บทที่ 167 อย่าพึ่งใจร้อน รอโทรศัพท์จากผมก่อน

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

มีคนมารับไปแล้ว?

เชอร์รีนรู้ว่าเป็นใครด้วยสัญชาตญาณ จึงไม่ได้ร้อนรุ่มกลุ้มใจสักนิด เธอมองคุณครูของซาราง “อาจารย์ดวงใจค่ะ เขาพูดยังไงบ้างคะ?”

นอกจากเขา เธอนึกบุคคลที่สองไม่ออกแล้ว!

เมื่อเอ่ยถึงเขา ในใจอาจารย์ดวงใจพลันปรากฏใบหน้าผู้ชายที่หล่อเหลาไร้คนเทียบเทียม เขาเหมือนรวบรวมข้อดีทุกประการไว้อย่างสง่าผ่าเผย ให้ความรู้สึกสูงศักดิ์เหลือแสน ทุกอิริยาบถของเขาเป็นผู้ดีจนยากจะสรรหาถ้อยคำเอื้อนเอ่ย

เธอคิดไม่ถึงว่าสามีคุณครูเชอร์รีนจะเป็นผู้ชายดีพร้อมเช่นนี้ ทว่าเมื่อย้อนกลับมาพูดถึงคุณครูเชอร์รีน ผู้ซึ่งเป็นคนดีและหน้าตาสะสวย ถือว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันยิ่ง

“เขาคือ เขาคือสามีของคุณครูเชอร์รีน เลยมารับซารางตอนเลิกเรียนกค่ะ” อาจารย์ดวงใจเอ่ยปากกล่าว“อีกอย่าง คุณออกัสให้ฉันดูทะเบียนสมรสของเขากับคุณครูเชอร์รีน เมื่อมั่นใจสถานะแล้ว ฉันเลยให้ซารางกลับไปกับคุณออกัสค่ะ”

คาดไม่ถึงว่าเขาเอาทะเบียนสมรสมาหลอกอาจารย์ดวงใจด้วย ความกราดเกรี้ยวและเย้ยหยันผสมปนเปอยู่ในใจเชอร์รีน

จากนั้นก็นึกถึงซาราง เธออดขมวดคิ้วแน่นเป็นปมไม่ได้ หากดูจากวันที่พวกเขาทั้งสองเจอหน้ากัน ซารางรู้สึกไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่ แล้วทำไมถึงยอมไปกับเขาล่ะ?

“แล้วซารางล่ะคะ? เขา?เขาอุ้มไปเองหรือว่าซารางยอมไปกับเขาคะ?”

“อย่างนี้ค่ะ ฉันกับซารางรอคุณครูเชอร์รีนอยู่ที่นี่เกือบหนึ่งชั่วโมงก็ยังไม่เห็นคุณมาเสียที ฉันเลยโทรหาคุณครูเชอร์รีนค่ะ แต่ได้ยินว่าปิดเครื่อง ดังนั้นฉันก็ไม่ได้ว่าคุณครูเชอร์รีนติดธุระอะไร ซึ่งเวลาเดียวกันนั้น คุณออกัสก็มาพอดีค่ะ เมื่อเขาบอกเจตนาการมาแล้วเอาทะเบียนสมรสให้ฉันดู ฉันเลยคิดว่าคุณครูเชอร์รีนมีธุระด่วน จึงให้คุณออกัสมารับแทน”

เอ่ยปาก อาจารย์ดวงใจอธิบายอย่างละเอียดและช้าๆ“ซารางไม่ได้พูดอะไรสักคำค่ะ แค่ดึงมือฉันแล้วถามว่าเป็นทะเบียนสมรสจริงหรือเปล่า เมื่อฉันพยักหน้าให้ ซารางก็ไปกับคุณออกัสแล้วค่ะ”

ได้ยินดังนั้น เชอร์รีนเม้มริมฝีปากที่แห้งเล็กน้อย พลางกล่าวคำขอบคุณ “ขอบคุณอาจารย์ดวงใจมากเลยนะคะ วันหลังมีเวลาเมื่อไหร่ ฉันขอเชิญอาจารย์ดวงใจไปกินข้าวด้วยกันนะคะ”

เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอเอง ถ้ามือถือเธอยังมีแบตอยู่ก็คงได้รับสายจากอาจารย์ดวงใจ เช่นนั้น เรื่องแบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น?

