บทที่ 270 คำเชิญจากท่านเคานต์

Throne of Magical Arcana ศึกบัลลังก์เวทอาร์คานา

ลูเซียนผงกศีรษะรับขณะถือถ้วยกระเบื้องเคลือบชั้นดี “ข้ารู้ คนอย่าง ‘อีวานอฟสกี’ ย่อมโหดเหี้ยมอยู่แล้ว มิเช่นนั้นพวกเขาคงไม่อาจเอาตัวรอดมาได้ ข้าล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าใครคือผู้ที่ปกป้องคุ้มครองเขาอยู่ ข้าจะได้…”

แม้ว่าน้ำเสียงของลูเซียนจะอ่อนโยน คำพูดของเขากลับทำให้ลีโอรู้สึกเย็นสันหลังวาบ ชายผู้ที่เขาทำงานรับใช้ ณ เวลานี้เป็นนักเวทที่มีท่าทีเหนือคำว่านิ่งสงบไปไกล หากว่าชายหนุ่มผู้นี้รู้เรื่องเกี่ยวกับอีวานอฟสกีมากกว่านี้ และหลังจากวิเคราะห์ประเมินดูแล้ว เขาก็คงจะสังหารอีวานอฟสกีให้เร็วที่สุดเป็นแน่

“ตอนที่ข้าทำงานให้กับอีวานอฟสกี หากออกไปข้างนอก มันจะมีเพียงอัศวินหลวงหรือนักเวทระดับกลางคอยอารักขาคุ้มครอง แต่ก็เป็นดังที่ท่านว่ามาขอรับ มันคงจะต้องมีคนอื่นอยู่อีกด้วยแน่ ข้าเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง นักฆ่าทั้งหลายที่ถูกส่งมาจากคู่แข่งต่างไม่เคยเข้ามาถึงสถานที่ที่มันอยู่เลย มีอยู่ครั้งหนึ่ง… อัศวินขั้นสองที่มีพรที่ทำให้เขาหลบซ่อนตัวได้ดี สามารถทำร้ายอัศวินหลวงของอีวานอฟสกีจนบาดเจ็บสาหัส แต่ในตอนที่อีวานอฟสกีกำลงจะถูกสังหาร นักฆ่าคนนั้นกลับล้มลงไปกองกับพื้น ตายสนิท ข้ายังจำสีหน้าของเขาได้ดี… มันคือความหวาดผวา” ลีโอเล่าทุอย่างที่ตนรู้ให้ลูเซียนฟัง

ลูเซียนเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า “ข้าเพิ่งส่งข้ารับใช้ล่องหนตามเขาไป และเขาก็เกือบจะสังเกตเห็นมัน แต่ข้ารับใช้ก็ยังสามารถสอดส่องจนมั่นใจว่าห้องของเขาได้รับการคุ้มครองจากคาถาเวทมนตร์บางอย่าง เราคงสอดแนมเขาได้ยาก หากว่าเราอยากจะสังหารเขา เราจำเป็นต้องล่อให้เขาออกมาจากสถานที่ที่เขารู้จักดี เราจะต้องทำให้เขาเล่นไปตามแผนของเรา”

“นายท่าน…” ลีโอเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางลังเลเล็กน้อย “หากท่านมอบอุปกรณ์เวทมนตร์ระดับให้กับข้า ข้าจะหาโอกาสเหมาะและตายไปพร้อมกับอีวานอฟสกีขอรับ”

ลูเซียนมองไปรอบๆ แล้วกล่าวตอบ “โจมตีแบบพลีชีพเช่นนั้นรึ ยังไม่จำเป็นหรอก กลับไปพักผ่อนเถิด ลีโอ”

