หลินเจียวซึ่งกำลังจะเป็นลม เกือบกระอักเลือดเมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉีมั่ว ด้วยความหวังครั้งสุดท้ายเธอหันไปหาหยางฉีมั่วและกล่าวว่า “เชื่อฉันสิ เป็นเพราะพ่อแม่ฉันอยากให้ฉันไปเมือง A เซียวโหรวถึงขอให้คุณมาตามหาฉัน คุณควรคิดให้ดีก่อนจะตัดสินใจ”
หยางฉีมั่วเลิกคิ้วขณะหยิบโทรศัพท์ออกมา แสร้งทำท่าครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน แล้วหันไปมองหน้าเหมยไอ้ย่วน ถามว่า “ผมจะโทรหาเธอ ให้ยืนยันเรื่องนี้ดีไหม”
เหมยไอ้ย่วนหัวเราะเบาๆ บอกว่า “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ถ้าคุณหนูเซียวโหรวอยากเจอผู้หญิงคนนี้ เธอก็คงไม่ได้อยากเห็นผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวต่อหน้าเธอด้วยอาการครบสามสิบสองหรอก เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้โทรหาคุณหนูเซียวโหรวต่อหน้าพวกเรา และคุณหนูบอกว่าถ้าผู้หญิงคนนี้กล้าคุกคามคุณแม่เธออีก เธอจะจัดการขั้นรุนแรง”
หยางฉีมั่วเก็บโทรศัพท์และกล่าวว่า “ผมคิดดีที่สุดแล้ว และตัดสินใจว่าจะไม่รบกวนเธอ” จากนั้นเขาก็ส่งสัญญาณให้อาต๋าดำเนินการต่อไป “จัดการต่อเลย ไม่ต้องสนใจผม”
หลินเจียวแทบกระอักเลือด คนแบบนี้ก็มีด้วยหรือ บัดซบที่สุด!
เหมยไอ้ย่วนพยักหน้ารับคำหยางฉีมั่ว และเหลือบมองอาต๋า ซึ่งก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่แน่ใจ แล้วตบหน้าหลินเจียวสองครั้ง ในขณะทำร้ายเธอเขาพยายามสะกดจิตตัวเอง เธอไม่ใช่ผู้หญิง เธอไม่ใช่ผู้หญิง ฉันเป็นแค่นักเลง และผู้หญิงคนนี้ทำร้ายเจ้านายฉัน ดังนั้นฉันจึงต้องทำตามคำสั่งของเจ้านาย และสั่งสอนผู้หญิงคนนี้เป็นบทเรียน…
ใบหน้าหลินเจียวบวมปูดในทันที เมื่อพวกผู้หญิงเห็นภาพนี้ต่างก็ก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว หยางฉีมั่วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เขาจึงรีบลุกขึ้นและกล่าวว่า “เอาล่ะครับ คุณนายเฉิน ผมคิดว่าพอแล้วล่ะ ดูเหมือนว่าถ้าคุณลงโทษเธอแบบนี้ต่อไป เธอต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลแน่ ถึงแม้คุณหนูของเราจะอยากพบผู้หญิงคนนี้ แต่เธอคงไม่อยากจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งอาจส่งผลต่ออารมณ์ของเธอ คุณนายเฉิน โปรดเห็นแก่หน้าผม บอกให้คนของคุณหยุดตบตีเธอเถอะครับ”
มือของเหมยไอ้ย่วนทำแผลเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉีมั่วเธอจึงเงยหน้าขึ้นมองหลินเจียว เห็นว่าใบหน้าหญิงสาวบวมเป่ง และคงไม่สามารถขยับปากพูดได้ จึงส่งสัญญาณให้อาต๋าหยุด อาต๋ามองดูมือตัวเองที่แดงก่ำ แอบถอนหายใจอย่างโล่งอก พระเจ้า…ในที่สุดเขาก็ได้หยุดเสียที! มือเขาชาไปหมดแล้ว!
