บทที่ 192 เวลามีค่า

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

สิบห้านาทีต่อมา รถโยวเชี่ยนก็ได้จอดลงบนถนนที่บริษัทแซ่เฉินตั้งอยู่

และเย่เทียนที่ลงจากรถก็ได้เดินเข้าไปในซอยแล้วหายตัวไป ส่วนคนขับรถโยวเชี่ยนก็แทบรอไม่ไหวที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อหาข้อมูลข่าวก่อนหน้านี้

“แปลกแหะ เหิงจงยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อเลยนะ?!”

เมื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุดของบริษัทแซ่เฉินด้วยความคุ้นชิน และหลังจากยกเท้าเตะไปที่หัวขโมยที่ยังคงหมดสติแต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ เย่เทียนจึงเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของกู้กวนชีด้วยรอยยิ้ม และจากนั้นก็ดึงกระเป๋าถือออกมาใบหนึ่ง

ซึ่งในกระเป๋าใบนั้นเต็มไปด้วยเหล็กเส้นที่มีความหนาที่ต่างกัน

จากนั้นเย่เทียนมัดเหล็กเส้นเหล่านั้นให้ก่อตัวเป็นทรง ‘ไม้กางเขน’ และติดกับราวหน้าต่างไว้แน่นๆ และค่อยลากตัวหัวขโมยคนนั้นเข้ามา

หัวขโมยถูกมัดติดกับเหล็กไม้กางเขนไว้แน่นๆ ด้วยเชือกที่ทนทานที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ และจากนั้นเย่เทียนตบหน้าหัวขโมยเพื่อทำให้เขาตื่น

ขโมยยังไม่ทันได้สนใจความปวดเมื่อยตามร่างกายของเขา แต่ทันทีที่ลืมตาขึ้น สิ่งแรกของเขาก็คือความตกใจกลัว

“คุณ คุณเป็นใคร?”

“ผมต่างหากที่ควรถามคุณไม่ใช่เหรอ?”

เย่เทียนยิ้มอย่างชั่วร้าย “แต่ว่า ผมยังไม่อยากถามคุณตอนนี้หรอกนะ เพราะผมเพิ่งได้อุปกรณ์ชุดนี้มา ต้องทดสอบก่อนว่ามันยังใช้งานได้หรือไม่!”

“แต่แน่นอน ผมเชื่อว่าเมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้น คุณจะพูดทุกอย่างที่คุณรู้เลยล่ะ!”

เมื่อหวนคิดถึงความเจ็บปวดที่เพิ่งประสบมา หัวขโมยอดรู้สึกสยดสยองไม่ได้ และพูดด้วยเสียงสั่นเทา “คุณ คุณจะทำอะไร?”

ในระหว่างที่พูด เขาก็เริ่มพยายามดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว

แต่ว่า เย่เทียนอุตส่าห์ไปยืมของมาจากเฉิงหลงแล้ว แล้วเขาจะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร?!

“คุณอย่าดิ้นให้เปลืองแรงเลย ของนี้ผมยืมมาจากกองกำลังพิเศษเชียวนะ อุปกรณ์ทุกอย่างทำมาจากวัสดุพิเศษด้วย”

เย่เทียนพูดอย่างเย้ยหยันต่อ “ถ้าตามคนที่ยืมเครื่องมือบอกผม คุณต้องมีพลังระเบิดมากกว่าสิบตัน ไม่อย่างนั้นคุณจะดิ้นหลุดจากมันไม่ได้หรอก”

ในขณะที่พูดอยู่นั้น เย่เทียนก็ดึงกระเป๋าถือที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาอีกใบ

ภายใต้สายตาที่น่าสยดสยองของโจร เย่เทียนดึงสายเคเบิลหนาและยาวประมาณห้าเมตรออกจากกระเป๋าถือใบนั้น ซึ่งปลายสายนั้นเข็มเงินเรียวยาวสองเข็มที่ยาวประมาณยี่สิบเซนติเมตร

โจรไม่สามารถระงับความกลัวได้ และถามขึ้นว่า “นี่ นี่มันอะไรกัน?”

