ตอนที่ 576 เคลื่อนกวาดทั้งลาน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 576 เคลื่อนกวาดทั้งลาน โดย ProjectZyphon

ฟ้าดินสะเทือนเลือนลั่น หนองน้ำแถบหนึ่งทรุดล่ม พื้นดินแตกระแหง เห็นภัยพิบัติทั่วไปหมด

หลินสวินเหยียบย่างกลางอากาศ เงาร่างส่องแสง ผมดำปลิวไสว เงามายาชือน้ำแข็งตัวหนึ่งชูคอกระหวัดตัว กระเพื่อมไหวไปทุกทิศ

แม้เขาตัวคนเดียวแต่กลับสู้กับบุคคลชั้นยอดรุ่นเดียวกันมากมายได้ พลานุภาพโอหัง มีจิตวิญญาณที่ไม่อาจหาใครเทียบได้

ในถ้ำสวรรค์ของเขา หมอกมงคลพรั่งพรู พลังวิญญาณครั่นครืน แสงสมบัติไตรมรรคบนแท่นมรรคโบราณหนาทึบ กระจายเสียงธรรมมหามรรคอยู่รางๆ ศักดิ์สิทธิ์เหลือประมาณ

ไม่มีใครคาดคิดได้ว่าพลังของหลินสวินในตอนนี้จะน่ากลัวปานใด มรรคาที่เขาเหยียบย่างจะร้ายกาจเพียงไหน!

ตูม!

เพียงครู่สั้นๆ เท่านั้น ธิดาเทพหลินหลางก็ถูกโจมตีจนล่าถอย หากไม่ได้ระฆังสำริดสีเลือดปกป้องไว้ อาศัยเพียงการโจมตีนี้ก็สามารถทำให้บาดเจ็บสาหัสได้

แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้นางก็ยังกระอักเลือดอย่างห้ามไม่อยู่ สีหน้ายิ่งหนักอึ้งเยียบเย็น

“ฆ่า!”

อวี่เซียวเซิงตะคอกลั่น องอาจเกินผู้ใด ทวนกระดูกมังกรแผ่ลายมรรคยิ่งใหญ่ไพศาล เข้าสู้ดุเดือดกับหลินสวิน จิตสังหารไหลบ่าราวกระแสน้ำ

เพียงแต่ไม่นานเขาก็ทานไม่อยู่ต้องถอยหนี สาเหตุก็เพราพลังหมัดของหลินสวินทรงพลังเกินไป ดูเหมือนบางเบาไม่มีไอควัน แต่แท้จริงกลับเต็มไปด้วยพลานุภาพทลายฟ้าดิน ทำให้เขาไม่กล้าเข้าปะทะด้วย

เหตุใดถึงแข็งแกร่งปานนี้!?

สีหน้าของเขาก็ยิ่งเหยเกอึมครึม

เวลานี้ไม่เพียงเขากับหลินหลาง บุตรเทพและธิดาเทพคนอื่นก็ล้วนเป็นเช่นนี้ พวกเขาร่วมมือกัน แข็งแกร่งเพียงไหน แต่กลับไม่อาจกำราบหลินสวิน ทั้งยังถูกอีกฝ่ายโจมตีกดดันอย่างต่อเนื่อง นี่พาให้พวกเขาก็รู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจ

นี่เป็นสัตว์ประหลาดเช่นไรกัน

เพิ่งบรรลุระดับหยั่งสัจจะเท่านั้น ทั้งการตามล่าสังหารก่อนหน้านี้ก็เกือบถูกฆ่าตาย เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย

แต่ชั่วพริบตาเขาก็ฟื้นตัวขึ้นมา อีกทั้งพลังต่อสู้ก็น่ากลัวยิ่งกว่าแต่ก่อน นี่ช่างเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย!

“ทุกท่าน หากไม่กำจัดเด็กนี่ ภายหลังไม่ว่าใครก็ล้วนอยู่ใต้เงามืดของเขา พวกเจ้าจะยอมได้หรือ”

อวี่เซียวเซิงส่งเสียงร้องยาว ปลุกเร้าให้ทุกคนสำแดงพลังทั้งหมด หาไม่แล้วผลลัพธ์ยากคาดเดาได้!

“ฆ่า!”

