ตอนที่ 243 กลับบ้าน

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 243 กลับบ้าน

 

พรึบ..พรึบ..ปีกมหึมาของไก่ฟ้าหงอนทองกระพือไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมร่างของราชาอีก 3 ตนและหลานชายของพวกมันไปจูเหวินนั่งอยู่บนหลังนอกจากนี้พวกมันยังได้แขกไม่ได้รับเชิญมาอีก 1 คนกับอีก 1 ตน นั่นคือแม่มดขาวนอกจากนางจะเป็นศัตรูกับอาณาจักร ชน์และอาณาจักรอื่นๆแล้วนางยังโดนอาณาจักรโรเน่ห์มายหัวว่าเป็นคนทรยศอีกต่างหากสุดท้ายนางเลยอ้อนวอนให้ราชสีห์เพลิงพานางกลับมาด้วยส่วนแขกอีกตนนั้นก็คือพยัคฆ์เมฆาแทบจะเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่อสูรจะต้านทานความรู้สึกที่มีต่อไปจูเหวินไม่ว่าจะแสดงออกมาในรูปแบบใดการที่นางขอร้องให้พานางติดตามไปจูเหวินมาด้วยนั้นจึงไม่ใช่เรื่องประหลาดเลย

 

“เจ้ามองหาอะไรงั้นเหรอ” พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองไปจูเหวินที่กําลังมองไปรอบๆด้วยดวงตาสีน้ําเงินซึ่งมีผลทําให้มันมองไกลขึ้น

 

“เปล่าขอรับ”ไปจูเหวินตอบพลางยิ้มเจื่อนๆ

 

“จูเอ๋อ เจ้าคิดว่าข้าเป็นน้าของเจ้ามากี่ปีกันบอกข้ามาว่าเจ้ามองหาอะไร” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางหยิกแก้มไปจูเหวินด้วยท่าที่หมั่นเขี้ยว

 

“ขะ ขอรับ”ไปจูเหวินนวดแก้มตนเองพักหนึ่งพลางมองกลับไปยังทะเลของอาณาจักรไชน์

 

“ในความทรงจําของข้า ข้าเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่กําลังอุ้มข้าเอาไว้ข้าได้เห็นว่าชายคนนั้นอยู่ที่ไหนแต่ข้าก็ไม่รู้จักที่นั่นอยู่ดี”ไปจูเหวินตอบด้วยใบหน้าครุ่นคิด ความจริงมันยังไม่อยากบอกเรื่องนี้กับพวกท่านน้าเท่าไหร่เพราะมันกลัวว่าท่านน้าจะไม่พอใจที่มันเอาแต่คิดถึงคนที่อาจจะเป็นบิดาของมันก็ได้

 

“เจ้านึกออกจริงๆสินะ” จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางถอหนายใจออกมาไม่ใช่เรื่องเกินคาดแต่อย่างไรที่ความทรงจําของไปจูเหวินก่อนหน้าจะมาอยู่กับพวกมันจะถูกกระตุ้นด้วยเทียนหอมแรกเกิดไปด้วยแค่ได้เห็นท่าที่หนักใจของไปจูเหวินตอนได้ความทรงจํากลับมาพวกมันก็ เข้าใจแล้ว

 

“แล้ว ผู้ชายคนนั้นคือพ่อของเจ้างั้นเหรอ” ราชสีห์เพลิงถามพลางตบบ่าไปจูเหวินเบาๆ พวกมันไม่ได้ใจแคบขนาดไม่ยอมปล่อยไปจูเหวินไปหรอกไม่อย่างนั้นมันคงไม่ยอมให้ไปจูเหวินออกจากเขตอสูรแล้วไปสํารวจโลกมนุษย์ตั้งแต่แรกแล้ว

 

“ข้าเองก็ไม่ทราบขอรับ เพียงแต่ยอดเขาที่ชายคนนั้นอยู่เป็นยอดเขาที่สูงมาก ข้าจําได้ว่าตรงส่วนยอดมีบ่อน้ําแห่งหนึ่งด้วยขอรับ” ไปจูเหวินบอกรายระเอียดได้แค่นั้นเพ ราะยอดเขาที่เห็นในความทรงจํามันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆนออกจากบ่อน้ําบนยอดเขาที่เหมือนถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์แล้วนอกนั้นก็เหมือนภูเขาธรรมดาทั่วไป

 

