ตอนที่ 317-3 ฮ่องเต้ซีหลิงย้ายเมืองหลวง

ชายาเคียงหทัย

เยี​่ย​หลี​ยัก​คิ้ว​เล็กน้อย​ ​อมยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​ข้ามี​ความคิด​อยาก​เสนอ​ ​แต่​ไม่ทราบ​ว่า​พี่​สี่​จะ​คิดเห็น​เช่นไร​”

​สวี​ชิงปั​๋​วอม​ยิ้ม​มอง​เยี​่ย​หลี​ ​“​ความคิด​ที่​หลี​เอ๋อร​์​เสนอ​ ​ล้วน​เป็นความ​คิด​ที่​ดีทั​้ง​สิ้น​ ​รีบ​บอก​มา​ให้​พี่​สี่​ฟัง​เถิด​”

​เยี​่ย​หลี​เอ่ย​ ​“​พี่​สี่​ไม่​ลอง​เชิญ​อาจารย์​ซิ่ว​ถิง​จาก​เมือง​เปี้ยน​มาที​่​นี่​ดู​เล่า​ ​ท่าน​อาจารย์​ซิ่ว​ถิ​งมี​ลูกศิษย์ลูกหา​อยู่​ที่​ซี​หลิง​เสีย​ส่วนมาก​ ​หาก​เขา​มาช​่ว​ยพี​่​สี่​ได้​ ​เช่นนั้น​พี่​สี่​คงจะ​จัดการ​เรื่องราว​ที่​ซี​หลิง​ได้​อย่างราบรื่น​”​ ​แม้​ท่าน​อาจารย์​ซิ่ว​ถิง​จะ​แสดงถึง​เจตจำนง​ว่า​สวามิภักดิ์​ต่อ​ตำหนัก​งอ​๋​อง​ ​แต่​บัณฑิต​ใน​สาย​บุ๋น​ ​โดยเฉพาะ​บัณฑิต​สาย​บุ๋น​เหล่านั้น​ที่​ประสบความสำเร็จ​ไม่ธรรมดา​ ​มักจะ​มีนิ​สัย​ประหลาด​ ​หาก​เป็น​เยี​่ย​หลี​หรือ​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ยปาก​ให้​เขา​มา​ ​เขา​ก็​คงมา​อย่าง​เสีย​ไม่ได้​ ​แต่​ก็​เกรง​ว่า​คงจะ​มี​ความคิด​ดูถูก​และ​ปม​ใน​ใจ​ต่อ​สวี​ชิงปั​๋​วอ​ย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​ ​ซึ่ง​อาจจะ​ส่งผล​ร้าย​ต่อ​การ​จัดการ​งาน​ของ​สวี​ชิงปั​๋ว​ได้

​ใน​ฐานะ​ที่​สวี​ชิงปั​๋ว​เป็น​ลูกหลาน​ของ​สกุล​สวี​ ​เขา​ย่อม​เข้าใจ​ความ​เป็น​ขง​จื้อ​ยอด​นักปราชญ์​แห่ง​ใต้​หล้า​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ท่าน​อาจารย์​ซิ่ว​ถิง​ยัง​เป็น​ผู้​ที่​ท่าน​ปู่​และ​บิดา​ของ​เขา​ต่าง​เคารพนับถือ​ ​เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​พยักหน้า​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​หลี​เอ๋อร​์​ไม่​ทำให้​พี่​สี่​ผิดหวัง​จริงๆ​ ​พี่​สี่​รู้​ว่า​ควรจะ​จัดการ​อย่างไร​แล้ว​”​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​เป็น​พวกเรา​ต่างหาก​ที่​ต้อง​ลำบาก​พี่​สี่​แล้ว​ ​เช่นนั้น​หลี​เอ๋อร​์​ก็​ไม่​รบกวน​เวลาพักผ่อน​ของ​พี่​สี่​แล้ว​ ​ระยะนี้​พี่​สี่​ก็​รักษาตัว​ให้หา​ยดี​ก่อน​เถิด​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​พยุง​เยี​่ย​หลี​หมุนตัว​เดิน​จากไป​ ​ก่อน​จะ​ไป​ยัง​กล่าว​ทิ้งท้าย​ไว้​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ​“​กลับมา​ข้า​จะ​ให้​เฟิ​่ง​หวาย​ถิ​งมา​ช่วย​เจ้า​จัดการ​ปัญหา​ของ​พ่อค้า​ที่​ร่ำรวย​ใน​ซี​หลิง​”

