ตอนที่ 434 หญิงสาวที่หลบหนีการแต่งงาน

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“ฮ่า ๆ ๆ ข้างกายคุณหนูมู่หรงมีสาวงามอีกหนึ่งคน พวกข้าแตะต้องคุณหนูมู่หรงไม่ได้ แต่แม่นางคนงามผู้นี้…” สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่มู่เฉียนซี ดวงตาของพวกเขาฉายแววตกตะลึง

ใบหน้างามไร้ที่ติของสตรีชุดม่วงผู้นี้งดงามกว่าคุณหนูมู่หรงเสียอีก

มู่หรงรุ่ยกล่าว “ข้า… ข้าจะไปกับพวกเจ้า พวกเจ้าอย่าทําร้ายใครอื่นเลย”

“คุณหนูมู่หรง เจ้าลองคิดดูให้ดีก่อนเถอะ  ส่วนแม่นางผู้นี้…”

พวกเขายังไม่ทันจะลงมือกับมู่เฉียนซี มู่เฉียนซีก็ลงมือกับพวกเขาเสียก่อนแล้ว “ผนึกมังกรวารี!”

มังกรวารีสีฟ้าตัดผ่านอากาศ พุ่งออกไปโจมตีคนเหล่านี้ในการโจมตีเดียว

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

ไม่มีช่องว่างในการลงมือตอบโต้กลับ มู่หรงรุ่ยเป็นเพียงปรมาจารย์ภูตคนหนึ่งเท่านั้น ราชาแห่งภูตไม่กี่คนก็สามารถจับนางได้ ไม่จําเป็นต้องส่งยอดฝีมือระดับจักรพรรดิมา

ทว่าความแข็งแกร่งของมู่เฉียนซี กลับทําให้ดวงตาของกลุ่มคนเหล่านี้แทบจะถลนออกมาด้วยความตระหนกตกใจ

“ราชาแห่งภูต… ระดับเก้า ระดับสูงสุด! นาง…”

“บัดซบ! ทั่วทั้งทวีปเซี่ยโจว ไม่มีทางมีราชาแห่งภูตระดับเก้าที่อายุน้อยเช่นนี้อยู่เป็นแน่ นางผู้นี้ต้องแสร้งปกปิดกายจริง นางแสร้งเป็นสตรีวัยเยาว์อย่างแน่นอน”

“ท่านผู้อาวุโส โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย…”

มู่หรงรุ่ยกะพริบตาปริบ ๆ มองมู่เฉียนซีด้วยความประหลาดใจ  นางคิดว่ามู่เฉียนซีอายุน้อยกว่านาง พลังต้องไม่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงตบหน้าอกตนเองแล้วบอกว่าจะปกป้องนางออกจากป่าหนานอู้ แต่คิดไม่ถึงว่าระดับของมู่เฉียนซีจะร้ายกาจถึงเพียงนี้

“ท่านอาจารย์ ท่านเก่งเกินไปแล้ว” มู่หรงรุ่ยอุทานออกมาด้วยความตกใจ และเริ่มชื่นชมมู่เฉียนซีมากขึ้น

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าคิดจะจัดการกับคนเหล่านี้อย่างไร ปล่อยมันไปหรือฆ่ามัน ?”

เมื่อได้ยินคำถามของมู่เฉียนซีที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายสังหาร คนเหล่านั้นที่อยู่ข้างหลังก็รู้สึกเย็นยะเยือก

พวกเขารีบอ้อนวอนขอความเมตตากันยกใหญ่ “คุณหนูมู่หรง โปรดช่วยพวกข้าด้วยเถิด…”

“ใช่แล้ว! ทุกอย่างเป็นเพราะองค์ชายใหญ่ต้องการให้พวกข้าทํา”

“ท่านหนีการแต่งงาน องค์ชายใหญ่จะยอมได้อย่างไร ดังนั้นจึงให้พวกข้ามาพาท่านกลับไป พวกข้าไม่มีทางที่จะทําร้ายท่านได้”

มู่หรงรุ่ยกล่าว “จะไม่ทําร้ายข้า เช่นนั้นอาจารย์ข้าล่ะ! พวกเจ้าแน่ใจหรือว่าพวกเจ้าไม่ได้มีเจตนาอื่น ?”

พวกเขาจ้องมองไปยังดวงตาคู่งามของมู่หรงรุ่ยด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

“พวกข้า… พวกข้า…”

— เพี๊ยะ!  เพี๊ยะ!  เพี๊ยะ! —

ในเวลานี้ มู่หลงรุ่ยลงมือแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะเป็นถึงระดับราชา แต่อย่าลืมว่ามู่หรงรุ่ยก็เป็นนักปรุงยาคนหนึ่งที่เพียงนางวางยาพิษ ก็สามารถทําให้พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นศพได้ในพริบตา

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

“อ๊าก!”

