ตอนที่ 376 ควบคุมสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง
เจี้ยนเฉินมองไปที่ปราณกระบี่ที่ยื่นออกมาจากนิ้วของเขาอย่างตื้นตัน เขาก็ไม่สามารถกลั้นความยินดีเอาไว้ได้ ปราณกระบี่นั้นแข็งแกร่งมาก เป็นเพราะจิตวิญญาณกระบี่และการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา แม้ว่าเขาจะเสียกระบี่วายุโปรยไปและเสียเวลาในการฝึกฝนไปหลายปี แต่เขาก็มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้เหลืออยู่ เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ที่ไม่สามารถต่อสู้ได้
ปราณกระบี่เปล่งสีทั้งสองลาง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่ามันหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างผสมกลมกลืน
เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ปราณกระบี่สีม่วงและฟ้าอย่างมึนงง เขาอดไม่ได้ที่จะคิดกลับไปถึงตอนที่เขากำลังสู้อยู่กับเซียนสวรรค์ 8 คน ในตอนนั้นเขาก็มาถึงระดับที่ปราณกระบี่หลอมรวมกันเป็นแบบนี้เช่นกัน
ความทรงจำยังคงสดใหม่อยู่ในหัวของเขา หัวใจของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสั่นกลัว การหลอมรวมของปราณกระบี่ทั้งสองนั้นทรงพลังมาก ทำให้แม้แต่เจี้ยนเฉินยังกลัว มันแข็งแกร่งพอที่จะทำลายอาวุธเซียนของเซียนสวรรค์เหมือนว่ามันเป็นเต้าหู้ นี่เป็นอะไรที่เหนือจินตนาการสำหรับเขามาก แต่ในตอนที่เขาคิดไปถึงเรื่องตอนที่ที่จิตวิญญาณกระบี่ทั้งสองฟื้นตัวเต็มที่ เขาก็คิดภาพไม่ออกเลยว่าระดับพลังของมันจะน่ากลัวขนาดไหน
ในตอนที่เจี้ยนเฉินคิดกลับไปถึงแรงสะท้อนที่ทรงพลังในตอนที่เขาใช้ในการหลอมรวมกระบี่นั้น เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะออกมาเล็กน้อย หลังจากที่ปราณกระบี่หลอมรวมกันแล้ว พวกมันก็กลายเป็นพลังต้องห้ามที่มีผลตามมาที่รุนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องต่อสู้กับเซียนสวรรค์คนอื่น เจี้ยนเฉินคงไม่กล้าที่จะใช้มัน
ทันใดนั้นเอง หัวใจของเจี้ยนเฉินก็หยุดเต้นไปในขณะที่เขาแบมือออกมาแล้วพลังงานที่ลึกลับบางอย่างก็ออกมาปรากฎอยู่ที่อากาศรอบ ๆ เขา ใบไม้บนพื้นเริ่มลอยขึ้นเหมือนว่ามีถูกแรงบางอย่างยกและมันก็มาหมุนวนรอบเจี้ยนเฉินอย่างช้า ๆ
เจี้ยนเฉินหลับตาและเริ่มประสานกับธรรมชาติให้เป็นหนึ่ง เขาตระหนักได้อย่างกะทันหันถึงจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตทุกอย่างรอบ ๆ เขา ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่เขาใช้จิตวิญญาณกระบี่ซึ่งทำให้เขาควบคุมสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้
ทันใดนั้นเอง ใบไม้นับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่รอบ ๆ ร่างของเจี้ยนเฉินก็เปล่งแสงจ้าออกมาเป็นสีฟ้าและม่วง เสียงดังบาดหูเกิดขึ้นมา และจู่ ๆ พวกใบไม้ก็พุ่งไปที่ต้นไม้ใกล้ ๆ ด้วยความเร็วสูง
ต้นไม้ถูกแทงทะลุออกไปอย่างไร้เสียงโดยที่ใบไม้นั้นไม่ได้ลดความเร็วลงเลย ในตอนที่ใบไม้เคลื่อนที่ออกไปไกลเรื่อย ๆ พวกมันก็แทงทะลุผ่านต้นไม้ที่อยู่ในแนวเคลื่อนที่ของมัน หลังจากที่ผ่านไป 10 กิโลเมตร พวกมันถึงเริ่มที่จะช้าลง และในท้ายที่สุดมันก็สลายไปกลางอากาศโดยที่ไม่มีปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้า
วูซซ! วูซซ! วูซ! วูซ!
