เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง อากาศดูเหมือนจะเยือกแข็ง บรรยากาศในรถตกอยู่ในความเงียบอันน่าประหลาด
หลังจากเสียจูบแรกไป แก้มขี้อายของฉินโล่หยินแดงก่ำไปทั่วทั้งใบ เธอได้แต่ก้มหน้าและไม่กล้ามองไปที่เย่เทียนอีกต่อไป
ในทางกลับกัน เย่เทียนกลับเลียริมฝีปากเพื่อทำท่าลิ้มรสชาติแห่งการจูบที่ยังติดอยู่ในปากของเขา
เมื่อมองย้อนกลับไปที่หญิงสาวคนนี้ เย่เทียนที่เดิมได้อารมณ์ก็เตรียมจะดำเนินขั้นตอนต่อไป
กริ๊ง กริ๊ง!
แต่น่าเสียดาย เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นก่อนเวลาอันควร
ริงโทนที่น่ารื่นรมย์ไม่เพียงแต่ทำลายบรรยากาศที่คลุมเครือเท่านั้น แต่ยังทำให้ฉินโล่หยินตั้งสติขึ้นได้อีกครั้ง
“เสื้อ เสื้อคุณขาดแล้ว เดี๋ยวฉันไปซื้อให้นะ!”
หลังจากนั้น เธอก็รีบลงจากรถราวกับวิ่งหนีเย่เทียนผู้ซึ่งเป็นเหมือนสัตว์ป่า
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของฉินโล่หยิน เย่เทียนได้แต่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มจนใจ และเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อออกมา
“คุณชายเย่ เกิดเรื่องขึ้นแล้วค่ะ!”
เสียงอ่อนไหวของกู้กวนชีดังขึ้นจากปลายทันที
เย่เทียนก็เริ่มประหม่าทันที “เกิดเรื่อง? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
กู้กวนชีพูดอย่างตรงไปตรงมา “เจิ้นเซ่าเฉินเพิ่งโทรหาฉัน บอกว่าจะเอาคีย์การ์ดประตูของบริษัท แล้วคืนนี้จะให้คนมาเอาค่ะ”
“จะเอาคีย์การ์ดประตู?”
เย่เทียนสีหน้าแปลกประหลาดทันที “ต่อให้มีเอกสารลับในบริษัท แต่ตำแหน่งของคุณไม่ได้สูงขนาดนั้น? แล้วเขาจะเอาคีย์การ์ดของคุณไปทำไม?”
“คุณชายเย่ คุณอย่าลืมนะว่าฉันอยู่ในตำแหน่งอะไร”
กู้กวนชีเตือนอย่างจนใจ “ถึงแม้คีย์การ์ดของฉันจะผ่านทุกประตูของบริษัทไม่ได้ แต่มันสามารถเข้าไปในออฟฟิศของประธานเฉินได้นะ!”
“เท่าที่ฉันรู้ ในออฟฟิศของประธานเฉินมีตู้เซฟอยู่ตู้หนึ่ง ซึ่งข้างในเก็บเอกสารที่เป็นความลับสูงของบริษัทของเราไว้มากมาย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดเย่เทียนก็ตระหนักได้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้
บริษัทแซ่เฉินมีส่วนร่วมในด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด ซึ่งข้อมูลการวิจัยที่เกี่ยวข้องบางอย่างต้องเก็บเป็นความลับอย่างสูง ถ้ามันรั่วไหลออกไป ก็สามารถจินตนาการได้ถึงความรุนแรงของผลที่ตามมาของบริษัทแซ่เฉิน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เทียนก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ผมเข้าใจแล้ว แต่คุณทำตามคำสั่งของเจิ้นเซ่าเฉินเลย เอากุญแจคีย์การ์ดให้เขาไปก่อน!”