ส่วนซารางได้ยินทั้งสองคุยกัน เมื่อได้ยินคำว่าทะเบียนสมรส หัวใจดวงน้อยๆของลูกสาวคงกำลังคาดเดาอยู่ว่าออกัสคือแดดดี้ของลูกหรือไม่?

เดาไม่ยาก เมื่อมีความคิดเช่นนี้ ซารางย่อมยินดีไปกับเขาแน่นอน

แต่ตอนหย่าได้ยกเลิกทะเบียนสมรสแล้วไม่ใช่เหรอ?แล้วเขามีทะเบียนสมรสได้ยังไง?

เมื่อคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตอนที่ทำขั้นตอนการหย่าที่สำนักบริหารการทะเบียน เขาลืมพกทะเบียนสมรสไป ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ยำเกรงฐานะของเขา ไม่ได้เรียกร้องอะไร ตอนนั้นทำขั้นตอนเสร็จแค่ไม่กี่นาทีเอง

ดังนั้น ทะเบียนสมรสของเธอถูกยกเลิกในสำนักการทะเบียนแล้ว ส่วนของเขายังคงเก็บไว้!

เธอเอามือถือออกมา ก่อนจะกดหมายเลขโทรศัพท์ที่เรียงรายกันพวกนั้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อโทรออกไปหาเขา เสียงที่ได้ยินกลับเป็นปลายสายปิดเครื่อง โปรดโทรใหม่ภายหลัง

ไม่ได้อิดออดแม้แต่เสี้ยววินาที เชอร์รีนเลื่อนมือถือโทรหาเลอแปงอย่างเร็วไว

ซึ่งขณะนี้เลอแปงกำลังอาบน้ำอยู่ น้ำอุ่นไหลผ่านเส้นผมของเขา จากนั้นก็ไหลลงสู่อกแกร่งสีบรอนซ์อันกำยำของเขา

เมื่อได้ยินเสียงสายเรียกเข้า แขนยาวของเขาเอื้อมไปหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนรับสาย จากนั้นก็แนบไว้ที่ใบหู “ฮัลโหลครับ?”

“เลอแปง ตอนนี้คุณอยู่ไหน?”

“อยู่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ครับ ทำไมเหรอ?” เขาปิดฝักบัวแล้วหยิบผ้าขนหนูมาสวมบริเวณเอว

เชอร์รีนถามตรงๆว่า“ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ไหมคะ?”

ได้ยินดังนั้น เลอแปงพลันขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว กระทั่งน้ำเสียงก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อย “คุณหาพี่ใหญ่มีธุระอะไรเหรอคะ?”

“เขาพาซารางไปค่ะ ตอนนี้ฉันหาซารางไม่เจอ เขาปิดเครื่อง คุณช่วยฉันดูหน่อยค่ะว่าเขาอยู่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์หรือเปล่า ถ้าไม่อยู่ก็รบกวนคุณไปดูที่คอนโดด้วยค่ะ”

คิ้วที่ขมวดแน่นคลายออกในบัดดล เลอแปงกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า“ตอนพี่ใหญ่พาซารางไปไม่ได้โทรหาคุณเหรอครับ?”

เชอร์รีนย้อนถามเสียงเรียบเฉย“ถ้าเขาโทรมาบอก คุณคิดว่าฉันจะยอมให้เขาพาซารางไปเหรอคะ?”

นี่เป็นคำถามที่ง่ายมาก ออกัสย่อมรู้ดีแก่ใจ หากโทรหาเธอ เธอต้องระวังตัว ไม่แน่ว่าเขาอาจไม่ได้เจอหน้าซารางด้วยซ้ำ

ดังนั้นเขาเลือกจะไม่โทรอย่างชาญฉลาด แต่เป็นการพาซารางไปเลย

“ได้ครับ ผมรู้แล้ว ตอนนี้ผมจะไปช่วยคุณดูนะครับ คุณไม่ต้องร้อนใจ รอผมโทรหานะครับ” สิ้นเสียงเลอแปงก็วางสาย แล้วไปยังห้องนอนของพี่ใหญ่

ส่วนเชอร์รีนเก็บมือถือเข้ากระเป๋า จากนั้นก็ไปซื้อน้ำเปล่าที่ห้างสรรพสินค้า เธอนั่งรอสายจากเลอแปงบนเก้าอี้ตัวยาวและดื่มน้ำด้วยจิตใจที่สงบ

ร้อนใจเหรอ?

