มู่เฟยเหยา!
หลิงฮันนึกขึ้นมาได้ นางเป็นคนจากสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ที่ถูกก่อตั้งโดยศิษย์ของเขาและเคยประมูลเพื่อแย่งหม้อปรุงยาที่เขาเคยใช้มาก่อน พวกเขาใช้เงินราวกับสายน้ำ
ข้าไม่คิดเลยว่านางจะมางานประมูลนี้ด้วยและยังสนใจ “ก้อนหิน” นี้เหมือนกัน
เดี๋ยวก่อนนางคงไม่ได้ตั้งใจปั่นราคาหรอกใช่หรือไม่?
หลิงฮันมีชื่อเดียวกับปรมาจารย์หลิงเมื่อพันปีก่อนที่พวกนางบูชา ทั้งที่เขาจะเป็นคนคนเดียวกันก็ตาม ดังนั้นเมื่อนางเห็นแบบนั้นนางจึงคิดว่าหลิงฮันจะทำให้ชื่อเสียงของคนที่นางเคารพต้องมัวหมอง
ด้วยเหตุนี้หลังจากที่นางจำเสียงของเขาได้ มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะสร้างปัญหาให้กับเขา
นักปรุงยาระดับสวรรค์เป็นตัวตนที่มีสถานะสูงส่ง แต่ไม่ได้มีอำนาจไปทุกอย่าง ตัวอย่างเช่น สมาคมน้ำแข็งนิรันดร์พวกเขาบูชาหลิงฮันเมื่อหลายพันปีก่อน แต่กลับดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง
และยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์จะมั่งคั่งมาก
“สามพัน” หลิงฮันเสนอราคาเพิ่ม
“ห้าพัน” มู่เฟยเหยาไม่ลังเลที่จะเสนอตาม
“หนึ่งหมื่น” หลิงฮั่นเพิ่มราคาสูงเท่าตัว
“สองหมื่น” มู่เฟยเหยาเสนอราคาเพิ่มขึ้น
เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ ราคาของมันได้พุ่งไปเกินหนึ่งหมื่นแล้ว และคงไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเพียงเท่านี้ ทั้งที่ราคาเริ่มต้นของมันแค่สิบผลึกก่อเกิดเท่านั้น
หลิงฮันไม่สนใจ ผลึกก่อเกิดหนึ่งดาวหรือสองดาวไม่มีประโยชน์สำหรับเขา สำหรับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานมันต้องใช้ผลึกก่อเกิดระดับสามดาวถึงจะยกระดับบ่มเพาะพลังได้
ในฐานะนักปรุงยาระดับสวรรค์ เงินไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา
การประมูลดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดมู่เฟยเหยาก็หยุดเสนอราคาจนกระทั่งราคาเสนอออกมาอยู่ที่หนึ่งล้านผลึกก่อเกิด และนางได้แสยะยิ้มออกมา
ผู้หญิงคนนี้จงใจอย่างแน่นอน!
ถึงแม้ว่าหลิงฮันจะไม่สนใจเรื่องเงินทอง แต่การถูกบังคับให้เขาต้องใช้จ่ายมากกว่าหนึ่งล้านผลึกก่อเกิดมันก็ยังทำให้เขารู้สึกไม่มีความสุข และถ้าในอนาคตหญิงสาวคนนี้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาล่ะก็สีหน้าของนางจะต้องบิดเบี้ยวอย่างแน่นอน
หลิงฮันคิดอยู่ในใจว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะให้นางคุกเข่าลงและเรียกเขาว่าอาจารย์ปู่
ในไม่ช้าตำหนักสมบัติวิญญาณก็ส่งคนนำก้อนหินมาให้กับเขา ด้วยสถานะของหลิงฮัน เขาสามารถรับของได้ก่อนที่จะจ่ายเงิน แต่ในเมื่อเขามีเงินอยู่ในมืออยู่แล้ว เขาจึงจ่ายมันเลยทันที
เขาหยิบก้อนหินขึ้นมาและตรวจสอบอย่างละเอียด สิ่งนี้ทำมาจากหินอย่างแน่นอน ทั้งยังแข็งมาก และคิดว่าแม้แต่ดาบกำเนิดมารก็คงไม่อาจทิ้งร่องรอยไว้บนเนื้อหินได้
แล้วถ้าเป็นฟันของฮูหนิวล่ะ?
หลิงฮันครุ่นคิดและนำก้อนหินเข้าไปในหอคอยทมิฬแล้วถามหอคอยน้อยว่า “หอคอยน้อย หินนี่มันทำมาจากอะไร?”
