หลินฟานและฉิวจือเฉียนเดินไปรอบๆห้างสรรพสินค้า SK ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองเดินผ่านร้านเสื้อผ้าสตรี ก่อนจะเหลือบมองเข้าไปแต่ไม่ได้เดินเข้าไป
หลินฟานถามออกมาอย่างสงสัยว่า “ไม่มีอะไรที่ชอบเลยหรอ?”
ฉิวจือเฉียนพยักหน้าแล้วพูด “ใช่… จำได้ว่าที่ห้าง SK เคยมีร้านชาแนลอยู่ร้านนึง แต่ตอนนี้มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้?”
ชาแนล?
หลินฟานจำได้ว่าเขาเคยเห็นร้านชาแนลตอนที่เขาไปที่ห้าง KMกับหลินเสี่ยวเหยาและเพื่อนของเธอในตอนที่ไปซื้อกระเป๋าครั้งล่าสุด
หลินฟานกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าห้าง KM จะมีร้านชาแนลอยู่นะ”
จากนั้น ทั้งสองก็ลงไปชั้นล่างเพื่อจะไปยังห้าง KM
ในตอนที่ทั้งสองไปที่ห้างสรรพสินค้า SK ฉิวจือเฉียนนั้นใช้ความพยายามอย่างมากในการหาที่จอดรถ
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ หลินฟานจึงเลือกขับรถมินิไปในครั้งนี้
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ห้าง KM นั้นเต็มไปด้วยผู้คนและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวามากกว่าห้าง SK
โดยปกติแล้ว ที่จอดรถในช่วงนี้นั้นจะหาได้ยากมาก
หลินฟานขับวนอยู่ในลานจอดรถใต้ดินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเจอที่จอดรถว่างอยู่ข้างๆลิฟต์ เขาหมุนพวงมาลัยอย่างไม่ลังเลและจอดรถได้อย่างราบรื่น
ตอนนั้นเอง รถเมอร์เซเดส-เบนซ์สีขาวก็ขับเข้ามาจ่อท้ายรถของหลินฟานและฉิวจือเฉียน
“ปี้ด!”
จากนั้น รถคันนั้นก็บีบแตรออกมาเสียงดัง
หลินฟานขมวดคิ้วเพราะเสียงแตรนั่น แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ใส่ใจกับมันมากนัก เขาจับมือของฉิวจือเฉียนก่อนที่จะเดินจากไป
“ฟึบ!”
ในเวลานั้นเอง ประตูของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ก็เปิดออกมาอย่างกะทันหัน และผู้หญิงคนหนึ่งก็เหยียดขาลงมาจากรถ
เธอร้องตะโกน”ฉันบีบแตรตั้งนาน! ไม่ได้ยินกันรึไง? หูหนวกกันหรอ?”
ใบหน้าของหลินฟานมืดลงทันที เขาหันไปพูดว่า “แล้วจะให้ผมพูดอะไรล่ะ!”
“พูดอะไรงั้นหรอ? แล้วทำได้ยังไง! ไม่เห็นรูปที่อยู่ใต้ที่จอดรถช่องนี้หรอ นี่ไง มันเป็นที่จอดรถของฉัน! ฉันบีบแตรตั้งนานแต่กลับไม่สนใจ! เปลี่ยนที่จอดซะ เร็วๆเลย!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนออกมา
หลินฟานและฉิวจือเฉียนเหลือบมองไปยังใต้ที่จอดรถและแน่นอนว่ามันมีภาพอยู่จริงๆ
คนทั่วไปนั้นจะเห็นรูปนี้ได้ผ่านกระจกหลังในตอนที่จะเข้ามาจอด
แต่หลินฟานนั้นมีทักษะการขับรถแบบมืออาชีพ มันเลยทำให้เขาไม่ต้องหันไปดูกระจกมองหลังในตอนเข้าจอดเลย
เพียงแค่หมุนพวงมาลัยง่ายๆก็สามารถจอดรถในที่จอดได้อย่างลงตัวแล้ว
ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้เขาไม่ทันได้สังเกตเห็นรูปใต้ช่องจอดรถนี้
ถ้าผู้หญิงคนนี้พูดจากันดีๆตั้งแต่แรก หลินฟานก็อาจจะยอมให้เธอจอดที่นี้แทนอยู่หรอก
แต่ในตอนนี้ เขาไม่มีความคิดแบบนั้นเลย
หลินฟานพูด “ห้อง KM ไม่ได้มีให้เช่าหรือขายที่จอดรถ คุณจะบอกว่าตรงนี้เป็นที่จอดรถของคุณเพราะรูปนี้น่ะหรอ? ไร้สาระ! วันนี้ผมจะไม่เปลี่ยนที่จอด มาดูกันว่าคุณจะทำอะไรได้บ้าง! ”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินที่หลินฟานพูด หัวใจของเธอก็โกรธจนลุกเป็นไฟ เธอตะโกนสวนกลับทันที “ฉันจะทำอะไรได้บ้างหรอ? ดี! หลังจากฉันเรียกรปภ.มาแล้ว ดูสิว่านายยังจะกล้าพูดอย่างนี้อีกไหม?!”
