นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 545 ผสมโรง
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้จัดการของเฉินจุนเหยียนก็เอื้อมมือไปดึงหลิวเสี่ยวหนิงออกไป แต่หลิวเสี่ยวหนิงก็ยืนนิ่งไม่ยอมขยับ

เธอจ้องไปที่นิ้วเท้าของเธออย่างว่างเปล่า และแสงวาบรอบตัวเธอก็กลืนเธอไปจนหมด

“เสี่ยวหนิง!” ผู้จัดการของเฉินจุนเหยียนคว้าแขนของหลิวเสี่ยวหนิง

เฉินจุนเหยียนเดิมทีคอยปิดกั้นนักข่าวไว้ ก็หันกลับมาและเห็นฉากนี้ คิ้วของเขาขมวดอย่างดุดันทันที

ด้วยความสิ้นหวัง เขาจึงรีบเอื้อมมือไปโอบเอวของหลิวเสี่ยวหนิงและพาตัวเธอไปที่รถที่อยู่ด้านหลังเขา

เฉินจุนเหยียนรู้ว่าการทำเช่นนี้อาจส่งผลกระทบมากขึ้นต่อความคิดเห็นของสาธารณชน แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้หลิวเสี่ยวหนิงอยู่คนเดียวท่ามกลางสื่อแบบนี้ได้

ผู้จัดการสตาร์ทรถทันทีและทิ้งสื่อทั้งหมดไว้ข้างหลังรถ

ในที่สุด ก็ไม่มีการปิดล้อมของสื่อ ทุกคนในรถถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฉินจุนเหยียนหันไปมองหลิวเสี่ยวหนิง เธอนั่งอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางที่ตกตะลึงบนใบหน้าของเธอ

เรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ของจินจิ่นหรานนั้นรุนแรงมากบนอินเทอร์เน็ต แต่เฉินจุนเหยียนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นการปรากฏตัวของหลิวเสี่ยวหนิง

ไม่ใช่เพราะเขาสงสัยอะไรมั่วๆ เขาแค่รู้สึกเสมอว่าท่าทีของหลิวเสี่ยวหนิงตอนนี้ดูไม่เหมือน… ความโศกเศร้าเพราะคนรักของเขาเกิดอุบัติเหตุ

เฉินจุนเหยียนอ้าปาก แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาทำแค่เพียงถอนหายใจเบา ๆ

บรรยากาศในรถเริ่มเงียบ และทุกคนต่างก็มีความกังวลในตัวเอง

หลิวเสี่ยวหนิงมองลงมาที่โทรศัพท์ และมีรอยร้าวเส้นยาวบนหน้าจอ นั่นเป็นวันที่จินจิ่นหรานประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากที่เธอได้ฟังข้องความเสียงอันสุดท้ายของเขา โทรศัพท์ก็ตกลงกับพื้นทันที

หน้าจอหยุดนิ่งอยู่ที่บทสนทนาระหว่างเธอกับจินจิ่นหราน และมันเป็นข้อความทั้งหมดจากจินจิ่นหราน

เมื่อหันขึ้น หลิวเสี่ยวหนิงก็จำขึ้นได้ว่าเขาพูดในวันนั้นว่า เขาจะมารับเธอไปทานอาหารเย็นหลังจากที่เธอถ่ายโฆษณาเสร็จ

“เฉินจุนเหยียน”

เมื่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง หลิวเสี่ยวหนิงก็พูดขึ้นอย่างกระทันหัน

เฉินจุนเหยียนที่ถูกชื่อเรียก ก็หันศีรษะมาและมองที่หลิวเสี่ยวหนิง รอคอยสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป

หลิวเสี่ยวหนิงบิดชายเสื้อของเธอและกล่าวว่า “ในวันพิธีหมั้นของพี่ฉิง คุณมีความสุขหรือไม่?”

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่บริษัทให้รายการสัมภาษณ์แก่คุณน้อยขนาดนั้น และแม้แต่นักข่าวที่สัมภาษณ์ ก็ยังสามารถหยุดพวกเขาได้อีก”

เฉินจุนเหยียนหัวเราะเบา ๆ แต่ประโยคนี้ทำให้หลิวเสี่ยวหนิงงงงวย

เมื่อเห็นความสงสัยบนใบหน้าของหลิวเสี่ยวหนิง เฉินจุนเหยียนก็ไม่รู้ว่าควรจะทำหน้าอย่างไรดี

“ในเมื่อคุณรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่ คุณคิดว่าฉันจะมีความสุขได้ไหม?”

แต่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คิ้วของเฉินจุนเหยียนก็ย่นลงโดยไม่รู้ตัว

ถ้าเขาไม่ใส่ใจมากขนาดนั้น บางทีวันนั้นคงจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น

เขาคิ้วยกขึ้นเล็กน้อย และหลิวเสี่ยวหนิงก็เพิ่งรู้จะว่าเฉินจุนเหยียนหมายถึงอะไร เธอยกแก้มขึ้นและเสียงของเธอก็ฟังดูอู้อี้มาก

“นั่นสิ ความฉลาดทางอารมณ์ของฉันไม่ได้สูงนัก ฉันชอบอยู่กับอารมณ์ของฉันเท่านั้น ทุกวันฉันทำในสิ่งที่ฉันต้องการจะทำ เมื่อจิตใจของฉันร้อนระอุ ฉันก็ไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมาเลย”

“เธอยังเด็ก และเธอก็ไม่ได้พบเจออะไรมากมาย เมื่อเธออยู่ในวงการนนี้สองสามปี เธอก็จะไม่เป็นแบบนี้อีก” เฉินจุนเหยียนกล่าวอย่างอบอุ่น

“จริงเหรอ…” หลิวเสี่ยวหนิงสูดจมูกและดูเหมือนไม่ต้องการพูดอะรต่อในหัวข้อนี้อีกแล้ว

เฉินจุนเหยียนมีงานธุรกิจต่ออีก ดังนั้นหลิวเสี่ยวหนิงจึงไม่สามารถไปกับเขาได้ และในที่สุดเขาก็สั่งให้ผู้จัดการไปส่งหลิวเสี่ยวหนิงกลับบ้านของเธอ

หลังจากกลับถึงบ้าน หลิวเสี่ยวหนิงก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที มองดูห้องว่างๆ น้ำตาก็ทำให้ตาของเธอพร่ามัวอีกครั้ง

ในตอนบ่าย หลิวเสี่ยวหนิงและเฉินจุนเหยียน ก็ติดเทรนการค้นหายอดนิยมอีกครั้ง วิดีโอที่ถูกรายล้อมโดยนักข่าวก็ถูกโพสต์ลงโดยตรงเช่นกัน และการสนทนาออนไลน์ก็ขึ้นถึงจุดสูงสุดชั่วขณะหนึ่ง

“สภาพหลิวเสี่ยวหนิงเป็นแบบนี้ดูย่ำแย่จัง”

“ใครมาเจอเรื่องแบบนี้คงไม่รู้สึกดีได้หรอก”

“แต่จะพูดก็พูดเถอะ เฉินจุนเหยียนปกป้องเธอแบบนี้ช่างอบอุ่นเกินไปแล้ว เฉินจุนเหยียนคงไม่ได้ชอบเธอใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเคยมีรูปที่พวกเขาสองคนจูบกันในบาร์หรอกหรือ?”

“ด้านบน เจ้าหน้าที่ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้แล้ว รูปนั้นพวกเขากำลังถ่ายทำกันในบาร์ กรุณาอย่าพาจุนเหยียนของเราไปด้วย ขอบคุณ”

“ฉันเกลียดหลิวเสี่ยวหนิงจริงๆ ฉันรู้สึกฮอตได้ทุกที ฉันละรู้สึกรังเกลียดจริงๆเลย”

การสนทนาทางอินเทอร์เน็ตนั้นดุเดือดเหมือนเช่นเคย แต่ไม่นานโพสต์ก็ถูกแต้มแต่งอย่างเงียบๆ

นี่เป็นเสียงแตร และเป็เพียงการลงข่าวเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือหลิวเสี่ยวหนิงและเฉินจุนเหยียนไม่ได้ถ่ายทำที่บาร์ในวันนั้น แต่เป็นการนัดส่วนตัวของพวกเขาสองคน

คลิปในภาพยนตร์ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ถูกสร้างขึ้นในภายหลัง

มีรูปถ่ายอื่น ๆ อีกหลายรูปของทั้งสองที่จูบกันในโพสต์

ทันทีที่โพสต์นี้ออกมา ผู้คนก็เริ่มที่จะส่งต่อมันอย่างบ้าคลั่ง และถึงกับตัดคลิปอย่างเป็นทางการออกเพื่อสร้างภาพเปรียบเทียบที่มีรายละเอียดมากที่สุด

มีการโพสต์ข้อความไม่ดีจำนวนนับไม่ถ้วน กล่าวได้ว่าตอนนี้หลิวเสี่ยวหนิงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

ในเวลาเดียวกัน ซูฉิงซึ่งกำลังจะขึ้นเครื่องบินก็ได้รับโทรศัพท์จากบริษัทและเห็นข่าวเหล่านี้เกี่ยวกับหลิวเสี่ยวหนิง

อุบัติเหตุทางรถยนต์ของจินจิ่นหรานทำให้เธอประหลาดใจเล็กน้อย แต่เธอก็คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่เคยจัดการจนเงียบมาก่อนจะถูกเปิดประเด็นขึ้นอีกครั้ง

“นี่สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซูฉิงติดต่อพนักงานของบริษัทเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้

“งานประชาสัมพันเริ่มมือก่อน ลดการค้นหาที่ยอดนิยมลงทันที” ซูฉิงพูดอย่างใจเย็น “ให้ผู้จัดการของหลิวเสี่ยวหนิงติดต่อมาหาฉันด้วย”

หลังจากวางสายไป หลังจากนั้นไม่นาน สายของผู้จัดการส่วนตัวของหลิวเสี่ยวหนิงก็โทรเข้ามา

“คุณซู” ในมือผู้จัดการยังมีดาราตัวน้อยอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังรับงานอยู่ วันนี้เธอก็เห็นการค้นหายอดนิยมของหลิวเสี่ยวหนิงแล้ว เธอเองก็กังวลแต่ไม่มีเวลาออกไปดูเธอ

“เสี่ยวหนิงมีงานในช่วงสองวันนี้หรือไม่?” ซูฉิงถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ

“มีแค่พรุ่งนี้ต้องไปหาทีมงานถ่ายทำ บ่ายวันนี้ก็ไม่มีอะไรค่ะ” ผู้จัดการครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบตามความจริง

“คุณได้ติดต่อเสี่ยวหนิงหรือยัง? บอกเธอว่าอย่าอ่านอะไรในโลกออนไลน์และจัดการความคิดของเธอก่อน”

ซูฉิงยังเห็นสภาพจิตใจที่ไม่เสถียรของหลิวเสี่ยวหนิงในวิดีโอและรู้สึกกังวลเล็กน้อย

“ฉันก็ส่งข้อความหาเธอเหมือนกัน แต่เธอไม่ตอบ อีกสักพักฉํนจะโทรหาเธอค่ะ” ผู้จัดการเหลือบมองโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ

“ฉันจะขึ้นเครื่องกลับเร็วๆ นี้ และฉันจะจัดการเองหลังจากนั้น” ซูฉิงขมวดคิ้ว แต่ตอนนี้มีประกาศขึ้นเครื่องดังขึ้นแล้ว ดังนั้นเธอจึงวางสาย หลังจากพูดไปเพียงไม่กี่คำเท่านั้น

“ดูเหมือนว่ากลับไปคงจะยุ่งน่าดู”

เมื่อหันไปมองฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็ย่นจมูกของเธอ

“เกิดอะไรขึ้นกับนักข่าวคนนั้นเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงถาม

“เคยเจรจากันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมากลับคำกันกระทันหัน ดูเหมือนว่าจะมีคนผสมโรงอยู่เบื้องหลังจริงๆ”

ซูฉิงโค้งมุมปากของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะผ่อนคลายเกินไปแล้วจริงๆ ถึงได้มีคนมาเล่นแบบนี้ได้

“ให้ฉันสืบให้ไหม?” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าว

ซูฉิงส่ายหัว เธอมองลงไปที่รูปถ่ายและวิดีโอในโทรศัพท์ของเธอและรู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆนิดหน่อย