ตอนที่ 318-1 ความจริงใจอย่างตรงไปตรงมา การตายของไป๋ฮูหยิน

ชายาเคียงหทัย

เมื่อ​เห็นท่า​ทาง​เหม่อลอย​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ ​เยี​่ย​หลีก​็​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​ ​หลังจาก​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​ก็​รู้สึก​ว่า​คน​ข้าง​กาย​นั้น​มีเรื่อง​ปิดบัง​นาง​อยู่​ ​ที่​ม่อ​ซิว​เหยา​ตั้งใจ​ข่มขวัญ​ไล่​ไป๋ฮู​หยิน​กลับ​ไป​เมื่อ​ครู่​เช่นนั้น​ ​ทำให้​นาง​ยิ่ง​สงสัย​เข้าไป​อีก

​เยี​่ย​หลี​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​เพื่อ​ยืนยัน​ความมั่นใจ​ของ​ตน​ ​นาง​มอง​ตรง​ไป​ที่​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​ดูเหมือน​จะ​เจือ​แวว​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย​ ​แล้ว​ถาม​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ซิว​เหยา​ ​เจ้า​มีเรื่อง​อะไร​ปิดบัง​ข้า​อยู่​หรือไม่​”

​“หื​้​ม.​..​ไม่มี​แน่นอน​ ​อา​หลี​ถาม​ทำไม​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​อมยิ้ม​กล่าว​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​กลับ​ไม่​ผ่อนคลาย​เหมือน​ยาม​ก่อน​ๆ

​เยี​่ย​หลี​เลิก​คิ้ว​ ​มอง​เขา​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่​ยิ้ม​ ​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​หรือว่า​ท่าน​อ๋อง​ถูกใจ​สตรี​ตระกูล​ใด​เข้า​ ​จึง​อยาก​จะ​รับ​เข้า​ตำหนัก​มา​เพื่อ​เพิ่ม​อี๋​เหนียง​ให้​ตัว​น้อย​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​สีหน้า​เปลี่ยน​เล็กน้อย​ ​ยก​ยิ้ม​มุม​ปาก​ดึง​เยี​่ย​หลีก​ลับ​เข้ามา​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ ​กล่าว​อย่าง​กลัดกลุ้ม​ว่า​ ​“​อา​หลี​เหลวไหล​ ​ข้า​ชอบ​อา​หลี​เพียงผู้เดียว​”​ ​เยี​่ย​หลี​หัวเราะ​พลาง​ตบหลัง​เขา​เบา​ๆ​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​แน่​เจ้า​ถึง​ทำท่า​มี​ลับลมคมใน​เช่นนี้​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ข้า​ไม่สบาย​ ​หรือ​คิด​ว่า​ไว้​ข้า​หาย​ดี​แล้ว​จะ​ไป​ถาม​ความ​เอา​เอง​ไม่ได้​หรือ​”

ดังนั้น​จึง​บอกว่า​ ​ความกังวล​ที่มาก​เกินไป​ก็​ทำให้​ท่าน​ติ้ง​อ๋อง​ทำ​เรื่อง​โง่​ๆ​ ​ได้​เหมือนกัน​ ​เช่นว่า​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​เขา​รู้​ว่า​เรื่อง​เหล่านี้​ปิด​ยังไง​ก็​ปิดไม่มิด​ ​เว้นเสียแต่ว่า​เขา​จะ​ปิดปาก​คนที​่​รู้เรื่อง​นี้​ให้​หมด​ ​แต่​จิตใต้สำนึก​ของ​เขา​ก็​ไม่​อยาก​ให้​อา​หลี​เห็น​ตน​ใน​ด้าน​นี้

​ผ่าน​ไป​พักใหญ่​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​จึง​กล่าว​อย่าง​ไม่สบายใจ​ว่า​ ​“​ข้า​ฆ่า​บุตรสาว​ของ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ไป​เสีย​แล้ว​”

