หลินจือกับจอร์แดนกอดแล้วร้องไห้ด้วยกันสักพัก จนกระทั่งอารมณ์ของหลินจือค่อยๆสงบลง
เทาเท่ลุกขึ้นก่อนให้มีที่ด้านข้างหลินจือ แล้วยกมือขึ้นประคองจอร์แดนที่คุกเข่าครึ่งตัวไปนั่งบนโซฟา:“คุณนั่งนี่สิครับ ค่อยๆพูดกัน”
จอร์แดนมองเขาแวบหนึ่ง แล้วนั่งลงด้านข้างหลินจือ
ถือว่าเขาคิดเป็น ตอนนี้ทำให้เขาที่เป็นพ่อแท้ๆขุ่นเคืองใจไม่ได้ ก็ต้องใช้หัวใจไปเอาใจ
เทาเท่หยิบทิชชูสองสามแผ่นยื่นให้หลินจือ ให้เธอเช็ดน้ำตา
จากนั้นตัวเองจึงนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวด้านข้างเงียบๆ ถึงแม้เขาอยากนั่งข้างหลินจือมาก อยากเป็นคนที่เอาเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนแล้วให้เธอร้องไห้ แต่ชัดเจนว่าตอนนี้เขาไม่มีโอกาส
หลินจือพยายามให้อารมณ์ของตัวเองสงบลง แต่น้ำตาที่ห้ามยากนั้นมักจะไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่
เธอรู้สึกแย่มาก ดังนั้นจึงเช็ดน้ำตาไปพูดไปว่า:“ขอโทษค่ะ ที่จริงฉันมีความสุขมาก ฉันคิดไม่ถึงว่าฉันที่ไม่ได้รับความรักจากพ่อตั้งแต่เด็ก จะมีความฝันที่เป็นจริงได้ในวันนี้……”
หลินจือพูดจบก็ร้องไห้ออกมา
แต่เล็กจนโต เธอไม่เคยรู้สึกถึงความรักของพ่อเลยสักนิด ไม่มีใครรู้ว่าลึกลงในใจเธอต้องการแค่ไหน
เธอก็เคยพยายามตั้งใจเรียน พยายามทำทุกอย่าง พยายามให้ตัวเองยอดเยี่ยม หวังว่าจะได้รับความห่วงใยและปกป้องรักษาจากชาร์ลีมาบ้าง ต่อมาเธอก็ค่อยๆเข้าใจว่า มาว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ชาร์ลีก็ไม่ชอบเธอ
ความกระหายที่มีต่อรักของพ่อนั้น จึงเก็บลึกลงไปในใจ
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าวันนี้ในหลายปีที่ผ่านมา เธอดันหาพ่อแท้ๆเจอ และพ่อแท้ๆคนนี้ก็ดีต่อเธอเช่นนี้ด้วย เธอตื่นเต้นและดีใจมาก จนน้ำตาไหลออกมา
คำพูดหลินจือทำให้จอร์แดนที่ไม่อาจสงบอารมณ์ลงได้ตาแดงก่ำอย่างปวดใจอีกครั้ง และร้องไห้โดยไม่มีเสียงออกมา
ลูกสาวสุดที่รักของเขา เมื่อก่อนข้างในใจต้องเสียใจมากแค่ไหนกันนะ
เทาเท่ก็เบือนหน้านี้อย่างสงสาร ชาร์ลีเลวต่อหลินจือมากแค่ไหนเขารู้ดี แต่ถ้าชาร์ลีรักหลินจือบ้างสักนิด ก็คงไม่วางยาเธอแล้วให้เธอไปนอนบนเตียงของชายอื่นหรอก
นั่นไม่ต่างอะไรกับขายลูกสาวเลย
ถึงแม้เทาเท่เข้าใจความตื่นเต้นของพวกเขาสองคนพ่อลูก แต่ต้องรู้ว่าตอนนี้พวกเขามีเรื่องที่สำคัญมากต้องทำ นั่นก็คือรีบชี้แจงข่าวซุบซิบเหล่านั้นกับโลกภายนอก
ดังนั้นเขาจึงเตือนจอร์แดนได้พอดี:“คุณจอร์แดน ในเมื่อคุณเตรียมพร้อมพวกนี้แล้ว งั้นควรชี้แจงกับโลกภายนอกก่อนดีไหม?”