“นี่คือไฟฟ้าบำบัด พูดตรงๆ คือ การกระตุ้นจุดกวนหยวนด้วยกระแสไฟแรงสูง แล้วมันจะเกิดผลลัพธ์ในการรักษาได้”

เย่เทียนอธิบายไปด้วยและดึงสายไฟพร้อมปลั๊กออกจากกระเป๋าถือไปด้วย จากนั้นเสียบเข้ากับเต้ารับใต้โต๊ะข้างๆ แต่ซึ่งเดิมใช้สำหรับจ่ายไฟให้กับคอมพิวเตอร์

“จริงด้วยสิ คุณน่าจะรู้ว่าการบำบัดด้วยไฟฟ้าคืออะไรใช่ไหม?”

โจรได้แต่ส่ายหัว

“หึหึ ไร้มนุษยธรรม น่ากลัวจริงๆ”

เย่เทียนส่ายหัวอย่างจนใจ จากนั้นค่อยๆ สวมถุงมือยางหุ้มฉนวนแล้วเปิดสวิตช์ “หลักการของมันก็คล้ายกับการบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้าของศาสตราจารย์หยาง เพียงแต่ว่า ของเขามีสวิตช์ควบคุมความแรงของกระแสไฟฟ้า แต่ของผมไม่มี”

“อีกอย่าง อุปกรณ์ชุดนนี้ผมเพิ่งประกอบขึ้นมาเอง รายละเอียดวิธีใช้ผมก็ยังไม่รู้ด้วย แต่เดี๋ยวผมจะทดลองไปแล้วอธิบายให้คุณไปด้วยก็แล้วกันนะ”

หวืด หวืด!

เย่เทียนทาบเข็มเงินสองเข็มนั้น ทันใดนั้นก็มีประกายไฟสีน้ำเงินแพรวพราวขึ้น และภาพนี้ก็ทำให้โจรถึงกับหน้าซีดและเหงื่อเท่าเมล็ดถั่วก็หยดลงจากหน้าผากของเขา

กรึบ!

โจรอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายด้วยความสยดสยองและพูดด้วยเสียงสั่นเทา “คุณ คุณอย่ามามั่วนะ!”

“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณจะตื่นเต้นอะไรล่ะ?”

เย่เทียนแสยะยิ้ม จากนั้นหยิบกรรไกรบนโต๊ะข้างๆ เขาแล้วตัดเสื้อผ้าบนร่างกายท่อนบนของหัวขโมยออกเพื่อให้เห็นตำแหน่งของสะดือของเขา

“การบำบัดด้วยไฟฟ้าจะเน้นไปที่จุดกวนหยวนของร่างกายมนุษย์เป็นหลัก”

เย่เทียนเหยียดมือไปที่จุดกวนหยวนของหัวขโมยคนนั้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็เหมือนจุดกวนหยวนนี่ ถ้าคุณช็อดมันด้วยความร้อนเบาๆ สามถึงห้านาที มันสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศได้ และเพิ่มพลังบนเตียงให้กับเพศชายได้”

“ประเด็นสำคัญคือ ถ้าการบำบัดด้วยไฟฟ้านี้มันสามารถช่วยคนได้ แน่นอนว่ามันก็สามารถทำร้ายคนได้เช่นกัน”

“จากการทดลองของนายแพทย์ผู้ไร้นิรนามคนหนึ่ง ภายใต้การกระตุ้นของกระแสไฟฟ้าแรงสูง เขาใช้เวลาเพียงสามสิบวินาทีก็สามารถทำลายจุดกวนหยวนในตัวได้”

เย่เทียนยืนเข็มเงินที่ยังมีกระแสไฟฟ้าไปที่โจรคนนั้นด้วยรอยยิ้มและถามอย่างจริงจังว่า “จริงด้วยสิ คุณรู้ไหม ถ้าจุดกวนหยวนถูกทำลาย แล้วมันจะมีผลอะไร?”

“มี มีผลอะไร?” โจรคนนั้นพยายามยืนตัวตรงเพื่อจะถอยไปให้มากที่สุด

“อันที่จริงๆ มันไม่ใช่ผลร้ายแรงอะไรหรอกนะ ก็แค่จะสูญเสียความเป็นชายก็เท่านั้น”

เย่เทียนยิ้มอย่างขมขื่น “มันก็เหมือนพระ นอกจากปัสสาวะแล้ว มันจะใช้การอะไรไม่ได้อีก”

“ผม ผมจะพูดทุกอย่างครับ! คุณอยากรู้อะไร ผมจะพูดทุกอย่างครับ!”

