บทที่ 190 ทรมานฉันเถอะ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เกรงว่าเย่เทียนแม้แต่ฝันยังไม่เข้าใจ เหตุผลที่จูโย่งถิงพุ่งเป้ามายังตนเองมีสาเหตุจากหนิงหยวน

ในสายตาของเย่เทียน หนิงหยวนก็แค่บุคคลเล็กๆ โดยแท้จริง เดิมทีไม่คุ้มค่าให้พูดถึง

แต่ในความคิดของจูโย่งถิง หนิงหยวนเป็นบุคคลระดับยอดฝีมือเป็นแน่ จ่ายเงินไปนิดหน่อยก็ได้ยอดฝีมือคนหนึ่งทุ่มเทสุดชีวิตกลับมา เงินก้อนนี้ถือว่าคุ้มค่า

การมองโลกของทั้งสองต่างกัน ลิขิตให้ยากจะพิจารณาปัญหาเหมือนกันได้

สำหรับว่าทำไมถึงไม่บอกความจริงของเรื่องราวกับฉินโล่หยิน?

คำตอบง่ายมาก นี่เดิมทีไม่ใช่เรื่องของเธอ!

อีกฝ่ายคือพุ่งเป้ามาที่เขา แย่งกระเป๋าถือของฉินโล่หยินไปเพียงแค่วิธีการหลอกล่อเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดฉินโล่หยินโมโหจนอยากออกหน้าแทนเขาจริง นั่นไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างสองคน แต่เป็นความขัดแย้งของอิทธิพลสองฝ่าย เป็นความขัดแย้งของเมืองเอกและเจียงหนัน ถึงตอนนั้นเรื่องราวคงวุ่นวายใหญ่โตถึงที่สุด

ฉินโล่หยินยิ่งเป็นลูกหลานมาจากตระกูลเศรษฐี ถึงแม้ในใจมีความหวาดระแวง แต่เลือกจะไม่ถามมากอย่างรู้ดี

คุณหนูใหญ่ฉินถามอย่างห่วงใย “นายไม่ได้บาดเจ็บจริงเหรอ? ถ้าไม่อย่างนั้นไปโรงพยาบาลดูหน่อยไหม?”

“ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ”

เย่เทียนส่ายหน้า พูดแบบจำใจ “นอกจากนั้นแล้ว เธอก็อย่าลืมไปนะว่าฉันเป็นปรมาจารย์ปรุงยา ถ้าบาดเจ็บจริงแล้วฉันจัดการเองได้ ยังต้องไปโรงพยาบาลอะไร?

“ไม่เป็นอะไรจริงเหรอ?”

ฉินโล่หยินกึ่งเชื่อกึ่งลังเล “นายอย่าหลอกฉันเด็ดขาดนะ ถ้าโดนตีจะบาดเจ็บภายในได้ง่ายมากด้วย ตอนนี้ไม่รู้สึกว่าเจ็บ แต่ผ่านไปสองสามวันจะเจ็บเอาได้”

“ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันถอดเสื้อออกมาให้เธอดูเลย?”

เย่เทียนจำใจถึงที่สุดแล้ว หญิงสาวคนนี้ทำไมถึงยังดื้อรั้นขนาดนี้ล่ะ?

“ก็ดี!”

เกินความคาดหมายของเย่เทียน คุณหนูใหญ่ฉินที่พอดื้อรั้นขึ้นตอบรับไปโดยตรงแล้ว เดินเข้าไปอยากจะไปดึงเสื้อของเย่เทียน

“เฮ้ย! เธอทำอะไร!”

เย่เทียนรีบเอามือกอดหน้าอกถอยหลังสองสามก้าว เหมือนสาวโสดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม “ถึงแม้สมัยนี้ไม่ใช่ยุคศักดินาชายหญิงแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้ แต่จะว่ายังไงนี่ก็เป็นที่สาธารณะ เธอทำอะไรมั่วซั่วคงไม่ค่อยดีมั้ง?”

“นายพูดก็ถูก”

ฉินโล่หยินกวาดตามองรอบหนึ่ง พูดแนะนำ “เอาแบบนี้แล้วกัน พวกเราเข้าไปในรถ”

พูดจบ หญิงสาวฝืนลากเย่เทียนหมุนตัวมุดเข้าไปด้านในรถยนต์แล้ว

“ถอดสิ!”

“ต้องถอดจริงเหรอ?” เย่เทียนสีหน้าแปลกประหลาดถึงขั้นสุด

“จำเป็นต้องถอด!”

