ตอนที่ 244 ช่วยเหลือผู้อื่น

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 244 ช่วยเหลือผู้อื่น

 

“ที่นั่งั้นเหรอ”ต้าชิงว่าพลางเปิดแผนที่ในมือตนเองขึ้นมาอ่านแต่เพราะแผนที่มีขนาดใหญ่กว่าแต่ก่อนมากทําให้ต้าชิงไม่มั่นใจในการนําทางของตนเองเลย

 

“ใช่แล้วขอรับ เป็นที่นี่ไม่ผิดแน่” ชายคนหนึ่งในกลุ่มนักล่าอสูรตอบพลางชี้ไปที่ปาไผ่ด้านหน้าเนื่องจากอาณาจักรอู่ขยายอาณาเขตเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าทําให้มีพื้นที่ยังไม่ได้สํารวจอีกหลายที่แม้จะได้ความร่วมมือจากชานเมืองดั้งเดิมแต่ก็ยังมีข้อมูลหลายๆอย่างที่แม้แต่คนในพื้นที่ที่ยังไม่ทราบซึ่งหนึ่งในนั้นคือเขตอสูรที่เป็นงานของกลุ่มนักล่าอสูรนั่นเอง

 

“งั้นก็เข้าไปกันเลยไหม” ต้าเฉินถามพลางมองข้าชิงที่กําลังทําสีหน้าครุ่นคิดอยู่ เพราะพวกมันทั้งสองคนนั้นเป็นผู้มีพลังวิญญาณสูงที่สุดในกลุ่มนักล่าอสูรของ อาณาจักรภู่แล้วทําให้พวกมันได้รับความไว้วางใจจากหวงหลงให้ทํางานสํารวจเขตอสูรในพื้นที่อาณาจักรใหม่

 

“ลองเข้าไปสํารวจดูก่อนก็แล้วกัน ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ชอบมาพากลให้หนีออกมาทันที่เข้าใจนะ” ต้าชิงว่าพลางพาหน่วยสํารวจเข้าไปในเขตป่าไผ่อย่างช้าๆ

 

ตูม!! เข้าไปสํารวจได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดูเหมือนเจ้าของเขตอสูรจะออกมาปกป้องเขตของมันเสียแล้ว

 

“แพนด้า?”ต้าเฉินเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจไม่ใช่ว่ามันไม่เคยเห็นแพนด้าแต่มันคิดไม่ออกจริงๆว่าแพนด้าจะต่อสู้อย่างไร

 

“แพนด้ามันก็เป็นหมีไม่ใช่หรือไง”ต้าชิงท้วงพลางหลบกรงเล็บของอสูรแพนด้าอย่างรวดเร็ว

 

“เจ้านี่นาจะอยู่ระดับมายาขั้นแรกนะ”ต้าเฉินตอบพลางกระโดดขึ้นมายืนบนไหล่ของอสูรแพนด้าอย่างง่ายดาย หลัง จากได้เข้าไปในเขตอสูรผาไร้กันแล้วต้าชิงและต้าเฉินก็นําวิ ธีการจําแนกอสูรออกเป็นขั้นๆเหมือนระดับของมนุษย์ออกมาใช้ทําให้กลุ่มนักล่าอสูรแยกระดับของอสูรเหมือนกับในเขตอสุรผาไร้กันไปแล้ว

 

“บันทึกเอาไว้ แล้วไปสํารวจรอบๆซะ” ต้าชิงสั่งให้พวกลูกน้องของตนจดบันทึกระดับพลังและลักษณะของราชาแห่งเขตอสูรตนนี้เอาไว้แล้วบอกให้พวกมันแยกย้ายกันสํารวจทรัพยากรให้เรียบร้อยระหว่างพวกมันกําลังดึงความสนใจของราชาอยู่

 

“ใจเย็นน่าพี่แพนด้า พวกเราแค่มาเก็บข้อมูลเท่านั้นเอง”ต้าเฉินว่าพลางรับกรงเล็บของอสูรแพนด้าเอาไว้ ยาม นี้พวกมันอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 8 กันทั้งคู่ทําให้สามารถรับมืออสูรแพนด้าที่อยู่ระดับมายาขั้นแรกหรือเทียบเท่ากับระดับเทียนเซียนขั้นแรกได้ไม่ยาก

 

