บทที่ 1188 การต่อสู้หนึ่งวินาที

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

ใช้ตัวเป็นเหยื่อล่อ สังหารศัตรูได้ทีเดียวถึงสองตัว!

ซอมบี้เจ้าเมืองตัวนั้นพลันโกรธขึ้งขึ้นมาทันที…มันอ้าปากคำรามเสียงดังลั่น

ส่งผลให้ซอมบี้วิวัฒนาการสามตัวที่เหลือสะท้านด้วยความกลัว จากนั้นก็เปล่งเสียงคำรามและพุ่งตัวเข้ามาทันที

“โอ้…ตัดสินใจรุมเข้ามาทีเดียวแล้วสินะ” หลิงม่อเลียริมฝีปาก พลางแสยะยิ้มเย็นชา

เพิ่งจะมาฮึดสู้หลังเสียกำลังต่อสู้สองในห้าไปแล้วเนี่ยนะ? สายไปแล้วล่ะ!

เขาหมายหัวซอมบี้สองตัวที่วิ่งนำหน้าเหมือนเดิม พลันตวัดหนวดสัมผัสออกไปปะทะกับพวกมัน

เห็นชัดว่าซอมบี้สองตัวนี้ซึมซับบทเรียนจากการตายของพวกเดียวกัน…พวกมันเคลื่อนหลบได้เร็วกว่า ขณะเดียวกันก็พุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วที่สูงกว่าด้วย ดูออกไม่ยากว่าพวกมันคงอยากจัดการหลิงม่อให้เร็วที่สุด

‘สู้กับซอมบี้ที่มีสติปัญญาเป็นเรื่องยาก…แต่ว่า…’

หลิงม่อรู้ดีว่าเร็วสู้อีกฝ่ายไม่ได้ ฉะนั้นเขาจึงเพียงถอยหลังสองสามก้าว

ทว่ากึ่งกลางระหว่างเขากับซอมบี้สองตัวนั้น ตาข่ายหนวดสัมผัสผืนมหึมากำลังกางออกอย่างช้าๆ

‘ใช่แล้ว จะหวังให้พวกแกติดกับดักเดิมเป็นครั้งที่สองคงไม่ได้ แต่ก็ต้องดูว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนล่ะนะ…’

หากเป็นในเสี้ยววินาทีที่ใกล้จะโจมตีโดนเขาล่ะ?

‘เข้ามาเลย เข้ามาสิ…’

หลิงม่อแอบตั้งตารอเงียบๆ แต่ทันใดนั้น หัวใจของเขากลับเต้นอย่างบ้าคลั่ง

‘เดี๋ยวก่อน อีกตัวหนึ่งล่ะ!’

เขาถูกซอมบี้สองตัวนั้นดึงความสนใจทั้งหมดไปชั่วขณะ แต่เมื่อเขาเหลือบมองไปข้างหลังพวกมัน กลับค้นพบอย่างตกตะลึงว่าซอมบี้ตัวที่สามได้หายตัวไปอย่างเงียบเชียบแล้ว…

‘อยู่ที่ไหน?’

บริเวณโดยรอบยังมีซอมบี้กลายพันธุ์อีกหลายตัวที่กำลังพุ่งเข้ามาไม่ขาดสาย เขาถูกล้อมอยู่ตรงกลาง จึงเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตสถานการณ์โดยรอบได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเมื่อสิ่งที่รายล้อมตัวเขาล้วนเป็นสัตว์ประหลาดที่เคลื่อนไหวอย่างว่องไว…

แต่ยิ่งอยู่ในสถานการณ์อันตรายอย่างนี้ หลิงม่อกลับยิ่งใจเย็น…หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตอนนี้เขากำลังรู้สึกใจเย็นเพราะความท้าทาย เขากวาดสายตามองรอบกาย ไม่นานคิ้วของเขาก็กระดกขึ้น

ท่ามกลางกลุ่มซอมบี้กลายพันธุ์ด้านหลังที่กำลังกระโจนเข้ามาทางพวกเขา มีตัวหนึ่งที่แอบหลบเลี่ยงหนวดสัมผัสของเขาไปได้อย่างเงียบเชียบ และในเสี้ยววินาทีที่ซอมบี้กลายพันธุ์ที่อยู่ด้านหน้ามันล้มลงไป มันก็เร่งความเร็วพุ่งเข้ามาทางเย่เลี่ยน

นี่มันกลยุทธ์ส่งเสียงบูรพา ฝ่าตีประจิม!