ระหว่างที่พูด คาดไม่ถึงฉินโล่หยินจะคลำหายาแก้ฟกช้ำขวดหนึ่งออกมา “ถ้ามีพวกรอยช้ำอะไร ฉันจะได้ช่วยทาให้นายได้”

ฉากนี้ทำเอาเย่เทียนตกตะลึงพรึงเพริด แอบทอดถอนใจ ฉินโล่หยินไม่เสียแรงมาจากตระกูลศิลปะการต่อสู้ ออกจากบ้านยังเตรียมยาแก้ฟกช้ำไว้อีก

“งั้นก็ถอดแล้วนะ?” เย่เทียนยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร

ฉินโล่หยินพูดเร่งรัด “รีบเข้าสิ! ปกติเห็นนายดูออกจะเป็นผู้ชายแมนๆ ทำไมอืดอาดอย่างกับพวกผู้หญิง!”

ซู่!

เย่เทียนกัดฟันกระทืบเท้า ไม่พูดพร่ำทำเพลงถอดเสื้อที่ขาดลุ่ยส่วนหนึ่งตัวนั้นออกแล้ว

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชาย ให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเร่งรัดครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้ ถ้ายังอดต่อไปอีกยังเป็นลูกผู้ชายอยู่เหรอ?

ในความเป็นจริง ร่างท่อนบนที่ดูเหมือนผอมแห้งของเย่เทียนนั้นหลังหลุดออกจากเสื้อผ้าบังตา คาดไม่ถึงเต็มไปด้วยความรู้สึกลายเส้นเรือนร่าง ไม่เหมือนตอนใส่เสื้อผ้าที่ผอมบางปานนั้นสักนิด

ถึงแม้กล้ามเนื้อไม่ได้ถึงขนาดขั้นเดียวกับนักเพาะกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนูนสูงนั้น ทว่ากลับปิดซ่อนอยู่บนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งตัวราวกับเต็มไปด้วยความรู้สึกสั่นระเบิด

ฉากที่งดงามนี้ทำให้คุณหนูใหญ่ฉินที่ไม่ค่อยได้เห็นเรือนร่างเพศตรงข้ามมากเท่าไรในที่สุดตอบสนองเข้ามา หญิงสาวเขินอายโดยกำเนิดทำให้เธอใจเต้นเร็วเพิ่มขึ้นไปอีก

เธอพยายามฝืนกลั้นความตื่นเต้นในใจเอาไว้ พินิจพิเคราะห์บนตัวเย่เทียนอย่างละเอียดว่ามีรอยแผลหรือไม่ ดูแม้กระทั่งว่ามีตรงไหนฟกช้ำดำเขียว

แต่ไม่ว่าเธอจะเบิกดวงตาโตมากแค่ไหน ตรวจสอบอย่างละเอียดมากเท่าไร กลับไม่มีทางหาร่องรอยของบาดแผลบนตัวชายหนุ่มได้สักนิด

แม้กระทั่ง เธอยังต้องยอมรับด้วยว่า ผิวพรรณของเย่เทียนขาวเนียนละเอียดเหมือนกับผู้หญิง อย่างน้อยเธอรู้สึกอับอายที่สู้ไม่ได้เลย

ครุ่นคิดพิจารณาดู หญิงสาวยื่นมือออกไปวางบนตัวของเย่เทียนโดยจิตใต้สำนึก พูดพึมพำ “นายยังเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า ผิวพรรณทำไมยังจะดีกว่าฉันอีก?”

ปัญหาข้อนี้ทำให้เย่เทียนไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรจริงๆ จะสารภาพตามตรงว่าเพราะสาเหตุที่บำเพ็ญฌานตามคัมภีร์หวงก็คงไม่ได้มั้ง?

นี่เป็นความลับที่เขาเก็บซ่อนไว้ลึกสุด ไม่ถึงเวลาไร้หนทางจริงเขาจะเปิดเผยออกมาได้อย่างไร!

ถ้าจะสืบค้นลึกลงไป ในจุดนี้คัมภีร์หวงทำให้เย่เทียนไม่พอใจอย่างยิ่ง

ไม่ว่าพูดอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชายหยาบกระด้าง ผิวพรรณดันมาเหมือนกับหญิงสาวบริสุทธิ์ แม้กระทั่งขาวเนียนนุ่มเหมือนเด็กทารก นี่ไม่ใช่บีบเขาให้เดินเส้นทางของชายอ่อนหัดเหรอ?