เขาสำแดงท่าไม้ตายก่อนใครเพื่อน ก็เห็นว่าทวนกระดูกมังกรปรากฏเงามายาบรรพตลูกแล้วลูกเล่าสลับซับซ้อนกัน กดทับห้วงอากาศ!

มองออกไปไกล เขาในเวลานี้เหมือนผลักทิวเขาให้เคลื่อนที่ ทั้งร่างเจิดจ้า ช่างเหมือนเทวราชองค์หนึ่งกำลังเคลื่อนบรรพตพลิกคีรี!

ทุกคนล้วนชำเลืองมอง ไหวหวั่นไม่หยุดหย่อน เป็นพลังแบบไหนกัน ช่างน่าอกสั่นขวัญแขวนนัก

ตูม!

หลินสวินเข้าประจันหน้ากับเขา ฟาดฝ่ามือตบบรรพตลูกหนึ่งให้แหลกสลาย ก้าวไปข้างหน้าอย่างองอาจ ประดาบกับเขาอย่างดุเดือด

ชั่วพริบตาชือน้ำแข็งก็ครวญไปถึงเก้าชั้นฟ้า ม้วนร่างแกร่งกล้าสลายภูเขาเหล่านั้นให้กลายเป็นจุณ ระเบิดเป็นฝนแสงละเอียด

การโจมตีก้นกรุของงอวี่เซียวเซิงนี้ถึงกับดูเหมือนจะถูกสลายแล้วหรือ

บุตรเทพเหล่านั้นล้วนใจหดเกร็ง ไม่กล้าเมินเฉยเลย พุ่งเข้ามาจากรอบทิศและใช้พลังเต็มที่ ไม่กล้าเฉยเมยแม้สักนิด!

ชั่วครู่เดียวเงาร่างก็ตัดข้ามกันไปทั่วฟ้าดิน แสงอัศจรรย์พวยพุ่ง พื้นที่ในขอบเขตร้อยลี้ล้วนแปรสภาพเป็นสนามรบดุเดือด

ไม่อาจไม่พูดว่าที่สามารถเป็นบุคคลชั้นบุตรเทพของแต่ละเผ่าได้ พวกอวี่เซียวเซิงแต่ละคนย่อมมีพลังมากพอให้เย่อหยิ่งได้ เป็นบุคคลชั้นยอดในรุ่นเยาว์ โดดเด่นสะดุดตาราวดวงตะวันทระนงอย่างไม่ต้องสงสัย

เวลานี้พวกเขาใช้พลังทั้งหมดพร้อมกัน สำแดงท่าไม้ตาย พลันทำให้รูปการณ์การต่อสู้พลิกผัน ล้อมหลินสวินอย่างหนาแน่นและเข้ากำราบเขา สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือดถึงขีดสุด

แต่หากคิดจะฆ่าหลินสวินกลับไม่อาจทำได้ในเวลาอันสั้น

โครม!

รุ้งเทพเต็มฟ้า สมบัติลับน่าตื่นตะลึง

นี่เป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ยากจะพบเห็น หากแพร่งพรายออกไปเกรงว่าใครก็ไม่อาจเชื่อได้ว่าหลินสวินคนเดียว ถึงกับสามารถขับเคี่ยวกับบุตรเทพกลุ่มหนึ่งได้!

ตามเวลาที่ล่วงเลยไป การประลองครั้งนี้ยิ่งรุนแรงขึ้น อันตรายหาใดเทียบ ทั้งทำให้พวกอวี่เซียวเซิง หลินหลางลอบกังวลขึ้นมา

พวกเขาไม่มีเวลาร่ำไร หากไม่รีบฆ่าหลินสวินให้ตายแล้วชิงศุภโชคที่อยู่กับตัวเขามา เช่นนั้นอีกไม่นานก็จะมีผู้แข็งแกร่งตามมามากขึ้น!

