บทที่ 1187 เสียงร้องแปลกๆ

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

ทั้งหมดนิ่งเงียบ…

“พวกเรารีบวิ่งไปกันเถอะ” เย่ไคพลันพูดขึ้น

“นั่นสินะ…แต่เห็นแฟนคนอื่นเขาอ่อนโยนและเอาใจใส่กันขนาดนี้…ฉันก็อดรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาไม่ได้” มู่เฉินทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

จางซินเฉิงยกมือขึ้นตบไหล่มู่เฉินเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร

“เอาล่ะ พวกเราจะวิ่งไปที่นั่น มีฉันกับเฮยซืออยู่ข้างหน้า ผู้ประกาศข่าวสวี่กับอวี๋ซือหรานอยู่ด้านข้าง เรื่องสำคัญอยู่ที่จังหวะ ถ้าหากพวกเราไปถึงเร็วเกินไปในขณะที่พวกพี่หลิงยังจัดการไม่เสร็จ พวกเราก็จะวิ่งเข้าไปอยู่กลางวงล้อมอันตรายด้วยกันหมด ซอมบี้เจ้าเมืองสองตัวนั้นไม่ยอมขยับเขยื้อนเลย เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจรอโอกาสนั้นอยู่ก็ได้” ซย่าน่าพูดขึ้นทันที

“แต่ถ้าหากไปถึงช้าเกินไป ทีมของเราทางนี้ก็จะตกอยู่ในอันตราย” เฮยซือพูดเสริม

“ถูกต้อง ดังนั้นทันทีที่พวกเราพุ่งตัวออกไป ปัญหาที่ต้องเผชิญก็คือจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร เรื่องนี้ทุกคนเตรียมใจกันไว้หรือยัง? ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเกาะกลุ่มกันไว้ ห้ามแยกตัวกันเด็ดขาด” ซย่าน่าบอก

ทั้งหมดมองตากัน จากนั้นก็ค่อยๆ พยักหน้า “แน่นอน”

แม้แต่เจ้าลิงผอมก็พยักหน้าด้วย แถมยังพูดอย่างเด็ดเดี่ยวอีกว่า “ฉันจะซ่อนตัวอยู่ตรงกลางให้ดีที่สุด”

“อืม…ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวกันเถอะ” ซย่าน่ากวาดตามองทุกคน จากนั้นก็พูดขึ้น

ประโยคเหล่านี้ที่เธอพูดออกมา…มนุษย์ในทีมอาจไม่เข้าใจ แต่เหล่าซอมบี้สาวล้วนเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการสื่อ

เมื่อต้องเคลื่อนไหวไปพร้อมกับมนุษย์กลุ่มนี้ พลังต่อสู้ของพวกเธอก็จะถูกลดทอนอย่างใหญ่หลวง ถ้าหากปะทะกับซอมบี้ที่มักเจอในยามปกติย่อมไม่มีปัญหา แต่ซอมบี้พวกนี้กลับรับมือได้ยากอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ซย่าน่าเองก็ไม่แน่ใจว่าหลังจากที่พวกเธอพุ่งตัวออกไปแล้ว พวกเธอจะต้องเจอกับสถานการณ์แบบไหน

ที่สำคัญที่สุดก็คือ อันตรายที่ซุ่มซ่อนอยู่ในป่าร้าง…จนป่านนี้ก็ยังไม่ยอมเผยตัวออกมา…

‘เสี่ยวป๋ายกำลังไปตรวจสอบสินะ…’ ซย่าน่าคิดอย่างเป็นห่วง

…………

หลังเสียงคำรามดังกึกก้อง สงครามทางฝั่งของพวกหลิงม่อก็ปะทุขึ้นทันใด

ซอมบี้เหล่านั้นที่เดิมทีอยู่ห่างๆ พลันวิ่งเข้ามาพร้อมกันแทบจะทั้งหมด พวกมันพุ่งตัวเข้ามาทางหลี่ย่าหลินด้วยความเร็วสูง

‘ใช้กลยุทธ์หมาหมู่ตามคาด…แต่พวกมันก็ฉลาดไม่เบานะ รู้ว่าควรหยุดรุ่นพี่ไว้ก่อน…’ หลิงม่อขมวดคิ้วพลางคิดในใจ

หลี่ย่าหลินทั้งคล่องแคล่วว่องไว และมีพลังสังหารสูง แต่ตอนนี้เธอต้องประคองกู่ซวงซวงไว้ด้วย ข้อได้เปรียบเหล่านี้ของเธอจึงอ่อนลงไปมาก ขอเพียงเหนี่ยวรั้งเธอไว้ได้ ความเร็วในการเคลื่อนไหวของพวกหลิงม่อก็จะลดลงไปด้วย

สวบๆ!

