หนึ่งชายและสองสาวเดินทางสู่เหมืองหยางสวรรค์
ฮูหนิวและเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนราวกับเกิดมาเพื่อเป็นคู่กัดกัน พวกนางทั้งแย่งกันกินอาหารและแย่งกันโอบกอดหลิงฮัน
หลิงฮันไต่สวนน่าจือเหยียนและพบว่าตระกูลราชวงศ์เฮ่อเหลียนคือตระกูลที่ครอบครองสายเลือดของมังกรที่แท้จริง
แต่ตระกูลที่ครอบครองสายเลือดมังกรที่แท้จริงที่บริสุทธิ์ที่สุดคือตระกูลราชวงศ์ของมหาสมุทรกลาง แม้ตระกูลราชวงศ์ของอีกสี่มหาสมุทรจะไม่นับว่าอ่อนแอ แต่พวกเขามีสายเลือดมังกรที่แท้จริงบริสุทธิ์น้อยกว่าตระกูลราชวงศ์ของมหาสมุทรกลาง
หลิงฮันพยักหน้า เขาบ่มเพาะทักษะกายาเก้ามังกรทรราชซึ่งจะทำให้เขามีร่างกายที่แข็งแกร่งดั่งมังกรที่แท้จริงเก้าตัว ทำไมต้องเป็นมังกรที่แท้จริงด้วยน่ะรึ? นั่นเพราะมังกรที่แท้จริงคือสัตว์อสูรระดับพระเจ้าที่มีร่างกายแข็งแกร่งที่สุด
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนครอบครองสายเลือดของมังกรที่แท้จริง แม้มันจะไม่บริสุทธิ์มากนัก แต่แค่ร่างกายเปล่าๆก็สามารถปลดปล่อยพลังที่มหาศาลออกมาได้แล้ว
แม้ฮูหนิวจะเป็นสัตว์ประหลาด แต่ระดับพลังของนางก็ยังต่ำเกินไป จึงเป็นธรรมดาที่กายหยาบของนางจะเทียบกับทักษะกายาเก้ามังกรทรราชไม่ได้
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนในตอนนี้ราวกับเป็นกระดาษสีขาวที่สามารถเขียนอะไรลงไปก็ได้ หลิงฮันจึงพยายามทำให้นางมีความสุข แม้นางจะทะเลาะกับฮูหนิว แต่ก็เป็นการทะเลาะกันเล่นๆไม่ได้การฆ่าแกงกันแบบศัตรู
ส่วนที่แตกต่างกันของทั้งสองคนคือ ฮูหนิวราวกับเป็นฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่ นางไม่เคยร้องไห้แม้แต่ครั้งเดียว แต่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนนั้นมักจะร้องไห้เสียงดังเสมอ
ทั้งสามคนเดินทางผ่านหุบเขาจันทราร่วงหล่น เมื่อเวลาผ่านไปอีกสิบวัน พวกเขาก็กลับมาถึงเมืองหยางสวรรค์
ในตอนที่พวกเขาเดินทาง แม้ว่าจะผ่านเมืองต่างๆมามากมายแต่พวกเขาก็ไม่ได้แวะพักที่เมืองไหนสักเมือง เพราะงั้นหลังจากที่เข้าเมืองหยางสวรรค์มา เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนก็กลายเป็นตื่นเต้นทันที นางเดินชมนู่นชมนี่ไปมาไม่หยุด
ขนมสายไหม? กิน! น้ำตาลปั้น? กิน!
หลิงฮันทำได้เพียงเดินตามหลังจ่ายตังให้นาง สาวน้อยเผ่าใต้สมุทรคนนี้ดูมีความสุขเป็นอย่างมาก นางเดินกินพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข
“เด็กน้อยจริงๆ!” ฮูหนิวพูดเหยียดหยามโดยลืมไปว่าตัวเองก็ถือน้ำตาลปั้นอยู่ในมือและกำลังกินอย่างมีความสุข
“โอ้ สาวน้อยตรงนั้นช่างงดงามยิ่งนัก!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนนั้นงดงามราวกับเทพธิดา ผ่านไปไม่นานนางก็กลายเป็นเป้าหมายของใครบางคน
รุ่นเยาว์คนหนึ่งจ้องมองไปยังใบหน้าที่น่าหลงไหลของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและค่อยๆกวาดมองไปร่างกายทุกส่วนของนาง
ช่างเป็นหน้าอกที่น่าเสียดายยิ่งนัก!