“ฮา เหนื่อยชะมัด”ต้าเฉินว่าพลางพาลูกน้องออกมาจากเขตอสูรปาไผ่ด้วยท่าที่เหนื่อยอ่อน ใครจะไปคิดว่าอสูรแพน ด้าจะมีความสามารถคุ้มคลั่งด้วยพอมันโกรธขึ้นมา มันก็รับมือยากขึ้นมาก แถมพวกต้าชิงต้าเฉินยังโดนสั่งห้ามไม่ให้ฆ่าราชาอีกต่างหาก สุดท้ายพวกมันเลยได้แต่พยายามกําราบมันโดยไม่ให้ตายเท่านั้น

 

“ท่านรองอาวุโส พวกเราไปพักที่เมืองข้างหน้ากันก่อนเถอะขอรับ”ลูกน้องของพวกต้าชิงเสนอพลางชี้ไปทางเมืองที่อยู่ไม่ห่างจากเขตอสูรนัก

 

“ดี ข้าเองก็อยากนอนบนเตียงสักคืนเหมือนกัน”ต้าชิงว่าพลางถอนหายใจออกมา ตอนนี้พวกมันทั้งสองดําร งตําแหน่งรองอาวุโสของหน่วย 7 หรือก็คือหน่วยสํารวจนั่นเอง แม้พวกมันจะมีพลังมากที่สุดในกลั่มนักล่าอสูรแต่พวกมันก็ไม่อยากเป็นอาวุโสแต่อย่างไร จนแล้วจนรอดตําแหน่งที่พวกมันยอมรับก็ได้มากสุดแค่รองอาวุโสเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นตําแหน่งรองอาวุโสพวกคนในกลุ่มนักล่าอสูรเองก็รู้ดีว่าพวกมันเป็นผู้ติดตามของนางน้อยและหากนายน้อยอย่างไปจูเหวินกลับมาได้อีกไม่นานพวกมันก็ คงกลายเป็นรองหัวหน้าซ้ายและขวาแน่ๆ ทําให้ความเคารพยําเกรงนั้นมีมากกว่าตําแหน่งรองอาวุโสไปมาก

 

“โอ๊ะ สาวคนนั้นไม่เลวเลยนี่นา”ต้าเฉินยิ้มพลางหันไปมองหญิงสาวคนหนึ่งที่กําลังเดินอยู่ ในตลาดแม้จะเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับสูงและเป็นกนตําแหน่งใหญ่โตไม่น้อยแล้วแต่ต้าเฉินก็ไม่ทิ้งท่าที่สบายๆของมันไปแต่อย่างไร

 

“จี้กัง เจ้าให้กี่คะแนน”ต้าเฉินถามพลางหันไปมองชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง

 

“สามในห้าขอรับ” จี้กังหัวเราะพลางมองหญิงสาวคนนั้นด้วยเช่นกัน โชคดีที่นางอยู่ห่างมากเลยไม่น่าจะได้ยิน

 

“ท่านรองทางนั้นขอรับข้าให้นางสี่จากห้าเลย” ชายอีกคนว่าพลางชี้ไปทางหญิงสาวที่กําลังนั่งอยู่ในร้านอาหาร

 

“พวกเจ้านี่นะ”ต้าชิงถอนหายใจพลางพาคนของมันไปพักที่โรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง ตั้งแต่มีตําแหน่งต้าเฉินก็มีลูกน้องคอยเป็นลูกคู่อยู่หลายคนจะว่าเพราะมันสนิทสนมด้วยง่ายก็คงได้

 

“ท่านรอง ทางนั้นๆ”ยังไม่ทันได้เข้าพักโรงเตี้ยมอยู่ๆลูกน้องของพวกต้าชิงก็ชี้ให้ต้าเฉินดูว่ามีหญิงงามอยู่ทางนั้นถึงตอนนี้ต้าชิงไม่สนใจอะไรแล้วแต่ต้าเฉินนั้นกลับเบิกตากว้างมองตามอย่างสนอกสนใจ

 

“จริงๆด้วย พวกนางเป็นหญิงงามจริงๆ”ต้าเฉินพยักหน้าพลางมองหญิงสาวที่พวกลูกน้องซื้อย่างสนใจ

 

“ไม่ใช่เรื่องนั้นขอรับไม่ใช่ว่าพวกนางกําลังลําบากอยู่หรือขอรับ” จี้กังว่าพลางมองไปทางโต๊ะของหญิงสาวที่พวกมันพึ่งพูดถึงนางเป็นเด็กสาวท่าทางเรียบร้อยแถมระดับพลังวิญญาณยังค่อนข้างน้อยนางมากับหญิงสาวอีก 2 คนซึ่งพวกนางเอกก็งดงามไม่น้อยดูๆแล้วเหมือนคุณหนูที่พาคนรับใช้มาเดินเล่นเลย

 

