บทที่ 216 เสียใจมาก

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

พินอินเห็นสีหน้าวีนาไม่ดี ก็รีบไปถามเธอ:“แม่ แม่เป็นอะไร?”

วีนาคว้ามือของพินอิน พูดเสียงสั่น:“พินอิน พวกเราไปขอโทษหลินจือเถอะ?”

พินอินทำเหมือนได้ยินเรื่องตลก พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ:“แม่!แม่พูดอะไรน่ะ?ทำไมฉันต้องขอโทษหลินจือด้วย?”

วีนาพูดอย่างตื่นตระหนก:“ตอนนี้เธอเป็นลูกสาวของจอร์แดนแล้ว เมื่อก่อนพวกเราทำกับเธอขนาดนั้น เธอแก้แค้นพวกเราคืนจะทำไง?”

“ไม่!”พินอินกรีดร้อง“ให้ตายฉันก็ไม่ขอโทษเธอ!”

พินอินถูกตามใจจนเสียคนแต่เด็ก ไม่เข้าใจว่าความกลัวเป็นอย่างไร ถึงแม้ตอนนี้เธอจะถูกกักขังเสียอิสระไปอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่คิดกลับใจ

เธอไม่เคยคำนึงถึงผลที่ตามมา แค่ได้ตามเป้าหมายของตัวเองก็พอ

ครั้งที่แล้วเธอจัดการหลินจือไม่สำเร็จ จนตอนนี้ก็ยังไม่หายเคือง ถ้าไม่ใช่ว่าช่วงนี้เธอถูกกักกุมอยู่ในบ้านทำอะไรไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเธอก็คงหาเรื่องหลินจือต่อไป

ติดคุกคุมประพฤติอะไรนั่น ไม่ได้ทำให้เธอกลับตัวกลับใจเลยสักนิด

“พินอิน!”วีนาเย่าแขนเธอแรงๆ“แกเป็นอะไรไป?นี่มันเวลาไหนแล้วแกยังไม่ได้สติอีก?”

“หลินจือเธอเป็นลูกสาวของจอร์แดน!ไม่ใช่ลูกบุญธรรมอะไร เป็นลูกสาวแท้ๆ!”ยังไงวีนาก็อายุมากพอแล้วและยังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เจริญรุ่งเรืองมาหลายปี จึงรู้ดีว่ากำลังที่อยู่เบื้องหลังของชาติตระกูลนั้นเป็นอย่างไร

ตระกูลแม็กซิมัสไม่ใช่ตระกูลที่คนทั่วไปจะไปทำให้ขุ่นเคืองได้!

ถึงตอนนี้ลูกชายเธอจะร่ำรวยมีอำนาจอิทธิพล ก็ไม่กล้าผลีผลามต่อต้าน ส่วนลูกชายเธอก็ไม่ยืนอยู่ข้างเธอแน่อยู่แล้ว

ถือว่าวีนาเข้าใจความหนักเบาของเรื่องราวได้ แต่พินอินไม่ใช่

เธอออกแรงสะบัดแขนของวีนา พูดด้วยใบหน้ามีแต่ความรังเกียจ:“แม่ แม่เป็นอะไรน่ะ?ทำไมแม่ขี้ขลาดแบบนี้?ก็แค่หลินจือ ก็แค่ตระกูลแม็กซิมัสเองไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันขี้ขลาด?ฉัน——”วีนาโกรธจนร้องไห้จากท่าทีของพินอิน

เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นว่าลูกสาวของตัวเองเสียคนอย่างหนักจริงๆ ถึงได้ลำดับความสำคัญไม่เป็นแบบนี้

เธอสูดหายใจลึกๆ พยายามอดทนแล้วพูดโน้มน้าวพินอิน:“พินอิน แม่ถามแกหน่อย ชีวิตแกสำคัญ ความร่ำรวยเงินทองที่แกมีในตอนนี้เป็นสิ่งสำคัญ หรือว่าหน้าของแกกับความโกรธที่มีต่อหลินจือนั้นสำคัญกว่า?”