ทันใดนั้นเอง เสียงคลื่นเสียงเป็นระลอก ๆ ก็ดังออกมาจากใบไม้ทั้งหมดที่ลอยอยู่รอบ ๆ เจี้ยนเฉินที่เปลี่ยนเป็นลำแสงแล้วพุ่งไปด้านหน้า แทงทะลุทุกอย่างที่ขวางทางพวกมัน ปราณกระบี่ที่หลอมรวมอยู่ในใบไม้นั้นหายไปหลังจากที่พุ่งไปได้ 10 กิโลเมตร และจากนั้นใบไม้ก็กลายเป็นฝุ่นผง
เจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นช้า ๆ และมองไปรอบ ๆ ตัวอย่างนิ่งอึ้ง เมื่อเขาเกิดคิดขึ้นมา แล้วหนึ่งในต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ เขาก็ลอยขึ้นมาจากพื้นไปอยู่กลางอากาศ 10 เมตรเหนือพื้นดิน
เจี้ยนเฉินยื่นมือออกไปแล้วกำหมัดเอาไว้แน่น ทันนั้น ต้นไม้ทั้งต้นก็ระเบิดออกเป็นเศษไม้และมันก็ร่วงลงไปบนพื้น
ในตอนต่อมา แสงสีม่วง-ฟ้าสว่างจ้าก็ลอยออกมาอีกครั้งจากเศษไม้ มันลอยขึ้นไปและเศษไม้ก็เริ่มรวมตัวกันหลายเป็นกระบี่ยาว 50 เมตรก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้า
ในตอนที่กระบี่ลอยออกไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ที่สูงเสียดฟ้าหรือแค่ใบหญ้าก็ตาม กระบี่ก็ผ่ามันออกเป็นสองซีกและทิ้งไว้เพียงผิวเรียบเรียบเท่านั้น
ในตอนนี้เอง ป่าที่เคยเงียบสงบก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะต้นไม้หลายต้นได้ถูกโค่นลงไปที่พื้น
ตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายในตอนที่เขาสังเกตเหตุการณ์อยู่ ตาข้างซ้ายของเขาเปล่งแสงสีม่วงและตาข้างขวาของเขาก็เปล่งแสงสีฟ้าออกมา สายตานี้ทำให้ทุกคนหวาดกลัวได้
ในตอนที่ตาของเจี้ยนเฉินทั้งสองเปล่งแสงสีต่างกันออกมา มือของเขาทั้งคู่ก็ยกขึ้นไปบนอากาศ ทันใดนั้นเอง พลังงานแปลก ๆ ก็เริ่มบิดเบี้ยวอากาศเหมือนว่ามิติถูกพันธการเวลาเอาไว้ สำหรับใครที่มาเห็นภาพนี้คงเป็นภาพที่น่าตกตะลึงไม่น้อย
“แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก”..”