“ที่แบบนั้นมีเป็นร้อยๆที่เลยมั้ง” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางแสดงสีหน้าครุ่นคิดแม้แต่ในเขตอสุรของพวกมันก็มียอดเขาที่มีบ่อน้ําอยู่ด้านบนหลายแห่งหากนับทั้งแผ่นดินคงเจอยอดเขาเช่นนั้นนับร้อยนับพันแห่ง

 

“ขอรับ ข้าเลยไม่มราบจะหาสถานที่แห่งนั้นอย่างไร” แทบไม่ต้องพูดกันเลยว่าไปจูเหวินอยากตามหาชาย คนนั้นหรือไม่นี่คือความทรงจําของมันเองเชียวนะบางทีมันอาจจะได้เจอพ่อหรือแม่ก็เป็นได้แต่เดิมไปจูเหวินออกไปสํารวจโลกมนุษย์เพราะความอยากรู้เท่านั้นแต่คราวนี้มันกําลังตามหาผู้ให้กําเนิดของตนเองมันเองก็อยากจะท ราบว่าจริงๆแล้วมันเป็นใครมาจากไหนแม้จะทราบแล้วว่าความสามารถดึงดูดอสูรของตนมาจากหวังเฉียนผู้ที่น่าจะเป็นมารดาของมันแล้วความสามารถอื่นๆนั้นมาจากไหนกัน ตั้งแต่เด็กแล้วไปจูเหวินเรียนรู้ได้เร็วและมีความทรงจําดีเยี่ยมบางที่ความสามารถนั้นอาจจะมาจากฝั่งพ่อก็เป็นได้แล้วแบบนั้นใครกันที่เป็นพ่อของมัน

 

“…” แม้จะได้ทราบความทรงจําแล้ว แต่ไปจูเหวินก็ยังกังวลว่าชายคนนั้นจะยังอยู่ที่เขาลูกนั้นหรือไม่แถมไปจูเหวินยังไม่ทราบอีกด้วยว่าชายคนนั้นจะยังมีชีวิตรอดหรือไม่เห็นได้ชัดเลยว่าชายคนนั้นโดนกลุ่มคนไล่ตามมาแถมหนึ่งในนั้นยังเป็นคนฆ่าอสูรปักษาที่พาไปจูเหวินหนีมาอีกต่างหากแสดงว่าฝีมือของพวกมันนั้นไม่ใช่ธรรมดาบางที่การไปที่ยอดเขานั่นอาจจะได้เจอเพียงศพของชายคนนั้นก็ได้

 

“อย่าพึ่งคิดมากเลย ตอนนี้เจ้ากลับไปหาพวกหลินหลินก่อนเถอะพวกนางเป็นห่วงเจ้ากันมากเลยนะ”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางร่อนลงไปยังเขตอสูรผาไร้กันซึ่งที่หมาย ของพวกมันก็คือเมืองจําลองกลางเขตอสูรนั้นเอง

 

“หวา ที่นี่มันปาลึกลับไม่ใช่หรือ” แม่มดขาวว่าพลางเกาะขนของไก่ฟ้าหงอนทองแน่นอาณาจักรของนางเองก็เคยเดินทางมาที่นี่และทหารก็ถูกขัดการด้วยอสูรของที่นี่ไปจนหมดเช่นกัน

 

“ถูกต้อง และที่นี่ก็คือบ้านของเราด้วย” ราชสีห์เพลิงว่าพลางกระโดดลงไปยืนบนพื้นอย่างรวดเร็วนานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้กลับมาบ้านมันไม่เคยออกจากเขตอสูรนานเช่นนี้มาก่อนเลย

 

“ท่าทางที่นี่จะยังปรอดภัยสินะ” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางกระโดดลงมาตามเช่นกันแม้จะมีโอกาสน้อยมากที่จะมีใครกล้ามาบุกเขตอสูรผาไร้กันแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลยเสียหน่อย

 

“ไปกันเถอะจูเอ๋อ น้ามังกรของเจ้าคงนั่งไม่ติดมาหลายเดือนแล้ว” พูดจบไก่ฟ้าหงอนทองก็กลายร่างเป็นมนุษย์แล้วเดินเข้าไปในปราสาทของมังกรธรณีทันที

 

“จูเอ๋อ เจ้ายังปรอดภัยจริงๆ”มังกรธรณีสัมผัสพลังของไปจูเหวินได้ก็แทบจะวิ่งออกมาจากบ้านทันทีมันเป็นคนเดียวที่โดนห้ามไม่ให้ออกจากเขตอสูรไปตามหาไปจูเหวิน ทําให้มันนั่งกังวลอยู่หลายเดือน