ไม่ เธอไม่ได้ร้อนใจหรือกังวลอะไรเลย เมื่อเขาคิดว่าตัวเองคือพ่อของซาราง จึงถึงจะมาพาตัวซารางไป

ถึงแม้เขาจะไม่ชอบซาราง ทว่าก็คงไม่โหดร้ายกับลูกสาวในไส้หรอกมั้ง?คำตอบก็คือ ไม่ทำอย่างแน่นอน!

ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องอนาทรร้อนใจ และไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล สิ่งสำคัญตอนนี้คือ ให้อำนาจเลี้ยงดูตกเป็นของเขาไม่ได้!

เหตุการณ์เฉกเช่นวันนี้ เธอพอจะสันนิษฐานได้ก่อนแล้ว เพราะออกัสไม่ใช่คนทั่วไป คำพูดโป้ปดมดเท็จของเธอจะหลอกเขาได้อย่างไร?

เมื่อเห็นซารางแล้วเกิดความข้องใจ เขาย่อมต้องทำการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องพวกนี้ เธอคาดเดาไว้แล้ว

อีกฝั่งหนึ่ง

บนเครื่องบิน ที่นั่งโดยสารชั้นหนึ่ง

ซารางนั่งบนเก้าอี้หนังริมหน้าต่าง ออกัสก็นั่งด้านข้างเธอ ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้นแบบฉบับคล้ายมีคล้ายไม่มี

ดวงตาคู่ดำขลับหมุนตลอด ซารางก้มหน้า สองมืออันขาวนุ่มประสานไว้ด้วยกัน ลังเลอยู่นานกว่าเสียงอ่อนๆจะดังขึ้น“หนูดูทะเบียนสมรสหน่อยได้ไหมคะ?”

ถึงแม้เธอไม่ชอบและชิงชังคุณอาคนนี้มาก ทว่าอาจารย์ดวงใจบอกว่าเป็นทะเบียนสมรสจริงๆ งั้นเขากับหม่ามี๊ก็คงจะเคยแต่งงานกัน?

ได้ยินดังนั้น ริมฝีปากบางยกโค้งขึ้นเป็นรูปเรเดียนเล็กน้อย เธอ เหมือนจะยอมคุยกับเขาดีๆเป็นครั้งแรก

ร่างสูงนั่งตัวตรง มือใหญ่ได้รูปของออกัสล้วงทะเบียนสมรสออกจากกระเป๋ากางเกงสแล็ค จากนั้นก็ยื่นให้กับสาวน้อยตรงหน้า

มือขาวนุ่มขนาดเล็กรับมา ซารางกะพริบตารัวๆเมื่อเห็นรูปสองคนในทะเบียนสมรส ใช่แล้ว คือหม่ามี๊กับคุณอาที่ตนเกลียดชังตรงหน้า

หม่ามี๊แต่งงานกับคุณอาที่ตนเกลียดชัง แล้วคุณอาที่ตนเกลียดชังคือแดดดี๊ของตนหรือไม่?

ถึงแม้หม่ามี๊จะพูดตลอดว่า เธอลอยอยู่กลางทะเลสาบในเมืองทะเลหทัย จากนั้นหม่ามี๊ก็เก็บเธอมาได้ ทว่าเธอไม่เชื่อหรอก!

อาจารย์ดวงใจเคยบอกแล้วว่า เด็กๆทุกคนล้วนคลอดออกมาจากท้องของหม่ามี๊อย่างยากลำบาก ดังนั้นต้องรู้สึกสงสารหม่ามี๊ ต้องเชื่อฟังคำสั่งสอนของหม่ามี๊