“หน้าของฉันสำคัญกว่า!”พินอินตะโกนไปอย่างไม่คิด“ฉันไม่ยอมที่จะถูกหลินจือกดขี่หรอก ไม่ยอมที่จะถูกเธอรังแก!”

“โอ๊ย——”วีนาโกรธจนกุมหน้าอกแล้วร้องไห้ออกมา

นี่มันก่อเวรก่อกรรมจริงๆ

พินอินเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็เบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ

วีนานิ่งลง ก็กัดฟันเตือนเธอไปเสียงคมกริบว่า:“ฉันไม่สนว่าแกจะคิดอย่างไร แต่แกจำฉันไว้นะ ต่อไปอย่าไปหาเรื่องเธออีก ถ้าแกทำให้พี่แกซวยไปด้วย พวกเราตระกูลฟอเรนาก็จบเห่!”

ถ้าทั้งสองตระกูลเผชิญหน้ากัน ถึงจะเสมอภาคกัน แต่ยังไงก็เจ็บทั้งสองฝ่าย

ที่วีนาแคร์ที่สุดคือชีวิตมั่งคั่งที่เธอมีในตอนนี้ ไม่งั้นเธอก็ไม่มีทางยืดเยื้อเวลาไม่หย่ากับไกอาสักทีหรอก ถ้าหย่าไป ถึงแม้จะได้ทรัพย์สินมาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่สะใภ้ตระกูลฟอเรนาอีก ความรุ่งเรืองมากมายก็หายไป

พินอินไม่เคยถูกวีนาตะคอกใส่ ตั้งแต่เด็กจนโตวีนาตามใจเธอทุกเรื่อง ถึงแม้ช่วงก่อนหน้านี้เธอทำร้ายหลินจือแบบนั้น วีนาก็ยังเอาอกเอาใจเธอเหมือนเดิม

สุดท้ายตอนนี้กลับมาดุเธอ และยังกลัวเธอทำเทาเท่ซวยไปด้วย

พินอินโกรธจนแทบบ้า:“แม่ ทำไมแม่ให้ความสำคัญกับลูกชายแบบนี้ล่ะ แม่พูดว่ารักฉันมากที่สุด ที่จริงแม่แคร์พี่ที่สุดต่างหากล่ะ!”

พินอินพูดจบก็หันหน้าวิ่งออกไปอย่างโกรธเคือง วีนาที่โกรธก็มีแต่อัดอั้นไว้ข้างใน ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่โกรธเจียนตาย

ก่อนหน้านี้มีครั้งหนึ่งเธอโกรธหลินจือจนหมดสติไป แต่ความโกรธนั้นสู้กับที่พินอินทำให้เธอโกรธไม่ได้เลย

เพราะว่าพินอินเป็นลูกสาวแท้ๆของเธอ เป็นคนที่เธอรักตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่เคยให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่า ที่จริงเธอค่อนข้างเข้าข้างไปที่ลูกสาวคนนี้มากกว่าด้วยซ้ำ

สุดท้ายตอนนี้พินอินกลับมาบอกว่าเธอให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่า……

วีนาโกรธจนร้องไห้ออกมา

ในโรงแรม เมื่อเวลาผ่านไปอารมณ์ของหลินจือกับจอร์แดนก็สงบลง

จอร์แดนเล่าเรื่องราวในอดีตของแม่หลินจือเสร็จ ก็บอกถึงการเตรียมตัวมาครั้งนี้ของตัวเอง

“พ่อรู้ว่าพวกเบลซไม่ยอมแน่ ดังนั้นจึงเตรียมรับมืออย่างครอบคลุมไว้ล่วงหน้าแล้ว”จอร์แดนพูดออกไป

ผู้ช่วยของเขาเฝ้าเวยป๋อตลอด 24 ชั่วโมง ถ้ามีกระแสอะไรขึ้นมาก็จะตอบโต้ทางเวยป๋อทันที คำพูดทั้งหมดนั้นเขาก็เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะเขาเดาได้อยู่แล้วว่าพวกเบลซจะประณามเขากับหลินจืออย่างไร

ถึงแม้เขาเป็นคนรู้หนังสือ แต่ก็ใช้ชีวิตในตระกูลใหญ่อย่างตระกูลแม็กซิมัสตั้งแต่เด็ก ความปากหวานก้นเปรี้ยวและต่างชิงไหวพริบต่อกันในโลกธุรกิจนั้น เขารู้ดีกว่าใคร

ดังนั้น วิธีของเขามีแต่โหดมากขึ้น

เทาเท่พูดอย่างใช้ความคิดอยู่ด้านข้าง:“การกระทำของเบลซครั้งนี้ แอบทำลับหลังคนเบื้องบนเขาเหรอ?”

เพราะว่าเรื่องของซูซีจึงมีปัญหากับเบลซ เทาเท่พร้อมที่จะสู้กับเบลซไว้นานแล้ว ดังนั้นจึงสืบหาอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังเบลซไว้หมดแล้ว

ตามข้อมูลที่เขาได้มา ที่พึ่งเบลซในเมืองเวลฟ์ ปกติแล้วมีความสัมพันธ์ไม่แย่กับตระกูลแม็กซิมัส ไม่มีทางที่จะสนับสนุนเบลซโดยขุ่นเคืองกับตระกูลแม็กซิมัสแน่

จอร์แดนหัวเราะอย่างเยือกเย็น:“ต้องลับหลังแน่นอน เดี๋ยวผมจะหาคนไปบอก เบลซได้เจอดีแน่”

มุมปากเทาเท่ยิ้มขึ้นมา:“ได้ไม่คุ้มเสีย”

นี่เขากำลังเยาะเย้ยเบลซ

เดิมทีซูซีขอโทษหลินจือแล้ว เรื่องขโมยใช้ต้นฉบับหลินจือก็ถือว่าจบแล้ว หลินจือไม่ใช่คนที่กัดใครไม่ปล่อย

แต่เบลซคิดไปเองว่าตัวเองแน่ พยายามระบายความโกรธให้ซูซี สุดท้ายตัวเองก็ล้มไม่เป็นท่า

โทรศัพท์ของเทาเท่ได้รับสายที่จอนห์โทรหาเขา:“ประธานเทาเท่ ด้านล่างโรงแรมที่คุณจอร์แดนอยู่รอยล้อมไปด้วยนักข่าว จะให้พวกเราส่งคนไปจัดการไหมครับ?”

เทาเท่ขอความเห็นจากจอร์แดน จอร์แดนคิดแล้วพูด:“ไม่ต้อง ผมจะพาหลินจือลงไปเพื่อไปเผชิญหน้ากับพวกเขาด้วยกัน ผมมีอะไรจะพูดอยู่พอดี”

“โอเค”เทาเท่กำชับจอนห์เสร็จก็วางสาย

จากนั้นจอร์แดนก็ถามหลินจือว่าจะยอมหรือไม่ที่จะปรากฏตัวอีกครั้งท่ามกลางกระแสที่รุนแรงแบบนี้ หลินจือเหมือนไม่มีข้อโต้แย้ง เธอฟังแผนการของจอร์แดนทั้งหมด

อย่างอื่นหลินจือไม่รู้ แต่ทุกการตัดสินใจของจอร์แดนล้วนแต่ทำเพื่อเธอทั้งนั้น เธอมั่นใจ

เทาเท่เห็นท่าทีเธอเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมองเธอ

เธอเชื่อฟังจอร์แดนแบบนี้ ต่อไปเขาจะทำอย่างไร?

ถ้าจอร์แดนให้เธออยู่ห่างเขา เธอจะเชื่อฟังโดยไม่ค้านอะไรเลยหรือเปล่า?

ตอนนี้เทาเท่เสียใจมากที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้จอร์แดน