บทที่ 269 แผนการของอีวานอฟสกี

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

ลูเซียนจงใจถามด้วยน้ำเสียงมึนงง “ท่านอีวานอฟสกีหรือขอรับ ตอนนี้มันค่อนข้างดึกแล้ว…”

คำตอบของอีวานอฟสกีฟังดูพยายามเอาใจจนน่าสงสัย “ข้ามาหาท่านปีเตอร์ในตอนดึกถึงเพียงนี้ก็เพราะข้ามีข่าวดีจะมาบอก ข้ารู้จักกับไวเคานต์ในตระกูลวลาดิเมียร์หลายคน จึงรู้สึกสนิทใจกับท่านตั้งแต่ที่พบกันคราแรก ยังไม่นับเรื่องความกล้าหาญและทักษะการต่อสู้ของท่านปีเตอร์ที่ทำให้ข้าประทับใจนะขอรับ… ข้าเลยอยากจะแบ่งปันข่าวดีกับใครสักคนที่ข้าชอบ”

คำพูดทั้งหมดของอีวานอฟสกีมีแต่จะเตือนให้ลูเซียนนึกถึงเรื่องหลอกลวง แต่ในเมื่ออีวานอกสกีมีทั้งอิทธิพลและอำนาจมากมาย เหตุใดจึงให้ความสนใจลูเซียน คนที่ไม่มีอะไรเลย

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลูเซียนก็ตัดสินใจจะรับฟังเขาเพื่อดูว่าข่าวดีนี้คืออะไร การได้รับข้อมูลเพิ่มไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร และเพราะว่าลูเซียนคงมองเห็นถึงแผนการลับของอีวานอฟสกีได้อย่างทะลุปรุโปร่งแน่นอนในระหว่างพูดคุย

ลูเซียนใช้สัญชาตญาณอัศวินและสัมผัสได้ว่ามีใครอีกคนอยู่ทางอีกฝั่งหนึ่งของประตูกับอีวานอฟสกี แต่คนผู้นั้นไม่ได้พยายามจะปิดบังตนเอง คาดว่าคนผู้นั้นจะเป็นผู้ช่วยของอีวานอฟสกีหรืออะไรแบบนั้น

มือข้างหนึ่งจับดาบ ‘น้ำค้างแข็ง’ ก่อนที่ลูเซียนจะเปิดประตูด้วยความระมัดระวัง

อีวานอฟสกียังคงสวมชุดสูทสำหรับงานเลี้ยง ดูราวกับหมีเหมันต์ที่สวมแว่นตากรอบทอง ข้างกายเขาคือชายชราในชุดสูทกับโบว์ไท ชายชราผู้นี้ดูท่าทางห่อเหี่ยว ดวงตาว่างเปล่า ใบหน้าเหี่ยวย่นและเย็นชา ในมือเขาถือกระเป๋าหิ้ว ดูตัวเตี้ยกว่าอีวานอฟสกี

เมื่อเห็นว่าปีเตอร์มาเปิดประตูด้วยตัวเอง อีวานอฟสกีจึงมีท่าทางมึนงง “ท่านปีเตอร์ พ่อบ้านของท่านไปไหนเสียเล่า เหตุใดท่านจึงมาเปิดประตูด้วยตนเองเช่นนี้”

“เขาป่วยเพราะพายุน่ะขอรับ ข้าจึงบอกให้เขาไปพัก” ลูเซียนอธิบายด้วยท่าทางสบายๆ “และนี่คือ?”

อีวานอฟสกีชี้ไปทางชายชราแล้วยิ้มกริ่ม “นี่คือผู้ช่วยของข้าเอง มัตเวียนโค เขามีความสามารถด้านทำการค้า และมีความเข้าใจในเรื่องเศรษฐศาสตร์เป็นอย่างดี”

“โอ้… ท่านมัตเวียนโค ข้าขอถามความเห็นท่านเกี่ยวกับการผลิต การหมุนเวียน และการกระจายความมั่งคั่งได้หรือไม่ ท่านคิดว่าตลาดถูกควบคุมโดยมือที่มองไม่เห็นและทำตามกฎของพวกนั้นเองหรือไม่ขอรับ” ลูเซียนถามด้วยสีหน้าจริงจัง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบหน้าชายชราผู้ดูไม่เหมือนผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐศาสตร์แต่เหมือนผู้อารักขาที่เกรี้ยวกราดผู้นี้เลยสักนิด