หัวขโมยทรุดตัวลงทันที

ถ้าเป็นแค่การข่มขู่ทางวาจา เขาอาจจะเถียงให้นานกว่านี้

แต่แสงสีน้ำเงินจาง ๆ ที่ส่องประกายอยู่ตรงหน้าเขานั้น ถึงแม้มันอาจไม่สามารถทำลายจุดกวนหยวนอย่างที่เย่เทียนพูด แต่มันก็ควรเจ็บบ้างไม่ใช่หรือ? แล้วถ้าถึงขั้นตายล่ะ?

“ได้ไงล่ะ? นี่ผมอุตส่าห์เตรียมของตั้งนานเลยนะ จะให้ผมเสียเวลาฟรีๆ ได้ยังไง?”

เย่เทียนยิ้มอย่างขมขื่น “อีกอย่าง เพื่อจะยืนยันในสิ่งที่ผมพูด ถ้าไม่ได้ลองให้รู้ ผมกลัวคุณจะไม่เชื่อน่ะสิ!”

“ไม่ ไม่ ไม่! ผมเชื่อ! ผมเชื่อคุณอย่างที่สุด!”

“แต่ผมว่าเราลองพิสูจน์กันจะดีกว่า”

เย่เทียนส่ายหัวแล้วพูดต่ออย่างจริงจัง “คุณอาจจะยังไม่รู้จักผม ผมเป็นคนจริงจังนะ แล้วผมก็ชอบเอาความจริงมาพิสูจน์เสมอ”

“ไม่! อย่านะ!” หัวขโมยกลัวจนพูดทั้งน้ำตา

แต่ว่า เย่เทียนจะสนใจเขาได้อย่างไร รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาอีกครั้ง และเขาก็ค่อยๆ เจาะเข็มเงินทีละเส้นเข้าไปในจุดฝังเข็มกวนหยวนของโจรคนนั้น!

พั่บ พั่บ!

เสียงระเบิดปิ้งย่างบาร์บีคิวดังขึ้น ร่างของโจรสั่นสะท้านทันทีอย่างควบคุมไม่ได้ ประสาทของกระเพาะปัสสาวะที่ต้องการขับถ่ายก็ส่งตรงไปยังสมอง

ซ่า ซ่า!

ในเวลาเพียงสามวินาที ไม่ว่าโจรจะพยายามกลั้นมันไว้แค่ไหน แต่ของเหลวสีเหลืองอ่อนยังคงไหลออกมาจากเท้าของเขา ทำให้กลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว

เย่เทียนดึงเข็มเงินออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดกระแสไฟฟ้าในร่างของโจรคนนี้

จากนั้นดึงปลั๊กออกแล้วดึงเก้าอี้มานั่งลง สองขาของเขาไขว่ห้างแล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “น้องชาย ตอนนี้คุณเชื่อแล้วใช่ไหม?”

โจรที่กำลังร้องไห้ก็พยักหน้าอย่างเร่งรีบ “ผมเชื่อแล้ว! ผมเชื่อแล้ว!”

“ในเมื่อคุณเชื่อแล้ว งั้นเรามาคุยเรื่องค่าใช้จ่ายกันเถอะ”

“อะไรนะ?” โจรถึงกับสับสน

“ก็เรื่องค่าเสียหายไงเล่า!”

เย่เทียนขยับเข้าไปแล้วตบกะโหลกของโจรคนนั้นและพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เงินดีงานเดิน เงินเกินงานวิ่ง เงินนิ่งงานหยุด เงินสะดุดงานชะงัก เงินชักงานถอย!”

“กูเป็นคนหาเงินนับล้านภายในนาทีเดียวนะ ถ้าไม่ใช่เพราะจะแบล็กเมล์มึง แล้วกูจะเสียเวลาขนาดนี้ทำไม? ส่งตัวไปให้ตำรวจเลยไม่ดีกว่าเหรอ? เผลอๆ ยังได้เหรียญความกล้าอีก!”