 

“พี่ไป/คุณชาย” เสียงของเหล่าแมงมุมของไปจูเหวินเองก็แทบจะดังตามมังกรธรณีมาติดๆ แม้จะมีปิงปิงที่ไม่ได้พูดอะไรแต่นางก็เป็นอสูรแมงมุมตนแรกที่เข้ามาถึงตัวไปจูเหวินเสียด้วยซ้ํา

 

“ข้ากลับมาแล้วขอรับ”ไปจูเหวินยิ้มพลางรับอ้อมกอดของทุกคนเอาไว้อย่างมีความสุข

 

“นายน้อยย/นายน้อย/นายน้อยยยยย”แม้เขตวังของมังกรธรณีจะห้ามเหล่าอสูรทั่วไปเข้า แต่พอรู้ว่าไปจูเหวินกลับมาแล้วเหล่าอสูรในแต่ละถิ่นก็แทบจะเข้ามาล้อมเมืองจําลองของพวกราชาเอาไว้จนแทบจะบดบังท้องฟ้าไปจนหมดภาพที่เห็นตรงหน้านั้นทําเอาแม่มดขาวขนลุกซู่ทันที

 

กกกก….อยู่ๆที่ด้านหลังของมังกรธรณีก็ปรากฏร่างของเด็กสาวคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมราชินีมังกรนางเป็นเด็กสาวอายุราวๆ 3 หรือ 4 ขวบเรียกได้ว่าสามารถเดินได้และพูดจาได้ในระดับหนึ่งแต่ที่ทําให้ไปจูเหวินสนใจในตัวนางก็คือปีกสีขาว 6 ปีกบนหลังของนางมันมีลักษณะแข็งและเงาลื่นราวกับหินอ่อนหากไม่เห็นมันขยับน้อยๆไปจูเหวินต้องคิดว่ามันเป็นของประดับเสียอีก

 

“นั่นมัน…”ไปจูเหวินชะงักค้างไปพักหนึ่งพลางมองนางด้วยท่าทางประหลาดใจ แน่นอนว่าไปจูเหวินไม่เคยเห็นนางมาก่อนแต่เห็นได้ชัดเลยว่าพลังอสูรในร่างของนางเหมือนกับไข่ของราชินีมังกรไม่มีผิด

 

“สวัสดีท่านพี่ของลูกสิจะ” ราชินีมังกรหัวเราะพลางพาเด็กสาวท่าทางขอายเดินมาทางไปจูเหวิน

 

“ท่านพี่” เด็กสาวพูดพลางหันไปมองราชินีมังกรด้วยท่าที่กล้าๆกลัวๆ

 

“ต้องเรียกพี่ไปสิ” หลินหลินว่าพลางยิ้มกว้าง ท่าทางตอนที่ไปจูเหวินไม่อยู่ไข่ของราชินีมังกรจะฟักออกมาแล้วแถมยังเป็นมังกรมีปีกที่มีร่างกายเหมือนหินอ่อนอีกต่างหาก

 

“พี่ไป”เด็กสาวเอียงคออย่างประหลาดใจพลางชี้นิ้วมาที่หนาตนเอง

 

“ใช่ พี่ไปชื่อเหมือนไปไปเลย”ราชินีมังกรยิ้มพลางลูบผมสีขาวของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน

 

“ไปไป?”ไปจูเหวินถามพลางมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างประหลาดเส้นผมและผิวต่างเป็นสีขาวสะอาดแม้แต่ดวงตาเองยังเป็นสีเทาปนขาวจนดูจาวไปทั้งตัวหากดูจากปีกของนางแล้วร่างจริงของนางอาจจะเป็นมังกรที่มีร่างกายเป็นหินอ่อนก็เป็นได้นี่คือผลจากการมีลูกระหว่างมังกรมีปีกกับมังกรดินงั้นหรือ

 

“ชื่อของเด็กคนนี้ไง” มังกรธรณีตอบพลางลูบหัวไปจูเหวินเบาๆ

 

“เจ้ากลายเป็นพี่ชานจริงๆแล้วนะ” พูดจบมังกรธรณีก็อุ้มไปไปขึ้นมาพลางส่งนางให้ไปจูเหวินราวกับอ ยากให้ไปจูเหวินลองอุ้มดู