มัตเวียนโคขมวดคิ้วมุ่น ทว่าหาได้ตอบอะไร ในขณะที่รอยยิ้มของอีวานอฟสกีแข็งค้างไปแล้ว หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็หัวเราะแก้เก้อ “ฮ่าๆ ท่านปีเตอร์ เป็นเรื่องยากมากที่จะได้พบขุนนางและอัศวินที่มีความรู้ความเข้าใจในเศรษฐศาสตร์ถึงเพียงนี้…”

“ข้ายังใหม่นักในเรื่องเศรษฐศาสตร์ ความรู้ที่เกี่ยวข้องกันจะเป็นประโยชน์มากเมื่อข้ามีดินแดนเป็นของตนเองในอนาคต ใช่หรือไม่ขอรับ” ลูเซียนไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกกดดันมากไปกว่านี้ สิ่งที่เขาเพิ่งพูดไปเป็นเหมือนการเตือนว่า อย่ามาแหย็มกับข้า!

อีวานอฟสกีปั้นสีหน้าประทับใจ “เป็นความคิดที่ดี ขุนนางหนุ่มเช่นท่านปีเตอร์ช่างมีความคิดและความเข้าใจที่แตกต่างกันมากจริงๆ” เขาเองก็ไม่พูดถึงศัพท์เฉพาะทางใดๆ เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์เช่นกัน

ลูเซียนให้ทั้งสองเข้ามาในห้อง เมื่อพวกเขานั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาว ลูเซียนก็รินน้ำใส่แก้วให้แต่ละคน “เอาล่ะ มีเรื่องอะไรเช่นนั้นหรือ ท่านอีวานอฟสกี”

ถ้วยกระเบื้องเคลือบในมือใหญ่หนาของอีวานอฟสกีดูราวกับของเล่น เขาแย้มยิ้ม “ท่านปีเตอร์ ท่านทราบใช่ไหมว่าท่านเคานต์วิตต์มีสายเลือดครึ่งหนึ่งจากวลาดิเมียร์”

“แน่นอนขอรับ มารดาของท่านเคานต์คือสมาชิกตระกูลวลาดิเมียร์ นางปลุกพร ‘เยือกแข็ง’ ประจำตระกูลและได้เป็นอัศวินกับลอร์ดท่านหนึ่ง” ลูเซียนตอบ “แต่แล้วอย่างไรเล่า อย่างไรพร ‘โรยรา’ ของท่านเคานต์วิตต์ก็มาจากตระกูลฝั่งบิดาอยู่ดี และท่านเคานต์วิตต์ก็เป็นคนแรกของตระกูลที่ได้เป็นอัศวินอาภา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการกระทำแสนกล้าหาญมากมายในสมรภูมิรบของท่านเลย… ความสำเร็จของท่านนั้นล้ำหน้าความรุ่งเรืองของตระกูลฝั่งมารดาไปแล้ว…” ลูเซียนฉวยโอกาสนี้แสดงให้เห็นว่าเขารู้จักตระกูลวลาดิเมียร์ดี

อีวานอฟสกีเผยรอยยิ้มแฝงนัยน์ “ก็อย่างที่ท่านกล่าวมาขอรับ ท่านปีเตอร์… ข่าวดีก็คือ ท่านจะได้รับยศตำแหน่งเคานต์ และทรัพย์สมบัติของบรรดาเคานต์ในท้องที่อีกด้วย”

เพราะว่าเมืองยูรัลมีเหมืองหลายแห่ง ขุนนางส่วนใหญ่จึงร่ำรวยกว่าขุนนางในอาณาจักรหรือเขตแดนอื่นๆ

“ท่านหมายความว่าอย่างไรกัน?! เกิดอะไรขึ้นกับท่านเคานต์วิตต์งั้นรึ” ลูเซียนแสร้งทำทีเป็นตกตะลึง “แล้วเหตุใดถึงต้องเป็นข้า”

อีวานอฟสกีพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกให้ลูเซียนใจเย็นลง “อย่างที่ท่านทราบ คาร์ลีนาเป็นหลานสาวคนหนึ่งของภริยาคนที่สองของท่านเคานต์วิตต์ ดังนั้นนางจึงสนิทสนมกับท่านเคานต์ไม่น้อย ตามที่ได้ข้อมูลมาจากคาร์ลีนา เนียฟสกี พระคาร์ดินัลในเมืองยูรัลนี้ได้ประเมินอาการท่านเคานต์และบอกว่าท่านคงอยู่ได้อีกเพียงครึ่งปีเท่านั้น และไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ใดจะรักษาท่านได้ เพราะมันเป็นเหตุแห่งธรรมชาติของท่านเคานต์เอง”

