ทั้งสามกลับไปที่ห้องของจอร์แดน เทาเท่นั่งอยู่บนโซฟากับหลินจือ จอร์แดนกลับหยิบซองเอกสารอันหนึ่งมาจากตู้เซฟ
ก่อนที่เขายื่นซองเอกสารให้หลินจือ จอร์แดนพูดกับหลินจืออย่างเคร่งขรึมว่า:“เรื่องราวสำหรับคุณแล้วอาจจะคาดไม่ถึงไปหน่อย คุณทำใจดีๆก่อนนะ”
หลินจือพยักหน้า จอร์แดนจึงเอาเอกสารให้เธอ
เทาเท่ยกมือขึ้นหยุดไปตรงกลางทั้งสอง หรี่ตามองแล้วถามจอร์แดนอย่างระมัดระวัง:“คุณแน่ใจนะว่าของข้างในนี้ จะไม่ทำร้ายเธอ?”
มุมปากจอร์แดนนั้นมีรอยยิ้มที่สง่างาม แต่พูดออกมากลับไม่ได้ดูดีเลยสักนิด:“วางใจเถอะ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ทำร้ายเธอเหมือนที่คุณให้ใบหย่าเธอหรอก”
เทาเท่:“……”
จอร์แดนกินยาผิดขวดมาหรือไง ถึงได้มาพูดถึงเรื่องที่เขาหย่ากับหลินจือในตอนนี้
เขากัดฟันตอบโต้อย่างไม่พอใจไปว่า:“อะไรคือผมให้ใบหย่าเธอ?เธอจะหย่าเองต่างหาก ต้องบอกว่าเธอเอาใบหย่าให้ผมสิถูก!”
จอร์แดนส่งเสียงฮึดฮัดให้เขาอย่างเย็นชา ถ้าไม่ใช่เขาที่ทำร้ายหลินจืออย่างเจ็บลึก หลินจือจะตัดสินใจหย่าได้ไง?
แต่เขาก็ไม่พูดอะไรมาก ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเรื่องนี้
หลินจือรับซองเอกสารแล้วก้มหน้าลงเปิด เทาเท่กลับนั่งมองอยู่ข้างเธอ เขารู้สึกว่าตัวเองโกรธจนหายใจไม่ออก หัวใจแทบจะทะลักออกมา
เขาเป็นคนนอก ดูเหมือนจะกังวลยิ่งกว่าหลินจือที่เป็นคนเกี่ยวข้องเสียอีก
เขาหมดหนทาง เขาไม่รู้ว่าในซองเอกสารใส่อะไร
หลินจือหยิบของอย่างแรกออกมาจากในซองเอกสาร เป็นใบรับรองการตรวจดีเอ็นเอฉบับหนึ่ง
ตอนหลินจือเห็นตัวอักษรบนนั้น ก็เบิกตาโตอย่างตกใจ
ตรวจดีเอ็นเอ?
ของใครกับใคร?
มองไปด้วยความสงสัยเช่นนี้ ตอนที่เห็นด้านบนเขียนว่า“ผลตรวจ DNA ของจอร์แดนและหลินจือ”หลินจือก็ตะลึงไปหมด
เพราะว่าตกใจมากจนสมองเสียความสามารถในการคิดไปชั่วคราว ดังนั้นหลินจือจึงอ่านรายงานทั้งหมดอย่างมึนๆ ตอนสายตามองไปที่ประโยคสุดท้ายนั้นเขียนว่า“ความเป็นไปได้ในการเป็นพ่อลูก 99.9999%”เธอก็ตอบสนองไม่ถูกว่านี่คืออะไร
เทาเท่ที่อยู่ข้างเธอก็ตกใจมาก ยกมือขึ้นหยิบรายงานในมือเธอมา จ้องแล้วอ่านไปอย่างละเอียด
พูดให้ชัดเจนก็คืออ่านทุกๆตัวอักษรไปรอบหนึ่งอย่างไม่ตกหล่น แม้แต่ตราประทับสุดท้ายก็ยังดูอย่างละเอียดว่าของจริงหรือไม่
หลังจากนั้นสักพัก เขาจึงเงยมองไปที่จอร์แดนอย่างไม่เชื่อ:“หลินจือเป็นลูกสาวแท้ๆของคุณ?”