ต้นไม้หลายต้นลอยขึ้นกลางอากาศและแยกตัวออกกลายเป็นเศษไม้ขนาดเท่ากำปั้นก่อนที่จะเริ่มเปล่งแสงสีม่วงและสีฟ้าออกมา
แสงในตาของเจี้ยนเฉินเริ่มลดน้อยลงในขณะที่เขามองออกไปอย่างตกตะลึง สายตาของเขาเหลือเชื่อในขณะที่เขาค่อยค่อยลดมือลงมา
ทันทีที่เขาลดมือลง ต้นไม่ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศก็หยุดเปล่งแสง จากนั้น ชิ้นส่วนต้นไม้ก็กระจายหายไปเป็นเศษฝุ่น
เจี้ยนเฉินยืนอยู่นิ่งโดยไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร การเปลี่ยนแปลงใหม่ของร่างกายของเขาในตอนนี้เป็นอะไรที่เขาเหลือเชื่อมาก ในตอนนี้ เขาสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์โดยการใช้ปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าของเขา ในตอนนี้ ปราณกระบี่ทำตามความต้องการของเขาและเป็นความสามารถที่เขาสามารถใช้ได้ในทุกขณะ
ในอดีตที่ผ่านมา แม้แต่ในตอนที่เจี้ยนเฉินใช้ปราณกระบี่ เขาก็ใช้จิตวิญญาณกระบี่ได้ในการต่อสู้จากระยะไกลเท่านั้น ในตอนนี้ปราณกระบี่สีม่วงและฟ้าไม่จำเป็นต้องใช้กับกระบี่วายุโปรยอีกแล้ว เขาไม่มีข้อจำกัดนอกเหนือจากระยะห่างจากร่างของเขาอีกแล้ว เขาสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตทุกอย่างและหลอมรวมมันเข้ากับปราณกระบี่ได้
“พลังแบบนี้ จิตวิญญาณกระบี่ส่งต่อมันมาให้ข้าหรือเปล่านะ ? ” เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด ตั้งแต่ที่เกิดการหลอมรวม เขาก็เห็นแต่การเปลี่ยนแปลงทางวิญญาณและชีวิตของเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกลับเป็นประโยชน์มากและพลังนี้ก็เหนือกว่าทุกอย่างที่เขาจิตนาการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่เขาสามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตได้ด้วยตนเอง
เจี้ยนเฉินเดินออกไปไกลจากหุบเขาเรื่อย ๆ ในตอนนี้ เขาต้องการที่จะต่อสู้กับสัตว์อสูรเพื่อที่จะวัดความแข็งแกร่งของเขาเอง
หุบเขายั่งยืนนั้นลึกมาก และมีสัตว์อสูรเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่พบได้ในส่วนนี้ แต่ละตัวมีระดับขั้นต่ำอยู่ที่ระดับ 5
หลังจากที่เดินไปได้ 20 กิโลเมตร เขาก็พบเข้ากับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งในที่สุด ตัวนี้เป็นสัตว์อสูรที่ดูเหมือนเต่าทอง เต่าทองเหล็ก
ในตอนที่เต่าทองเหล็กเห็นเจี้ยนเฉิน มันก็คำรามออกมาทันทีก่อนที่จะพุ่งเข้าไปที่เขา
เจี้ยนเฉินโบกมือแล้วใบหญ้ายาวครึ่งเมตรที่มีปราณกระบี่สีม่วงและฟ้าหลอมรวมอยู่ก็พุ่งไปที่หัวของเต่าทองเหล็ก
“ฉึก!”