“เจ้าคิดว่าข้ารอบรู้ไปทุกเรื่องงั้นหรือ? ข้าสูญเสียความทรงจำใช่ว่าข้าจะรอบรู้ไปทุกเรื่อง” หอคอยน้อยรีบพูดออกมา
แม้จะสูญเสียความทรงจำแต่ก็ยังทำตัวอวดดี! หลิงฮันคิดอยู่ในใจ
ปัง ปัง ปัง อสูรศิลารีบเดินเข้ามาหาและจ้องมองไปที่ก้อนหินพร้อมกับอ้าปาก ถ้ามันน้ำลายไหลได้มันลงจะไหลออกมาเหมือนกับแม่น้ำ
“นายท่าน กิน!” มันส่งสัมผัสสวรรค์ให้หลิงฮัน
“ก็ได้ข้าจะมอบมันให้กับเจ้า แต่เจ้าสิ่งนี้มันแข็งเกินไป ข้าเกรงว่าเจ้าคงกินมันเข้าไปไม่ได้หรอก” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส
อสูรศิลารู้สึกมีความสุขและรีบกัดกินมันทันที
เมื่อมันกัดก้อนหินก้อนนั้น หัวของมันก็เกิดรอยร้าวและพังทลายอย่างรวดเร็ว
นี่เป็นเพราะมันแข็งเกินไป ผลคือก้อนหินไม่แตก แต่หัวของมันกลับแตกแทน โชคดีที่เศษหินที่แตกออกมานั้นสามารถกลับมารวมกันใหม่ได้ เพราะมันเป็นจิตวิญญาณศิลา
ดังนั้น เศษหินนับไม่ถ้วนเริ่มรวมตัวกันใหม่อีกครั้งและกลับสู่สภาพเดิมของมัน
อสูรศิลายังคงไม่ยอมแพ้และหยิบมันขึ้นมากินใหม่อีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิมจนกระทั่งความเร็วในการฟื้นฟูของมันช้าลงมาก
หลิงฮันรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่ามันจะทำแบบนั้นไม่หยุดจนกระทั่งเป็นการฆ่าตัวตาย เขาจึงรีบยึดมันกลับคืนมาและพูดว่า “เจ้ายังกินหินนี่ไม่ได้รอจนกว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นก่อน ข้าจะให้เจ้ากินมัน”
อสูรศิลาทรุดตัวลงบนพื้น แขนของมันกระแทกเข้ากับพื้นอย่างรุนแรงจนทำให้พื้นดินสั่นไหว ราวกับมันรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่งที่อดกิน เมื่อหลิงฮันเห็นเช่นนั้น เขารู้สึกประหลาดใจและไม่คิดว่าอสูรศิลาจะทำตัวเหมือนมนุษย์
อย่างไรก็ตาม อสูรศิลามีความสามารถในการสกัดหินทุกชนิด หลังจากที่เข้าสู่สิบสองเขตแดนลี้ลับสวรรค์ ระดับพลังของมันก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก ตอนนี้มันอยู่ที่ระดับบุปผาผลิบานขั้นเจ็ดแล้ว แต่กลับไม่สามารถสกัดก้อนหินนี้ได้ แสดงให้เห็นว่าก้อนหินก้อนนี้มันไม่ธรรมดาแค่ไหน
การประมูลยังคงดำเนินต่อไป และมีทักษะเก่าแก่หลายอย่างจากยุคบรรพกาลถูกนำมาประมูล ซึ่งทำให้หลิงฮันรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกเหมือนว่าตัวเองหลับไปหลายพันปี และเมื่อตื่นขึ้นมาทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปจนหมด ไม่มีอะไรที่เขารู้สึกคุ้นเคยเลย
เขาต้องทะลวงผ่านระดับทลายมิติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่ทะลวงผ่านระดับทลายมิติและกลายเป็นพระเจ้า เพื่อต่อสู้กับจักรพรรดิดาบอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมี สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ที่ชอบเขาแต่กลับไม่ยอมพูด เขาจะต้องกลับไปตีก้นนางให้จงได้อย่างแน่นอน
งานประมูลจบลงเรียบร้อย เพราะนี่เป็นเพียงแค่งานประมูลครั้งใหญ่ในรอบเดือน ดังนั้นมันจึงไม่มีของมีค่าถูกนำออกมาประมูลมากนัก แต่ก็ยังคงทำให้เขาอยู่จนหมดเวลา
หลิงฮันรู้ดีว่าข่าวการปรากฏตัวของเขาต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองหมื่นสมบัติแล้วอย่างแน่นอน ในตอนนี้มันอาจมีจอมยุทธระดับสวรรค์แอบซุ่มโจมตีเขาอยู่ในความมืดและพยายามลักพาตัวเขาไปอย่างเงียบๆเพื่อปล้นมรดกของสิบสองพระราชวังและข้อมูลขุมสมบัติของพระเจ้า
แม้ว่าเขาจะเป็นนักปรุงยาระดับสวรรค์ แต่ใครจะปล่อยให้เขาเติบโตขึ้นเร็วเกินไปทั้งที่ไม่ได้มาจากขุมพลังของตัวเองกันล่ะ? มิฉะนั้น ถ้ามีจอมยุทธระดับสวรรค์หลายสิบคนติดตามอยู่รอบตัวเขา มันจะมีขุมพลังใดที่กล้าล่วงเกินเขานอกจากจอมยุทธระดับทลายมิติ?
หลิงฮันออกจากห้องและเดินหลบมุมเพื่อเข้าไปในหอคอยทมิฬ แล้วแปลงโฉม จากนั้นเขาได้เดินเข้าไปในกลุ่มฝูงชนและเดินออกจากงานประมูล ซึ่งไม่มีใครสงสัยเขาเลยแม้แต่คนเดียว