“ตึก ตึก!”
ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนในชุดสูทกก็เดินเข้ามาพอดี
เมื่อเห็นคนๆนี้เดินมา ผู้หญิงคนนั้นก็พูดออกมาอย่างมีความสุขทันที “ลุงซาน ลุงมาถูกเวลาพอดีเลย! คนๆนี้แย่งที่จอดรถของฉันไป บอกให้รปภ.มาไล่เขาออกไปเร็ว”
ชายในชุดสูทหันไปตามสายตาของผู้หญิงคนนั้น ก่อนเขาจะหยุดชะงักไปทันที
ชายในชุดสูทเป็นหนึ่งในผู้บริหารของห้างสรรพสินค้า KM
เมื่อไม่กี่วันก่อน เขายังไปยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับผู้จัดการทั่วไปหยวนหงและคนอื่นๆ เพื่อทักทายหลินฟานอยู่เลย
หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่าหลินฟานคือเจ้าของที่แท้จริงของห้าง KM
ดังนั้น ชายในชุดสูทจึงต้องการหาโอกาสที่จะเอาใจหลินฟานมาโดยตลอด
แต่จะทำยังไงได้ ในมื่อเขายังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับหลินฟานเลยสักครั้ง
แต่ในที่สุด เขาก็ได้มาเจอกับหลินฟานในวันนี้!
หลินฟานพูดเสียงเบา “จริงเหรอ? งั้นผมจะรอให้รปภ.มาอยู่ตรงนี้แล้วกัน”
ในเมื่อชายในชุดสูทจำหลินฟานได้ หลินฟานที่มีทักษะในการสแกนก็จำคนอื่นๆได้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม หลินฟานไม่ได้สนใจเขาเลย
“คิดว่าฉันพูดเล่นหรอไง? อย่ามาร้องไห้ทีหลังแล้วกัน!”
ผู้หญิงที่สวมส้นสูงคนนี้เคยชินกับการชอบทำตัวหยิ่งผยองแบบนี้มานานแล้ว และยิ่งในตอนนี้ที่มีลุงซานอยู่ด้วย มันยิ่งทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้นไปอีก
ไล่หลินฟานออกไปงั้นหรอ?
ทำให้หลินฟ่านร้องไห้?
ชายในชุดสูทหน้าซีดลงทันที ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้
“ลุงซาน เป็นอะไรไป เรียกรปภ.มาสิ คนแบบนี้ต้องได้รับการสั่งสอนสักหน่อย…”
“หุบปาก!”
ขณะที่หญิงคนนั้นกำลังพูด ชายในชุดสูทก็ตะโกนขึ้นมาขัดจังหวะไว้ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นมาตบหน้าเธออย่างแรง
“เพลี้ย!”
เสียงตบที่คมชัดดังออกไปในที่จอดรถใต้ดิน
การตบครั้งนี้ทำให้ผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นสูงสับสนอย่างมาก
หลังจากตบผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นสูงแล้ว ชายในชุดสูทก็เพิกเฉยต่อเธอ
เขารีบก้มลงและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “หลิน…คุณหลิน ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ…”
“คุณหลิน!” ไกลออกไปเองก็มีเสียงเรียกอย่างแปลกใจดังขึ้น
หยวนหง ผู้จัดการทั่วไปในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวนั้นรีบเดินเข้ามา
“สวัสดีครับคุณหลิน!”