เสียงร้องโหยหวนดังออกมา หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว มู่หรงรุ่ยก็กล่าวขึ้น “ท่านอาจารย์ ท่านวางใจได้ ในชีวิตนี้พวกเขาจะไม่คิดทําร้ายสตรีอีกเลย”

“อืม!”

“ท่านอาจารย์ ท่านว่าพิษนั่นของข้าเป็นอย่างไรบ้างหรือ ?” มู่หรงรุ่ยมองมู่เฉียนซี หวังอยากจะให้มู่เฉียนซีชมเชย

มู่เฉียนซีกล่าว “ก็ปกติ ทว่าคิดไปคิดมา ข้าคิดว่าพิษนั่นเห็นผลช้าไปหน่อย และความร้ายแรงของพิษก็ยังไม่เพียงพอ…”

“อ๊าาา! สมแล้วที่เป็นอาจารย์ของข้า เก่งกาจอย่างมาก” มู่หรงรุ่ยกรีดร้อง

มู่เฉียนซีรู้สึกว่านางคนนี้เอะอะโวยวายมากเสียจริง จึงกล่าวว่า “ข้าขอตัวก่อน”

“ท่านอาจารย์ ท่านรอข้าก่อน ท่านไม่ต้องการลูกศิษย์หรือ ?”

“ข้าไม่เคยรับศิษย์”

“ถึงอย่างไรข้าก็ยอมรับท่านแล้ว” ผิวหน้าของมู่หรงรุ่ยหนาพอที่จะกล่าวออกมาเช่นนี้ “ท่านอาจารย์ ท่านกําลังมุ่งหน้าไปที่เมืองเฟิงตู ข้าก็จะไปที่นั่นพอดี”

มู่เฉียนซีกล่าว “องค์ชายใหญ่ที่พวกเขาพูดถึงน่าจะเป็นองค์ชายใหญ่ของแคว้นหนานเถิง เขากำลังตามจับเจ้า เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าจะเดินทางไปเมืองเฟิงตูกับข้า”

“ข้าเป็นผู้ที่มีสถานะตัวตน เจ้านั่นไม่กล้าแตะต้องข้าในเมืองเฟิงตูเป็นแน่”

เมื่อทั้งสองมาถึงเมืองเฟิงตู มู่หรงรุ่ยก็กล่าวว่า “อาจารย์ ท่านจะไปไหนรึ ? เมืองเฟิงตูเป็นที่ที่ข้าค่อนข้างคุ้นเคย ท่านเพียงบอกข้า ข้าจะพาท่านไปทันที”

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าจะไปที่กลุ่มนักปรุงยาพันธมิตร”

มู่หรงรุ่ย “ที่แท้ท่านอาจารย์ก็จะไปยังกลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรนี่เอง ข้าคุ้นเคยกับที่นั่นมาก ตามข้ามาได้เลย”

มู่หรงรุ่ยพามู่เฉียนซีไปที่หน้าประตูโบราณ ๆ  องครักษ์ที่หน้าประตูเห็นมู่หรงรุ่ยก็ทำหน้าราวกับเห็นผี “คุณหนูมู่หรง ท่าน… ท่านกลับมาแล้ว”

มู่หรงรุ่ยกล่าว “เป็นอะไรไป ? หรือว่าพวกเจ้าไม่ต้อนรับข้า ?”

“หามิได้ขอรับ”

“รีบแจ้งท่านผู้นําเร็วเข้า คุณหนูมู่หรงกลับมาแล้ว”

มู่หลงรุ่ยถามขึ้น “อาจารย์ ท่านมาทําอะไรที่กลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรรึ ? ทดสอบระดับ หรือว่าอะไร ?”

มู่เฉียนซี “ข้ามาที่นี่เพื่อถามถึงสมุนไพรวิญญาณชนิดหนึ่ง”

สมุนไพรวิญญาณหายากชนิดหนึ่งที่จําเป็นตัวสุดท้าย นั่นคือดอกเก้าพิฆาตลึกลับ

ตระกูลมู่ได้กระจายคนไปทางตะวันตกของทวีปเซี่ยโจวแล้ว จากนั้นนางก็พยายามคิดหาวิธีในการหาดอกเก้าพิฆาตลึกลับในทางภาคกลางและทางทิศตะวันออกของทวีปเซี่ยโจว

นางกลับไปยังหอเชียนอิน แต่สําหรับสมุนไพรวิญญาณแล้ว กลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

“ท่านอาจารย์ เข้ามาเร็วเข้า ข้าจะให้พวกเขาทํามันทันที”

ขณะที่มู่หรงรุ่ยกําลังจะต้อนรับมู่เฉียนซีให้เข้าสู่กลุ่มนักปรุงยาพันธมิตร เสียงแปลก ๆ ก็ดังขึ้น