 

“…”แม้ภายนอกจะน่ารัก แต่พออุ้มดูแล้วปรากฏว่าร่างของไปไปหนักมากจนน่าตกใจ แต่ด้วยกําลังแขนของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไร

 

“ท่านพ่อ”ไปไปที่อยู่ในอ้อมแขนของไปจูเหวินพูดพลางใช้ดงตาของนางมองไปจูเหวินนิ่ง

 

“มีอะไรเหรอไปไป” มังกรธรณีถามพลางมองบุตรสาวอย่างอ่อนโยน

 

“ข้าจะแต่งงานกับพี่ไป” เด็กสาวผู้ไม่รู้ความพูดพลางยิ้มกว้างแม้จะเป็นบุตรสาวของท่านน้าและเป็นผู้สืบทอดของอสุรระดับบรรพกาลและมายาแต่นางก็ไม่อาจหลุดพ้นจากความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรของไปจูเหวินได้เลย

 

“ไม่ได้”เสียงตอบไม่ได้มาจากมังกรธรณี แต่เป็นเสียงตอบจากหลินหลินต่างหาก

 

“พี่ไปเป็นของพวกเรานะ ไปไปห้ามเก็บเอาไว้คนเดียว” หลินหลินว่าพลางทําสีหน้าไม่พอใจ กลายเป็นเหมือนเด็กๆกําลังแย่งของเล่นกันเสียแล้ว

 

“ไม่เอาไปไปชอบพี่ไป”ไปไปว่าพลางส่ายหน้าน้อยๆ

 

“พี่หลินเองก็ชอบพี่ไปเหมือนกัน ไม่ ยอมยกให้ไปไปหรอก”หลินหลินว่าพลางกอดไปจูเหวินเอา ไว้จากอีกด้าน

 

หมับ…ที่อีกด้านของไปจูเหวินก็มีปิงปิงกอดเอาไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรไม่ทราบทําไมรอบๆตัวไปจูเหวินถึงมีอสูรน้อย มาวนเวียนอยู่ไม่ห่างก็ไม่ทราบ

 

“พวกเจ้านี่จริงๆเลย” ราชินีมังกรว่าพลางจับพาลูกสาวตนเองออกมานางก็เข้าใจนะว่าพลังของไปจูเหวินรุนแรงมากแต่ให้รักกันตามประสาพี่น้องนางก็เข้าใจได้แต่จะให้ แต่งงานนี้คงไม่ไหวถึงออย่างไรไปจูเหวินก็เป็นมนุษย์ไม่มีทางอยู่กับอสูรในฐานะสามีได้หรอก

 

“ไม่ต้องคิดมากหรอก นางแค่พูดออกมาตามประสาเด็กนะ” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางตบบ่ามังกรธรณีที่นิ่งไปตั้งแต่เมื่อครู่เบาๆ

 

“ไว้ถึงคราวลูกสาวเจ้าบ้างเถอะ”มังกรธรณีว่าพลางจ้องพยัคฆ์อัสนีนิ่ง

 

“คงอีกนานล่ะ ข้าไม่คิดจะมีคู่ครองหรอกนะ” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

 

“ไม่ใช่ว่าเจ้าพาหญิงเข้าบ้านแล้วหรอกหรือ”มังกรธรณีถามพลางมองไปทางพยัคฆ์เมฆา พวกมันต่างโตๆกันแล้วจะ มีคู่ครองก็ไม่ใช่เรื่องแปลกมันเห็นพยัคฆ์เมฆาตามพวกรา ชาคนอื่นๆมาต้อยๆนึกว่าเจ้าพยัคฆ์อัสนี้จะพาน้องสะใภ้มาพบเสียอีก

 

“ข้าเนี่ยนะ…” พยัคฆ์เมฆาว่าพลางเบิกตากว้าง

 

“ข้าแค่ตามเพิร์ล…หมายถึงจูเอื้อมาเฉยๆเท่านั้นเอง ข้าไม่มีทางไปสนใจเจ้าคนบ้าพลังที่ชอบทําอะไรประเจิดประเจ้อนั่นหรอก”พยัคฆ์เมฆาว่าพลางค้อนพยัคฆ์อัสนีจนตาคว่ํา

 

“สหาย ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนโผงผาง แต่เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนนะ”มังกรธรณีถอนหายใจพลางกระซิบที่ข้าๆหูพยัคฆ์อัสนี้เบาๆ