ตอนที่ 245 ส่งคืน

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 245 ส่งคืน

 

“อยากจะไปที่สํานักหรือเจ้าคะ” หญิงสาวที่โจมตีต้าชิง ถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่นึกว่าค่าตอบแทนของการช่วยเหลือจะเป็นการให้พาพวกมันไปเยี่ยมชมสํานักเสียได้

 

“ใช่ ข้าข้ามีความสนใจสํานักต่างๆมาตลอด ก็เลยอยากจะให้เจ้าช่วยพาข้าชมสํานักของเจ้าหน่อย” ต้าชิงโกหกด้วยท่าที่ไม่ค่อยแนบเนียนนัก อาจจะเพราะปกติแล้วมันไม่ค่อยได้โกหกเสียเท่าไหร่ก็ได้

 

“คุณชายอยากจะไปเยี่ยมชมสํานักของเราก็พาท่านไปเถอะท่านพี่”น้องสาวที่พึ่งโดนพวกนักเลงล้อมก่อนหน้านี้หัวเราะเล็กน้อยพลางมองท่าทีของต้าชิงอย่างมีเลศนัย ท่าทางของมันเหมือนกําลังพยายามจีบพี่สาวของนางไม่มีผิด

 

“ถ้าเช่นนั้น พรุ่งนี้เราค่อยออกเดินทางด้วยกันดีหรือไม่เจ้าคะ สํานักของเราอยู่นอกเมืองไปไกลพอสมควรเลย” หญิงสาวว่าพลางยิ้มบางๆ ในเมื่ออีกฝ่ายขอแค่พาชมสํานักก็ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร

 

“ได้ดี.”ต้าชิงว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ ไม่ว่าอย่างไรชื่อสํานักเทพจุติก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้าชิงจะปล่อยทิ้งเอาไว้ได้ เพราะมันกับน้องชายสามารถเลื่อนระดับขึ้นมาอย่างน่าใจหายได้ด้วยวิชาเทพประสานแท้ๆ

 

“ถ้าเช่นนั้นเจอกันพรุ่งนี้เจ้าค่ะ” หญิงสาวที่เข้ามาโจมตีต้าชิงยิ้มหวานพลางหันไปมองน้องสาวที่กําลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรก็ไม่ทราบ

 

“ตกลงตามนี้”ต้าชิงว่าพลางหันหลังเดินจากไป แต่ก่อนที่มันจะได้ก้าวไปไหนหญิงสาวคนเมื่อครู่ก็ดึงร่างของต้าชิงเอาไว้ก่อน

 

“ท่านไม่ทราบว่าท่านมีนามว่าอะไร” หญิงสาวถามพลางมองดวงตาของต้าชิงนิ่ง พูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้นกลับลืมถามชื่อไปเสียได้

 

“ขออภัย ข้าเสียมารยาทจริงๆ”ต้าชิง ว่าพลางยิ้มกลบเกลื่อน จะบอกได้อย่างไรว่ามันมัวแต่สนใจชื่อสํานักจนลืมแนะนําตัวเองไปเลย

 

“ข้ามีนามว่า ต้าชิง”ต้าชิงแนะนําตัวพลางประสานมืออย่างนอบน้อม ทําเอาหญิงสาวตรงหน้ารีบประสานมือตอบอย่างเก้ๆกังๆ

 

“ข้ามีนามว่า หวังจิ้ง ส่วนทางนี้เป็นน้องสาวของข้าชื่อ หวังลี่ อย่างที่ท่านเห็นพวกเราเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน” หวังจิ้งตอบพลางก้มหัวอย่างอ่อนน้อม ทําให้การสนธนาของต้าชิงกับนางมีต่ออีกครู่หนึ่งก่อนที่จะแยกย้ายจากกันไป

 

“พี่ชาย ท่านคุยอะไรกับพวกนางตั้งนานสองนาน”ต้าเฉินยิ้มกริ่มพลางมองต้าชิงที่พึ่งเดินกลับมาด้วยท่าทางทะเล้น

 

“ระยะขนาดนี้เจ้าน่าจะได้ยินไม่ใช่หรือ” ต้าชิง ขี้เกียจเล่นด้วย มันพูดจบก็เดินนําพวกมันขึ้นไปที่ห้องพักทัน

 

“แต่ข้าว่านางน่ารักดีนะ”ต้าเฉินปัดเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่ ทิ้งไปเพราะมันเองก็ได้ยินแล้วว่าพวกนางมาจากสํานักเทพจุติ แต่มันสนใจท่าที่งุ่มง่ามของพี่ชายมันมากกว่า