ในตอนนี้เอง เงาร่างอีกห้าเงาพลันล้อมวงเข้ามา ทว่าเป้าหมายของพวกมันในครั้งนี้กลับเป็นหลิงม่อกับเย่เลี่ยน

‘ซอมบี้วิวัฒนาการ…’ หลิงม่อหัวใจกระตุกวูบ

คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเตรียมแผนอย่างนี้ไว้ต้อนรับเขาโดยเฉพาะด้วย…

ไม่ใช่แค่ซอมบี้วิวัฒนาการห้าตัว ยังมีซอมบี้กลายพันธุ์อีกสิบกว่าตัวที่กำลังล้อมเข้ามาจากด้านซ้ายและขวา ปิดทางหนีของหลิงม่อกับเย่เลี่ยนจนมิดชิด

อีกทั้งพวกมันยังไม่ได้เข้ามาโจมตีทันที เพียงแต่ค่อยๆ ขยับวงล้อมเข้ามา

‘ยังเหลืออีกประมาณยี่สิบเมตร…’ หลิงม่อมองไปที่โกดังอาหารหลังนั้น

ทว่าสิ่งที่ทำให้หลิงม่อหน้าเครียดขึ้นมาทันทีก็คือ ซอมบี้เจ้าเมืองตัวนั้นกลับปรากฏตัวอยู่ในจุดที่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรแล้ว

ด้วยความเร็วของมัน ถึงแม้หลิงม่อจะวิ่งเต็มกำลัง มันก็ยังสามารถพุ่งตัวเข้ามาขวางก่อนที่เขาจะวิ่งเข้าในโกดังอยู่ดี

กลับเป็นหลี่ย่าหลินที่มีโอกาสวิ่งเข้าไปสำเร็จ ฉะนั้นอีกฝ่ายจึงเล็งเป้าหมายมาที่หลิงม่อแทน…

‘บ้าเอ๊ย…’ หลิงม่อสบถในใจ

“แน่จริงแกก็เข้ามาเซ่!”

แต่ซอมบี้เจ้าเมืองตัวนั้นกลับหยุดยืนอยู่ตรงนั้น…

“หลิงม่อ ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่หลงกลนะ…” หลี่ย่าหลินที่ประคองกู่ซวงซวงอยู่ หาจังหวะเอี้ยวตัวหันมาพูดกับหลิงม่อ

“อืม…” หลิงม่อเองก็คิดไม่ตก…

เดิมทีเขาหมายจะใช้ท่าไม้ตาย…ในวินาทีที่ซอมบี้ทั้งหมดล้อมวงเข้ามา กลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เขาจะใช้ได้ ไม่ใช่หนวดสัมผัส แต่เป็นพลังควบคุม…

แต่คิดไม่ถึงว่านอกจากจะมีซอมบี้วิวัฒนาการโผล่ออกมาเยอะขนาดนี้ แล้วยังมีซอมบี้เจ้าเมืองตัวนั้นยืนรออยู่ไกลๆ อีก

‘ไม่…ไม่สิ…มันไม่ได้คิดจะขวางทางเราอย่างเดียว…’ พอคิดมาถึงตรงนี้ อยู่ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมองหลิงม่อทันที

ซอมบี้ตัวนั้น…มันกำลังสังเกตการณ์เขา!

‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!’ หลิงม่อกัดฟันกรอด เจอซอมบี้ร่างแม่ที่เจ้าเล่ห์เพทุบายก็แล้วไป แต่ทำไมซอมบี้เจ้าเมืองแค่ตัวเดียวถึงได้รับมือยากขึ้นขนาดนี้แล้วล่ะ? ถ้าหากว่ามันแค่มีสติปัญญาระดับหนึ่งก็แล้วไป แต่ประเด็นสำคัญคือสายตาที่มันมองมา กลับทำให้หลิงม่อรู้สึกกระวนกระวายแปลกๆ นี่สิ…

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขารู้สึกอย่างนี้…มันต้องไม่ใช่ซอมบี้ธรรมดาแน่นอน

‘ถ้าอย่างนั้น…ก็ยิ่งใช้พลังควบคุมกับมันไม่ได้น่ะสิ! ใครจะไปรู้ว่าพวกมันคิดจะทำอะไรกันแน่…พลังแบบนี้เก็บไปไว้ใช้ในตอนท้ายสุดจะได้ผลกว่า’ สิ่งที่หลิงม่อกังวลจริงๆ ไม่ใช่ซอมบี้เจ้าเมืองตัวนี้ แต่เป็นใครบางคนที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังซอมบี้พวกนี้ต่างหาก…

‘จะใช่…ยัยราชินีแมงมุมหรือเปล่านะ…’ หลิงม่อคิดมาถึงตรงนี้ ก็อดหนังศีรษะชาไม่ได้

เพราะถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว…

‘ไม่ว่ายังไง…’

หลิงม่อพลันขบกรามแน่น จากนั้นก็ตะโกนลั่น “สู้!”