ข้อได้เปรียบสำคัญของลูเซียนในตอนนี้ก็คือความจริงที่ว่าอีวานอฟสกีไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังของเขาในฐานะนักเวทเลย ไม่ว่าอีวานอฟสกีจะส่งใครมาสังหารลูเซียนทิ้ง มันก็จะมีแต่ความผิดพลาดเสมอ ซึ่งนั่นคือโอกาสอันดีสำหรับลูเซียน เพราะเขาจะได้กลืนกินขุมพลังของอีวานอฟสกีไปทีละนิดๆ แต่แน่นอน หากว่าอีวานอฟสกีไม่ได้วางแผนจะสังหารเขานั้นถือเป็นการที่ดีสุด

ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น ลูเซียนก็ร่ายคาถาเรียกใช้วงแหวนเวทมนตร์ลับที่ทางสภาเวทมนตร์เป็นผู้คิดค้นขึ้นไว้รอบๆ ห้อง วงแหวนเวทนี้จะไม่ปิดกั้นผู้อื่นจากการสอดแนมผู้ที่อยู่ในห้อง แต่จะส่งเสริมอำนาจจิตของผู้ร่ายให้สัมผัสถึงคลื่นพลังเวท เพื่อที่ผู้ร่ายจะตรวจจับได้แม้กระทั่งคลื่นพลังเวทรบกวนที่มีปริมาณน้อยที่สุด

แสงจันทร์ในคืนนี้ดูนวลตาอย่างยิ่ง ลูเซียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวและหลับตาลงช้าๆ

ท่ามกลางความมืด ทุกสรรพสิ่งเงียบงัน ในตอนนั้นเองที่ลูเซียนสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังเวทเล็กจิ๋ว มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสายลมโชยยามค่ำคืนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ หากว่าลูเซียนไม่ได้ใช้วงแหวนเวท ก็คงไม่มีโอกาสเลยที่เขาจะสังเกตถึงมันได้

คลื่นเวทมนตร์นี้ค่อยๆ นิ่งขึ้น แต่มันยังคงอยู่ตรงนั้น ราวกับกระจกที่คอยจับตามองลูเซียน

ลูเซียนที่นอนอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ขยับเปลี่ยนท่าไปมาเป็นครั้งคราว ราวกับว่าเขาได้ผล็อยหลับลึกไปแล้ว

ทั้งคืนนั้นจึงผ่านพ้นไปโดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตัวเมืองยูรัล โรงแรมระดับหรูเถาวัลย์เขียว

หลังจากขายสินค้าส่วนใหญ่ของเขาให้กับเมืองอันพลุกพล่านแห่งนี้และซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ทำจากเหล็กจากท้องถิ่นมาเพิ่ม เบอร์ดีชิฟจึงดูค่อนข้างผ่อนคลาย

เขานั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของโรงแรมหลังจากกินมื้อเช้า พลางดื่มเครื่องดื่มมึนเมาและมองแขกของโรงแรมที่เดินไปมาขวักไขว่ เขาและขี้เมาคนอื่นๆ กำลังวิพากษ์วิจารณ์รูปลักษณ์และท่าทางของแขกเหล่านั้น

“ท่านพ่อ นี่ท่านดื่มแต่เช้าเลยหรือ” เยเลนาถามด้วยความโมโห นางเพิ่งรับคำขอโทษจากอิกอร์เมื่อคืนนี้ และทั้งสองก็วางแผนว่าจะไปเที่ยวรอบเมืองด้วยกัน

เบอร์ดีชิฟหัวเราะลั่น กลิ่นเหม็นฉุนของเครื่องดื่มมึนเมาแผ่พุ่งขึ้นมาจากภายในท้องของเขา “เยเลนา ไม่เอาน่า…” เบอร์ดีชิฟยังคงหัวเราะขัน “วันพรุ่งเราก็จะกลับบ้านกันแล้ว ปล่อยให้ข้าดื่มวันนี้เถิด ยิ่งข้าดื่มมากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งมีกำลังวังชามากขึ้นเท่านั้น”

จุดหมายต่อไปของกองคาราวานก็คือเมืองคิรอฟ เมืองหลวงของภูมิภาค

“ท่านเอาแต่ดื่มมาสองวันแล้วนะเจ้าค่ะ!” เยเลนาขมวดคิ้วมุ่น “ท่านต้องสัญญาว่าท่านจะไม่ดื่มแม้แต่หยดเดียวตอนเดินทางกลับบ้าน!”