เมื่อเห็นว่าซอมบี้ตัวนั้นใกล้พุ่งตัวมาถึงแผ่นหลังเย่เลี่ยน และยื่นมือที่เต็มไปด้วยคราบเลือดสกปรกมาทางเธอ ม่านตาของหลิงม่อพลันหดเล็กลงทันใด

ขณะเดียวกัน ซอมบี้วิวัฒนาการสองตัวนั้นก็เร่งความเร็วทันที พวกมันโฉบหายไป และมาปรากฏตัวต่อหน้าหลิงม่อในเสี้ยววินาทีต่อมา

ใช้สองกลยุทธ์พร้อมกัน!

สิ่งที่พวกมันต้องการ คือความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยของหลิงม่อในขณะที่เขากำลังลนลานไม่ทันตั้งตัว! และไม่ว่าความผิดพลาดนั้นคืออะไร แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาล้วนเป็นหายนะทั้งนั้น…

“บ้าเอ๊ย!”

เสียงคำรามของซอมบี้เจ้าเมืองตัวนั้นต้องเป็นคำสั่งให้ซอมบี้สามตัวนี้เคลื่อนไหวแน่ๆ!

“ไสหัวไป!”

หลิงม่อรั้งร่างเย่เลี่ยนเข้ามาข้างๆ และจ้องซอมบี้ตัวนั้นด้วยแววตาขึ้งเคียด

สายตาที่เปลี่ยนไปของเขาทำให้ซอมบี้ตัวนั้นชะงักงันไปชั่วขณะ แต่ในขณะเดียวกัน มือของซอมบี้อีกสองตัวก็ยื่นเข้ามาถึงแผ่นหลังเขาแล้ว

“แผนตื้นๆ แค่นี้คิดว่าจะทำอะไรฉันได้งั้นหรือ?” หลิงม่อแสยะยิ้มเย็นชา ทันใดนั้น เขากำนิ้วมือทั้งห้าเข้าหากันแน่น

สวบๆๆ!

หนวดสัมผัสจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้นในรูปสสาร ทว่าในสายตาของซอมบี้สองตัวนี้กลับเต็มไปด้วยแววกระหายเลือดแล้ว พวกมันจึงไม่มีทางหลบเลี่ยงได้ทัน…

“กรรร!”

อีกหนึ่งตัวที่เหลือพลันได้สติ…ทว่ากว่ามันจะรู้ตัว สิ่งที่มันต้องเผชิญกลับเป็นพลังขุมหนึ่งที่ทะลวงผ่านร่างไป รวมถึงเลือดอุ่นๆ ที่ไหลรินลงมาจากกลางหว่างคิ้วของมัน…

“ฮั่ก…ฮั่ก…”

หนึ่งวินาที!

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงหนึ่งวินาที หรืออาจจะไม่ถึงด้วยซ้ำ!

ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการตอบสนองหรือการตัดสินใจ หลิงม่อล้วนทำได้ยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่เขาเพิ่งจะหอบหายใจหนักหน่วง สัญชาตญาณที่มีต่ออันตรายก็พลันแผ่ปกคลุมลงมาจากเหนือศีรษะ

“ระวัง!”

หลิงม่อดึงเย่เลี่ยนให้หลบออกไปด้านหนึ่ง…และในเสี้ยววินาทีเดียวกับที่พวกเขาโฉบหลบออกไป เสียง “โครม” ก็ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา พร้อมกับเงาร่างของใครคนหนึ่งปรากฏแทนที่ในจุดที่พวกเขายืนอยู่เมื่อกี้

ซอมบี้เจ้าเมืองตัวนั้น…

มันยืดตัวตรงพร้อมกับใบหน้าเย็นชา แต่หลิงม่อกลับจ้องตรงไปที่ใต้เท้าของมัน…

เท้าเปลือยเปล่าไร้สิ่งห่อหุ้มคู่นั้นกลับจมลงไปในพื้นดิน…แม้แต่บนพื้นซีเมนต์โดยรอบก็ยังเกิดรอยแยกมากมาย…

‘นี่มันพละกำลังบ้าอะไรวะเนี่ย!’ หลิงม่อตื่นตะลึง…

ทว่าไม่นาน เขาก็ฉุกคิดได้ถึงปัญหาสำคัญอีกเรื่อง…

“แล้วนี่แกกระโดดลงมาจากไหนวะ!”