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเอียงคอมองไปยังอีกฝ่ายและถามด้วยความสับสน “ทำไมเจ้าถึงมาขวางทางข้า?”
รุ่นเยาว์คนนั้นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูด “สาวน้อย กลับไปกับนายน้อยผู้นี้และทำอะไรสนุกๆกันเถอะ!” มันพูดขึ้นมาอย่างหน้าไม่อายพร้อมกับโบกมือ “พาตัวนางกลับไป”
“ขอรับนายน้อย!” ทันใดนั้นคนรับใช้ร่างแกร่งทั้งสี่คนด้านหลังของมันก็โผล่ออกมา พวกมันทำตัวดุดันราวกับหมาป่า
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกรีดร้องและรีบวิ่งกลับไปหลบด้านหลังหลิงฮัน ด้วยความเร็วของนาง… ในโลกนี้คงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถไล่ตามได้ทัน… โดยเฉพาะแรงจับที่รุนแรงของนางได้เกือบทำให้กระดูกของหลิงฮันแตกสลาย
หลิงฮันหันไปพูดกับเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน “สิ่งที่นายน้อยขยะนั่นกำลังทำอยู่คือการรังแกคนอื่น สาวน้อยใต้สมุทรเจ้าคิดว่าคนแบบนั้นเป็นคนชั่วร้ายรึไม่?”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว มือของนางกดหน้าอกเอาไว้แสดงออกถึงความหวาดหวั่น “ชั่วร้าย! เขาทำให้ข้ากลัว!”
“ใช่แล้ว เพราะงั้นเจ้าห้ามทำตัวเหมือนกับหมอนั่นเด็ดขาด เข้าใจนะ?” หลิงฮันพูดหว่านล้อม
“แน่นอน ข้าไม่มีทางเป็นคนแบบนั้น!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพยักหน้า
“แต่พวกเราก็ห้ามไปยอมให้ขยะเช่นนั้นมารังแกเช่นกัน จงจำเอาไว้ว่าห้ามเป็นคนไปยั่วยุผู้อื่นก่อนเด็ดขาด แต่ถ้ามีคนมายั่วยุเราก็ไม่จำเป็นต้องไปอ่อนข้อและต้องตอบโต้กลับ เจ้าเข้าใจไหม?” หลิงฮันถามอีกครั้ง
คำพูดอันยืดยาวของเขาทำให้เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนมึนงงเล็กน้อย แต่นางก็ยังพยักหน้าและเอ่ยตอบ “อืม!”
