บทที่ 1268 เงาในภูเขาหิมะ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1268 เงาในภูเขาหิมะ

แปลโดย iPAT

ปีศาจอมตะเซี่ยหูแสดงพลังอำนาจอันเป็นที่สุดของภาคเหนือออกมา

“ปีศาจอมตะเซี่ยหูสมกับเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของภาคเหนือจริงๆ!” ไป่เฉินเทียนไม่กล้ายโสอีกต่อไป

ด้วยการประลองไม่กี่กระบวนท่า ไป่เฉินเทียนตระหนักได้ทันทีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจอมตะเซี่ยหู

ค่ายนักรบสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง มันแทบไม่สามารถอดทนต่อการโจมตีของปีศาจอมตะเซี่ยหู

“น่าเสียดายที่มีเจ้าเพียงผู้เดียวขณะที่พวกเรามีผู้อมตะระดับแปดสองคน” เว่ยหลิงหยางหัวเราะเย้ยหยันและกล่าวกับไป่เฉินเทียน “ข้าจะทิ้งคฤหาสน์วิญญาณอมตะไว้กับเจ้า”

ไป่เฉินเทียนตอบ “วางใจได้ หากมีบางสิ่งผิดปกติข้าจะรีบแจ้ง”

เว่ยหลิงหลางลอบบินออกจากค่ายนักรบไปอย่างเงียบๆ

โดยธรรมชาติแล้วเขาไม่สามารถต่อต้านค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันแต่ตอนนี้พลังงานส่วนใหญ่ของมันถูกใช้เพื่อปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ ดังนั้นแรงกดดันต่อเว่ยหลิงหลางจึงลดน้อยลง เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ

เพราะเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกฎ

เส้นทางแห่งกฎมีข้อได้เปรียบในแง่นี้

ปีศาจอมตะเซี่ยหู่แข็งแกร่งกว่าเว่ยหลิงหยาง แต่เขาก็ไม่สามารถแข่งขันในบางแง่มุม

เว่ยหลิงหยางเดินทางไปได้ครึ่งทางก่อนจะถูกค้นพบโดยปีศาจอมตะเซี่ยหู

“เจ้ากำลังจะไปที่ใด?” ปีศาจอมตะเซี่ยหูตะโกนด้วยความโกรธและโบกมือ

ทันใดนั้นพายุหิมะก็ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เว่ยหลิงหยางรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

เขาเปลี่ยนทิศทางและฟันฝ่าอุปสรรคขณะที่ไป่เฉินเทียนพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรู

ท่านหญิงหว่านซูไม่มีอารมณ์หลอมรวมวิญญาณในเวลานี้และกำลังเฝ้ามองการต่อสู้อย่างตั้งใจ

หากปีศาจอมตะเซี่ยหูชนะ ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี

หากปีศาจอมตะเซี่ยหูแพ้ ทุกอย่างจะจบสิ้น ความพยายามทั้งหมดของพวกเขาจะระเบิดราวกับฟองสบู่แตก

แม้ปีศาจอมตะเซี่ยหูจะแข็งแกร่ง แต่ฝ่ายตรข้ามมีผู้อมตะระดับแปดสองคนพร้อมกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ในทางตรงข้ามค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันมีขีดจำกัดในการสนับสนุนผู้อมตะระดับแปด

“หากหนึ่งในผู้อมตะระดับแปดโจมตียอดเขาหิมะ ผลที่ตามมาจะไม่สามารถจินตนาการ!” ท่านหญิงหว่านซูเต็มไปด้วยความกังวล

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะตกอยู่ในอันตราย

“ท่านหญิงหว่านซู ข้ามีแผนการที่สามารถช่วยแก้ไขสถานการณ์ของท่าน!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ข้อความลึกลับถูกส่งมายังท่านหญิงหว่านซู

“นี่คือ?” ท่านหญิงหว่านซูตกใจมาก

เพราะวิญญาณที่ส่งข้อความดวงนี้เป็นสิ่งที่ท่านหญิงหว่านซูเก็บไว้ในมิติช่องว่างของนางมาตลอดและไม่เคยใช้งาน