หากเป็นเช่นนั้น ทุกอย่างที่พวกเขาสละไปก่อนหน้านี้ก็จะไร้ความหมายแล้ว

“สหายยุทธ์ ขอเพียงเจ้าส่งศุภโชคที่อยู่กับตัวเจ้ามา พวกข้าจะหันกายจากไปทันที ไม่เป็นอริกับเจ้าอีกว่าอย่างไร”

บุตรเทพเผ่ากวางหยกส่งเสียงขึ้นโดยพลัน

ข้อเสนอนี้ทำให้ผู้อื่นสนใจอยู่บ้าง พวกเขาล้วนรับรู้ได้ว่า เวลานี้ต่อให้ปราบหลินสวินได้ แต่จะฆ่าเขาให้สิ้นนั้นยากมาก

ต่อให้พวกเขาไม่พอใจก็ต้องยอมรับว่าหลินสวินแข็งแกร่งเกินไป ช่างเหมือนสัตว์ประหลาดเย้ยฟ้า

“ข้าก็มีข้อเสนอให้พวกเจ้าข้อหนึ่ง ทิ้งชีวิตซะ ข้าสามารถมอบวิธีตายที่มีเกียรติให้พวกเจ้าได้!”

หลินสวินสีหน้ายิ่งนิ่งสงบเรียบเฉย ดวงตาดำเปล่งประกาย แต่ใครก็ไม่รู้ว่าในใจเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารนานแล้ว

ยามก้าวข้ามด่านเคราะห์อสนีเขาก็ถูกล้อมสังหาร ต่อมาระหว่างหนีตายยาวนานถึงสิบกว่าวันยังถูกพวกอวี่เซียวเซิงตามฆ่าไม่ว่างเว้น ผ่านอันตรายและวิกฤตไม่รู้เท่าไร ถึงกับเกือบเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้ง

ในสถานการณ์เช่นนี้หลินสวินจะทำข้อตกลงกับพวกเขาได้อย่างไร

ต่อให้ไม่เอ่ยถึงทุกอย่างนี้ เพียงเพื่อจ้าวจิ่งเซวียน เขาก็ไม่มีทางยอมทนให้เจ้าพวกนี้จากไปอย่างไร้รอยขีดข่วน!

“ดูท่า เจ้าหมายจะแตกหักกับพวกเราอย่างถึงที่สุดหรือ”

“ฮ่าๆ ช่างเป็นมนุษย์ที่เพ้อเจ้อดีนี่!”

“มัวพูดพร่ำทำเพลงอะไร ฆ่ามันเต็มกำลัง!”

ความแน่วแน่และจิตสังหารที่น้ำเสียงหลินสวินเผยให้เห็น ทำให้พวกอวี่เซียวเซิงโมโหถึงขีดสุด ลงมืออย่างน่ากลัวยิ่งขึ้น

“เจ้าหนู เจ้าต้องทนไปให้ได้นะ วันนี้หากไม่ฆ่าพวกมันให้ราบคาบ เจ้าก็จะผิดต่อทุกสิ่งที่ข้าต้องเสียสละไปเพื่อเจ้านะ”

ไกลออกไปจินตู๋อีพูดงึมงำ ที่จริงในใจเขาก็กังวลอยู่บ้าง สู้มาถึงตอนนี้ยิ่งรุนแรงและน่ากลัว ทำให้เขาสงบใจได้ยาก

ชิ้ง!

ทันใดนั้นหลินสวินที่อยู่ในสนามรบเรียกดาบหักออกมา ชั่วพริบตาอานุภาพรอบกายเขาเปลี่ยนไปอีกครั้งราวเซียนประทับดาบ ปลดปล่อยดาบหักไร้เทียมทาน

แทบจะในเวลาเดียวกัน บุตรเทพเผ่าคชามารเข้าประชิด เมื่อสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของหลินสวิน สีหน้าเขาพลันเปลี่ยนสี ขนหัวลุกเกรียว หนีไปอีกฝั่งหนึ่งโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันตรายถึงขีดสุด เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าเขาช้าไปก้าวหนึ่ง

เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นก็ดุจดวงดาราดวงแล้วดวงเล่าร่วงลงมาจากคมดาบ ราตรีนิรันดร์มาเยือน ปกคลุมรอบทิศเหมือนจะลบเลือนทุกสิ่ง

กระบวนท่าคว้าดารา!

เพียงแต่กระบวนท่าคว้าดาราในยามนี้แฝงคลื่นท่วงทำนองมรรค หลอมรวมพลังสัมบูรณ์ในระดับหยั่งสัจจะของหลินสวิน อานุภาพแตกต่างไปจากแต่ก่อนโดยสิ้นเชิงดุจแปลงโฉมใหม่

ตูม!