เบอร์ดีชิฟหัวเราะร่า “เยเลนา เจ้าคิดว่าข้าเมาเช่นนั้นรึ ฮ่าๆ เจ้าไม่อาจห้ามข้าไม่ให้ดื่มขณะกินมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็นได้หรอก!”

หลังจากกล่าวเช่นนั้นกับบุตรสาว เบอร์ดีชิฟก็ผุดลุกขึ้น ตัวโอนเอนไปข้างหน้าและข้างหลังเล็กน้อย “ท่านปีเตอร์ ยินดีต้อนรับกลับมาขอรับ! ข้านึกว่าท่านจะอยู่ที่คฤหาสน์ของบารอนเนสเสียอีก!”

คำพูดคลุมเครือของเบอร์ดีชิฟช่างขัดแย้งกับวัยของเขายิ่งนัก

ลูเซียนที่มีลีโอเดินตามหลังมา ตอนนี้กำลังเดินเข้ามาในโรงแรม หลังจากกินมื้อเช้าในคฤหาสน์ คาร์ลีนาที่มีท่าทีเย็นชาต่อลูเซียนมากกว่าเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัดก็ส่งลูเซียนกับลีโอกลับมาที่ตัวเมืองยูรัล ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูเซียนต้องการอย่างยิ่ง แต่เขาก็ไม่คิดจะลดความระแวงลง

“อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ ท่านปีเตอร์” เยเลนายิ้มกว้าง นางเชื่อมาตลอดว่าปีเตอร์คือสุภาพบุรุษที่น่าเชื่อถือผู้หนึ่ง

ลูเซียนเองก็ยิ้มกว้าง “อรุณสวัสดิ์ ท่านหญิงเยเลนา พวกท่านสองคนดีกันแล้วสินะขอรับ”

ใบหน้าของเยเลนาพลันแดงเรื่อ และแม้ว่าอิกอร์จะไม่ชอบลูเซียนเท่าไหร่ เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างเขินอาย และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี

เบอร์ดีชิฟตบไหล่ลูเซียนพลางกล่าวปลอบ “ท่านยังคงเนื้อหอมในหมู่สาวๆ นะขอรับ ท่านปีเตอร์ บางที… บางทีท่านอาจจะไม่ใช่แบบที่ท่านหญิงคาร์ลีนาชอบ ท่านทราบใช่ไหม แบบว่า…”

แม้ว่าลูเซียนจะสูงขึ้นหลายเซนติเมตรเพราะการปลอมตัว แต่เมื่อเทียบกับผู้ชายส่วนใหญ่ในจักรวรรดิแล้ว เขาก็ยังดูตัวเล็กกว่าอยู่ดี

ในตอนนั้นเอง อิกอร์ก็เอ่ยกับลูเซียน “ท่านปีเตอร์ขอรับ มีเรื่องแปลกๆ อยู่อย่างหนึ่ง… ข้านอนห้องข้างๆ ท่าน และเมื่อคืนข้าก็ได้ยินเสียงดังมาจากในห้องท่าน ท่านอาจจะอยากกลับไปตรวจดูกระเป๋าเดินทางสักหน่อยนะขอรับ หรือไม่ มันอาจจะเป็นหนูก็ได้… ข้าเองก็ไม่แน่ใจนัก”

ลูเซียนแลกเปลี่ยนสายตากับลีโออย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพูดกับอิกอร์ด้วยใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม “ขอบคุณ ข้าจะกลับไปตรวจดูเดี๋ยวนี้เลย”