ครั้งนี้จอร์แดนมาเมืองเจสเวิร์ดพร้อมกับข้อมูลพวกนี้ ต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือแล้วแน่ๆ
เทาเท่เตือนไปแบบนี้ จอร์แดนรีบยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่หางตา มองไปที่เทาเท่แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ใช่ เรื่องนี้สำคัญที่สุด”
จอร์แดนพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มากำชับไป แป๊บเดียวลูกน้องเขาก็ประกาศชี้แจงในนามเขา
เรื่องประกาศตัวตนหลินจือ ตั้งแต่จอร์แดนแน่ใจว่าหลินจือคือลูกสาวแท้ๆของตัวเอง ก็พร้อมประกาศแล้ว
รายงานดีเอ็นเอและยังมีรูปที่คล้ายคลึงกันและคำที่ใช้พูด เขาก็เตรียมไว้แล้ว จึงรอแค่เขาออกคำสั่งเท่านั้น
กำชับเรื่องนี้เสร็จจอร์แดนก็วางสายแล้วรีบมองไปที่หลินจือ อารมณ์ของหลินจือค่อยๆสงบลงแล้ว
เธอตาแดงก่ำมองไปที่จอร์แดนแล้วถามว่า:“พ่อรู้ความสัมพันธ์ของเรานานแล้วเหรอคะ?”
จอร์แดนหารูปใบหนึ่งจากกองข้อมูลนั้นมายื่นให้หลินจือ:“พ่อเห็นลูกแวบแรก ในใจก็พอจะเดาบ้าง เพราะว่าลูกหน้าเหมือนแม่ลูกมาก”
หลินจือรับผู้หญิงที่ดูสาวในรูปนั้นมาดู แม้แต่เธอเองยังตกใจมาก
เหมือนกันจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่อยู่ในวัยที่ดีที่สุดในภาพ อายุพอๆกับเธอตอนนี้ ใบหน้าของทั้งสองแทบจะเหมือนกัน
หลินจือคิดย้อนถึงภาพที่เจอกับจอร์แดนครั้งแรก ไม่น่าล่ะตอนนั้นจอร์แดนดูตะลึงอย่างมาก และต่อมาเธอก็พบลูน่า ลูน่าเอาแต่จ้องเธอ จนเบ้าตาแดงก่ำ
และยังมีนายหญิงใหญ่ตระกูลแม็กซิมัส ที่เห็นเธอแล้วก็เสียการควบคุมอารมณ์ และยังให้เครื่องประดับอันล้ำค่ากับคฤหาสน์แก่เธออีก
ที่แท้ พวกเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอนานแล้ว
จอร์แดนพูดอีกว่า:“ตอนเราเจอกันครั้งแรก พ่อก็แน่ใจว่าลูกคือลูกสาวของพ่อ ดังนั้นเลยไปขอลูกเป็นลูกบุญธรรมก่อน อยากกระชับความสัมพันธ์กับลูก”
“ตอนแรกพ่อกังวลมากว่าลูกจะคิดว่าข้อเสนอของพ่อกะทันหันไป ดังนั้นเลยใช้ข้ออ้างเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งของลูกเพื่อไม่ให้ลูกถูกรังแก”
จอร์แดนพูดถึงตรงนี้รอยยิ้มที่ใบหน้าก็บานแฉ่งทันที:“คิดไม่ถึงว่าลูกจะตกลงตามข้อเสนอของพ่ออย่างมีความสุข พ่อรู้สึกได้ว่าลูกประทับใจพ่อไม่เลวเลย พ่อดีใจมาก”
