ตอนที่ 969 วิธีเอาคืน

Elixir Supplier

969 วิธีเอาคืน

เมื่อเวลาผ่านไปบรรยากาศคึกครื้นของงานเทศกาลก็เริ่มจางลง ไม่นานวันหยุดก็หมดลงผู้คนต่างเริ่มกลับไปทํางานและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราและต้องดําเนินชีวิตกันต่อไป

ในเวลานี้ การเริ่มต้นของปีใหม่มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์มากยิ่งขึ้น

กั๋วซือหรงอยู่ที่หมู่บ้านต่ออีกสองวันเธอกลับไปพร้อมกับร่างกายที่หายกลับมาเป็นปกติร่างกายของเธอกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม หลังจากได้พักฟื้นเป็นเวลาสองวันสีหน้าของเธอก็ดีขึ้นมาก

“ขอบคุณขอบคุณมากนะ”กั่วซือหรงพูด

“ไม่เป็นไรครับ”หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม

“ฉันกลับก่อนนะ”

“เดินทางปลอดภัยนะซือหรง”ซูเสี่ยวซวีพูด

“จ๊ะ”

ถั่วซือหรงเดินทางกลับเธอมาคนเดียวและกลับไปคนเดียวมันทําให้เธอดูโดดเดี่ยว“ตระกูลของเธอจัดการเรื่องการแต่งงานเอาไว้ให้เธอแล้วแต่เธอไม่ชอบมันเลย”ซูเสี่ยวซวีพูดขึ้นมาในตอนที่มองส่งกั๋วซือหรง

“อย่างนั้นเหรอ?” หวังเย้าถาม “แล้วเธอได้ปฏิเสธรึเปล่า?”

“อยู่ในตระกูลแบบนั้น บางเรื่องเธอก็ตัดสินใจเองไม่ได้หรอกค่ะ”ซูเสี่ยวซวีตอบเรื่องนี้ทําให้เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากเมื่อเป็นเรื่องการแต่งงานของเธอความคิดของคนในตระกูลเธอนั้นต่างไปจากคนในตระกูลใหญ่ๆอีกหลายตระกูลมันอาจจะเกี่ยวกับการที่เธอผ่านอะไรมามากด้วย

ก็ได้เธอจึงไม่จําเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูล“ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง”หวังเย้าพูด“ดูเหมือนว่าการมีชีวิตเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองที่ น้อยคนจะมีโอกาสก็มีสิ่งที่ต้องแบกรับอย่างที่ใครหลายคนไม่สามารถจินตนาการได้”“เป็นความจริงค่ะ”

“เราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่านะ”หวังเย้าพูด“เธออยากไปเที่ยวที่ไหนไหม?”“ฉันอยากขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานค่ะ”ซูเสี่ยวซวีตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกัน”

ซูเสี่ยวซวีชื่นชอบเนินเขาหนานชานเป็นพิเศษแต่ที่เธอชอบที่สุดก็คือการที่เธอได้ใช้เวลาอยู่กับหวังเย้าตามลําพังทั่วทั้งภูเขากลายเป็นโลกของพวกเขาแค่สองคน

บนเขา มีต้นไม้ ผลไม้ นก และแมลง

ทั้งสองใช้เวลาร่วมกันอยู่บนเขา พวกเขาพูดคุยและชื่นชมทัศนียภาพรอบด้านพวกเขาไม่รู้สึกเบื่อหรือหงุดหงิดที่ใช้เวลาทั้งวันไปกับเรื่องนี้เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในเทียนจินที่ห่างออกไปหลายพันไมล์

มันดีจริงๆที่ยังมีชีวิตอยู่!