ถ้าซอมบี้พวกนั้นไม่เข้ามา งั้นเขาก็จะเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อนเอง!

เงาร่างของเสี่ยวเฮยพลันปรากฏ พร้อมกับปล่อยพลังจิตโจมตีไปยังซอมบี้วิวัฒนาการเหล่านั้นทันที

และขณะเดียวกับที่หลิงม่อรั้งข้อมือเย่เลี่ยนให้ออกวิ่งอย่างบ้าคลั่ง เขาก็เหวี่ยงหนวดสัมผัสออกไปด้วย

“ไปให้พ้น!”

ซอมบี้ฝั่งเขาทยอยล้มตาย ในขณะที่หลี่ย่าหลินเองก็เริ่มลงมือแล้วเช่นกัน

เธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วถึงขีดสุดไปพร้อมกับกู่ซวงซวงที่กำลังกอดแขนเธอแน่น

เงาร่างอรชรสองร่างแนบชิดเป็นหนึ่งเดียวขณะโฉบไหวด้วยความเร็วสูง เงาหนึ่งตวัดประกายดาบเพื่อโจมตี อีกเงาหนึ่งหลับตาแน่นพร้อมกับส่งเสียงหวีดร้อง “อ๊า” ไปด้วย ทว่าทุกครั้งที่เธอร้อง “อ๊า” เหล่าซอมบี้ที่ล้อมเข้ามาเหล่านั้นก็จะโซเซไปชั่วขณะ และไม่รอให้พวกมันมีโอกาสยืนตรงอีกครั้ง ประกายดาบเชือดผ่านลำคอของพวกมันไปอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า

“พวกพี่เป็นทีมเวิร์คที่เยี่ยมไม่เบาเลยนี่!” หลิงม่อให้เสี่ยวเฮยเหนี่ยวรั้งซอมบี้วิวัฒนาการสามตัวไว้ ส่วนตัวเขาก็พุ่งเข้าไปโจมตีอีกสองตัวที่เหลือ สองตัวนั้นถือว่ามีวิวัฒนาการด้านสติปัญญาในระดับหนึ่งแล้ว ฉะนั้นพอเห็นอย่างนั้นพวกมันจึงอึ้งงันไปชั่วขณะ เจ้ามนุษย์นั่นพุ่งตัวเข้ามาด้วยมือเปล่าเนี่ยนะ? เท่านั้นไม่พอ…ยังมีแก่ใจหันไปคุยไร้สาระอีก!

“ฮิๆ…” หลี่ย่าหลินหัวเราะอย่างผ่อนคลาย “แต่ฉันว่าเสียงร้องของเธอมันแปลกๆ น่ะสิ…”

“…เข้าใจหน่อยแล้วกัน เธอกำลังช่วยให้ตัวเองแสดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่น่ะ…” หลิงม่อพลันฉุกคิดถึงเรื่องแปลกๆ ขึ้นมาทันที…เฮ้อ รุ่นพี่จะเถรตรงเกินไปแล้ว…

“กรร!”

เวลานี้ ซอมบี้วิวัฒนาการสองตัวนั้นเริ่มบันดาลโทสะ…เดิมทีพวกมันยังคิดจะรักษาระยะห่างกับหลิงม่อเอาไว้ แต่เวลานี้พวกมันกลับกลับอดไม่ได้ที่จะกระโจนตามกันเข้ามา

หลิงม่อลอบคิดอย่างยินดีในใจ ‘เข้ามาเลย!’

ทว่าขณะที่ซอมบี้ตัวแรกเพิ่งจะกระโจนเข้ามาได้ไม่ไกล ซอมบี้เจ้าเมืองที่ยืนอยู่ไกลๆ ก็พลันส่งเสียงคำรามลั่น

แต่สายไปแล้ว…ซอมบี้วิวัฒนาการตัวนั้นยังคงมีสีหน้าเหมือนเดิม ฝีเท้าก็ยังคงสาววิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ทว่าบนลำคอของมันกลับค่อยๆ ปรากฏรอยแผลสีแดงเส้นหนึ่งขึ้นมาช้าๆ…

ซอมบี้วิวัฒนาการอีกตัวตระหนักได้ถึงความผิดปกติ ทว่ามันเองก็ไม่ต่างกัน…สายไปเสียแล้ว ในเสี้ยววินาทีที่มันชะงักฝีเท้า เสี่ยวเฮยก็ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังมัน เส้นสายแห่งพลังจิตเส้นหนึ่งพุ่งเกี่ยวรัดลำคอของมัน และกลายสภาพเป็นสสารในทันใด…

…………………………………