“เจ้าเด็กนี่ยังรู้จักกลับมาอีกรึ ?!  องค์ชายใหญ่จะแต่งงานกับเจ้าอยู่แล้ว เจ้ายังกล้าหนีอีก ไม่รู้จักแยกแยะเลยจริง ๆ”

คนยังมาไม่ถึง แต่เสียงเจตนาไม่ดีดังออกมาก่อนแล้ว

คนที่มาคือหญิงสาวร่างสูงลิ่ว สวมชุดคลุมยาวในแบบของนักปรุงยา สายตามองมู่หรงรุ่ยด้วยแววตาอิจฉาริษยาระคนดูถูกดูแคลน

มู่หรงรุ่ย “การแต่งงานระหว่างข้ากับองค์ชายใหญ่ เป็นการตัดสินใจของราชวงศ์ ท่านปู่บอกว่า การแต่งงานของข้า ให้ข้าตัดสินใจเอง”

“ชิ! พวกข้าไม่เคยได้ยินท่านผู้นําอาวุโสกล่าวอะไรเช่นนั้นมาก่อน เจ้าพูดเองมากกว่ากระมัง เจ้าบอกมาสิ องค์ชายใหญ่มีอะไรไม่ดี เจ้าถึงหนีการแต่งงานไป ทําให้กลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรของพวกเราเสียหน้า” มุมปากของซือหม่าเจียวยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา

มู่หรงรุ่ยกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “เจ้าอยากแต่งงานกับเขา เจ้าก็แต่งเองสิ! คนเช่นนั้นให้ตายข้าก็จะไม่แต่งงานด้วยเด็ดขาด”

ถึงแม้ว่าองค์ชายใหญ่จะเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ก็เขาเป็นผู้ที่ไร้ประโยชน์ตั้งแต่หัวจรดเท้า มิเพียงไร้ประโยชน์ ทั้งวันเอาแต่เคล้าสุรานารี สตรีวัยสาวในจวนขององค์ชายนั้น แทบจะมากกว่าวังหลังของฮ่องเต้แคว้นหนานเถิงอยู่แล้ว

ถ้าหากแต่งงานกับคนเช่นนี้ไป ตลอดชีวิตนางคงตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน

ซือหม่าเจียว “ท่านผู้นำอาวุโสหายตัวไปสามปีแล้ว ดูซิว่าใครจะปกป้องเจ้าได้ เจ้าไม่อยากแต่งงานแต่เจ้าก็ต้องแต่ง  แม้ว่านักปรุงยาของเจ้าจะมีเวลาหลายวัน แต่กลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรของพวกเราจะไม่ล่วงเกินราชวงศ์เพื่อนางอย่างแน่นอน”

มู่หรงรุ่ย “อีกไม่นานงานประลองปรุงยาร้อยปีในทวีปเซี่ยโจวจะเริ่มขึ้นแล้ว ข้าก็จะเข้าร่วมการประลองในนามของกลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรของเรา หากข้าได้รับผลคะแนนดีในงานประลองปรุงยาร้อยปีและได้รับความสนใจจากราชวงศ์แคว้นเฉียนเซี่ยและราชวงศ์หนานเถิง ถึงตอนนั้น ใครก็บีบบังคับข้าไม่ได้”

ซือหม่าเจียวกล่าวเย้ยหยัน “มู่หรงรุ่ยเจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว! อย่าคิดว่าเจ้าจะกลายเป็นอัจฉริยะด้านการปรุงยาอันดับหนึ่งของแคว้นหนานเถิงตั้งแต่ยังเยาว์  เวลานี้ผู้ที่เข้าร่วมงานประลองปรุงยาร้อยปีของกลุ่มนักปรุงยาพันธมิตรแคว้นหนานเถิงของพวกเรา ต้องเป็นเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้นหรือ ?”

“หากคิดว่าไม่จำเป็นต้องเป็นข้า ทั่วทั้งแคว้นหนานเถิง เจ้าก็ลองไปหาดูคนที่อายุน้อยกว่าสามสิบปี และมีทักษะการปรุงยาที่แข็งแกร่งกว่าข้ามาดูสิ” มู่หรงรุ่ยยิ้มแย้ม นางนั้นมั่นใจยิ่งนัก

ทันใดนั้น ซือหม่าเจียวที่เดิมทีหยิ่งทะนง ในเวลานี้เสียงของนางนั้นกลับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนอย่างหาที่เปรียบมิได้

“พี่อวิ๋น ท่านออกมาเป็นเพื่อนข้าหน่อย ให้สาวน้อยผู้นั้นเห็นหน่อย ทำให้นางเลิกล้มความคิดอย่างสิ้นเชิงซะ!”

.