ภายในห้อง ลูเซียนค่อยๆ ตรวจดูแทบจะทุกอย่าง รวมถึงสัญลักษณ์เวทมนตร์ลับที่เขาทิ้งไว้ และถ้วยกับกาต้มน้ำ ก่อนที่เขาจะเอ่ยกับลีโอด้วยความงุนงง “ไม่มีอะไรเลย… บางทีมันอาจจะเป็นหนูกระมัง”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้นขอรับ นายท่าน มันไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญเลย” ลีโอรู้ดีว่าอีวานอฟสกีเป็นคนอย่างไร

ลูเซียนพยักหน้า แล้วเขาก็เริ่มตรวจดูรอบๆ อีกครั้ง

เมื่อเปิดกระเป๋าเดินทาง ลูเซียนก็ไล่ดูเสื้อผ้า สำเนาโน้ตเพลงพื้นบ้านและของที่ระลึกแบบพิเศษสองสามอย่าง…

ฉับพลันนั้น ลูเซียนก็สังเกตเห็นตุ๊กตาแม่ลูกดกที่วางอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เมื่อเขาตรวจสอบตุ๊กตาตัวนั้นด้วยอำนาจจิต เขาก็ตรวจจับได้ถึงพลังงานชั่วร้ายที่มีในปริมาณน้อยนิดในนั้นได้ในที่สุด ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ตุ๊กตายิ่งดูน่าขนลุกขึ้นไปอีก

“คำสาป…” ลูเซียนพึมพำออกมา เขาได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับคำสาปมาเกือบหนึ่งปีแล้ว

ลีโอเองก็เห็นตุ๊กตาตัวนั้นเช่นกัน เขาจึงถามว่า “นายท่าน เราจะทำเช่นไรดีขอรับ”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลูเซียนก็ยกมุมปากขึ้น “ทำในแบบที่ชนชั้นสูงจะทำกันอย่างไรล่ะ”

เขาส่งพลังไปกระตุ้น ‘มงกุฎสุริยัน’ ตรงหน้าอก แล้วแสงสว่างดูศักดิ์สิทธิ์ก็พลันปกคลุมไปทั่วตัวลูเซียน

จากนั้นลูเซียนก็เปิดตุ๊กตาแม่ลูกดกไปทีละตัวๆ

ในตอนที่เขาเปิดไปถึงชั้นที่สี่แล้วใบหน้าของหญิงแก่ปรากฏขึ้น ควันดำก็พุ่งทะลักออกมาหาลูเซียนอย่างรุนแรงและมุ่งร้าย!

ทว่า แสงสว่างดูศักดิ์สิทธิ์กลับสกัดกลุ่มควันนั้นได้อย่างสมบูรณ์ แล้วควันก็หายวับไป

ขณะที่แสงสว่างกำลังจะหายไป ลูเซียนก็เริ่มคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว “มีนักเวทจะสังหารข้า! นักเวท! ในจักรวรรดิแห่งนี้!”

ระหว่างที่ตะโกนนั้น ลูเซียนก็บอกให้ลีโอห่อตุ๊กตาทั้งหลายไว้ในผ้า แล้วทั้งสองก็เดินมุ่งหน้าไปยังโบสถ์ใกล้ๆ บริเวณนั้น ทิ้งให้เบอร์ดีชิฟและคนอื่นๆ ตกตะลึงอยู่ในโรงแรม

ภายในห้องลับของโบสถ์

“ท่านต้องทราบอย่างแน่นอนว่าสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปเป็นความจริง อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของข้าเพิ่งจะช่วยชีวิตข้าเอาไว้!” ลูเซียนบอกกับเจ้าผู้ครองเมือง ลูเซียนยังคงเดือดดาล หรือพูดให้ถูกต้องคือ แสร้งทำเป็นเดือดดาล

พระคาร์ดินัลประจำเมืองมีรูปลักษณ์ที่ดูราวกับหมีตัวใหญ่สวมเสื้อคลุมสีขาว เขาพยักหน้าพลางปลอบลูเซียนให้สงบลง “ขอรับ ข้าทราบดี ท่านปีเตอร์”