เดี่ยวเฉิงถางคิดกับตัวเอง

“นายกําจัดไปได้แล้วเหรอ?”เมี่ยวชิงหยวนค่อนข้างประหลาดใจในตอนที่เขาได้มาเจอหน้าเมี่ยวเฉิงถางอีกครั้ง

เมี่ยวชิงหยวนรู้ดีว่า กู่ที่มาจากหุบเขานั้นร้ายกาจขนาดไหนจากที่เขารู้มา นอกจากคนใน หุบเขาแล้ว ก็มีเพียงหวูซานที่อยู่ในเขตเมี่ยวเท่านั้นที่มีความเข้าใจในเรื่องของกู่และพิษเป็นอย่างดีนั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายเคยร่ำเรียนอยู่ในหุบเขามาก่อนหรือพูดให้ชัดก็คือเขาถือได้ว่าเป็นศิษย์น้องของเมี่ยวซีเหอเขาได้ศึกษาอยู่ภายใต้การสั่งสอนของอดีตผู้นําเป็นเวลานานยิ่งไปกว่านั้นหวูซานยังเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์สูงมากจนทําให้เขาได้รับความเอ็นดูจากอดีตผู้นําแต่นั่นเป็นทั้งหมดที่เขารู้มาเขาไม่เคยได้เห็นกับตาตัวเองมาก่อน

“ฉันหายแล้ว”

“นายไปรักษากับราชายาของเขตเมี่ยวมาเหรอ?” เดี่ยวชิงหยวนถาม “ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่น”เมี่ยวเฉิงถางพูดด้วยรอยยิ้ม

เขาสนิทสนมกับเคี่ยวชิงหยวนมากขึ้นโดยเฉพาะหลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับเขาแล้วพวกเขายังมาจากหุบเขาเหมือนกันด้วย เมี่ยวชิงหยวนต้องเสี่ยงกับการถูกคนจากหุบเขาพบตัวและต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะถูกพวกเขาทําร้ายจากการที่เขามาหาเมี่ยวเฉิงถางเมี่ยวชิงหยวนถือได้ว่าเป็นคนดีที่น่าคบหาคนหนึ่ง

การมาจากถิ่นกําเนิดเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเพื่อนตายของกันและกันได้เสมอไป

“ยังมีคนอื่นนอกจากหวูซานกับคนในหุบเขาที่สามารถรักษากู่ได้อยู่อีกงั้นเหรอ?”

“ใช่” เมี่ยวเฉิงถางพูด “บอกตามตรง ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ แต่คนคนนั้นเป็นของจริงที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นก็คือแค่มองแวบเดียวเขาก็บอกได้แล้วว่าฉันถูกใช้กู่โดยที่เขาไม่จําเป็นต้องตรวจอะไรฉันเลยแล้วเขาก็จัดการกู่ได้ด้วยยาแค่ถ้วยเดียวเท่านั้นมันดูเป็นเรื่องง่ายสําหรับเขามากมัน

เหมือนกับเป็นแค่งานทั่วๆไปสําหรับเขาเท่านั้นและไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย”

“จริงเหรอ? แล้วเขาอยู่ที่ไหน?”เมี่ยวชิงหยวนถาม

“อยู่ในหมู่บ้านทางภาคเหนือ”

“ภาคเหนือ?” เมี่ยวชิงหยวนประหลาดใจเมื่อได้ยินว่าชายคนนั้นอยู่ทางภาคเหนือ “ใช่เขาอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆในจังหวัดฉีเป็นหมออายุยังน้อยที่เก่งมาก” “หมออายุน้อย?”

“ใช่ เขาดูเหมือนจะอายุแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้นเอง”

“ยิ่งนายพูดเรื่องเขามากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก” เมี่ยวชิงหยวนพูด“ไม่ใช่แค่นายที่คิดแบบนั้นหรอก”เมี่ยวเฉิงถางพูด“ขนาดฉันที่เจอเองกับตัวก็ยังรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อมากมันน่าตกใจมากที่คนอายุน้อยอย่างเขากลับมีความสามารถมากขนาดนั้นได้”

เมื่อเขานึกถึงเรื่องทั้งหมดเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นดูเหมือนไม่ใช่เรื่องจริงสําหรับเขาเลยด้วย

“ไม่ว่ายังไง ฉันก็ยังมีชีวิตอยู่”เมี่ยวเฉิงถางพูดอย่างมีความสุข

“แล้วจะหายังไงต่อไป?นายจะไปจากที่นี่รึเปล่า?”