หลายปีก่อน ไม่นานหลังจากท่านหญิงหว่านซูก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

ในถ้ำแห่งหนึ่ง

“ผู้อาวุโส ผู้น้อยจะออกไป ผู้น้อยไม่กล้ารบกวนผู้อาวุโสจากการรับมรดกนี้” หัวใจของท่านหญิงหว่านซูสั่นสะท้านขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้อมตะลึกลับ

แต่ผู้ใดจะคิดว่าผู้อมตะลึกลับจะกล่าวว่า “สาวน้อย เจ้าสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและยังรู้ขีดจำกัดของตน เจ้ารู้ว่าเมื่อใดควรถอยหรือก้าวหน้า นั่นเป็นเรื่องที่ดี ข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะรับมรดกนี้ ข้ายินดีมอบมรดกนี้ให้เจ้า แต่หลังจากเจ้าได้รับมรดก เจ้าต้องบอกเนื้อหาของมันให้ข้ารู้ นอกจากนั้นเจ้าจะติดหนี้บุณคุณข้าหนึ่งครั้ง หากเกิดสถานการณ์คับขันในอนาคต เจ้าต้องช่วยคนที่ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลนี้”

ท่านหญิงหว่านซูคิดก่อนจะตอบตกลง

นางไม่มีทางเลือกอื่น

หากนางไม่ตกลง นางคงไม่สามารถออกจากถ้ำ

หากเป็นเช่นนั้น เดิมพันกับสิ่งนี้ย่อมดีกว่า

“ดี มาเถอะ เรามาทำข้อตกลงกัน” ผู้อมตะลึกลับเผยรอยยิ้มสดใสขณะลูบเครา

…..

ฉากนี้ปรากฏขึ้นในใจของท่านหญิงหว่านซูอีกครั้ง

นางเร่งตอบกลับ “ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านมีความสนใจในวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์หรือไม่?”

วิญญาณตอบกลับ “ฮ่าฮ่า ท่านหญิงหว่านซู ดูเหมือนท่านจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อสามีจริงๆ วางใจได้ เราไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อท่าน เราเพียงต้องการให้ท่านช่วยปรับแต่งทรัพยากรอมตะบางอย่างเท่านั้น หากท่านสามารถทำสิ่งนี้ พวกเราจะช่วยท่านกับสามีตอบโต้ผู้อมตะภาคกลาง”

“เช่นนั้นข้าก็ยินดีช่วยท่าน” ท่านหญิงหว่านซูพยักหน้าหลังจากครุ่นคิด

หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มผู้อมตะลึกลับสี่คนก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าท่านหญิงหว่านซู

พวกเขาก็คือกลุ่มของอิงอู๋เซี่ย!

“ไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง!” ท่านหญิงหว่านซูจำคนทั้งสองได้ทันที

ไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับฟางหยวนในการทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง พวกเขาเป็นอาชญากรที่ถูกไล่ล่าโดยผู้อมตะภาคเหนือ

ตอนนี้ท่านหญิงหว่านซูรู้สึกประหลาดใจมากที่ได้เห็นคนร้ายทั้งสอง

สำหรับไป่หนิงปิงและอิงอู๋เซี่ย ท่านหญิงหว่านซูไม่รู้จักพวกเขา

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจมากที่สุดคือผู้นำกลุ่มคนทั้งสี่กลับเป็นผีดิบอมตะที่อ่อนแอที่สุด

“แขกผู้มีเกียรติ ข้าสงสัยว่าพวกท่านจะช่วยเราขับไล่ศัตรูได้อย่างไร?” ท่านหญิงหว่านซูถาม

อิงอู๋เซี่ยยิ้มและกล่าวด้วยความมั่นใจ “ท่านหญิงหว่านซู ข้ารู้ว่าปีศาจอมตะเซี่ยหูได้เชิญบางคนมาช่วยลบข้อตกลงพันธมิตรของท่านไปแล้ว แต่เรามาโดยปราศจากเจตนาร้าย เรามีศัตรูร่วมกัน นั่นคือผู้อมตะภาคกลาง กล่าวได้ว่าเราเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดที่ท่านสามารถมีได้”

