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​มีต​่​อลูก​สะใภ้​ตัวเอง​ลดลง​มา​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​ ​จาก​นักปราชญ์​บัณฑิต​ปัญญาชน​ลดลง​มา​เป็น​เพียงแค่​สะอาด​บริสุทธิ์​จิตใจ​ดี​ก็​เพียงพอ​แล้ว

​มองดู​ท่าทาง​จนใจ​ของ​สวี​ชิงปั​๋ว​ ​เยี​่ย​หลีก​็​จินตนาการ​ได้​ว่าฮู​หยิน​ใหญ่​สวี​ได้​กล่าว​อะไร​ไว้​บ้าง​ ​ไตร่ตรอง​ดู​ครู่หนึ่ง​จึง​ยิ้ม​อย่าง​ยกย่อง​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​คง​เป็น​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​ไม่​วางใจ​พี่​สี่​แล้ว​กระมัง​ ​จะ​อยู่​ที่​ซี​หลิง​สักพัก​นั้น​ไม่ใช่​เรื่อง​ลำบาก​อะไร​ ​รอท่าน​ป้า​คิดถึง​พวกเรา​เมื่อใด​ก็​ค่อย​ส่ง​คน​มารับ​ไป​ก็ได้​แล้ว​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ไม่​แย้ง​อะไร​ ​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​เช่นนี้​ก็ดี​ยิ่งนัก​ ​ครึ่ง​เดือน​หลังจากนี้​ ​ข้า​กับ​อา​หลีก​็​จะ​เดินทาง​กลับ​เมือง​หลี​ ​ทาง​นี้​ทั้งหมด​ก็​ฝาก​เจ้า​ด้วย​”

​สวี​ชิงปั​๋​วลัง​เลค​รู่​หนึ่ง​ก็​กล่าว​ใน​สิ่ง​ที่​ตน​กังวล​ออกมา​ ​“​ก่อนหน้านี้​ข้า​ไม่ได้​มีประสบการณ์​อะไร​มากมาย​ ​เกรง​ว่า​จะ​…​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​ขมวดคิ้ว​คิด​ก็​เข้าใจ​ได้​ถึง​ความกังวล​ของ​สวี​ชิงปั​๋ว​ ​ปีนี​้​สวี​ชิงปั​๋ว​เพิ่งจะ​อายุ​ยี่สิบ​สี่​ยี่สิบ​ห้า​ก็​ต้อง​มาดู​แล​อาณาเขต​เทียบเท่า​กับ​หนึ่ง​ใน​สาม​ของ​ซี​หลิง​แล้ว​ ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ขุนนาง​ที่​มีอำนาจ​อย่างเต็มที่​ใน​การบริหาร​บ้านเมือง​เหนือ​ขุนนาง​คนอื่นๆ​ ​ที่​มีอำนาจ​อีกที​ ​การ​ที่​ยาก​จะ​ให้​คน​ยอม​ปฏิบัติตาม​ใน​ชั่วเวลา​อัน​สั้น​นั้น​ ​ก็​เป็นไปได้​ ​เขา​เชื่อ​ใน​ความสามารถ​ของ​สวี​ชิงปั​๋ว​ ​แต่​ความสามารถ​นั้น​ก็​ต้องการ​เวลา​จึง​จะ​แสดงออก​มา​ได้​อย่าง​มี​ศักยภาพ​ ​หลังจาก​พวกเขา​ออกจาก​ซี​หลิง​ไป​แล้ว​ ​เกรง​ว่าวั​นคื​นข​อง​สวี​ชิงปั​๋​วนั​้​นคง​จะ​ผ่าน​ไป​ได้​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​ก่อนหน้านี้​เขา​พิจารณา​เพียงแค่​ความสามารถ​เท่านั้น​ ​แต่กลับ​ลืม​ไตร่ตรอง​ถึง​อายุ​ของ​สวี​ชิงปั​๋ว​ด้วย​ ​ติ้ง​อ๋อง​ยาม​นี้​มี​คน​ไม่พอ​ให้​ใช้​เสีย​แล้ว​

[1] ​มังกร​ที่​แข็งแกร่ง​ก็​ยัง​ไม่​อาจ​สยบ​งู​พื้นที่​ได้​ ​ผู้มีอำนาจ​ยัง​ยาก​ที่จะ​จัดการ​กับ​เจ้าถิ่น​ใน​ท้องถิ่น