“เจ้าเป็นใครถึงได้กล้ามายุ่งเรื่องนี้?” รุ่นเยาว์คนนั้นแสดงท่าทีไม่พอใจ ทั้งสองคนพูดคุยกันราวกับมันไม่ได้อยู่ตรงนี้ รุ่นเยาว์คนนั้นโบกมือและพูด “จัดการเจ้าหนุ่มนั่นและพาผู้หญิงกลับไปที่คฤหาสน์”
“ขอรับนายน้อย!” คนรับใช้ทั้งสี่เดินออกมาอีกครั้ง
หลิงฮันยกนิ้วขึ้นมาและปล่อยปราณเป็นเส้นแสงสี่เส้นใส่หน้าผากของคนรับใช้ทั้งสี่ ‘ตุบ’ ทันใดนั้นบนหน้าผากของคนรับใช้ทั้งสี่คนก็ปรากฏหลุมเลือดและล้มลงไปที่พื้น
“เจ้า… เจ้ากล้าลงมือกับคนของตระกูลข้า?” รุ่นเยาว์ผู้นั้นทั้งตกตะลึงและหวาดกลัว
“เจ้าเป็นใคร!” หลิงฮันยกนิ้วขึ้นอีกครั้ง ‘ฉัวะ’ ทันใดนั้นรุ่นเยาว์ที่อยู่ตรงหน้าก็มีชะตาไม่ต่างกับคนรับใช้ทั้งสี่ บนหัวของมันปรากฏหลุมเลือดและร่วงสู่พื้น
ผู้คนที่เดินไปมาหยุดฝีเท้าชะงัก เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว นายน้อยตระกูลชางตกตายที่นี่ ตระกูลชางจะต้องระเบิดโทสะออกมาราวกับฟ้าผ่าแน่นอน เมื่อเวลานั้นมาถึง ผู้คนที่รู้เห็นเหตุการณ์อาจจะถูกลากให้ซวยไปด้วย
ต้องรีบเผ่นหนี!
หลิงฮันไม่แยแส ในภูมืภาคเหนือมีใครที่เขาต้องหวาดกลัวด้วยรึไง ยิ่งกว่านั้นเขายังมีสาวน้อยเผ่าใต้สมุทรที่ป่าเถื่อนอยู่ข้างกาย ถ้าจำเป็นจริงๆก็แค่บอกให้นางลงมือ
“ไปกันเถอะ!” หลิงฮันเดินทางไปยังตำหนักสมบัติวิญญาณต่อโดยมีฮูหนิวและเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนจับมือเขาอยู่คนละข้าง
ก่อนที่จะเข้าเมืองมา หลิงฮันได้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าเรียบร้อยแล้ว เขาเปลี่ยนใบหน้าให้กลายเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปี แม้เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนจะตกตะลึง แต่นางก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือหลิงฮันเพียงแค่มองแวบเดียว
เห็นได้ชัดว่าแม้นางจะสูญเสียความทรงจำและความสามารถโคจรปราณก่อเกิด แต่สายตาของนางก็ยังคงเป็นของจอมยุทธระดับสวรรค์
ตำหนักสมบัติวิญญาณตั้งอยู่ที่ใจกลางของเมืองหยางสวรรค์ แม้พวกเขาจะเดินเล่นอย่างไม่เร่งรีบ พวกเขาก็มาถึงตำหนักสมบัติวิญญาณภายในหนึ่งชั่วโมงต่อมา
“หยุด!” กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งไล่ตามพวกเขามา พวกมันสมควรเป็นคนของตระกูลชาง เมื่อพวกมันรู้ว่าคนของตระกูลถูกสังหารกลางถนน จึงไม่แปลกที่พวกมันจะมาล้างแค้น
หลิงฮันไม่สนใจพวกมันและเดินเข้าไปในตำหนักสมบัติวิญญาณ ฮูหนิวหันหน้ากลับไปหาพวกมันและแลบลิ้นปลิ้นตาใส่
“บัดซบ!” คนของตระกูลชางคำรามสาปแช่ง ขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหยางสวรรค์คือตำหนักสมบัติวิญญาณและสมาคมนักปรุงยา จะมีใครบ้างที่กล้าสร้างความวุ่นวายขึ้นในสองสถานที่นี้? พวกมันจึงทำได้เพียงยืนรออยู่ด้านนอก
กลุ่มของหลิงฮันสามคนเดินเข้าไปยังตำหนักสมบัติวิญญาณ ทันใดนั้นสาวใช้ที่รูปร่างงดงามก็เข้ามาทักทายพวกเขา “แขกทั้งสอง ไม่ทราบว่าพวกท่านต้องการซื้ออะไร?”
ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจและเอามือท้าวเอว “ยังมีหนิวอีกคนนะ!”
หลิงฮันหัวเราะและพูด “ไปแจ้งกับหยินหงว่าคนที่ให้คำมั่นสัญญาไว้กับเจ้ามาถึงแล้ว”