“ไปจากที่นี่? ทําไมฉันต้องไปด้วย?”เมี่ยวเฉิงถางถาม

“ในเมื่อพวกเขารู้ว่านายอยู่ที่นี่และใช้กู่กับนายไปแล้วฉันว่าอีกไม่นานพวกเขาก็คงจะย้อนกลับมาเพื่อดูว่านายตายรึยัง” เมี่ยวชิงหยวนพูด“ถ้านายยังไม่ตายพวกเขาก็คงจะใช้กู่กับนายอีกครั้งหรือไม่ก็วางยาพิษนายแทน”

“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ทําได้แค่ซ่อนตัวและปล่อยให้พวกเขาทําตามใจอย่างนั้นเหรอ?”เมี่ยวเฉิงถางถาม

เขาคิดเกี่ยวกับปัญหานี้มาได้หลายวันแล้ว

“แล้วนายคิดจะทํายังไง?”

หลังจากเงียบไปนาน เมี่ยวเฉิงถางก็พูดขึ้นมาว่า“ฉันจะเอาคืน

“เอาคืน? ยังไง?” เมี่ยวชิงหยวนประหลาดใจมากเมื่อก่อนเขาเคยคิดถึงเรื่องการแก้แค้นแต่ชายตรงหน้าก็คือคนที่พูดโน้มน้าวเขาให้เห็นความสําคัญของชีวิตแต่ทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ตอนนี้ชายตรงหน้าเขากําลังคิดถึงเรื่องการแก้แค้นอยู่

“ฉันยังคิดหาวิธีการดีดีไม่ได้ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันรู้ก็คือ ฉันทําเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้ฉันต้องการให้เสวี่ยซินหยวนกับคนที่อยู่เบื้องหลังเขาเป็นคนลงมือนายอาจจะยังไม่รู้เรื่องนี้แต่ตอนนี้เขตเหอเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้งแล้ว”

“อีกแล้วเหรอ?”

“ใช่ ลูกชายของเมี่ยวซีเหอเกือบไปปู้ยี่ปู้ยําผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ดันไม่ใช่คนธรรมดาด้วย”

“เธอเป็นคนของตระกูลกั่วเหรอ?”

“ใช่ เธอเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลถั่ว”

“โฮ้ ใครๆก็รู้ว่าเมี่ยวซีเหอเข้มงวดกับลูกของเขามาก”เมี่ยวชิงหยวนพูด “หลังจากที่เกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเมี่ยวฉางเชิงก็น่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนแล้วทําไมอยู่ๆเมี่ยวฉางเชิงที่ ติดตามพ่อของเขาออกไปข้างนอกถึงได้ไปท่าเรื่องโง่ๆแบบนั้นได้ล่ะ? ว่าผู้หญิงจากตระกูลถั่วคนนั้นหน้าตาดีจนเขาอดใจไม่ไหวขึ้นมา?”

“ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดของเรื่องนี้เหมือนกันแต่ผู้ว่าเขตยั่วโมโหมาก”เมี่ยวเฉิงถางพูด“เรื่องนี้ฉันมั่นใจมากหลังจากเกิดเรื่องขึ้นเสวี่ยซินหยวนก็รีบมาหาฉันทันทีแล้วเขาก็ถามเรื่องทุกอย่างที่ฉันรู้เกี่ยวกับเมี่ยวฉางเชิง”

“แล้วเขาจะทําอะไรไหม?

“ฉันว่าน่าจะเป็นไปได้ยากตอนนี้เขาคงไม่ทําอะไรเพราะพวกเขายังจัดการเดี่ยวเทียนชวนไม่ได้ตอนช่วงตรุษจีนในเขตเหอก็โดนวางยาพิษกันไปหลายคนที่ผู้ว่าเขตกั๋วรอดมาได้ก็ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากเดี่ยวซีเหอพวกเขาไม่มีทางฟาดฟันกันเองจนกว่าจะจัดการกับเกี่ยว
เทียนชวนได้”

การวิเคราะห์ของเมี่ยวเฉิงถางค่อนข้างแม่นยําา

“พวกเขาจะยังรักษาความสัมพันธ์แบบนี้ไปอีกนาน แล้วการจับหรือฆ่าเมี่ยวเทียนชวนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย”

“ใช่ ก่อนหน้านั้น ฉันต้องมีชีวิตรอดไปให้ได้ก่อนด้วย” เดี๋ยวเฉิงถางพูด

“แล้วฉันก็ต้องคิดหาวิธีทําให้เมี่ยวซีเหอทําพลาดอีกครั้ง”

“ยังไง?”