 

“เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่ข้าสนใจ”ต้าชิงตอบเสียงเรียบขณะ เข้าไปในห้องพัก

 

“แต่นางเหมือนคนที่ท่านเคยแอบชอบไม่ใช่หรือ”ต้า เฉินยิ้มพลางมองพี่ชายนิ่ง

 

“นั่นมันเรื่องสมัยไหนกัน” ต้าชิงส่ายหัวกับความพยายาม ยุแยงของน้องชาย สมัยหนุ่มๆที่พวกมันกําลังตามหาสํานักเพื่อเข้าฝึกฝน มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ต้าชิงไปตกหลุมรักหญิงสาวคนหนึ่งเข้า แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้สนใจอะไรคนระดับต้าชิง และเลือกที่จะคบคนที่มีฝีมือสูงกว่าแทน แน่นอนว่านางเป็นสาวงามและมีอะไรคล้ายๆหวังจิ้งและหวังลี่อยู่บ้าง แต่บอกตามตรงพวกนางงดงามกว่าหญิงสาวที่เคยหักอกต้าชิงหลายเท่าเลยทีเดียว

 

“ช่วยไม่ได้นี่นา ในสายตาคนนอกมันเหมือนท่านพยายามจะหาข้ออ้างอยู่กับนางนี่นะ”ต้าเฉินหัวเราะพลางยิ้มกว้าง เพราะคนอื่นไม่ทราบเรื่องที่ต้าชิงและต้าเฉินเรียนวิชาเทพจุติและเทพประสานทําให้สนใจสํานักเทพจุติมาก ทําให้ลูกน้องของต้าชิงต้าเฉินแต่ละคนต่างพากันพูดเรื่องการจีบสาวของต้าชิงกันอย่างออกรส

 

“ท่านรอง พวกเราอยากจะไปสํารวจรอบๆนี้สักหน่อย พวกท่านไปกันเองก็แล้วกัน” รุ่งเช้าลูกน้องของต้าชิงก็ราว กับจะทําตัวรุ้งาน พวกมันรีบหาข้ออ้างหลีกทางทันทีเพราะอยากให้ต้าชิงได้ไปกับสาวเจ้าคนเดียว

 

“ข้าคงต้องไปช่วยดูแลพวกมัน…”ต้าเฉินเองก็มีแผนการไม่ต่างกัน มันกําลังจะหาข้ออ้างตามพวกลูกน้องไป เพียงแต่..

 

“พวกมันทํากันเองได้ เจ้าต้องไปกับข้า”ต้าชิงพูดเสียงเข้มเพราะมันกับต้าเฉินเรียนวิชาเทพประสานด้วยกัน ทําให้มันไม่ยอมให้ต้าเฉินตีตัวออกห่างไปได้แน่ๆ

 

“ทางนี้เจ้าค่ะ” หวังจิ้งยิ้มพลางพาต้าชิงเดินทางไปพร้อมกับตนเอง น่าแปลกพวกสาวใช้ของนางไม่ได้เดินทางมาด้วย ราวกับนัดแนะกับลูกน้องของมันก็ไม่ผิด

 

“นี้น้องชายของข้า ต้าเฉิน มันจะไปกับพวกเราด้วย”ต้าชิงพูดพลางเน้นย้ําคําว่า จะไปกับพวกเราด้วยอย่างชัดเจน ทําเอาต้าเฉินได้แต่หัวเราะเงื่อนๆอย่างช่วยไม่ได้ กลายเป็นว่าการเดินทางครั้งนี้เหลือเพียงต้าชิง ต้าเฉิน หวังจิ้ง และ หวังลี่ เพียง 4 คนเท่านั้นทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คนสองกลุ่มรวมกันได้เกินสิบคนเสียด้วยซ้ํา

 

“คุณชายชิง ท่านสนใจอะไรสํานักของเรางั้นหรือ” หวังลี่น้องสาวของหวังจิ้งถามพลางโผล่หน้าออกมาจากร่างของพี่สาวนางด้วยท่าที่ซุกซน

 

“เรื่องนั้น…”ต้าชิงไม่ทราบจะตอบอะไร จะบอกว่ามันเอาวิชาของสํานักคนอื่นมาฝึกเลยสนใจงั้นหรือ

 

“บางที่ท่านอาจจะไม่ได้สนใจสํานักก็ได้นะ” ต้าเฉินหัวเราะพลางหลบสายตาค้อนของพี่ชายมันอย่างร่าเริง