“พวกนางโดนรุมอยู่งั้นเหรอ”ต้าชิงที่ไม่สนใจก่อนหน้านี้หันมาพลางเพ่งมองสถาณการณ์ดูดีๆ นอกจากหญิงสาว 3 คนแล้วยังมีชายหนุ่มอีกสี่คนยืนล้อมโต๊ะของหญิงสาวคนนั้น เอาไว้ พวกมันมีพลังสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดแถมท่าทางของพวกมันยังเหมือนกําลังจะข่มขู่ทั้งสามคนไม่มีผิด

 

“ท่านรองชิงก็สนใจหรือขอรับ” ลูกน้องของพวกมันถามอย่างสนใจเพราะไม่ค่อยเห็นต้าชิงสนใจพวกผู้หญิงเท่าไหร่

 

“ข้าจะช่วยคนที่ตกอยู่ในอันตรายต่างหาก” ต้าชิงตอบพลางถอนหายใจออกมามันเดินเข้าไปหากลุ่มชายสี่คนอย่างช้าๆพลางรอฟังสิ่งที่กําลังเกิดขึ้น

 

“พวกข้าเป็นคนของอาณาจักรอี้ ได้รับคําสั่งจากองค์จักรพรรดิให้มาตรวจสอบเมืองของพวกเจ้า” ชายคนนั้นพูดพลางยิ้มกว้างมันพยายามจะโอบกอดร่างของหญิงสาวเอาไว้แต่นางก็ไม่มีท่าที่จะยอมเลย

 

“ใช่ คนของอาณาจักนซุยอย่างเจ้าหากไม่ทํา ตัวดื้อดึงนักพวกเราจะไม่ส่งเรื่องไปให้องค์จักรพรรดิก็ได้” ชายคนนั้นว่าพลางยิ้มกริ่ม

 

โครม! แทบไม่ต้องคาดเดาอะไรอีกแล้ว ต้าชิงใช้ด้ามกระบี่แทงเข้าที่หน้าของชายคนนั้นอย่างแรงจนชายคนนั้นกระ เด็นไปกระแทกกําแพงร้านระดับพลังขนาดนี้กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นคนของอูหมิงงั้นหรือหน้าด้านเกินไปแล้ว

 

“ใครวะ” ชายคนนั้นตะโกนพลางลุกขึ้นมาแต่เมื่อเห็นเครื่องแต่งกายและสร้อยคอของต้าชิงมันก็มีท่าที่สงบลงทันที

 

“กลุ่มนักล่าอสูร…”เพราะอาณาจักรซุยและจงพึ่งโดนอาณาจักรอูยึดทําให้คนของอาณาจักรอู่มีอํานาจมากกว่าคนของอาณาจักรที่แพ้อย่างมากแม้แต่กลุ่มนักล่าอสูรที่ ทํางานให้กับอาณาจักรอู่เองยังกลายเป็นที่รู้จักกลายเป็นว่ากลุ่มนักล่าอสูรกลายเป็นหน่วยหนึ่งของสํานักราชวังไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบแถมว่าที่หัวหน้ากลุ่มของกลุ่มนักล่าอสูรยังเป็นสหายกับองค์จักรพรรดิแถมช่วงสงครามยังว่ากันว่าเป็นผู้ปราบจ้าวสวรรค์บุคคลระดับตํานานของอาณาจักรซุยลงได้อีกต่างหากทําเอาชื่อเสียงของกลุ่มนักล่าอสูรแห่งอาณาจักรอีกระจอนกระจายไปไกลกว่าความเป็นจริงเสียอีก

 

“ไปซะ แล้วอย่าเอาชื่ออาณาจักรอุ้มาใช้เล่นอีก”ต้าชิงว่าพลางเก็บกระบี่ที่ยังไม่ได้ชักออกมาเสียด้วยซ้ํากลับไปเหน็บไว้ที่เอวเช่นเดิม

 

“ขะ ขอรับ” พวกอันธพาลตอบรับพลางพากันหนีไปอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดเลยว่าต้าชิงแข็งแกร่งกว่าแทบไม่ต้องพูดเรื่องต้าชิงเป็นคนของกลุ่มนักล่าอสูรเลย

 

“พวกเจ้าไม่เป็นไรนะ” ต้าชิงถามพลางหันมามองสามสาวที่พึ่งโดนลวนลามไป

 

“ระวัง” หญิงสาวคนหนึ่งว่าพลางชี้ไปด้านหลังต้าชิง

 