หลินฟานเหลือบมองหยวนหง แล้วชี้ไปยังกล้องที่อยู่ไม่ไกลและพูด “นายค่อยไปดูว่าเรื่องมันเป็นมายังไงในภายหลังแล้วกัน ส่วนจะจัดการยังไงก็แล้วแต่นาย?”
หยวนหงเข้าใจได้ในทันที ด้วยน้ำเสียงของหลินฟานที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ หยวนหงจึงรีบพูดขึ้นมา “ไม่ต้องกังวลครับ คุณหลิน ผมจะดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด”
หลินฟานพยักหน้าก่อนจะคว้าเอวของฉิวจือเฉียนแล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์
หลังจากที่หลินฟานจากไป ใบหน้าขอหยวนหงก็ตรึงเครียดขึ้นมาทันที เขามองไปที่ชายในชุดสูทด้วยน้ำเสียงเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็ง
ชายในชุดสูทตัวสั่นไปทั้งตัว เขาพูดตะกุกตะกัก “ผู้จัด…ผู้จัดการทั่วไป ฟังผมอธิบายก่อน…”
“ไม่ต้องอธิบายหรอก ฉันจะไปดูเอง!” หยวนหงพูดอย่างเย็นชา
…………
ในเวลานี้ หลินฟานและฉิวจือเฉียนได้มาถึงชั้น 4 ของห้างแล้ว
ฉิวจือเฉียนมองไปที่หลินฟานด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ราวกับเธอกำลังถามเขาว่า…ทำไมคนพวกนั้นถึงกลัวคุณจัง
หลินฟานเองก็เหมือนจะรู้สึกได้ถึงคำถามของฉิวจือเฉียน เขาจึงพูดว่า “ที่จริงแล้ว ผมเป็นเจ้าของห้าง KM”
เงียบ
ฉิวจือเฉียนรู้สึกว่าเสียงรอบๆตัวค่อยๆเงียบลง
ในตอนที่เธอเจอกับหลินฟานเป็นครั้งแรก ฉิวจือเฉียนรู้ทันทีว่าหลินฟานนั้นจะต้องเป็นคนที่น่าทึ่งมากแน่ๆ
ดังนั้น เธอจึงเดาสถานะครอบครัวของหลินฟานให้สูงมากที่สุด และเลือกที่จะมาติดตามหลินฟาน
จนถึงตอนนี้……
ฉิวจือเฉียนตระหนักได้แล้วว่าเธอยังคงประเมินหลินฟานต่ำเกินไป
ต่อมา ทั้งสองก็มาถึงหน้าร้านเสื้อผ้าชาแนลแล้ว
หลินฟานถาม “จือเฉียน มาเลือกซื้อเสื้อผ้ากันดีกว่า”
ในที่สุด ฉิวจือเฉียนก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากได้ยินคำพูดของหลินฟาน
ต้องบอกว่าแบรนด์ชาแนล นั้นควรแก่การเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งสไตล์และฝีมือในการออกแบบ วัตถุดิบที่เอามาทำ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก
ดังนั้น หลินฟานจึงตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้ารุ่นต่างๆเพิ่มอีก
…………
ชุมชนยี่เกอ ชั้นที่ 25
ฉิวจือเฉียนมองไปที่เสื้อผ้าใหม่ๆที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ค่อยๆแสดงรอยยิ้มออกมา
“ที่รัก ขอบคุณนะ”
หลินฟานหัวเราะแล้วพูด “แล้ว คุณอยากจะขอบคุณผมยังไงดี?”
ฉิวจือเฉียนแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจคำพูดของหลินฟาน เธอพูดอย่างไร้เดียงสา “ที่รัก คุณต้องการให้ฉันขอบคุณยังไงถึงจะดีหรอ?”
“คราวที่แล้วไง ลูกอมนำเข้าก็ดีนะ เรามากินกันอีกเถอะ” หลินฟานพูด
ฉิวจือเฉียนเองก็ตอบสนองทันที เธอฉีกถุงลูกอมรูปกระต่ายขาวก่อนจะใส่เข้าไปในปากของเธอ
จากนั้นเธอก็ค่อยๆเอนตัวไปทางหลินฟาน
“จุ๊บ…”
o( ̄ε ̄*)
(* ̄3)(ε ̄*)
?(ˉ﹃ˉ?)
…………
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ทั้งสองคนไม่ได้นอน