​สวี​ชิงปั​๋ว​ตกใจ​ ​ยิ้ม​พลาง​กล่าว​ ​“​ขอบคุณ​ท่าน​อ๋อง​”

​มอง​ส่ง​ทั้งคู่​กลับ​ไป​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​คิด​ๆ​ ​ดูแล​้​วก​็​เรียก​คน​ให้​หยิบ​พู่กัน​กับ​หมึก​เข้ามา​ ​แล้ว​จรด​พู่กัน​เขียนจดหมาย​เรียนเชิญ​อย่างจริงใจ​ฉบับ​หนึ่ง​ก่อน​ให้​คน​เอา​ไป​ส่ง​ที่​เมือง​เปี้ยน​ ​พลาง​คิด​ตรอง​ดู​ว่า​มี​เวลา​พอที่​จะ​ไป​เมือง​เปี้ยน​ได้​สัก​ครา​หรือไม่​ ​เขา​ทำได้​เพียง​เสียดาย​ที่​ยาม​นี้​ตน​กำลัง​บาดเจ็บ​อยู่​ ​หาก​รอ​จน​ม่อ​ซิว​เหยา​จากไป​แล้วก็​จะ​ยิ่ง​ไม่มีเวลา​ว่าง​เข้าไป​อีก

​หลังจาก​ออกจาก​เรือน​ของ​สวี​ชิงปั​๋ว​มา​แล้ว​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​หันไป​ยิ้มน้อย​ๆ​ ​กล่าว​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​ว่า​ ​“​ซิว​เหยา​ ​ขอบคุณ​เจ้า​นัก​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​ตกใจ​ ​ก้มหน้า​มอง​เยี​่ย​หลี​ด้วย​สายตา​อ่อนโยน​ ​“​ขอบคุณ​อะไร​ข้า​กัน​”​ ​เยี​่ย​หลี​ตอบ​ ​“​ขอบคุณ​ที่​เจ้า​ทำ​เพื่อ​พี่​สี่​”​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นการ​เรียก​เสิ่น​หยาง​มาที​่​ซี​หลิง​หรือ​จะ​เฟิ​่ง​หวาย​ถิง​ ​ล้วน​ไม่ได้​มีอยู่​ใน​แผนการ​เดิม​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ทั้งสิ้น​ ​โดยเฉพาะ​เฟิ​่ง​หวาย​ถิง​ ​เพราะ​ยาม​นี้​เฟิ​่ง​หวาย​ถิ​งกำ​ลัง​รวบรวม​กิจการ​ภายใต้​ชื่อ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​อยู่​ที่​ซี​เป่ย​และ​ยุ่ง​อยู่​กับ​กิจการ​ที่​ซี​เป่ย​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก้มหน้า​ให้​หน้าผาก​ของ​ตน​ชนกับ​หน้าผาก​ของ​เยี​่ย​หลี​ ​ถู​ไปมา​พลาง​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​สวี​ชิงปั​๋ว​เป็น​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ไม่ใช่​หรือ​ ​อีกทั้ง​เขา​ยัง​ช่วย​เจ้า​และ​ลูก​ของ​เรา​เอาไว้​ ​ข้า​ก็​ควรจะ​ดี​กับ​เขา​ให้​มาก​”

​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​พลาง​กล่าว​ ​“​เจ้า​ดี​ต่อ​พวกเขา​มาโดยตลอด​ ​ข้า​รู้​”​ ​แม้​ม่อ​ซิว​เหยา​มักจะ​ใช้​ทุก​วิถีทาง​มาบีบ​คั้น​พี่ใหญ่​แต่​ก็​แค่​กับ​พี่ใหญ่​คนเดียว​เท่านั้น​ ​กับ​พี่ชาย​ที่​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​นาง​คนอื่นๆ​ ​นับว่า​เขา​ปฏิบัติ​ด้วย​ไม่เลว​ ​ก็​เหมือน​ครานี​้​ที่​ก่อน​จะ​บุก​โจมตี​ซี​หลิง​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​คิด​ไว้​ดี​แล้ว​ว่า​จะ​ให้​สวี​ชิงปั​๋​วอ​ยู่​ที่​ซี​หลิง​ต่อ​ ​นี่​นับว่า​เป็นการ​ปู​ทางใน​อนาคต​ให้​กับ​สวี​ชิงปั​๋ว​ไว้​แล้ว​ ​สวี​ชิงปั​๋​วอา​ยุ​ยังน้อย​เกินไป​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​คนนอก​ที่​แทบจะ​ไม่รู้​เรื่อง​ภายใน​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​มาโดยตลอด​ ​ทว่า​เรื่องราว​ของ​ซี​หลิง​นั้น​หาก​เขา​สามารถ​จัดการ​ได้​อย่างเหมาะสม​ดีงาม​แล้ว​ ​อนาคต​ของ​เขา​ก็​จะ​ไม่​ด้อย​ไป​กว่า​ผู้ใด​ใน​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​เลย