เปรี้ยง! ดาบเล่มหนึ่งกระแทกเข้ากับกระบี่ของต้าชิงอย่างรวดเร็วทําเอาคนทั้งร้านพากันถอยหนีไปกันหมดแต่พอต้าชิงมองผู้ที่ลงมือโจมตีแล้วมันกลับงงไปครู่หนึ่งเพราะคนที่โจมตีมามีใบหน้าเหมือนหญิงสาวที่นั่งอยู่กลางโต๊ะไม่มีผิด

 

“เจ้าคือคนของอาณาจักรอี้สินะ” หญิงสาวว่าพลางโจมตีใส่ต้าชิงต่อระดับพลังของนางสูงกว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอยู่หลายขั้นจึงพอแยกได้ว่าพวกนางคงเป็นพี่น้องฝาแฝดกันหรือไม่ก็พี่น้องที่หน้าเหมือนกันมากๆ

 

“ก็ใช่”ต้าชิงตอบด้วยใยหน้าเหรอหราก่อนจะหันไปมองเบื้องหลังของหญิงสาวที่เข้ามาโจมตีมัน ป รากฏว่าเบื้องหลังของนางมีหญิงสาวอีกคนหลบอยู่ที่ประตูโรงเตี้ยม หรือว่าเมื่อครู่นางจะไปฟ้องหญิงสาวที่เข้ามาโจมตีมันว่ามีคนของอาณาจักรอุ้มาหาเรื่องพวกนางกระมัง

 

“ข้าจะทําให้เจ้ารู้เองว่าไม่ใช่คนของอาณาจักรอุ้จะสามารถกร่างได้ทุกที่”หญิงสาวว่าพลางร่ายท่าดาบออกมาอย่างต่อเนื่องหากไม่ใช่เพราะพลังของนางต่ํากว่าต้าชิงมาก กระบวนท่าของนางก็คงน่ากลัวไม่น้อยต้าเฉินที่ศึกษาวิชาดาบเองยังอดประหลาดใจไม่ได้

 

“ท่านพี่ ใจเย็นก่อน”น้องสาวฝาแฝดพูดพลางเข้าหาห้ามพี่สาวของตนเองเอาไว้

 

“คุณหนู พวกเขาช่วยไล่คนพาลไปต่างหากเจ้าคะพวกเขาไม่ใช่คนที่มาหาเรื่องพวกเรา” สาวใช้พยายามแก้ไขความเข้าใจผิดพลางเล่าเรื่องต่างๆให้หญิงสาวฟังอย่างช้าๆ จนในที่สุดนางก็ลดดาบลงแล้วหันมามองต้าชิงด้วยสีหน้าเขินอาย

 

“ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ข้าไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องเข้าใจผิดเช่นนี้”หญิงสาวพูดพลางหันไปมองสาวใช้ที่อยู่ด้านหลัง

 

“ไม่เป็นไรหรอก”ต้าชิงส่ายหน้าพลางยิ้มเจื่อนๆ

 

“ขอบพระคุณที่ช่วยน้องสาวของข้าและขออภัยในเรื่องเข้าใจผิดด้วยเจ้าค่ะ”หญิงสาวตรงหน้ายังคงขอโทษไม่หยุดแม้ต้าชิงจะไม่ได้ถือสาอะไรก็ตาม

 

“จริงสิ หากท่านต้องการสิ่งใดข้ายินดีจะช่วยเหลือท่าน นะเจ้าคะ แม้จะไม่มากแต่ในเมืองนี้สํานักของข้าก็มีชื่อเสียง ไม่น้อย” หญิงสาวพูดพลางยื่นแผ่นไม้แผ่นหนึ่งมาให้ต้าชิง บนนั้นสลักตัวอักษรเอาไว้สั้นๆว่า เทพจุติ!

 

“นี่มัน….”ต้าชิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ สํานักเทพจุติมันคือสํานักต้นทางของวิชาที่พวกมันฝึกกันอยู่ไม่ใช่หรือทั้งวิชาเทพจุติทั้งวิชาเทพประสานล้วนมาจากสํานักเทพจุติทั้งสิ้นหรือว่าสํานักเทพจุติจะอยู่ที่อาณาจักรซุยนี่เองแต่ทําไมพวกมันไม่เคยได้ยินข่าวเลยเล่า

 

“ชื่อสํานักอาจจะดูโอ้อวดไปบ้าง แต่ก็เป็นชื่อสํานักที่บทอดกันมานับพันปีเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยท่าที่อายๆสําหรับสํานักระดับกลางอย่างสํานักเทพจุติแล้วการใช้ชื่อเช่นนี้ออกจะน่าขันไปสักหน่อยเรื่องนั้นนางเข้าใจดี