“เมื่อท่านรับข้อตกลงของเรา นั่นหมายความว่าท่านยังให้ความสำคัญกับคำสัญญาในอดีต ตราบเท่าที่ท่านช่วยเราปรับแต่งทรัพยากรอมตะ ทุกอย่างจะสามารถแก้ไข”

“ทรัพยากรอมตะชนิดใด?” ท่านหญิงหว่านซูยืนมือออกมา

อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยกลับส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้มขมขื่น “ทรัพยากรอมตะชิ้นนี้อยู่ในมิติช่องว่างของท่าน”

“มันคือหินสีม่วงทองที่ปีศาจอมตะเซี่ยหูนำมาจากสุสานผีดิบของกองกำลังพันธมิตรแห่งภาคเหนือ” อิงอู๋เซี่ยตอบ

รูม่านตาของท่านหญิงหว่านซูหดเล็กลง นางหยิบทรัพยากรอมตะดังกล่าวออกมา “สิ่งนี้งั้นหรือ?”

มันเป็นหินสีม่วงทองที่มีขนาดเท่าฝ่ามือมนุษย์

อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจ “ถูกต้อง มันคือหินก้อนนี้”

“ดังนั้นพวกเจ้าก็เป็นสมาชิกนิกายเงา” ท่านหญิงหว่านซูเปิดเผยตัวตนของอิงอู๋เซี่ยได้ทันที

อิงอู๋เซี่ยไม่แปลกใจและยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ท่านหญิงช่างรอบรู้นัก ข้าต้องรบกวนท่านแล้ว”

ด้วยเหตุนี้ผู้อมตะภาคกลางจึงเป็นศัตรูของนางและสมาชิกนิกายเงา

ดังคำกล่าวที่ว่าศัตรูของศัตรูก็คือมิตร

ท่านหญิงหว่านซูมองการต่อสู้กลางอากาศก่อนจะหันกลับมายังหินสีม่วงทอง “นี่เป็นทรัพยากรประเภทใด ข้าไม่สามารถระบุ ข้าจะไม่ปิดบังจากพวกเจ้า ข้าเคยพยายามปรับแต่งมันมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ!”

อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มสดใส น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “นั่นเป็นวิธีการพิเศษของนิกายเงา ท่านหญิงหว่านซู ท่านเพียงไม่รู้ขั้นตอนและวิธีการที่ถูกต้องเท่านั้น ข้าจะสอนท่าน ท่านเพียงต้องทำตามคำแนะนำของข้าและท่านจะประสบความสำเร็จ”

…..

มังกรดาบบรรพกาลบินอยู่บนท้องฟ้าเหนือแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ

จากภายนอก ฉากภายในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะไม่สามารถมองเห็น

การต่อสู้แห่งชีวิตและความตายที่กำลังดำเนินอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์สร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ขึ้น แต่โลกภายนอกยังสงบสุขและอากาศแจ่มใส

‘พวกเขาเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะงั้นหรือ? แปลก!’

ฟางหยวนรู้สึกสงสัย

เขารู้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะกลายเป็นพื้นที่อันตรายเพราะปีศาจอมตะเซี่ยหูกำลังหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์

แล้วอิงอู๋เซี่ยจะเข้าไปสถานที่เช่นนี้เพียงสิ่งใด?

นี่เป็นเรื่องจริงหรือภาพลวงตา?

มันเป็นวิธีการหลอกลวงท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคของอิงอู๋เซี่ยเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในทะเลตะวันออกหรือไม่?

แต่หากมันเป็นเรื่องจริง…

มันยังตีความได้หลายอย่าง

ฟางหยวนลังเล

เขามีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดแต่มันไม่ใช่เรื่องฉลาดหากเขาจะพุ่งเข้าไปทันที

ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะรอดูไปก่อน