ลูเซียนยังคงทำหน้าตกตะลึง

“เพราะพร ‘โรยรา’ ท่านเคานต์จึงลำบากกับการมีทายาท และท่านก็ใช้ช่วงชีวิตที่ดีที่สุดส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ คอยต่อสู้กับพวกศาสนจักรใต้ แม้ว่าท่านจะแต่งงานมาแล้วสามหน ท่านเคานต์วิตต์กลับมีลูกชายเพียงคนเดียว แต่เขาก็เสียชีวิตตั้งแต่อายุสิบขวบแล้ว” อีวานอฟสกีกล่าวต่อ

“แล้ว?” ลูเซียนถามด้วยท่าทีสงบลง

อีวานอฟสกีวางถ้วยในมือลง “ท่านปีเตอร์ ท่านน่าจะรู้ดีว่าความจริงที่ท่านเคานต์ปลุกพรได้สำเร็จนั้นเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์ที่ทำให้เป็นจริงโดยคนของวลาดิเมียร์ ท่านเคานต์เสียบิดามารดาไปตั้งแต่ยังเล็กเพราะสงคราม และท่านก็ล้มเหลวกับการปลุกพรมาตลอดจนกระทั่งอายุยี่สิบห้าปี ก่อนหน้านั้น ญาติห่างๆ ของท่านคอยแต่จะรังแกข่มเหงมาตลอดเพราะว่าพวกเขาต้องการจะฮุบอาณาเขตและยศถาบรรดาศักดิ์ของตระกูลวิตต์ เป็นสมาชิกบางคนจากตระกูลวลาดิเมียร์ที่ช่วยเหลือท่านเอาไว้”

“ข้ารู้” ลูเซียนพยักหน้ารับ

“ท่านเคานต์ได้เปิดเผยแผนการของท่านให้คาร์ลีนาทราบ ท่านอยากจะได้สมาชิกชายสักคนจากวลาดิเมียร์มาเป็นลูกบุญธรรม และมอบทั้งตำแหน่งและทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับลูกบุญธรรมผู้นี้ และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ลูกบุญธรรมจะต้องแต่งงานกับท่านหญิงจากตระกูลวิตต์ ผู้ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องแนบชิดกับตระกูลหลัก เพื่อไม่ให้คนอื่นๆ ในตระกูลวิตต์มีความหวังกับการแตะต้องในสิ่งที่ท่านเคานต์มี ท่านปีเตอร์ ท่านเป็นคนหน้าตาดี แข็งแกร่ง และสง่างาม และท่านก็ยังปลุกพรได้แล้วอีกด้วย! ท่านไม่ควรจะปล่อยให้โอกาสอันยอดเยี่ยมนี้หลุดลอยไป! ท่านเคานต์จะต้องชอบท่านแน่ๆ!”

ตอนนี้ลูเซียนเข้าใจแล้วว่าพวกเขาวางแผนอะไรอยู่ ยศถาบรรดาศักดิ์และความมั่งคั่งที่เท่ากับทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของทั้งเขตยูรัลนั้นย่อมยั่วยวนใจสำหรับทุกคนอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพ่อค้าเถื่อนผู้มักมากเลย

หลังจากนั้น ลูเซียนก็เอ่ยถามด้วยท่าทางผ่อนคลาย “แล้วคาร์ลีนาเป็นสมาชิกของตระกูลวิตต์เช่นนั้นรึ”

อีวานอฟสกีดูจะประหลาดใจในทีแรกก่อนจะหัวเราะออกมา”ขอรับ เมื่อหลายรุ่นก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะต้องย้อนกลับไปไกลสักหน่อย แต่ก็ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ หากไม่มีคาร์ลีนาแล้ว เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าท่านเคานต์ต้องการอะไรเป็นการเฉพาะ นางคือผู้ที่เล่นบทบาทสำคัญ ข้าหมายถึง… การแต่งงานกับหญิงงามและได้รับทั้งยศและทรัพย์สมบัติมากมาย… จะมีใครปฏิเสธได้เช่นนั้นหรือ”

ตอนนี้ลูเซียนเข้าใจถึงเจตนาของเซอร์เกแล้ว เซอร์เกไม่ได้พยายามจะฉกฉวยทองหรือดาบของเขา แต่ต้องการจะควบคุมเขาเพื่อทำกิจธุระนี้ แล้วหลังจากที่ทั้งเซอร์เกกับคาร์ลีนาล้มเหลว อีวานอฟสกีก็มาหาลูเซียนและล่อลวงเขาโดยตรง