หมู่ดาวร่วงหล่น ราตรีนิรันดร์มาเยือน พลานุภาพช่างน่าหวาดหวั่น

บุตรเทพเผ่าคชามารส่งเสียงร้องตื่นตระหนกระคนโมโห โบกบรรทัดหยกสีเขียวเจิดจ้าที่อยู่ในมือนั้น สำแดงพลังทั้งหมดออกมาประจันหน้าราวเทหน้าตัก

แต่ทั้งร่างของเขากลับถูกแสงเทพน่ากลัวกลบจนมิด ร้องโหยหวนไล่หลังเสียงโครมครามสะเทือนฟ้าดิน

นี่ทำให้พวกอวี่เซียวเซิงล้วนใจหายวาบ สีหน้าพลันเปลี่ยนไป อยากจะช่วยก็ช่วยไม่ทันเสียแล้ว

ในชั่วพริบตา ทั่วร่างบุตรเทพเผ่าคชามารเหมือนถูกพันดาบเฉือนเนื้อเลาะกระดูก เลือดเนื้อกระเด็นว่อน เงาร่างทรุดโทรม หากไม่ได้บรรทัดหยกสีเขียวแวววาวเล่มนั้น เกรงว่าเขาคงถูกฆ่าตายคาที่ไปนานแล้ว

แม้ว่าเป็นเช่นนี้เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งเสียงหวีดร้องบ้าคลั่ง หลบหนีไปยังที่ที่ไกลออกไป

ใช่แล้ว เวลานี้บุคคลระดับบุตรเทพที่น่าเกรงขามผู้หนึ่ง เพราะภัยคุกคามถึงตายจึงหนีไปเหมือนสุนัขไร้บ้านแล้ว!

มีหรือหลินสวินจะให้เขาสมหวัง มือกระชับดาบหักตามประชิดไป

“หยุดมันไว้!”

อวี่เซียวเซิงคำราม ล้อมโจมตีหลินสวินกับผู้ฝึกปราณคนอื่น

ตูม!

ดวงตาดำของหลินสวินฉายแววเย็นเยียบ สำแดงกระบวนท่าเผาตะวันอย่างไม่ลังเล ปลดปล่อยพลังแผดเผาทำลายน่าหวั่นกลัวดุจทินกรลอยสูงขึ้นบนนภา เผาผลาญแรงกล้า!

ฟ้าดินถูกแผดเผา ห้วงอากาศบิดเบี้ยวส่งเสียงครวญ ทุกอย่างลุกไหม้ พลังนั้นน่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว เหมือนจะเผาฟ้าทำลายดิน

ท่ามกลางเสียงคำรามเดือดดาลที่ตกใจระคนโกรธแค้น พวกอวี่เซียวเซิงล้วนถูกการโจมตีนี้ซัดจนต้องถอยไป หากไม่หลบหนีอย่างยากลำบาก ก็กระอักเลือดได้รับบาดเจ็บสาหัส สภาพการณ์น่าพรั่นพรึง

เพียงการโจมตีเดียวเท่านั้น วงล้อมของกลุ่มบุตรเทพก็แตกออก!

เช่นไรถึงเรียกว่าคมดาบไร้เทียมทาน

ก็เช่นนี้อย่างไรเล่า!

หลินสวินที่ในมือถือดาบหักดูโอหังถึงเพียงนี้ ทำให้พวกเขาใจฝ่อ

แต่ทว่าบุตรเทพเผ่าคชามารได้ฉวยโอกาสนี้หนีไปแล้ว รักษาชีวิตไว้ได้อย่างโชคดี

แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสที่เขาได้รับ ต่อให้ยังอยู่ในแดนลับอสูรมารอริยะก็เลิกคิดที่จะฟื้นตัวกลับมาอีกในเวลาอันสั้นได้เลย

แล้วเช่นนี้จะสู้อย่างไร

เวลานี้พวกอวี่เซียวเซิงแต่ละคนหน้าเขียวคล้ำ ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สายตาที่มองไปยังหลินสวินนล้วนเปลี่ยนไปแล้ว

ปณิธานต่อสู้ของพวกเขาวูบไหว สภาพย่ำแย่ของบุตรเทพเผ่าคชามารทำให้พวกเขารับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของหลินสวินอย่างที่สุด เริ่มหวาดหวั่นขลาดกลัว

“ฆ่า!”