“ดี เช่นนั้น ท่านคาร์ดินัล ได้โปรดจับกุมตัวนักเวทเฮงซวยนี้ให้เร็วที่สุด! ข้านึกไม่ออกเลยว่าเหตุใดเจ้าคนชั่วนี่ถึงได้หาญกล้าทำเช่นนี้กับข้าภายในจักรวรรดิที่ทางศาสนจักรเฝ้าระวังอย่างดีเช่นนี้?!” ขณะพูด ลูเซียนก็คว้า ‘มงกุฎสุริยัน’ ออกมาตรงหน้าพระคาร์ดินัลอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะปลดผนึกไปเพียงสองชั้น ‘มงกุฎสุริยัน’ จึงมีหน้าตาเหมือนกับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า

“ข้าเข้าใจขอรับ ท่านปีเตอร์ แต่ทางเราต้องการเวลาเพื่อสืบสวนก่อน” พระคาร์ดินัลตอบอย่างสงบนิ่ง

“แต่ข้ารู้ว่าใครกันที่ทำเช่นนี้! เป็นอีวานอฟสกี! กับคาร์ลีนา! สองคนนี้หิวกระหายในทรัพย์สมบัติของท่านเคานต์! เป็นเพราะเหตุนี้!”

จากนั้นลูเซียนก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ให้พระคาร์ดินัลฟัง

“แต่ ท่านปีเตอร์ บารอนเนสกับท่านอีวานอฟสกีไม่ได้ทำอะไรที่ผิดศีลธรรมนะขอรับ คนส่วนใหญ่ย่อมทำเช่นเดียวกันหากว่าพวกเขาได้รับข้อมูลมาล่วงหน้า เนียฟสกีเองก็ทราบเรื่องนี้ดี” พระคาร์ดินัลรู้สึกว่าขุนนางหนุ่มตรงหน้าตนมีปฏิกิริยารุนแรงเกินไปเล็กน้อย “แต่แน่นอน ขอบคุณที่บอกข้อมูลนี้ให้กับทางเรา เราจะตรวจสอบเรื่องนี้ดูขอรับ”

ลูเซียนใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงอยู่ในโบสถ์เพื่อให้การยืนยันว่าเป็นอีวานอฟสกีที่ก่อเหตุนี้ขึ้น หลังจากนั้น เขาก็ค่อยๆ มีท่าทีสงบลงและกลับออกมาจากโบสถ์

ขณะเดินตามลูเซียน ลีโอก็ถามด้วยเสียงแผ่วเบา “นายท่านขอรับ เหตุใดท่านไม่พูดถึงการค้าเถื่อนของอีวานอฟสกีล่ะขอรับ”

“พวกเขาจะไม่เชื่อข้า หรือไม่ก็อาจจะรู้เรื่องนี้แล้ว พ่อค้าที่มีอิทธิพลมากมายเช่นเขาย่อมมีผู้สนับสนุนรายใหญ่อยู่เบื้องหลังอยู่แล้ว” ลูเซียนหรี่ตาลงเล็กน้อย “ข้าได้ทำในสิ่งที่ทำได้ไปแล้ว ทีนี้ก็มาดูกันว่าอีวานอฟสกีจะตอบโต้อย่างไรกัน”

ทันทีที่ทั้งสองกลับมาถึงโรงแรม ชายวัยกลางคนก็เข้ามาทักทายเขา

“ท่านปีเตอร์ขอรับ ท่านเคานต์วิตต์ได้ยินว่าคนหนุ่มผู้โดดเด่นจากตระกูลวลาดิเมียร์ได้เดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ ท่านเคานต์วิตต์จึงใคร่เรียนเชิญท่านไปยังปราสาทขอรับ” ชายผู้นั้นกล่าวยิ้มๆ

ลูเซียนประหลาดใจไม่น้อย ดูเหมือนว่าแผนการรับมือกับอีวานอฟสกีของเขาคงจะถูกรบกวนโดยคำเชิญจากท่านเคานต์เป็นแน่แท้

……………………….