หลินจือก็เงยมองไปที่จอร์แดนตอนที่เทาเท่ถามคำถามนี้ จากนั้นเห็นจอร์แดนพยักหน้าอย่างมั่นใจสุดๆ:“ใช่ เธอคือลูกสาวแท้ๆของผม”
ต้องเป็นจริงแน่ๆ
สถาบันตรวจดีเอ็นเอที่เขาหานี้เป็นสถาบันที่มีอำนาจมากที่สุด ไม่สามารถปลอมแปลงได้
เขาก็ไม่จำเป็นต้องโกหกด้วย
กลัวว่าเขาสองคนจะไม่เชื่อ จอร์แดนจึงยกมือขึ้นถอดแว่นตัวเองออกแล้วพูดกับทั้งสองคนว่า:“ตาของพวกเราเหมือนกันมาก”
“ในซองเอกสารยังมีรูปสมัยผมยังหนุ่ม ใบนั้นเหมือนมาก”
ตาคู่นั้นของหลินจือสลักไว้ในใจเทาเท่แล้ว ดังนั้นเขาจึงแค่ขมวดคิ้วสำรวจตาของจอร์แดน เหมือนกันจริงด้วย
เขาช่วยหลินจือหยิบของในซองเอกสารออกมาอีกครั้ง ด้านในมีภาพจอร์แดนใบหนึ่งที่ยังหนุ่มไม่สวมแว่นจริงๆ ดูจากภาพนั้นแล้ว นอกจากตาของหลินจือจะเหมือนกับจอร์แดนแล้ว เสน่ห์และนิสัยของคนอ่อนโยนดุจดอกเบญจมาศที่โผล่ออกมาจากใบหน้า ก็เหมือนมาก
ถึงไม่มีการตรวจดีเอ็น ดูแค่รูปนี้อย่างเดียว ก็มองออกว่าเป็นพ่อลูกกันอย่างไม่ต้องสงสัย
เทาเท่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรทันที นั่งตะลึงจ้องรูปตรงหน้ากับหลินจือตรงนั้น
แม้แต่เทาเท่ที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย ก็ยังต้องการเวลาในการทำใจเรื่องนี้ แล้วนับประสาอะไรกับหลินจือที่เป็นคนเกี่ยวข้องด้วยนั้น
สมองของเธอหยุดนิ่ง เธอรู้ว่าตรงหน้าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดหรือจะทำอย่างไรดี
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน มืออุ่นคู่นั้นวางไว้หลังมือเธอ ความร้อนที่มาอย่างต่อเนื่องค่อยๆดึงความคิดที่ไปไกลของเธอกลับมา
เทาเท่กุมมือของเธอแน่น พร้อมกับเรียกเธอเบาๆ:“หลินจือ?”
หลินจือหันหน้ามองไปที่เขาทันที ก็ได้ยินเขาพูดอีกว่า:“叶老师เป็นพ่อแท้ๆของคุณ ตอนนี้เรื่องซุบซิบเหล่านั้นก็โจมตีไม่ได้แล้ว”
แค่จอร์แดนโชว์ใบรับรองตรวจดีเอ็นเอนี้ แผนร้ายของเบลซและคนอื่นๆก็จะไม่เป็นผล
พ่อลูกกันแท้ๆไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วไง?ไปเที่ยวนั่นนี่ด้วยกันแล้วยังไง?
และถึงหลินจือใช้ความสัมพันธ์ของจอร์แดนได้อำนาจในการเขียนบทมา แล้วจะยังไง?
เขาเป็นพ่อแท้ๆของหลินจือ เรื่องอะไรถึงไม่เอาอำนาจในการเขียนบทให้ลูกสาวตัวเองล่ะ?