กู้กวนชีรู้สึกกังวลเล็กน้อย “แต่ว่า……”
เรื่องแบบนี้มันเก็บเป็นความลับไม่ได้อยู่แล้ว และถ้าหากเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริงๆ คงหนีไม่พ้นความรับผิดชอบของเธออย่างแน่นอน
“ไม่ต้องห่วง ผมจะกลับไปตอนนี้แล้ว ไม่มีปัญหาใหญ่อะไรหรอก”
หลังพูดปลอบใจกู้กวนชี เย่เทียนก็ส่งข้อความถึงฉินโล่หยิน จากนั้นรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว ซึ่งจากเมืองเอกไปยังเจียงหนันต้องใช้เวลาในการเดินทางกว่าห้าชั่วโมง และบริษัทแซ่เฉินเลิกงานในเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง จึงไม่มีเวลาให้เขาล่าช้าได้อีก
แม้ว่าบริษัทแซ่เฉินจะมี รปภ. ที่จะรับผิดชอบการเฝ้ายามกลางคืน แต่เย่เทียนเชื่อว่าเจิ้นเซ่าเฉินต้องมีความมั่นใจอย่างแน่นอนที่เลือกลงมือในเวลานี้
ส่วนคุณหนูใหญ่ฉินผู้น่าสงสารที่ต้องซ่อนตัวอยู่ที่มุมแล้วสงบสติอารมณ์ของตน หลังจากอาการเขินอาย เธอใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะตั้งสติได้ แต่สุดท้ายก็ถูกทิ้งอย่างน่าสารอยู่ดี
แต่แน่นอน สำหรับฉินโล่หยินแล้วมันเป็นเรื่องดี อย่างน้อยเธอก็มีเวลาฟื้นคืนสติอารมณ์มากขึ้น
……
ในเวลาห้าทุ่มของคืนนั้น ในที่สุดเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์มือถือของเย่เทียนก็ดังขึ้น
เย่เทียนที่กำลังกินมื้อดึกอยู่ก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เมื่อเปิดแอพเข้าไปดู เขาก็รู้แจ้งทันทีสำหรับสถานการณ์ในออฟฟิศของผู้บริหารในบริษัทแซ่เฉิน!
ในเวลาสามทุ่มของคืนนั้น เขาก็กลับไปถึงเมืองเจียงหนันแล้ว หลังจากนั้น เขาได้ไปพบกับเฉิงหลงก่อน และแอบกลับไปที่บริษัทเพื่อเตรียมการลับโดยใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาได้นั่งกินมื้อดึกอย่างสบายใจในเวลานี้
บนหน้าจอโทรศัพท์ ชายคนหนึ่งในชุด รปภ. ที่สวมหน้ากากปิดหน้าได้เดินมาถึงชั้นบนสุดของสำนักงานแล้ว และในตอนนี้ เขาได้ใช้คีย์การ์ดประตูของกู้กวนชีเปิดประตูออฟฟิศของผู้บริหารในบริษัทเข้าไปอย่างเรียบร้อย!
เย่เทียนไม่ได้รีบร้อนใดๆ ซึ่งในขณะที่เขากำลังเฝ้าดูภาพอันคมชัดจากกล้องวงจรปิดพิเศษของกองทัพ เขายังเรียกเจ้าของร้านอาหารมาเช็กบิลไปด้วย แล้วจากนั้นก็ค่อยๆ เดินขึ้นรถโยวเชี่ยนเพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัทแซ่เฉิน
“ให้ผมรอตั้งนาน ถ้าปล่อยคุณสำเร็จง่ายๆ แบบนี้ แล้วผมจะทำมาหากินต่อยังไงล่ะ?”
เย่เทียนที่นั่งอยู่บนเบาะหลังของรถโยวเชี่ยนพึมพำขึ้น
“เข้าประตูเรียบร้อย! เพอร์เฟค!”
รถโยวเชี่ยนที่ได้ยินคำนี้ก็รู้ทันทีว่าเย่เทียนเป็นแฟนบอลตัวยง และอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “พี่ชาย พี่ดูคู่ไหนอยู่ครับ? ทีมไหนทำประตูได้ครับ?”
“ทีมโรงไฟฟ้า” เย่เทียนตอบอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองเลย
“ทีมโรงไฟฟ้า?”
ในความทรงจำของคนขับนั้น เขาไม่เคยรู้จักทีมนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ได้แต่ขมวดคิ้วและถามอย่างงุนงง “พี่ชาย พี่ดูบอลระดับจังหวัดอยู่จริงเหรอ? มีทีมไหนเพิ่งเปลี่ยนชื่อหรือเปล่าครับ?”
“เหิงจง”
“ใช่เหรอครับ?”
คนขับรถรถโยวเชี่ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ “ก่อนหน้านี้ไม่ได้ข่าวอะไรเลย ทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนชื่อทีมได้ครับ?”