เยี​่ย​หลี​ตกใจ​เล็กน้อย​ ​คิดย้อน​ไป​ใน​วันนั้น​ที่​ถูก​ลอบฆ่า​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​ก็​อยู่​ข้างๆ​ ​นาง​ด้วย​ ​นาง​ถาม​ต่อ​เสียง​เบา​ ​“​เพราะ​เรื่อง​วันนั้น​ใช่​หรือไม่​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​มอง​นาง​แล้ว​เอ่ย​เสียงต่ำ​ ​“​ไม่เกี่ยว​กับ​อา​หลี​ ​เป็น​ข้า​ที่​รู้สึก​ว่านาง​ขวางหูขวางตา​”​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​อย่าง​จนใจ​ ​พลาง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​แม้ว่า​ไป๋​ชิง​หนิง​จะ​โทษ​ไม่​ถึงตาย​ ​แต่​เจ้า​ก็​ไม่​จำต้อง​ปิดบัง​ข้า​ด้วย​เรื่อง​เช่นนี้​กระมัง​”​ ​แม้ว่า​ความคิด​ที่​ฝังหัว​มาจาก​ใน​ชาติที่แล้ว​หลายอย่าง​จะ​ทำให้​นาง​ไม่​ชิน​กับ​เรื่อง​คร่าชีวิต​ผู้คน​ตามอำเภอใจ​เช่นนี้​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​นาง​นั้น​ม่อ​ซิว​เหยา​สำคัญ​กว่า​ไป๋​ชิง​หนิง​ที่​ไม่เกี่ยว​ข้อง​อะไร​ด้วย​เป็น​พัน​เท่า​หมื่น​เท่า​ไม่ใช่​หรือ​ ​อีกทั้ง​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ถึง​เยี​่ย​หลี​จะ​ไม่​ชิน​แต่​ก็​เข้าใจ​ ​บาง​ครา

ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​ฆ่า​ใคร​สัก​คน​เพียง​เพราะ​เขา​คน​นั้น​สมควร​ตาย​ ​คนที​่​มีโทษ​ไม่​ถึงตาย​นั้น​มีมาก​นัก​ ​แต่กระนั้น​คนที​่​ตาย​โดยที่​มีโทษ​ไม่​ถึงตาย​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​มากกว่า​คนที​่​สมควร​ตาย​มาก​นัก​ ​พวกเขา​อยู่​ใน​ฐานะ​เช่นนี้​ ​ใน​หลาย​ๆ​ ​คราก​็​ทำ​อะไร​ตามใจ​ไม่ได้​อยู่​แล้ว

​ม่อ​ซิว​เหยา​เหลือบตา​ขึ้น​มอง​จ้อง​นาง​ ​ครู่​ต่อมา​จึง​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ฆ่า​บรรดา​ชนชั้นสูง​ที่​มีอำนาจ​ของ​ซี​หลิง​ไป​อีก​ไม่น้อย​”

​เยี​่ย​หลี​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​“​เท่าใด​หรือ​”

​“​สาม​ส่วน​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ตอบ​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​พวก​ขุนนาง​ชั้นสูง​ของ​เมือง​ซี​หลิง​สาม​ส่วน​กว่า​ๆ​ ​ล้วน​ถูก​เขา​ฆ่า​ล้าง​โคตร​จน​สิ้น​ ​นี่​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​ทั่วหล้า​ได้มา​กก​ว่าการ​ฆ่า​ประชาชน​คนธรรมดา​ไป​เป็น​พัน​เป็น​หมื่น​เสียอีก

​นาน​ทีเดียว​เยี​่ย​หลี​จึง​ได้​กลับมา​พิง​อก​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​อีก​ครา​ ​นาง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​เจ้า​ปิด​เรื่อง​นี้​กับ​ข้า​ไม่ยอม​ให้​พวกเขา​บอก​ข้า​ก็​ด้วย​เรื่อง​นี้​น่ะ​หรือ​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก้มลง​ลูบ​ผม​นุ่ม​ของ​นาง​ ​กล่าว​อย่าง​ไม่สบายใจ​นัก​ว่า​ ​“​ไม่ใช่​ว่า​อา​หลี​ไม่​ชอบ​ให้​ข้า​ฆ่า​คน​ตามอำเภอใจ​หรอก​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​ยังคง​มีความรู้สึก​อึดอัด​หนักอึ้ง​อยู่​ใน​ใจ​ ​เงยหน้า​มอง​เขา​ด้วย​ท่าทาง​หัวเสีย​ครา​หนึ่ง​ ​“​เจ้า​ยัง​รู้จัก​ว่านี​่​คือ​การ​ฆ่า​คน​ตามอำเภอใจ​หรอก​หรือ​ ​ข้า​ก็​ไม่ใช่​พระโพธิสัตว์​ที่​ให้​คนไว​้​กราบไหว้​ใน​วัดวาอาราม​ ​ยาม​ที่​ต้อง​ผิด​ศีล​ข้อ​ที่​ห้าม​ฆ่า​สัตว์​ตัด​ชีวิตจริง​ๆ​ ​ก็​จะ​ไม่​อ่อนข้อ​ให้​เหมือนกัน​ ​จะ​เพราะ​เจ้า​บันดาล​โทสะ​หรือ​เพราะ​เหตุผล​อะไร​จึง​ได้​ฆ่า​เหล่า​ขุนนาง​พวก​นั้น​ก็ช่าง​มัน​เถิด​ ​แต่​เหล่า​บรรดา​คนรับใช้​พวก​นั้น​รู้เรื่อง​อะไร​ด้วย​ ​ทำชื่อ​เสียง​ตัวเอง​ให้​แปดเปื้อน​ไป​เปล่าๆ​ ​โดยแท้​”