 

“บางที่ท่านอาจจะผิดหวังก็ได้ สํานักของเราแม้อยู่ บนยอดเขาแต่ก็มีศิษย์ไม่กี่คน แถมวิชาของเรายัง…” หวังจิ้งถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ สํานักของนางนั้นเคยยิ่งใหญ่ แต่มันก็เป็นเรื่องก่อนที่นางจะเกิดเสียอีก ทําให้พื้นที่สํานักนั้นกว้างไกลมาก แต่ศิษย์ที่ยังอยู่ในสํานักกลับแทบไม่มีกําลังปกป้องคนเองเสียด้วยซ้ํา

 

พรึบ! ร่างของต้าชิงและหวังจิ้งทะยานข้ามทางไปอย่างราบเรียบ แม้พลังของหวังจิ้งและหวังลี่จะไม่สูงนัก แต่ก็มีมากพอที่จะใช้เดินทางได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แม้จะไม่ทราบทําไมระหว่างทางต้าเฉินกัวหวังลี่จะทิ้งระยะห่างให้ต้าชิงกับหวังจิ้งมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เพราะทั้งสองก็คุยกันถูกคอดีพวกมันเลยไม่ได้สนใจกับท่าที่ประหลาดของน้องๆพวกมันเลย

 

“ถึงแล้วเจ้าค่ะ” หวังจิ้งว่าพลางพาต้าชิงมายืนอยู่หน้าประตูหินขนาดใหญ่ที่สลักคําว่า เทพจุติ เอาไว้ด้านบน

 

“อลังการอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ”ต้าชิงว่าพลางมองป้ายสํานักด้วยท่าที่ชื่นชม แค่เพียงป้ายสํานักและขั้นบันไดที่พาขึ้นไปยังสํานักก็อลังการอย่างมากแล้ว นอกจากขั้นบันไดนับร้อยนับพันขันแล้ว ตลอดทางยังมีรูปแกะสลักประดับเอาไว้ตลอดทาง สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้เดินทางอย่างมาก แต่ด้วยความเร็วของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณ ทางเข้าสํานักเทพจุติก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้าในเวลาไม่นาน

 

ปัง! ประตูไม้บ้านใหญ่เปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นลานกว้างหน้าสํานักและตัวอาคารที่เก่าแก่และงดงามอย่างมาก เพียงแต่สนามหญ้าและลานฝึกอาจจะดูรกไปบ้างเพราะขาดการดูแลรักษา

 

“สมแล้วที่เป็นสํานักใหญ่มาก่อน”ต้าชิงพูดด้วยความตกตะลึง หากไม่นับเรื่องที่มันสัมผัสพลังวิญญาณได้ไม่ถึง 30 จุดนั้นสํานักแห่งนี้ก็ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ

 

“โถ่ ข้าก็บอกท่านแล้ว ว่ามันเป็นแค่อดีตเท่านั้น” หวังจิ้งถอนหายใจด้วยท่าที่อับอายเล็กน้อย นางรู้สึกเหมือนคนมีบ้านหลังใหญ่แต่กลับมีหนี้สินท่วมตัวเสียมากกว่า

 

“แล้ว ทําไมถึงกลายเป็นแบบนี้งั้นเหรอ”ต้าชิงถามพลางเดินเข้าไปในสํานักช้าๆ แม้จะมีพื้นที่กว้างใหญ่ แต่กลับมีคนน้อยมาก แถมแต่ละคนยังมีพลังไม่ถึงขั้นเทียนเซียนสักคน ทําเอารู้สึกขัดแย้งกันอย่างบอกไม่ถูก

 