​“​หาก​อา​หลี​พอใจ​ ​ข้า​ย่อม​ดี​ต่อ​พวกเขา​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ยิ้ม​กล่าว​ ​ก้มลง​งับ​กลีบ​ปาก​อิ่ม​สีชมพู​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​เยี​่ย​หลี​ถลึงตา​มอง​เขา​อย่าง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ก็ดี​ต่อ​พี่ใหญ่​สักหน่อย​ได้​หรือไม่​”​ ​ข้า​ไม่​อยาก​เป็น​ทหาร​เสี่ยง​ตาย​ที่​ยืน​อยู่​ตรงกลาง​ระหว่าง​พวก​ท่าน​จริงๆ​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​หัวเราะ​เสียงต่ำ​ ​“​เรื่อง​นี้​หรือ​…​อา​หลี​ทำใจ​สร้าง​ความลำบาก​ให้​สามี​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ​สามี​เจ็บปวด​ใจ​ยิ่งนัก​”

​เยี​่ย​หลีก​รอก​ตา​ครา​หนึ่ง​ ​“​นี่​เรียกว่า​สร้าง​ความลำบาก​อะไร​กัน​ ​เจ้า​จะ​ตา​ต่อตา​ ​ฟัน​ต่อ​ฟัน​กับ​พี่ใหญ่​หรือ​”

​“​เรื่อง​นี้​หรือ​…​ผู้ใด​ใช้​ให้​เขา​เกิด​มา​หน้าตา​น่ารังเกียจ​กัน​ ​เจ้า​ดู​สิ​…​ยาม​นี้​ยัง​หา​ภรรยา​ไม่ได้​ ​นี่​ไม่ใช่​หลักฐาน​ยืนยัน​หรอก​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ลูบ​ผม​งาม​ที่​มีกลิ่นหอม​จางๆ​ ​ของ​นาง​กล่าว​อย่าง​เกียจคร้าน

​“​…​”​ ​ดังนั้น​ ​เจ้า​กำลัง​อิจฉา​ที่​พี่ใหญ่​หน้าตา​ดีกว่า​เจ้า​เช่นนั้น​หรือ

​“​ท่าน​อ๋อง​ ​พระ​ชายา​…​”​ ​พอ​ออกจาก​เรือน​สวี​ชิงปั​๋ว​มาทั​้​งคู​่​ก็​กำลังจะ​กลับ​เรือน​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่ายั​งมี​ไป๋ฮู​หยิน​ที่​ถูก​พาก​ลับ​มารอ​เข้าพบ​อยู่​ ​ดังนั้น​ม่อ​ซิว​เหยา​จึง​เดิน​ไป​พบ​คน​ผู้​นั้น​กับ​เยี​่ย​หลี​ด้วย​ความแค้น​ที่​มีอยู่​เต็มอก​ ​พอก​้าว​เข้ามา​ใน​โถง​บุปผา​ ​ไป๋ฮู​หยิน​ที่​เดิม​อยาก​จะ​ต้อนรับ​พวกเขา​ก็​ตัว​แข็งทื่อ​ไป​ทันที​ ​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​พยุง​เยี​่ย​หลี​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ซีดเผือด​ ​ลืม​แม้กระทั่ง​ว่า​จะ​ต้อง​รีบ​เข้าไป​ถวาย​คำนับ

​เยี​่ย​หลี​เลิก​คิ้ว​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ถือสา​ที่​ไป๋ฮู​หยิน​เสียมารยาท​เช่นนี้​ ​ยิ้ม​บาง​กล่าวว่า​ ​“​ไป๋ฮู​หยิน​ขอ​เข้าพบ​ข้า​ ​มีเรื่อง​อะไร​เช่นนั้น​หรือ​”

​“​หม่อมฉัน​…​หม่อมฉัน​…​”​ ​ไป๋ฮู​หยิน​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​แล้ว​แขนขา​ก็​พลัน​แข็งทื่อ​ราวกับ​โดน​แช่แข็ง​ ​ข้าง​หู​นึกถึง​เสียง​กรีดร้อง​อย่างทรมาน​อัน​นับไม่ถ้วน​ใน​วันนั้น​และ​เสียงร้อง​ไห้​อัน​น่าเวทนา​ของ​บุตรสาว​ของ​ตน​ที่​ถูก​ลาก​ลงมา​ ​สีหน้า​จึง​ยิ่ง​ดู​ย่ำแย่​หนัก​ขึ้น​ ​ทั่วทั้ง​ร่าง​สั่น​กลัว​ราวกับ​จะ​ล้ม​แหล่​มิล​้ม​แหล่