หลินสวินพุ่งประจัญบานอีกครั้ง เขาไม่ได้หยุดยั้งเลย และไม่คิดจะให้โอกาสใดๆ กับอีกฝ่ายด้วย ดาบหักพาดผ่านท้องฟ้าดุจธารดาราสายหนึ่งม้วนออกมา ดวงดาวหมุนตลบพรั่งพรู

ฟ้าดินแถบนี้สั่นระรัว การต่อสู้ดุเดือดดำเนินต่อไป

เพียงแต่ต่างจากก่อนหน้านี้ พวกอวี่เซียวเซิง หลินหลางล้วนรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว หลินสวินพลานุภาพเกรียงไกรไร้เทียมทาน แทบไม่มีใครต่อกรได้ ไม่มีทางถูกกำราบได้อีก

ที่ย่ำแย่ที่สุดก็คือ ปณิธานการต่อสู้ของพวกเขาเริ่มสั่นคลอน อย่างไรเสียก็ไม่ได้มาจากเผ่าเดียวกัน แม้ต่างร่วมมือกัน แต่เมื่อรับรู้ได้ถึงเค้าลางไม่ดี ใครจะเอาชีวิตเข้าแลกโดยไม่สนใจสิ่งใดเล่า

ตูม!

ไม่นานนักธิดาเทพเผ่ากาฬพฤกษ์ก็ถูกฟันจนแขนข้างหนึ่งขาด เลือดพุ่งกระจายราวน้ำพุ ใบหน้างามของนางพลันซีดเผือด ส่งเสียงอู้อี้ ถึงกับกัดฟันแล้วหันหน้าหนีไป

แขนขาดสามารถงอกใหม่ได้ แต่หากถูกฆ่าที่นี่ เช่นนั้นผลลัพธ์ก็ร้ายแรงไปแล้ว!

ผู้แข็งแกร่งคนอื่นรู้สึกหนาวสั่นในใจอีกระลอก ธิดาเทพเผ่ากาฬพฤกษ์สวมชุดเกราะโบราณ พลังป้องกันไร้เทียมทานแค่ไหน แต่กลับถูกหลินสวินฟันแขนขาด พ่ายแพ้จนต้องหนีไป!

“ไป!”

เวลานี้อวี่เซียวเซิงกับหลินหลาง รวมถึงบุตรเทพเผ่ากวางหยกถึงกับถอนตัวออกจากสนามรบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พุ่งหนีออกไปไกล แน่วแน่หาใดเทียบ

นี่ทำให้บุตรเทพวานรนทีที่เหลืออยู่พลันนิ่งอึ้ง เดือดดาลจนตาแดงก่ำ คำรามดุดัน “พวกขี้ขลาดฝูงหนึ่ง ข้ามาร่วมมือกับพวกเจ้านี่ช่างตามืดบอดจริงๆ!”

ที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือ เวลานี้หลินสวินกลับไม่สนใจเขา แต่สะบัดแขนเสื้อเรียกเสามังกรจตุลักษณ์ออกมา เสียงโครมหนึ่งดังขึ้น กักตัวหลินหลางที่อยู่ไกลออกไปไว้ในนั้น

ในขณะเดียวกันในมือเขาก็ปรากฏธนูวิญญาณไร้แก่นสาร เกิดเสียงดังปึง เกาทันฑ์วิญญาณไร้เสียงดอกหนึ่งพุ่งผ่านห้วงอากาศ ยิงไปยังอวี่เซียวเซิงที่อยู่ไกลออกไป

ตั้งแต่นำเสามังกรจตุลักษณ์ออกมาจนยิงธนูวิญญาณไร้แก่นสาร แทบจะเสร็จสิ้นในชั่วอึดใจเดียว รวดเร็วจนคาดไม่ถึง

ความรวดเร็วของการเคลื่อนไหวนั้นพาให้บุตรเทพวานรนทีมองเหม่อ ในสมองปรากฏความคิดที่อธิบายไม่ถูกความคิดหนึ่งว่า

คงไม่ใช่ว่าเจ้าหมอนี่คาดการณ์ได้นานแล้วว่าจะเกิดภาพตรงหน้าขึ้น จึงเตรียมตัวซุ่มสังหารล่วงหน้ากระมัง

——