​ม่อ​ซิว​เหยา​มอง​นาง​เงียบๆ​ ​เขา​เพียง​ยั้ง​ตัวเอง​ไม่อยู่​เท่านั้นเอง​ไม่ใช่​หรือ​…

​เห็น​สีหน้าท่าทาง​เขา​แบบนี้​แล้ว​ ​เยี​่ย​หลี​ไหน​เลย​จะ​โกรธ​ต่อ​ได้​ ​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​หว่าง​คิ้ว​ที่​ขมวด​แน่น​ให้​เขา​เบา​ๆ​ ​กล่าว​เสียงอ่อน​โยน​ว่า​ ​“​แม้​ข้า​จะ​บอกว่า​ไม่เชื่อ​เรื่อง​กฎแห่งกรรม​อะไร​ ​แต่​การ​ฆ่า​คน​มากมาย​เช่นนี้​ย่อม​ทำร้าย​จิตใจ​ส่วน​ที่​ดีงาม​ ​และ​ยิ่ง​ง่าย​ต่อ​การ​สูญเสีย​จิตใจ​ของ​ตน​ไป​ ​ซิว​เหยา​ ​ข้า​หวัง​ว่า​เจ้า​จะ​มีชีวิต​ที่​ดี​”​ ​ยาม​อยู่​ที่​เมือง​เปี้ยน​นั้น​เยี​่ย​หลี​สัง​เหต​ได้​ว่า​ใน​จิตใจ​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​มี​ความ​ชั่วร้าย​ที่​น่าหวาดกลัว​เหลือกำลัง​แฝง​อยู่​ ​หลาย​ปี​มานี​้​เขา​ควบคุม​ไว้​ได้ดี​ ​แต่​ผลกระทบ​จาก​การ​เสีย​ความ​ควบคุม​ที่​มีอยู่​น้อย​ครั้ง​ก็​ทำให้​น่า​ตกใจ​อยู่​ไม่น้อย​ ​อาจ​เป็นไปได้​ว่านี​่​อาจ​เป็นผล​สืบเนื่อง​มาจาก​การ​ที่​เขา​กักเก็บ​ความแค้น​เกี่ยวกับ​กองทัพ​ตระกูล​ม่อ​และ​ติ้ง​อ๋อง​ทั้งสอง​รุ่น​เอาไว้​ ​เยี​่ย​หลี​ไม่​อยาก​ให้การ​เสีย​ความ​ควบคุม​นี้​กลายเป็น​เรื่อง​ปกติ​ ​ไม่เช่นนั้น​ผล​มีอยู่​เพียง​สอง​ทาง​ ​ทาง​หนึ่ง​คือ​ ​เขา​ระบาย​เอา​ความอาฆาต​แค้น​ใน​ใจ​ออกมา​จน​หมด​แล้ว​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง​ ​อีก​ทาง​หนึ่ง​คือ​ ​เขา​จะ​สูญเสีย​ความ​เป็นตัว​เอง​ไป​ใน​ระหว่าง​การเข่นฆ่า​ที่​ไม่​สิ้นสุด​นี้​ ​แต่​ไม่ว่า​ทาง​ใด​ ​ก็​ล้วน​ต้อง​แลก​มาด​้วย​ชีวิต​ของ​คน​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน

​“​อา​หลี​…​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​มอง​ชายา​ที่​มอง​เขา​อยู่​ด้วย​สีหน้า​กังวล​เต็มดวง​หน้า​อย่างตกใจ​ ​หลุบ​ตาลง​ต่ำ​ด้วย​ท่าที​เหนื่อยล้า​ ​พิง​ไหล่​เยี​่ย​หลีก​ล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​อา​หลี​ ​ข้า​เหนื่อย​เหลือเกิน​…​อย่า​จาก​ข้า​ไป​นะ​…​”​ ​เขา​รู้​ว่า​อา​หลีกำ​ลัง​กังวล​เรื่อง​อะไร​ ​ความจริง​แล้ว​เขา​เอง​ก็​รู้ดี​ ​ดังเช่น​เรื่อง​ใน​ครานี​้​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​เขา​มี​วิธี​ที่​ดีกว่า​นี้​ใน​การ​จัดการ​ ​แต่​ยาม​นั้น​ใน​ใจ​เขา​กลับ​ไม่มี​วิธี​ใด​เลย​ ​มี​เพียงแค่​ความอยาก​ฆ่า​คน​ทั้งหมด​ที่มา​ทำร้าย​อา​หลี​เท่านั้น​ ​นอกจากนั้น​แล้ว​ ​เขา​ไม่เคย​คำนึงถึง​ความเป็นไปได้​ใดๆ​ ​ทั้งสิ้น​ ​ผลลัพธ์​เช่นนี้​ ​แม้ว่า​ยาม​นี้​เขา​ยังคง​รู้สึก​ว่า​ไม่เลว​ร้าย​ ​แต่กลับ​รู้ดี​ว่า​มัน​ได้​ฝัง​ฝัง​ความ​เลวร้าย​เอาไว้​ไม่น้อย

​เยี​่ย​หลี​ยื่นมือ​ไป​จับมือ​เขา​มา​วาง​ลง​บน​หน้าท้อง​ที่​ยังคง​แบน​ราบ​ของ​ตัวเอง​เบา​ๆ​ ​ยิ้ม​บาง​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​จะ​จาก​เจ้า​ไป​ได้​อย่างไร​ ​เรา​มีสิ​่ง​ล้ำค่า​ตัว​น้อย​ด้วยกัน​แล้ว​คน​หนึ่ง​ ​ยาม​นี้​ก็​ยัง​มีมา​เพิ่ม​อีก​คน​เช่นนี้​”​ ​มือ​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ที่​วาง​อยู่​บน​ท้องนาง​ชะงัก​เบา​ๆ​ ​ถาม​เสียง​ค่อย​ว่า​ ​“​หาก​ไม่มี​ลูก​เล่า​”​ ​เยี​่ย​หลี​แย้มยิ้ม​กล่าว​ ​“​หาก​ไม่มี​ลูก​ ​เกรง​ว่า​ท่าน​อ๋อง​ก็​คงจะ​ไป​มอง​หญิง​อื่น​แล้ว​กระมัง​”​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​ส่ายหน้า​ ​เชย​คาง​เรียว​ของ​นาง​ขึ้น​ให้​นาง​สบ​สายตา​แวววาว​ของ​ตน​ ​“​ข้า​ไม่สน​ใจ​ลูก​หรอก​ ​ต่อให้​ไม่มี​ลูก​ ​ข้า​ก็​ยัง​ต้องการ​เพียงแค่​อา​หลี​คนเดียว​อยู่ดี​”

​ใน​ยุคสมัย​เช่นนี้​ ​สำหรับ​สตรี​แล้ว​นี่​นับว่า​เป็น​คำหวาน​ที่​ลึกซึ้ง​กินใจ​ที่สุด​ ​เยี​่ย​หลี​ยิ้ม​บาง​ ​กล่าว​หยอก​เขา​ว่า​ ​“​ท่าน​อ๋อง​มาก​ล่าว​เช่นนี้​ใน​ยาม​นี้​ก็​สาย​ไป​เสีย​แล้ว​”​ ​ตอนนี้​พวกเขา​ต่าง​มีลูก​ด้วยกัน​แล้ว​คน​หนึ่ง​และ​กำลังจะ​มี​อีก​คน​ ​ความลึกซึ้ง​ของ​ประโยค​นี้​ย่อม​ลดลง​ไป​อย่างมาก