“ก็อย่างเช่น ทําให้เรื่องมันเกิดขึ้นที่เทียนจินแทนยังไงล่ะ” เมี่ยวเฉิงถางพูด“นายหมายความว่ายังไง?” เมี่ยวชิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น

เทียนจินนั้นเป็นเมืองใหญ่ซึ่งต่างจากเขตเหอ มันเป็นมหานครที่ต่างชาติพากันเดินทางมาท่องเที่ยว ถ้าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในเขตเหอเกิดขึ้นในเทียนจินผลกระทบที่เกิดขึ้นจะร้ายแรงกว่ามากความเสียหายและการรับมือกับปัญหาจะยากกว่าการจัดการในเขตเหออีกหลายเท่า

“มันจะไม่เป็นการทําร้ายคนบริสุทธิ์เหรอ?” เมี่ยวชิงหยวนถาม

“ฉันจะพยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ตอนนี้เราก็รอกันไปก่อน” เมี่ยวเฉิงถางพูด

เขาคิดจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ เขาต้องการหลอกล่อคนจากหุบเขาออกมาและทําให้พวกเขาทําพลาดอีกครั้ง บังคับให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิม

“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องมาหาฉันอีก” เมี่ยวเฉิงถางพูด “นายกับคนที่บ้านจะซวยเอาได้

“มิตรภาพของนายฉันจะเก็บมันเอาไว้ในใจเสมอ” ทุกคําพูดคือความจริงจากใจเขา

“เรามาจากหุบเขาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? แต่ดูนายสิ ชีวิตของนายมีแต่เรื่องวุ่นวายนายใช้ความพยายามไปมากเพื่อให้ได้มาอยู่ที่นี่ แล้วนายยังต้องมาใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัวอยู่อีก”

เดี่ยวชิงหยวนพูดด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

มันคงเป็นเรื่องโกหกถ้าเขาบอกว่าเขาไม่กังวลเลย เขากังวลมากว่าเขาจะนําพาครอบครัว

เข้าไปสู่วังวนของความวุ่นวายนี้ การลงโทษจากคนในหุบเขานั้นรุนแรงจนทําให้ต้องร้องขอความตาย

“ทนอีกสักหน่อยนะ” เมี่ยวเฉิงถางพูดด้วยน้ําเสียงที่ดูสิ้นหวัง มันไม่มีอะไรที่เขาทําได้เลย และมันก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ

สถานการณ์ไม่ได้เข้าข้างเขา ถ้าเขายังดึงดันที่จะแก้แค้น มันก็มีแต่จะเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองเท่านั้น

ในตอนที่เมี่ยวเฉิงถางกับเดี่ยวชิงหยวนคิดวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆอยู่นั้น ข่าวที่เมี่ยวเฉิงถาง

รอดชีวิตจากกู่ก็ถูกส่งกลับไปยังหุบเขาพันโอสถอย่างรวดเร็ว

“เขายังไม่ตาย?”

“ใช่ครับ”

“มีคนช่วยเขาจัดการกับกู่อย่างนั้นเหรอ?”

“หรือจะเป็นอาจารย์อา?”

“ดูเหมือนว่าจะมีแค่เขาเท่านั้นที่ทําเรื่องนี้ได้ แต่ตามหลักแล้ว มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น”เมี่ยวซีเหอพูด

“ถ้าอย่างนั้นก็วางยาพิษเขาอีกครั้ง แล้วคอยจับตาดูเขาเอาไว้ มาดูกันว่าใครที่เป็นคนรักษาเขา”

“ได้ครับ”