เสียงเกิดขึ้นหนึ่งครั้ง ใบหญ้าทะลุผ่านหัวของเต่าทองเหล็กก่อนที่จะพุ่งไปต่อและหายเข้าไปในป่า
เต่าทองเหล็กไม่มีแม้แต่เสียงร้องและล้มลงไปบนพื้นเสียงดังเพราะร่างใหญ่ของมันที่กระแทกลงไปกับพื้น
สัตว์อสูรระดับ 5 ถูกฆ่าตายไปอย่างง่ายดาย
เจี้ยนเฉินถอนหายใจออกมา ในขณะที่เขาพยายามจะสงบตัวเองเพื่อไม่ให้เขาลำพองใจในตัวเองมากจนเกินไป
เขาโบกมือ แล้วใบหญ้าหลายใบก็เปล่งแสงสว่างออกมา ในขณะที่มันพุ่งตรงไปที่ร่างของเต่าทองเหล็กและขุดเข้าไปที่ร่างของมัน เจี้ยนเฉินยื่นมือออกไปแล้วกำหมัดแน่นให้แกนสัตว์อสูรระดับ 5 ลอยออกมาจากร่างของสัตว์อสูรแล้วเข้ามาอยู่ในมือของเขา
เขามุ่งหน้าต่อไปไม่ถึง 10 กิโลเมตรแล้วลำแสงสีแดงเข้มก็พุ่งเข้ามาที่เจี้ยนเฉินจากทุกทิศทาง หมาป่าสีแดง 4 ตัวก็เป็นสัตว์อสูรระดับ 5 เช่นเดียวกัน แต่ละตัวมีความเฉลียวฉลาดรอบรู้มากกว่าปกติ
หลังจากนั้น หมาป่าหลายตัวก็เข้ามาล้อมเจี้ยนเฉินมากขึ้น พวกมันมีขนาดเล็กกว่าเมื่อเทียบกับหมาป่าสี่ตัวในตอนแรก ซึ่งบ่งบอกว่าพวกมันเป็นสัตว์อสูรระดับ 4
เจี้ยนเฉินมองไปที่หมาป่าที่อยู่รอบ ๆ เขาอย่างเยือกเย็น เขายกมือขวาขึ้นช้า ๆ แล้วจ้องไปที่ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ ในตอนต่อมา ต้นไม้ก็กระจายกลายเป็นเสี้ยนหลายอันพร้อมทั้งมีปราณกระบี่หลอมรวมอยู่ในนั้น พากันพุ่งไปที่หมาป่าเหมือนดาวตก
สัตว์อสูรระดับ 4 ทั้งหมดถูกเจาะเป็นรูทันทีอย่างต้านทานไม่ได้จากปราณกระบี่ที่อยู่ในเสี้ยนไม้ แม้แต่สัตว์อสูรระดับ 5 ก็ไม่สามารถจะต้านทานได้และประสบชะตากรรมเดียวกันกับสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ พวกมันร้องออกมาเสียงดัง
แต่การลงมือเพียงครั้งเดียว สัตว์อสูรระดับ 4 และ 5 มากกว่าสิบตัวก็ถูกกำจัดโดยเจี้ยนเฉิน พลังในการต่อสู้ที่สุดยอดนี้ เป็นอะไรที่เจี้ยนเฉินไม่สามารถทำได้มาก่อนในอดีต
เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจยาว ๆ เข้าไปอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะสูญเสียกระบี่วายุโปรยและพลังเซียนของเขาไป แต่เขาก็ได้ความสามารถใหม่มา ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถสัมผัสถึงธาตุทั้งหกในธรรมชาติได้เท่านั้น เขายังสามารถใช้ปราณกระบี่สีม่วงและสีฟ้าได้ตามที่เขาต้องการ ความสามารถในการควบคุมสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ตราบที่มีอยู่ในระยะจิตวิญญาณของเขา แม้แต่สิ่งไม่มีมีชีวิตบางอย่างก็ไม่สามารถหนีไปจากการควบคุมผ่านทางจิตใจของเจี้ยนเฉินไปได้
จากจุดนี้ ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นไม่ได้ลดลงไปเลย กลับกัน มันเพิ่มขึ้นด้วย อย่างน้อยที่สุด ความสามารถในการควบคุมที่เขาค้นพบได้ใหม่นี้ก็สามารถที่จะจัดการกับสัตว์อสูรระดับ 5 ได้อย่างรวดเร็ว
จะไม่มีการสร้างขึ้นถ้าไม่มีการถูกทำลายก่อน และหลังจากที่มันถูกทำลายไปแล้วสิ่งใหม่ก็จะเกิดขึ้นมาแทน หลังจากที่เจอเหตุการณ์หายนะมา เจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนแปลงไป จากตอนนี้เป็นต้นไป เขาคงจะเดินในอีกเส้นทางการฝึกฝนอีกทาง ความแข็งแกร่งของเขาได้เกินเลยระดับของทวีปเทียนหยวนไปแล้ว เพราะเขาไม่มีพลังเซียนให้ใช้ในการวัดพลังอีกต่อไป !