​เห็น​เยี​่ย​หลี​ท่าทาง​จะ​ไม่​โกรธ​แล้ว​จริงๆ​ ​รอยยิ้ม​ของ​ม่อ​ซิว​เหยา​ก็​ค่อยๆ​ ​แย้ม​บาน​มากขึ้น​ ​ค่อยๆ​ ​กอด​นาง​มา​ไว้​ใน​อ้อมอก​แล้ว​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​ที่​ข้า​กล่าว​มานั​้​นล​้​วน​มาจาก​ใจจริง​ทั้งสิ้น​ ​หาก​ไม่ใช่​ลูก​ของ​อา​หลี​แล้ว​ ​ข้า​ได้มา​จะ​มีประโยชน์​อะไร​”

​“​จริง​สิ​ ​ที่​ไป๋ฮู​หยิน​มา​ขอ​เข้าเฝ้า​นั้น​มีเรื่อง​อะไร​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​พิง​อก​ม่อ​ซิว​เหยา​เอ่ย​ถาม​เบา​ๆ​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​เลิก​คิ้ว​กล่าว​อย่าง​ไม่​ใส่​ว่า​ ​“​ตระกูล​สูงส่ง​ตกต่ำ​มากมาย​เช่นนั้น​ ​ไม่​กี่​วัน​มานี​้​ข้า​ได้​เมินเฉย​ละเลย​ต่อตระกูล​ไป๋​ไป​ ​คาด​ว่า​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​คงจะ​ใจร้อน​ไม่น้อย​”

​“​เจ้า​คิด​จะ​ละทิ้ง​ตระกูล​ไป๋​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความ​ฉงน​ ​ตระกูล​ไป๋​นับว่า​เป็น​ตระกูล​สูงศักดิ์​ที่​มีอยู่​น้อย​นิด​ของ​ซี​หลิง​ ​ทั้ง​ยัง​เป็น​ตระกูล​ที่มา​สวามิภักดิ์​เป็น​ตระกูล​แรก​ ​ไม่ว่า​จะ​ใน​ด้าน​น้ำ​จิต​น้ำใจ​หรือ​เหตุผล​ ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ก็​ควรจะ​ให้เกียรติ​ตระกูล​ไป๋​อยู่​บ้าง​ ​แต่​ยาม​นี้​ม่อ​ซิว​เหยา​กลับ​ไม่​ลังเล​ที่จะ​สังหาร​ลูกสาว​สาย​หลัก​ของ​ตระกูล​ไป๋​แม้แต่น้อย​ ​ย่อม​มี​ความคิด​ว่า​จะ​ทอดทิ้ง​ตระกูล​ไป๋​ไว้​อยู่​ก่อน​แล้ว​ ​ม่อ​ซิว​เหยา​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ตระกูล​ไป๋​มี​ไม่​กี่​คนที​่​สามารถ​เก็บ​ไว้​ใช้งาน​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ล้วน​ไม่มี​จุดยืน​กัน​ทั้ง​ตระกูล​ ​ครา​แรก​เหลย​เจิ​้น​ถิ​งมี​อำนาจ​ก็​เอนเอียง​ไป​ทาง​เขา​ ​ยาม​นี้​เรา​เพิ่งจะ​ได้​เมือง​ซี​หลิง​มาก​็​เอนเอียง​มาทาง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​เสีย​แล้ว​ ​ถึง​จะ​บอกว่า​เขา​อ่าน​สถานการณ์​ออก​ก็​พอ​จะ​มี​ประเด็น​ ​แต่​บางคน​หาก​ทำ​จน​ชัดเจน​มากเกินไป​…​ก็​มี​แต่​จะ​ทำให้​รู้สึก​ว่า​ไม่น่า​มอง​ ​กิจการ​ของ​ตระกูล​ไป๋​อยู่​ที่นั่น​ ​หาก​ให้ความสำคัญ​ก็​ยาก​จะ​เลี่ยง​ให้​คนอื่น​รู้สึก​ว่า​ไม่​ยุติธรรม​ ​หาก​ปล่อย​ให้​ว่าง​ไว้​ ​ไป๋​อวิ​่น​เฉิง​ช้า​เร็ว​ก็​ต้อง​แปรพักตร์​ ​ไม่​สู้​จัดการ​ไป​เสียแต่​ตอนนี้​จะ​ดีกว่า​ ​ส่วน​ตระกูล​ชายา​สนม​อะไร​นั่น​ ​เฮอะ​!​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ให้​ตัว​น้อย​ของ​เรา​ได้​แต่ง​เอา​สตรี​ตระกูล​ไป๋​มา​เป็น​ชายา​หรอก​”