“นี่ล่ะนะเสน่ห์แห่งสายเลือด”จอร์แดนพูดไปปลงๆเช่นนี้ หลินจือก็พยักหน้าแรงๆ
“เมื่อก่อนฉันแค่เห็นพ่อเป็นไอดอลในด้านวรรณกรรมเท่านั้น หลังจากครั้งแรกที่เจอพ่อที่เปกก้า ฉันก็รู้สึกแปลกๆ รู้สึกอยากใกล้ชิดพ่อ เชื่อว่าพ่อไม่ทำร้ายฉันอย่างไร้เหตุผล”
ตอนนี้ได้ยินหลินจือกับจอร์แดนสองพ่อลูกคู่นี้เล่าความรู้สึกดีๆที่แต่ละฝ่ายมีให้อีกฝ่ายต่อกันแบบนี้ เทาเท่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงอารมณ์เขาในตอนแรกสุดที่หลินจือบอกว่าตกลงเป็นลูกสาวบุญธรรมของจอร์แดน
ตอนนั้นเขาเห็นจอร์แดนเป็นชายแก่ที่คิดร้ายโดยสิ้นเชิง……
จอร์แดนพูดต่อไปว่า:“ครั้งที่สองตอนลูกไปเปกก้า พ่อให้คนที่โรงแรมช่วยเอาผมของลูกมาตรวจดีเอ็นเอ แล้วผลก็เป็นอย่างที่พ่อคิดไว้”
จอร์แดนพูดถึงตรงนี้ก็ยกมือขึ้นลูบหน้าผากของหลินจือเบาๆด้วยความรัก พูดด้วยน้ำเสียงเอาใจ:“หลินจือ ลูกคือลูกสาวแท้ๆของพ่อนะ”
“ให้ลูกลำบากอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายปี พ่อขอโทษนะ”จอร์แดนพูดขอโทษหลินจือออกมาจากใจ“พ่อไม่เคยรู้เลยจริงๆว่าตอนที่แยกทางกับแม่ลูกเธอจะตั้งท้องลูก ถ้าพ่อรู้ ก็คงตามหาพวกลูกโดยไม่คำนึงถึงใดๆ”
หลินจือส่ายหน้าเบาๆ:“พ่อไม่ได้ทำอะไรผิดต่อฉันเลย พ่อไม่รู้ไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันรู้ว่า ถ้าพ่อรู้ว่าฉันมีอยู่ จะต้องตามหาฉันแน่ และต้องตามใจและรักฉันมากแน่”
“พวกเรามารู้จักกันตอนนี้ก็ทัน ทั้งหมดนั้นฟ้าลิขิตไว้ดีหมดแล้ว”หลินจือพูดเยอะไม่หยุด เพื่อให้ความรู้สึกผิดในใจจอร์แดนน้อยลง
จอร์แดนซาบซึ้งมาก ลูกสาวของเขาช่างสวยงามเสียจริง
จากนั้นจอร์แดนก็เล่าเรื่องในอดีตของเขากับแม่ของเธอให้หลินจือฟัง:“ตอนนั้นพ่อไม่ได้ตามหาเธอต่อ เพราะไม่อยากให้เธอเหนื่อยเพราะเรื่องที่บ้านพ่อไปด้วย พ่อรักเธอมาก จะทำใจให้เธอลำบากกับพ่อไปด้วยกันได้อย่างไร”
“คิดไม่ถึงว่า การแยกจากกันครั้งนั้น จะเป็นการจากลาตลอดไป ไม่ได้เห็นเธออีกในชีวิตนี้”
คำพูดของจอร์แดนทำให้หลินจือเงยมองหญิงที่ดูสาวในรูปนั้นอีกครั้ง เธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นไปลูบใบหน้าที่สวยงามของเธอเบาๆ
การที่เธอด่วนจากไปมันน่าเศร้ามากจริงๆ เธอที่เป็นลูกสาวไม่มีความทรงจำต่อเธอเลยสักนิด
บางที ทั้งหมดนี้อาจคือชีวิตก็เป็นได้