“นั่นเพราะตําราจองสํานักเราหายสาบสูญไปเจ้าค่ะ” หวังจิ้งว่าพลางถอนหายใจออกมา แต่ก่อนด้วยวิชาฝึกลึกลับอย่างวิชาเทพประสาน สํานักเทพจุติมียอดฝีมือระดับเทียนเซียนมากมาย เรียกได้ว่าเป็นกําลังหลักของอาณาจักรซุยก่อนหน้านี้เลยก็ว่าได้ แต่หลังจากเจ้าสํานัก 6 รุ่นก่อนพยายามจะบุกเขตอสูรผาไร้กันเพื่อตามหาแร่มีค่ากลับมาทําอาวุธประจําสํานักแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย ทําให้ตําราเทพประสานที่ถูกห้ามคัดลอกหายไปด้วย และก็เป็นเช่นเดียวกับกลุ่มนักล่าอสูรยอดฝีมือที่ตามเจ้าสํานักไปต่างโดนจัดการจนหมด เหลือเอาไว้เพียงผู้มีฝีมือไม่กี่คนเท่านั้น แต่ตอนนั้นยังมีคนจําวิชาเทพประสานได้ แต่ยังไม่ทันได้คัดลองออกมาเป็นรูปเล่มการบุกของอาณาจักรจงก็โถมเข้ามาท่ามกลางสงคราม ยอดฝีมือที่เหลืออยู่ของสํานักเทพจุติต้องออกรบอย่างเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายผู้จดจําวิชาเทพประสานได้ก็หายไปจนหมด ทําให้เหลือเพียงชื่อสํานักเท่านั้นที่ยังน่าเกรงขามอยู่

 

“ปะ เป็นเช่นนี้นี่เอง”ต้าชิงกลืนน้ําลายลงคออย่างช่วยไม่ได้ เพราะตําราของพวกมันก็ได้มาจากแหวนมิติของนางน้อย ซึ่งนายน้อยก็ได้มาจากพวกท่านน้าอีกที นั่นหมายความว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงมากที่ตําราที่พวกมันใช้ฝึกฝนกัน จะเป็นของสํานักเทพจุติ

 

“หวังจิ้ง”ต้าชิงพูดพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

“เจ้าคะ” หวังจิ้งถามพลางหันมามองต้าชิงอย่างประหลาดใจ อยู่ๆมันก็ทําท่าเหมือนจะพูดเรื่องสําคัญบางอย่างออกมา ทําเอาน้องสาวของนางลุ้นตาเป็นประกายทันที

 

“ข้าอยากจะมอบสิ่งนี้คืนให้แก่พวกเจ้า”ต้าชิงว่าพลางนําตําราเทพจุติ และตําราเทพประสานออกมา แม้พวกมันจะฝึกวิชาของสํานักเทพจุติไปแล้วด้วยความไม่รู้ แต่มันก็เหมือนขโมยวิชาของสํานักอื่นมาฝึกอยู่ดี มาถึงตรงนี้หากต้องโดนทําลายวิชาต้าชิงก็จะไม่บ่นเลย

 

“นี่มัน” หวังจิ้งเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ที่หน้าปกของตําราทั้งสองเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนว่า วิชาเทพจุติ และ วิชาเทพประสาน อย่างแรกที่หวังจิ้งทําคือการนําตําราเทพจุติออกมาอ่าน วิชาเทพจุตินั้นยังคงหลงเหลืออยู่ในสํานัก เพราะเป็นวิชาพื้นฐานที่ทุกคนต้องรู้ ทําให้พวกนางเองก็เรียนวิชาเทพจุติเอาไว้เช่นกัน เมื่อเห็นว่าเนื้อความในตําราเขียนเอาไว้อย่างถูกต้องก็ทําเอานางตกตะลึงเป็นอย่างมาก

 

“คุณชาย..ขะ ข้าขอนํามันไปให้ท่านพ่อได้ดูได้หรือไม่” หวังจิ้งถามพลางส่งสายตาขอร้องมาทางต้าชิง

 

“แต่เดิมพวกมันก็เป็นของสํานักเจ้าอยู่แล้ว เอาไปเถอะ” ต้าชิงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะบอกให้หวังลิ้งทําตามใจชอบ ไม่นานนางก็วิ่งหายเข้าไปในสํานักพร้อมกับน้องสาวของนางที่มีท่าทีตดใจไม่แพ้กัน

 

“แล้ว ทําไงต่อละทีนี้”ต้าเฉินถามพลางมองท่าที ร้อนรนของหญิงสาวทั้งสอง

 

“ก็ได้แต่รอว่าพวกเขานั้นจะทํายังไงต่อต้าชิงพูดพลางสัมผัสพลังในร่างกายของตนเอง

 

“แล้วเรื่องที่นายน้อยก็รู้วิชานี้ละ”ต้าเฉินถามออกมาเพราะนอกจากพวกมันแล้วยังมีไปจูเหวินและเหม่ยหลินอีกที่รู้วิชาเทพประสาน

 

“ห้ามพูดเรื่องนี้ออกไปเด็ดขาด”ต้าชิงตอบเสียงเรียบ แม้พวกมันจะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใจร้ายกับคนที่นําวิชากลับมาให้หรอก