“ใครจะรู้? บางทีเจ้าของทีมเหิงจงอาจจะคิดว่าทีมฟุตบอลของเขาทำกำไรไม่ได้ ก็เลยเปลี่ยนไปลงทุนโรงไฟฟ้าแทนก็ได้”
“หรือเขาอาจคิดว่าจะประกาศเปิดตัวอย่างเซอร์ไพรซ์ ก็เลยเลือกประกาศข่าวนี้ในวันเปิดสนามก็ได้”
คำพูดของเย่เทียนทำให้คนขับรถรถโยวเชี่ยนถึงกับตะลึงอย่างที่สุด ในฐานะแฟนบอลตัวยง ถ้าหากไม่ติดที่ว่ามีกฎห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ เขาคงจะหยิบโทรศัพท์มาเสิร์ชหาข้อมูลแล้ว
อันที่จริง มันเป็นการเข้าประตูแล้วก็จริง แต่ประตูที่ว่านั้นไม่ใช่ประตูฟุตบอล
ในชาติที่แล้ว เย่เทียนได้ผ่านประสบการณ์อันมืดมิดตั้งมากมาย ซึ่งการขุดหลุมวางกับดักหรือการซุ่มโจมตีนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กสำหรับเขาเท่านั้น เมื่อไหร่ที่เขาไม่มั่นใจว่าเหยื่อจะมาติดกับ เขาจะไม่รออยู่เฉยๆ อย่างแน่นอน
แต่แน่นอนว่าเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ที่ทำให้เขาเกิดไอเดียนี้ก็คือเฉินหวั่นชิง
เพราะเย่เทียนไม่เคยลืม ยัยผู้หญิงคนนี้เคยคิดเล็กคิดน้อยต่อเขาอย่างไร ฉะนั้น ด้วยหลักความคิดในการจับผิดของเขา เขาจึงจำเป็นต้องยืมของบางสิ่งกับเฉิงหลง
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้กล้องวงจรปิดอัลตร้าไมโครรุ่นล่าสุดของกองทัพมาใช้ ซึ่งอุปกรณ์นี้ไม่เพียงแต่จะมีขนาดเล็กเท่าเข็ม แต่มันยังมาพร้อมกับเอฟเฟกต์การมองเห็นในตอนกลางคืนและเซนเซอร์อินฟราเรด และกล้องทั่วไปในท้องตลาดเทียบกับมันไม่ได้อย่างแน่นอน
ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด โจรผู้น่าสงสารก็ต้องตกหลุมพรางของเย่เทียนโดยไม่ทันรู้ตัว
ในขณะที่เขาเพิ่งเปิดประตูออฟฟิศของผู้บริหารบริษัทนั้น ตาข่ายลวดทองแดงก็ร่วงลงมาจากด้านบนเพดานและครอบเขาไว้อย่างมิดชิดทันที
วินาทีถัดมา โดยไม่ต้องรอให้โจรตั้งตัวได้ กระแสไฟฟ้าที่รุนแรงก็โหมกระหน่ำขึ้นอย่างรุนแรง
พร้อมกับประกายไฟที่ปะทุขึ้น ร่างกายเปลือกนอกและเสื้อผ้าของโจรก็ไหม้เกรียมอย่างไม่เป็นท่า!
แต่นี่ยังเป็นสถานการณ์ที่เย่เทียนตัดกระแสไฟฟ้าไปแล้ว ไม่อย่างนั้น โจรคนนี้ไม่ใช่เพียงแค่ชาไปทั้งตัวและสลบไปเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้น มันยังไม่จบเพียงเท่านั้น ในขณะที่กระแสไฟถูกตัด เย่เทียนก็กดอีกปุ่มหนึ่งเบาๆ!
“อีกสักรอบนะ!”
ด้วยเสียงพึมพำอันชั่วร้ายของเย่เทียนดังขึ้น อิฐแข็งที่แขวนอยู่เหนือศีรษะของโจรก็ร่วงหล่นลงมากระแทกกับศีรษะของเขาอย่างแม่นยำ
โจรผู้น่าสงสารยังไม่ทันหลุดออกมาจากตาข่ายลวดเหล็กได้ เขาก็ถูกอิฐแข็งทุบเข้ากลางหัวแล้วหมดสติไปในทันที…