เมื่อกี้มันยังอยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรอยู่เลย แต่พริบตาเดียวกลับกระโดดลงมาจากฟ้าแล้ว…ถ้าหากไม่ใช่ว่ามันบินได้ อย่างนั้นความเร็วในการพุ่งตัวและพลังดีดตัวของมันก็น่ากลัวเกินไปแล้ว

‘ถ้าอย่างนั้น…เมื่อกี้ที่เจ้านั่นทำเป็นแอบสังเกตการณ์อย่างเดือดดาล ที่แท้ก็กำลังหาโอกาสลอบสังหารเราในครั้งเดียวงั้นเหรอ? มนุษย์ยังเหลือความหวังในการมีชีวิตอยู่ไหมเนี่ย…’ หลิงม่อกรีดร้องในใจ

ถ้าหากไม่ใช่ว่าเมื่อกี้เขากำลังอยู่ในสภาวะเพ่งสมาธิพอดี ไม่แน่ว่าป่านนี้คงถูกเจ้านั่นลอบโจมตีสำเร็จไปแล้ว แต่เห็นชัดว่าอีกฝ่ายก็คำนวณพลาดเช่นกัน…มันคงคิดว่ามนุษย์เป็นเหมือนซอมบี้ ที่หลังจากฆ่าคนเสร็จก็จะกลายร่างจากฆาตกรเป็นจอมตะกละ

‘แต่ถึงแม้ไม่ถูกลอบโจมตี เจ้านี่ก็เหมือนจะจัดการได้ยากเหมือนกัน…’ หลิงม่อมองซอมบี้เจ้าเมืองอย่างนึกกลัวเล็กน้อย

มันเป็นซอมบี้ที่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อซึ่งหาได้ยาก อีกทั้งผิวกายยังแดงมากอีกด้วย ส่งผลให้มันดูเหมือน “มนุษย์ยักษ์ตัวแดง”

เมื่อมันยืนตัวตรง เสียงกระดูกเสียดสีกัน “กร๊อบแกร๊บๆๆ” ดังมาจากทั่วร่างกาย นอกจากนี้เพียงมองตาคู่นั้นของมัน ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลแล้ว

ถึงแม้มันจะดูเหมือนบ้าคลั่ง แต่หลิงม่อรู้ดีว่าที่จริงสมองของมันใช้การได้เป็นอย่างดี…

‘ทำยังไงดี…’ หลิงม่อไม่กล้าละสายตาออกไป ทว่าดูจากที่เสียงร้องของกู่ซวงซวงที่ยังคงดังต่อเนื่อง ดูท่าว่าสถานการณ์ฝั่งพวกเธอเองก็คงไม่สู้ดีเหมือนกัน…และหากสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าซอมบี้กลายพันธุ์ล้วนหันไปโจมตีพวกหลี่ย่าหลินแทนแล้ว…

‘บ้าเอ๊ย ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะเนี่ย!’ หลิงม่อถึงกับหมดคำพูด…ซอมบี้เจ้าเมืองตัวนี้วิเคราะห์เขาได้แม่นเกินไปแล้ว

“เจ้าหนู ฉันไม่ถูกชะตากับแกเลย” อยู่ๆ ซอมบี้เจ้าเมืองพลันเปล่งเสียงพูดขึ้นมา เสียงของมันทุ้มต่ำมาก แต่ก็ชัดเจนมากเช่นกัน…ขณะเดียวกันยังแฝงไว้ด้วยแววดูถูก

หลิงม่อเองก็ไม่คิดว่าเจ้านั่นจะคุยกับเขา ยิ่งไม่คิดว่าประโยคแรกที่มันพูดออกมาจะเป็นคำพูดแบบนี้…ทว่าพอได้ยิน เขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

‘อะไรวะ?’ มองข้ามเรื่องที่เขามีกลิ่นหอมน่ากินไปก่อนก็ได้…แต่ซอมบี้มีโมเมนต์ที่ไม่ถูกชะตากับเหยื่อด้วยหรือ?! อีกทั้งประโยคแรกที่พูดหลังจากเจอหน้ากัน กลับเป็นประโยคเห่ยๆ จากละครแบบนี้เนี่ยนะ!

ก็คงมีแต่ซอมบี้นี่แหละที่พูดประโยคแบบนี้ได้อย่างหน้าตาย…

“ไม่ถูกชะตามาก” มันยังพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค

พอเห็นว่าหลิงม่อไม่พูดอะไร มันจึงขมวดคิ้ว จากนั้นก็ถามต่อว่า “แกจะไม่ถามฉันหน่อยหรือว่าเพราะอะไร?”

“…แกอยากบอก? อย่างนั้นก็บอกมาสิ” หลิงม่อยังคงมีสีหน้าหวาดระแวง…ทว่าเรื่องสำคัญกว่าที่เขากำลังครุ่นคิดอย่างรวดเร็วก็คือ เขาจะกำจัดเจ้าซอมบี้นักกล้ามตัวนี้ได้อย่างไร…

………………………