​“​ไป๋ฮู​หยิน​”​ ​เยี​่ย​หลี​ขมวดคิ้ว​ถาม​ ​“ฮู​หยิน​มีต​รง​ใด​ไม่สบาย​หรือ​”

​ไป๋ฮู​หยิน​ตกใจ​ ​ยังดี​ที่​ได้สติ​กลับคืน​มา​จึง​รีบ​ตอบ​ ​“​หม่อมฉัน​…​หม่อมฉัน​ไม่​ ​ขอบคุณ​พระ​ชายา​ที่​ห่วงใย​ ​หม่อมฉัน​…​ไม่เป็นอะไร​”

​เยี​่ย​หลี​ไม่​กล่าว​คำ​ใด​ ​ท่าทาง​ของ​ไป๋ฮู​หยิน​ไม่​เหมือนกับ​ไม่เป็นไร​แม้แต่น้อย

​“​ที่​ไป๋ฮู​หยิน​มา​พบ​ข้า​ ​ด้วย​เพราะ​มีเรื่อง​อะไร​อยาก​จะ​พูด​หรือ​”

​ไป๋ฮู​หยิน​หน้าซีด​เผือด​ ​ใน​ใจ​กรีดร้อง​อย่าง​ทุกข์ทรมาน​เงียบๆ​ ​ติ้ง​อ๋อง​อยู่​ตรงหน้า​นาง​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่นา​งอยาก​จะ​ร้องขอ​ความเมตตา​เลย​ ​เพียงแค่​อยาก​จะ​เอ่ย​ถาม​สารทุกข์สุกดิบ​นั้น​ยัง​แทบจะ​เอ่ย​ไม่​ออก

​เห็น​ดังนั้น​ ​เยี​่ย​หลี​จึง​เอียง​กาย​ไป​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​ถึงแม้​จะ​เรียบ​เฉย​ ​แต่​ยัง​นับว่า​เจือ​ความอ่อนโยน​ไว้​อยู่​บ้าง​ ​อารมณ์​ดูจะ​ดี​ไม่น้อย​ ​จึง​คิด​ว่า​ไม่น่า​จะ​ถึงขนาด​ทำ​คน​ตกอกตกใจ​ได้

​“​ซิว​เหยา​”​ ​คิด​ครู่หนึ่ง​ ​เยี​่ย​หลีก​็​ยัง​ตัดสินใจ​ที่จะ​รีบ​ส่ง​ไป๋ฮู​หยิน​กลับ​ไป​ ​“​ดูแล​้ว​ไป๋ฮู​หยิน​คง​อยาก​จะ​มีเรื่อง​บอกกล่าว​กับ​ข้า​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​เช่นนั้น​เจ้า​กลับ​ไป​ก่อน​ดี​หรือไม่​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​โอบ​เยี​่ย​หลี​ไว้​มือหนึ่ง​กล่าวว่า​ ​“​แน่นอน​ว่า​ไม่ดี​ ​มี​อะไร​อยาก​พูด​ก็​พูด​มา​เสีย​ ​ในเมื่อ​ไม่​พูด​ ​ในเมื่อ​ไม่​เอ่ยปาก​ก็​หมายความว่า​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​ ​ใช่​หรือไม่​ ​ไป๋​ ฮู​ ​หยิน​”

​ไป๋ฮู​หยิน​สั่นเทิ้ม​ไป​ทั้ง​ร่าง​ ​รีบ​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ท่าน​อ๋อง​พูด​ถูก​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​หม่อมฉัน​เลอะเลือน​ไป​ชั่วครู่​รบกวน​พระ​ชายา​แล้ว​!​ ​หม่อมฉัน​…​หม่อมฉัน​ขอลา​!​”​ ​กล่าว​จบ​ก็​ไม่​รอ​ให้​เยี​่ย​หลี​ได้​กล่าว​อะไร​ ​วิ่ง​โซซัดโซเซ​ออก​ไป​ทันที​ ​เยี​่ย​หลี​มอง​ม่อ​ซิว​เหยา​อย่าง​สงสัย​ ​“​นี่​มัน​อะไร​กัน​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​ยักไหล่​ ​“​ผู้ใด​จะ​รู้​ได้​เล่า​”