ไม่น่าล่ะเมื่อกี๊ในสายน้ำเสียงของจอร์แดนถึงได้ดูสงบนิ่ง ไม่ตื่นตระหนกสักนิด ที่แท้เขาก็รู้อยู่แล้วว่าพวกเบลซจะเล่นงานเขากับหลินจือ
หรืออาจพูดได้ว่า วันนี้เขาจงใจไปไหนมาไหนกับหลินจือ ก็เพื่อดึงดูดให้พวกเบลซเคลื่อนไหวได้ จากนั้นเขาก็จะตอบโต้กลับไปอย่างสวยงาม
ภายใต้คำพูดตักเตือนของเทาเท่ ความคิดของหลินจือก็กลับมาสู่ความจริงตรงหน้า
และพอกลับมาสู่ความจริง แน่ใจว่าตัวเองเป็นลูกสาวแท้ๆของจอร์แดนแล้ว น้ำตาของเธอก็ไหลลงมาทันที
เธอน้ำตาไหลด้วยความตื่นเต้น เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ น้ำตาแห่งความประหลาดใจ
เดิมทีได้เป็นลูกบุญธรรมของจอร์แดนเธอก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นลูกแท้ๆของเขา
พอรู้ว่าชาร์ลีไม่ใช่พ่อแท้ๆของตัวเอง หลินจือก็จินตนาการอยู่ในหัวนับครั้งไม่ถ้วนว่าพ่อแท้ๆของตัวเองจะเป็นคนแบบไหน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงอย่างจอร์แดน
หลินจือร้องไห้ เบ้าตาของจอร์แดนก็แดงตาม
เขารีบเดินเข้าไป ย่อตัวลงไปครึ่งตัวตรงหน้าหลินจือแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ:“ขอโทษ ขอโทษ โทษที่พ่อไม่ได้รีบหาลูกเอง”
จอร์แดนพูดแต่ขอโทษ ในใจมีแต่ความรู้สึกผิดและสงสารหลินจือ
หลินจือยกมือขึ้นโอบคอเขาอย่างอดไม่ไหว ร้องไห้เสียงดังไปที่ไหล่เขา
จอร์แดนก็กอดเธอไว้แน่น ยกมือขึ้นมาตบหลังปลอบเธอ
สองคนพ่อลูกจึงกอดกันเช่นนี้ คนหนึ่งร้องไห้อีกคนสะอึกสะอื้นตาแดงก่ำ
เวลานี้สำหรับเขาแล้ว ไม่สำคัญแล้วจริงๆ
เทาเท่นั่งอยู่ด้านข้าง รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอก
ถึงแม้เขาไม่ค่อยชินภาพที่จอร์แดนกับหลินจือกอดกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนที่ไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็นมากที่สุดก็คือเขา
และเทาเท่ก็นึกถึงช่วงนี้ที่เขาไม่ค่อยเคารพจอร์แดนเท่าไหร่ จากนั้นก็รู้สึกเยือกเย็นขึ้นมา
ตอนนี้จอร์แดนเป็นพ่อแท้ๆของหลินจือ และจากท่าทีเหล่านี้ที่เขามีต่อจอร์แดน ต่อไปจอร์แดนจะดีต่อไหมนะ?
เทาเท่เกลียดตัวเองเล็กน้อย ทำไมมีตาหามีแววไม่ ทำไมถึงไม่คิดความสัมพันธ์ของจอร์แดนกับหลินจือในทางพ่อลูก กลับกันเขาดันตามกระแสตัดสินว่าจอร์แดนคิดไม่ซื่อกับหลินจือ……
จอร์แดนกับหลินจือร้องไห้กอดกัน ในใจเทาเท่ก็อยากร้องไห้เล็กน้อย
ร้องไห้ที่เขาเผชิญหน้ากับความโชคร้ายของตัวเอง ที่แท้หลินจือก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเป็นพิเศษ วันข้างหน้าก็จะมีสิ่งกีดขวางอย่างจอร์แดนมากขึ้น ต้องอีกนานแค่ไหนเขาถึงชนะและเอาหลินจือกลับมาใหม่ได้?