บทที่ 1267 กำลังเสริมจากภาคกลาง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1267 กำลังเสริมจากภาคกลาง

แปลโดย iPAT

ภาคเหนือ แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ ยอดเขาที่หนึ่ง

“อีกครั้ง!” ท่านหญิงหว่านซูเดินเข้าไปหาหม่าหงหยุนพร้อมบอลสายฟ้าที่อยู่ในมือ

“เชิญเลย” หม่าหงหยุนกลอกตาอย่างไม่ใส่ใจ

ท่านหญิงหว่านซูส่งบอลสายฟ้าไปที่หน้าอกของหม่าหงหยุน

“อ๊าก…”

สายฟ้าปะทุขึ้นบนร่างของหม่าหงหยุนขณะที่เด็กหนุ่มกัดฟันแน่นและพยายามประคองสติเอาไว้

เมื่อการโจมตีของบอลสายฟ้าสิ้นสุดลง หม่าหงหยุนยังไม่หมดสติ แต่ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงก่ำและเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

“ข้าพลาดอีกครั้ง” ท่านหญิงหว่านซูรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “เกิดสิ่งใดขึ้น? มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”

นางล้มเหลวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

แม้ความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดจะต่ำมาก แต่ไม่มีเหตุผลที่นางจะติดอยู่ที่ขั้นตอนนี้ตั้งแต่เริ่มต้น

ท่านหญิงหว่านซูอาเจียนออกมาเป็นเลือด

หลังจากล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน หม่าหงหยุนกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าขั้นสุดยอด สิ่งสำคัญที่สุดร่างกายของเขายังเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งสายฟ้า

หากเขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งสายฟ้า ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้จะช่วยเขาได้มาก

“ไม่เบื่อที่จะทำเช่นนี้งั้นหรือ? ลองเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นดีหรือไม่? ข้าเบื่อแล้ว” หม่าหงหยุนรู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่แน่นอน ดังน้นเขาจึงเลิกสนใจเรื่องนี้และเริ่มล้อเลียนท่านหญิงหว่านซู

ดวงตาของท่านหญิงหว่านซูส่องประกายเย็นเยียบขณะที่หม่าหงหยุนกรีดร้องขึ้นอย่างกะทันหัน

ท่านหญิงหว่านซูฟังเสียงกรีดร้องของหม่าหงหยุนอยู่อย่างเงียบๆ

หม่าหงหยุนกรีดร้องกระทั่งหมดสติไปในที่สุด

ท่านหญิงหว่านซูพ่นลมหายใจออกมาและเริ่มครุ่นคิด

…..

“จ้าวเหลียนหยุนใกล้ตายแล้ว”

“วิญญาณแห่งความรักแสดงพลังอำนาจออกมาแล้วกี่ครั้ง?”

“ดูเหมือนท่านหญิงหว่านซูจะสังเกตเห็นบางสิ่ง”

ในวังสวรรค์แห่งโชค ราชันใต้เข้าใจสถานการณ์ในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะอย่างชัดเจน

ตอนนี้เขาค่อนข้างร้อนใจ

ผู้อมตะภาคกลางยังไม่ปรากฏตัว พวกเขากำลังวางแผนใด

“การจับวิญญาณแห่งความรักเป็นความต้องการของบรรพชนในอดีต พวกเราบุตรหลานต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ!”

“ผู้อมตะดำเตรียมพร้อม!”

ราชันใต้ส่งคำสั่งไปยังถ้ำสวรรค์นิรันดร

แปดผู้อมตะยังปิดล้อมปรมาจารย์ห้าธาตุ

เมื่อพวกเขาได้รับคำสั่งจากราชันใต้ สองผู้อมตะระดับเจ็ดก็แยกตัวออกจากแท่นบูชาแห่งโชค

“เราจะไปเดี๋ยวนี้!” สองผู้อมตะกล่าว

“กลับมาให้เร็วที่สุด” ผู้นำกลุ่มผู้อมตะทั้งแปดไม่พูดมาก การจับกุมปรมาจารย์ห้าธาตุด้วยผู้อมตะเพียงเจ็ดคนทำให้พวกเขารู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

วังสวรรค์แห่งโชค

‘ทุกอย่างเป็นไปตามแผน หากไม่มีสิ่งใดผิดพลาด วิญญาณแห่งความรักและหม่าหงหยุนจะกลับสู่ถ้ำสวรรค์นิรันดร ผู้อมตะภาคกลาง หากพวกเจ้ายังไม่เคลื่อนไหว มันจะสายเกินไป’ ราชันใต้คิดกับตนเอง

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น

“วังสวรรค์แห่งโชค! ดังนั้นทั้งหมดก็เป็นการกระทำของพวกเจ้า!”

“ทำลายวังสวรรค์แห่งโชคแก้แค้นให้กับสหายของพวกเรา!”

คฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังปรากฏขึ้นด้านหน้าวังสวรรค์แห่งโชค

หนึ่งคือศาลานกขมิ้นและอีกหนึ่งคือหอคอยวายุ

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองอยู่ในสภาพที่ไม่น่ามอง ผู้อมตะภาคกลางต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อหลบหนีจากอุโมงค์มิติ

“หือ ในที่สุดพวกเขาก็ออกมา!” ราชันใต้สูดหายใจและเปิดการป้องกันของวังสวรรค์แห่งโชค

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองของภาคกลางโจมตีวังสวรรค์แห่งโชคจากด้านหน้าและด้านหลัง

แม้ผีดิบอมตะตะวันเดือดจะอยู่ในวังสวรรค์แห่งโชค แต่เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเคลื่อนไหว เขายังนั่งอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน

แม้วังสวรรค์แห่งโชคจะถูกโจมตี เขาก็ยังไม่แยแส

ในไม่ช้าหน้าผากของราชันใต้ก็ปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อ

วังสวรรค์แห่งโชคทรงพลังแต่จุดอ่อนสำคัญประการหนึ่งของมันคือมันไม่สามารถเคลื่อนย้าย หากมันเคลื่อนที่เพียงเล็กน้อย ทุกสิ่งที่มันทำมาตลอดสามแสนปีจะกลายเป็นสูญเปล่า

วังสวรรค์แห่งโชคเหมือนร่มขนาดใหญ่ที่ปกป้องภาคเหนือเอาไว้ นี่เป็นสิ่งที่เทพอมตะตะวันเดือดทิ้งไว้เพื่อบุตรหลานของเขา

แล้วราชันใต้จะทำลายเจตนารมณ์ของบรรพชนเพียงเพราะเขาถูกโจมตีได้อย่างไร

ด้วยการระดมกำลังโจมตี ผู้อมตะภาคเหนือจึงกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ

“เหยากวง มาช่วยข้าควบคุมวังสวรรค์แห่งโชคและต่อสู้กับศัตรู!” ราชันใต้ออกคำสั่ง

เหยากวงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ด้วยการควบคุมโดยผู้อมตะระดับแปดสองคน วังสวรรค์แห่งโชคจึงสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่น่าอัศจรรย์ออกมา

สถานการณ์เกิดเสถียรภาพอีกครั้ง

การแสดงออกของราชันใต้เต็มไปด้วยความสงสัย “แปลก เหตุใดคฤหาสน์วิญญาณอมตะของภาคกลางจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่? ดูเหมือนพวกเขาจะประสบอุบัติเหตุบางอย่างในอุโมงค์มิติ นอกจากนั้นข้าจำได้ว่ามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลัง หลังที่แข็งแกร่งที่สุดคือค่ายนักรบ มันถูกทำลายไปแล้วในอุโมงค์มิติงั้นหรือ?”

แต่ในเวลาต่อมาดวงตาของราชันใต้กลับเบิกกว้างขึ้นเมื่อเขาได้รับข้อมูลใหม่

“ค่ายนักรบปรากฏขึ้นที่แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ!”

ถ้ำสวรรค์นิรันดรแทรกซึมเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ ดังนั้นราชันใต้จึงเข้าใจสถานการณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะเป็นอย่างดี

“บึม!”

การระเบิดครั้งใหญ่ปะทุขึ้น

ยอดเขาทั้งสิบสองของแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

พลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะค่ายนักรบน่าสะพรึงกลัวมาก เหตุผลก็คือมันอยู่ภายใต้การคุวบคุมของผู้อมตะระดับแปดสองคน

หนึ่งคือเว่ยหลิงหยางและอีกหนึ่งคือไป่เฉินเทียน

นักรบหมื่นมังกรกำลังควบคุมหอคอยวายุและศาลานกขมิ้นต่อสู้กับวังสวรรค์แห่งโชค

ขณะเดียวกันค่ายนักรบก็กำลังต่อสู้กับค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ

“พวกเรารอดแล้ว!”

“กำลังเสริมมาแล้ว!”

“เหตุใดถึงมีเพียงค่ายนักรบ?”

ผู้อมตะภาคกลางทั้งห้าที่อยู่บนยอดเขาหิมะเงยหน้าขึ้นและมองค่ายนักรบด้วยความเบิกบานใจ

ค่ายนักรบค้นพบผู้อมตะทั้งห้ารวมถึงจ้าวเหลียนหยุนที่มีวิญญาณแห่งความรักอย่างรวดเร็ว

เว่ยหลิงหยางและไป่เฉินเทียนต้องการช่วยพวกเขา แต่ค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันไม่ได้มีไว้เพื่อโอ้อวดเท่านั้น กล่าวได้ว่าค่ายนักรบไม่ได้มีช่วงเวลาที่สะดวกสบายนัก

“ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่ธรรมดา มันใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืน!”

“แม่น้ำหวนคืนอยู่ในมือของปีศาจอมตะเซี่ยหูงั้นหรือ? แต่ค่ายกลวิญญาณนี้เชื่อมต่อกับแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ แม้เราจะไม่สามารถทำลายค่ายกล แต่เราสามารถทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ เมื่อรากฐานของมันถูกทำลาย ค่ายกลวิญญาณจะพังทลายลงเช่นกัน”

เว่ยหลิงหยางและไป่เฉินเทียนตัดสินใจ

“บึม บึม บึม…”

ค่ายนักรบโจมตีอย่างดุเดือดและทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ

“สามี” ท่านหญิงหว่านซูหยุดหลอมรวมชั่วคราว นางยืนอยู่ข้างกายปีศาจอมตะเซี่ยหูด้วยความกังวล

“ที่รัก หากเราปล่อยให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้โจมตีต่อไป แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะจะถูกทำลายไม่ช้าก็เร็ว เมื่อเวลานั้นมาถึงค่ายกลวิญญาณจะถูกทำลายเช่นกัน แต่เจ้าสามารถผ่อนคลาย คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังเดียวจะทำสิ่งใดได้? ปล่อยให้ข้ามอบบทเรียนให้กับผู้อมตะภาคกลางเหล่านี้และทำให้พวกเขากลับไป!” ปีศาจอมตะเซี่ยหูหัวเราะเสียงดังก่อนจะพุ่งเข้าหาคฤหาสน์วิญญาณอมตะอย่างกล้าหาญ

ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่กลางอากาศ

อย่างไรก็ตามค่ายนักรบที่ถูกควบคุมโดยผู้อมตะระดับแปดสองคนของภาคกลางกลับไม่มีความได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย