นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 546 ตัวเองเป็นคนเริ่ม
“ถ้าเรื่องแบบนี้ก็ต้องรบกวนนาย งั้นฉันก็คงจะไร้ประโยชน์จริง ๆ แล้วล่ะ”
เธอเก็บสีหน้าของเธอ อันที่จริงซูฉิงไม่คิดว่านี่เป็นความท้าทายเลย เพราะแผนการเด็ก ๆ แบบนี้เธอเลิกใช้ไปหลายปีแล้ว
ซูฉิงแค่อยากรู้ว่าความจริงของเรื่องจริงนี้จะเหมือนกับที่เธอคาดเดาไว้หรือไม่
ไหล่เธอถูกกระแทกเบา ๆ จึงดึงความสนใจของซูฉิงกลับมา
“ขอโทษครับ”
ได้ยินเสียงทุ้มดังขึ้น เสียงที่คุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูกนั้นทำให้ซูฉิงหยุดชะงักเท้า
เธอหันกลับไป กลับเห็นเพียงผู้คนเดินผ่านไปมา ไม่เห็นคนที่เพิ่งชนเธอเมื่อครู่นี้เลย
สายตาของฮ่อหยุนเฉิงมองมาที่ซูฉิงด้วยความแปลกใจ เป็นการถามซูฉิงโดยที่ไม่ได้เอ่ยออกมา
ซูฉิงส่ายหัว แสดงว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางทีเธออาจจะจำผิด
“แปลกจัง” ซูชิงลูบไหล่ของเธอและพึมพำเบา ๆ
บนเครื่องบิน ซูฉิงรู้สึกเบื่อเล็กน้อย เธอต้องการพักผ่อนสักหน่อย แต่เมื่อเธอหันไปมองฮ่อหยุนเฉิงซึ่งดูเหมือนกำลังทำงานบนคอมพิวเตอร์อยู่ เธอจึงค่อย ๆ เข้าไปใกล้เขาอย่างระมัดระวัง
เป็นไฟล์งานจริง ๆ ซูฉิงวางหัวของเธอไว้บนแขนของฮ่อหยุนเฉิง และมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเกียจคร้าน
ฮ่อหยุนเฉิงไม่ตอบสนองใด ๆ และการกระทำของซูฉิงก็ไม่ได้ขัดจังหวะการทำงานของเขาเลย
ซูฉิงลูบไปที่แขนเสื้อของฮ่อหยุนเฉิง ซึ่งเป็นเสื้อที่เธอซื้อให้เขานั่นเอง หลังจากลากวนไปมาหลายรอบ ปลายนิ้วของซูฉิงก็ขยับจากแขนเสื้อไปที่หลังมือของฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อเหลือบมองไปที่ซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงก็เกาคางของเธออย่างอดไม่ได้ ราวกับว่าเขากำลังเล่นกับแมวที่กำลังอ้อนคน
“เบื่อแล้วเหรอ?”
“นายทำงานไปเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน” เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงหันมาสนใจตัวเอง ซูฉิงก็เริ่มมีความคิดที่ไม่ดีเล็กน้อย
แววตาของฮ่อหยุนเฉิงสั่นไหวเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงทำงานต่อตามที่ซูฉิงบอก และดึงข้อมือกลับทันที
มุมปากของเธอหยักโค้งขึ้นเล็กน้อย ซูฉิงมองไปรอบ ๆ และปรับเข็มขัดนิรภัยของเธอ จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งหลังตรงเล็กน้อย และยื่นหน้าเข้าไปใกล้ฮ่อหยุนเฉิง
“หยุนเฉิง?”
ซูฉิงพูดพร้อมกับรอยยิ้มร่าเริง จากนั้นก็เป่าหูของฮ่อหยุนเฉิงเบา ๆ
ฮ่อหยุนเฉิงยังคงไม่สนใจ
เมื่อเห็นท่าทางเขาเช่นนี้ ซูฉิงก็แอบกลอกตาอย่างเงียบ ๆ ขณะที่กำลังคิดว่าจะแกล้งฮ่อหยุนเฉิงอย่างไรดี เครื่องบินก็โคลงเคลงเล็กน้อย ทำให้ซูฉิงล้มลงใส่ฮ่อหยุนเฉิงทันที
มือทั้งสองข้างวางอยู่บนแผงอกของฮ่อหยุนเฉิง หัวใจของเขาเต้นผ่านผิวหนังขึ้นมมาโดนฝ่ามือของซูฉิง
เสียงประกาศบนเครื่องบินดังขึ้น เตือนว่าเมื่อกี้เครื่องบินตกหลุมอากาศจึงโคลงเคลงเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินก็บินต่ออย่างสงบอีกครั้ง
“นี่กอดฉันเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงก้มลงมาเข้าใกล้ซูฉิงเล็กน้อย เสียงของเขาแหบต่ำ
ใบหน้าของซูฉิงแดงเล็กน้อย เธอต้องการยืดตัวตรง แต่กลับไม่คิดว่ามือของฮ่อหยุนเฉิงจะจับเอวของซูฉิงไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอหนีไป จากนั้นก็กดเธอลงบนหน้าอกของเขาทันที
“หยุดก่อกวนได้แล้ว” ซูฉิงแค่นหัวเราะเบา ๆ จากนั้นก็มองไปทางอื่นอย่างลนลาน
“เธอจูบฉันก่อน แล้วฉันจะปล่อยเธอไป” ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มและพูดข้างหูของซูฉิง
ในเวลานี้เอง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็เดินมา ซูฉิงที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเธแ็ตัวแข็งทันที เธอจึงเข้าไปฝังตัวอยู่ในอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิง และไม่กล้าขยับตัวทันที
แอร์โฮสเตสที่ผ่านมาเมื่อเห็นฉากนี้ ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และถามเบา ๆ ว่าซูฉิงไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า
สีหน้าของฮ่อหยุนเฉิงนั้นเฉยเมยมาก ดูเหมือนเขาจะต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ซูฉิงกลัวว่าเขาจะพูดอะไรไร้สาระ เธอจึงแอบบิดเอว
“ไม่มีอะไรครับ” ฮ่อหยุนเฉิงส่ายหัว เมื่อแอร์โฮสเตสเห็นอย่างนั้น และแม้ว่าเธอจะยังดูกังวลอยู่ แต่ในที่สุดเธอก็จากไป
ตอนนี้ซูฉิงรู้สึกอับอายมาก เธอต้องการที่จะขยับในอ้อมแขนของเขา แต่ฮ่อหยุนเฉิงยังคงใช้มือกดเธอไว้อยู่อย่างนั้น
เธอก็คิดว่าแอร์โฮสเตสยังไม่ไป ซูฉิงจึงจับเอวฮ่อหยุนเฉิงไว้แน่น “ยังไม่ไปเหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงที่ซูฉิงถามอย่างกังวลใจของ ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงก็เผยรอยยิ้มที่เปล่งประกายออกมา “ยังเลย”
ซูฉิงรู้สึกปวดเอวแล้ว เธอบ่นในใจว่าทำไมแอร์โฮสเตสยังยืนอยู่ที่นี่อีก
“ทำไมเธอยังไม่ออกไปอีก……” ซูฉิงกัดฟันกรามของเธอแน่น แต่ในวินาทีต่อมา เสียงหัวเราะเบา ๆ ของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังขึ้นเหนือหัวของเธอ
ซูฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเธอถึงได้รู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงแกล้งเธอ จากนั้นเธอก็ยืดตัวขึ้น แก้มของเธอแดงระเรื่อ
“ฮ่อหยุนเฉิง!” ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงอย่างโกรธจัด
เมื่อเห็นอย่างนี้ ฮ่อหยุนเฉิงก็ก้มศีรษะลงมาจูบที่ริมฝีปากของซูฉิง และรอยยิ้มก็ปรากฏที่มุมปากของเขา “เห็น ๆ อยู่ว่าเธอเป็นคนเริ่ม ทำไมมาตอนนี้ถึงเขินแล้วล่ะ?”
เธอเม้มปาก พ่นลมออกมาเบา ๆ แล้วก็นั่งตัวตรงอีกครั้ง “ฉันไม่คุยกับนายแล้ว”
เมื่อเห็นอย่างนั้น ฮ่อหยุนเฉิงก็ยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มของซูฉิง แต่ก็ทำให้ซูฉิงหันหน้าหนีไป
“ตอนนี้เบื่อแล้วเหรอ เพราะเธออยากซื้อตั๋วเครื่องบินไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อได้ยินฮ่อหยุนเฉิงพูดเช่นนี้ ซูฉิงก็กลอกตาทันที “ทำไม นายโทษฉันเหรอ?”
ปลายนิ้วหยิบผมยาว ๆ ของซูฉิงขึ้นมาเล่น ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงเต็มอ่อนโยนขึ้นไม่น้อย “ฉันจะกล้าได้ยังไง……”
สำหรับฮ่อหยุนเฉิงแล้ว เขายินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อซูฉิง
เมื่อมองเข้าไปในแววตาที่ลึกซึ้งของฮ่อหยุนเฉิง หัวใจของซูฉิงก็เต็มไปด้วยความหวานชื่น เธอหอมแก้มของฮ่อหยุนเฉิงเบา ๆ ยิ้มหวานราวกับดอกไม้
……
หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็ได้จัดให้คนมารับล่วงหน้าแล้ว ซูฉิงคิดถึงเรื่องงานที่บริษัท ดังนั้นจึงไปส่งเธอที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ก่อน
“ตอนเย็นฉันมารับนะ” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเบา ๆ เอื้อมมือไปลูบผมยาวของซูฉิง
เธอพยักหน้าให้เขา และซูฉิงก็กำลังจะลงจากรถ แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็เอื้อมมือออกไปดึงซูฉิงไว้
“เป็นอะไรเหรอ?” ซูฉิงตกใจ และมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงอย่างประหลาดใจ
เขามองออกไปด้านนอกของรถ และฮ่อหยุนเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ซูฉิงก็มองไปตามทิศทางที่ฮ่อหยุนเฉิงชี้ไป และเธอก็ตกใจมาก
เห็นว่าทางเข้าบริษัทเต็มไปด้วยนักข่าว และทุกคนก็มองเข้าไปในบริษัทราวกับว่าพวกเขากำลังรออะไรบางอย่าง
เป็นเรื่องปกติมากที่จะมีสื่อเข้ามาที่บริษัทบันเทิง แต่ซูฉิงไม่เคยเห็นสื่อมากมายขนาดนี้มาก่อน
แม้ว่าเมื่อวานที่อยู่บนเครื่องบินซูฉิงได้ขอให้บริษัทลบการค้นหายอดนิยมไปแล้ว ทำให้ลดความนิยมลง แต่ซูฉิงก็ไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะมารออยู่ที่นี่
“ไม่มีอะไรหรอก ก็เป็นแค่สื่อเท่านั้น” ซูฉิงตบมือของฮ่อหยุนเฉิง เพื่อเป็นการบอกให้เขาปล่อยตัวเอง
ซูฉิงสามารถรับมือกับสืื่อได้ หลังจากที่เธอส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือของเธอแล้ว เธอก็ลงจากรถ
“ฉันไปแล้วนะ อย่าลืมคิดถึงฉันด้วยล่ะ”
เธอส่งจูบให้ฮ่อหยุนเฉิง และกระพริบตาให้เขาอย่างทะเล้น ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
ซูฉิงไม่ได้ตั้งใจหลีกเลี่ยงสื่อ ดังนั้นเมื่อเธอเดินเข้ามา สื่อก็เข้ามารุมล้อมเธอทันที
นับตั้งแต่การหมั้นของซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงถูกประกาศออกมา เธอก็ไม่เคยปรากฏต่อสายตาของสาธารณชนเลย และเธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะมาที่นี่
และบวกกับเรื่องของหลิวเสี่ยวหนิงในช่วงนี้ พวกสื่อจึงคาดเดาไปว่าเธออาจจะอธิบายเรื่องของหลิวเสี่ยวหนิงได้