ถึงพูดเช่นนี้ พอรู้สึกถึงมือที่อบอุ่นนั้นกดทับที่หน้าอกอยู่ เย่เทียนก็ออกแรงยืดส่วนเอว แสดงท่วงทียิ่งใหญ่น่าเกรงขาม

“ถึงพูดว่านี่คือเป็นช่วงกลางวันแสกๆ และเป็นลานจอดรถห้างที่ผู้คนเดินไปมา”

“แต่ว่า ขอเพียงเธอมีความต้องการ ฉันจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ?”

“มาเถอะ! รังแกฉันเถอะ! ทรมานฉันเถอะ! ย่ำยีฉันเถอะ!”

ฉินโล่หยินเคยเจอสถานการณ์ระดับนี้ที่ไหน ใบหน้างดงามชั่วพริบตาเดียวกลายเป็นก้นลิงแล้ว เขินอายจนรีบดึงแขนกลับมา

ผัวะ!

เพียงแค่ เย่เทียนจะปล่อยเธอไปแบบนี้ที่ไหน ยื่นมือกุมข้อมือของฉินโล่หยินไว้ฉับพลัน

ถ้าให้พูดว่าก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่อยากสอดแทรกบทตลกเสแสร้งผ่านด่านไปเท่านั้น ความเขินอายของหญิงสาวเวลานี้ก็อธิบายความคิดของเธอได้อย่างแจ่มแจ้ง

โดยเฉพาะ ถ้าฉินโล่หยินอยากปฏิเสธ คงผลักเย่เทียนออกไปตั้งนานแล้ว ไม่แน่ว่ายังฝากตบหนึ่งเข้าไปด้วย

มีของดีให้เอาเปรียบไม่เอาก็โง่แล้ว!

เย่เทียนใช้แรงดึง หญิงสาวประจวบเหมาะแนบเข้าในอ้อมอกเขาทันที

ประเด็นสำคัญคือ ภายใต้ความตั้งใจของเย่เทียน ริมฝีปากของสองฝ่ายแนบแน่นเข้าด้วยกันที่กลางอากาศอย่างไม่คาดคิด

บนตัวฉินโล่หยินยังปล่อยกลิ่นหอมละมุนที่ทรงเสน่ห์ออกมา แทรกเข้าโพรงจมูกของเย่เทียนอย่างเหิมเกริม ราวกับกำลังยั่วยวนเขาอยู่

ไม่เพียงแค่นี้ ผ่านเสื้อผ้าบางเบา เขาสามารถสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มที่กดทับบนหน้าอกตนเองไว้แจ่มชัด ไม่ต้องคิดก็รู้ว่านั่นคืออะไร

ฉินโล่หยินจะนึกได้อย่างไรว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ชั่วพริบตาเดียวเบิกดวงตาโต หัวสมองวางเปล่าครู่หนึ่ง

เย่เทียนที่หนังหน้าหนาดุจกำแพงเมืองคงไม่สนใจมากมายขนาดนั้น ถือโอกาสระหว่างที่หญิงสาวงงงวย ใช้ลิ้นปราดเปรียวงัดเปิดริมฝีปากของเธอออกอย่างราบรื่น บุกเข้ายึดครองในปากหญิงสาวอย่างกำเริบเสิบสาน

งง!

งงมาก!

งงมากๆ!

ตั้งนานฉินโล่หยินก็ไม่ได้สติกลับมาเลย เบิกดวงตาโตมองใบหน้าที่เข้ามาใกล้ตรงหน้าอย่างตาค้างมึนงง

ไม่มีอะไรอื่น นี่คือจูบแรกของเธอ ความหมายช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน

โดยเฉพาะเธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉิน ในอดีตใครไม่ปฏิบัติด้วยความเคารพบ้าง จูบแรกก็เสียไปอย่างงุนงงขนาดนี้แล้ว เธอไม่สับสนงุนงงได้อย่างไร?

อย่าว่าแต่เธอ ถึงเปลี่ยนเป็นผู้หญิงทั่วไปก็ตามมาแทนที่ เกรงว่าคงอึ้งค้างไปถึงที่สุดเช่นกัน

ยืนหยัดเป็นเวลาสามวินาทีกว่าเต็มๆ จนกระทั่งตอนหญิงสาวรู้สึกหายใจลำบากพอควรถึงได้สติกลับเข้ามา รีบผลักเย่เทียนออกแบบตื่นตระหนก

แทบจะในชั่วพริบตาเดียว ใบหน้าของหญิงสาวแดงเข้มเหมือนเลือดหยดได้ ราวกับลูกพลับที่สุกงอมผลหนึ่ง ทำให้คนอดใจไม่ไหวอยากจะกัดสักคำแรงๆ….