ทว่า สิ่งที่ลูเซียนไม่เข้าใจก็คือ ทำไมท่านเคานต์ถึงป่วยหนักใกล้ตายเร็วกว่าช่วงชีวิตโดยเฉลี่ยของอัศวินอาภาถึงยี่สิบหรือสามสิบปี เป็นเพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บหนักระหว่างทำสงครามเช่นนั้นหรือ

และลูเซียนก็ค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่ว่าใครจะแต่งงานกับคาร์ลีนาและได้รับสืบทอดตำแหน่ง คนผู้นั้นก็จะเป็นเพียงหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่าคาร์ลีนาสมควรได้รับสมยานามที่ผู้คนต่างเรียกขานนางกันว่า ‘แม่ม่ายดำ’

ด้วยเหตุนี้ ลูเซียนจึงแย้มยิ้มกว้างก่อนจะตอบว่า “มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากเสียจริง แต่ข้าก็ยังจะพูดเช่นเดิม ท่านอีวานอฟสกี ข้ามิอาจตอบตกลงทำตามแผนการนี้ได้ ข้าจะไม่ร่วมมือกับพวกท่าน”

แม้ว่าปกติแล้วลูเซียนจะหน้าเงินมากแค่ไหน เมื่อยู่ในจักรวรรดิชาชรานแห่งนี้ เขาไม่อาจเอาตัวเข้าไปเสี่ยงได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ใช่สมาชิกที่แท้จริงของตระกูลวลาดิเมียร์ และพระคาร์ดินัลคงจะต้องทดสอบสายเลือดของเขาด้วยเป็นแน่

ผู้ที่ไม่โลภมากมักจะเป็นคนฉลาดรู้เอาตัวรอด

“หมายความว่าอย่างไรกัน ท่านปีเตอร์ เอาจริงหรือ ท่านกำลังปฏิเสธตำแหน่งเคานต์ สมบัติกว่าครึ่งหนึ่งของเขตนี้ เหมืองและคฤหาสน์พร้อมที่ดินมากมาย…” อีวานอฟสกีไม่อาจเชื่อหูตนเอง เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครปฏิเสธข้อเสนอนี้ ไม่แม้แต่จักรพรรดิในเมืองซานอีวานส์เบิร์ก!

ลูเซียนตอบอีวานอฟสกีด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้ามิอาจละทิ้งชื่อสกุลของข้าได้ ชื่อข้าคือตัวแทนอันรุ่งโรจน์ของตระกูล ข้าเชื่อว่าสักวันหนึ่งข้าจะได้เป็นเคานต์ด้วยความสามารถของตนเองภายใต้ชื่อวลาดิเมียร์!”

หลังจากนั้นลูเซียนก็กล่าวเสริมว่า “ข้าภูมิใจในชื่อสกุลของข้า!”

อีวานอฟสกีมองลูเซียนราวกับว่าเขาเป็นคนเสียสติ “ข้านึกว่าอัศวินประเภทที่ไล่ตามความรุ่งโรจน์นี้ได้เลือนหายไปจากจักรวรรดินี้แล้วเสียอีก แต่ท่านทำให้ข้าตกใจอย่างยิ่ง ท่านปีเตอร์”

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วโค้งตัวให้กับลูเซียน “ท่านปีเตอร์ ขอให้โชคดีกับความศรัทธาของท่านขอรับ”

แม้ว่าอีวานอฟสกีจะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะแสดงท่าทีให้ความเคารพ ลูเซียนก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่ได้พูดในสิ่งที่คิดออกมาจริงๆ

“ก่อนที่จะมีการตัดสินใจอะไรให้แน่นอน ข้าจะเก็บทุกอย่างเป็นความลับเพื่อท่าน” ลูเซียนยังคงแสร้งทำตัวเป็นผู้ผดุงคุณธรรม

อีวานอฟสกีเค้นรอยยิ้มหวาน “ข้าเชื่อใจท่านขอรับ ท่านอัศวินปีเตอร์ผู้สูงส่ง บางทีเราอาจจะได้ร่วมมือกันในอนาคตนะขอรับ”

แล้วเขาก็ออกไปจากห้องนอนของลูเซียนพร้อมกับผู้ช่วยมัตเวียนโค

“โปรดระวังตัวด้วยขอรับ นายท่าน” ลีโอเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่อีวานอฟสกีและมัตเวียนโคจากไป และเขาก็เตือนลูเซียนด้วยความเป็นกังวล “มันผู้นั้นโหดเหี้ยมเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ และมันก็ไม่ชอบปัญหาใดๆ ที่รอวันปะทุขึ้น”

…………………….