หลินเจียวเงยหน้าขึ้นมองเหมยไอ้ย่วน ประกายความเกลียดชังวาววับในดวงตา จากนั้นเธอก็หันไปหาหยางฉีมั่ว ซึ่งมองเธออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว หญิงสาวพยายามขยับปาก เอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรง “แก… ฉันจะ…จำ…แกไว้… คอยดู…ฉัน…จะ…แก้แค้น…แก…”
หยางฉีมั่วยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน กล่าวว่า “ยังจะแก้แค้นไหวหรือ อย่ามาอวดเก่งแถวนี้ ไม่อย่างนั้นจะเจอตบอีกยกหนึ่ง ซึ่งคงจะเจ็บกว่านี้มาก”
หลินเจียวจ้องหน้าหยางฉีมั่วอย่างดุดันขณะคิดในใจ ความเจ็บปวดที่แกทำกับฉัน จะต้องได้รับการชดใช้หลายพันเท่า เซียวโหรว ฉันจะให้แกได้รู้ถึงผลที่ตามมาจากการที่แกรุกรานฉัน!
ทำไมจิ้นหนิงไม่กระทืบแกให้ตาย ทำไมถึงปล่อยให้แกกลับมาทิ่มแทงเรา ทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชแบบนี้!
หยางฉีมั่วไม่สนใจสิ่งที่อยู่ในใจหลินเจียว ขณะส่งข้อความถึงเซียวจิ่งด้วยท่าทางสบายใจ ถามพวกเขาว่าอยู่ที่ไหนแล้ว ในไม่ช้าเขาก็ได้รับข้อความตอบกลับ เขาเลิกคิ้ว เก็บโทรศัพท์ แล้วลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นกลุ่มคนในชุดสูทผูกเนกไทก็ปรากฏตัวที่ทางเข้าคาสิโน ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าสวมชุดลำลอง ดูหล่อเหลาและสง่างาม
เมื่อเห็นพวกเขาหยางฉีมั่วก็เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว และทักทายด้วยความเคารพ “สวัสดีครับคุณเซียวส่า สวัสดีครับคุณเซียวจิ่ง”
เซียวส่าและเซียวจิ่งพยักหน้าให้หยางฉีมั่ว เซียวจิ่งมองหน้าหยางฉีมั่วและกล่าวว่า “ประธานหยาง ขอโทษด้วยนะที่ทำให้คุณต้องยุ่งยาก ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหน”
หยางฉีมั่วมองหน้าพวกเขาด้วยสายตาลังเล ก่อนจะเอ่ยเบาๆ ว่า “มีบางอย่างที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับเธอครับ”
ใบหน้าเซียวส่าเข้มขึ้น ท่าทางเขาเปลี่ยนไปทันที เซียวจิ่งเลิกคิ้วถาม “เกิดอะไรขึ้น”
“เซียว…” ทันใดนั้นเสียงอ่อนระโหยก็ดังมาจากมุมห้อง…
เซียวจิ่งหันไปมองตามที่มาของเสียง และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทั้งใบหน้าคล้ำเป็นสีดำๆ ม่วงๆ และถูกมัดมือ เขาจำได้รางๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คือหลินเจียว เพราะเขาเคยเห็นเธอสองครั้งก่อนหน้านี้ เขามีความประทับใจที่แย่มากกับผู้หญิงคนนี้ เขาจึงจำได้ในทันที เขาผิวปากวื๊ด “นี่หรือคือสิ่งที่คุณบอกว่า ‘บางอย่างที่เราไม่คาดคิด’ ฮึ”
ท่าทางเขาไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย ดูค่อนข้างดีใจด้วยซ้ำ
หยางฉีมั่วเลิกคิ้วแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “หลินเจียวคนนี้ ฆ่าพี่สาวคุณนายเฉินเมื่อสามปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ติดหนี้พนันในคาสิโนของคุณนายเฉิน ผมไม่อาจห้ามปรามได้ เมื่อคุณนายเฉินต้องการแก้แค้นให้พี่สาวด้วยการตบหน้าผู้หญิงคนนี้ และตัดนิ้วมือเธอ ถ้าพวกคุณคิดว่างานของผมไม่เป็นไปตามคำสั่ง ก็ตำหนิผมได้ครับ”
เซียวส่ามองดูหลินเจียว ซึ่งใบหน้าบวมเป่งแล้วส่ายศีรษะ “ไม่ใช่เรื่องที่จะตำหนิคุณ เราไม่ควรห้ามไม่ให้คุณนายเฉินชำระแค้นของเธอ” จากนั้นเขาก็หันไปมองกลุ่มผู้หญิงแล้วถามว่า “ผมขอถามหน่อยครับ คนไหนคือคุณนายเฉิน”
เหมยไอ้ย่วนก้าวออกมา มองพวกเขาอย่างใจเย็นตอบว่า “ฉันเองค่ะ… เหมยไอ้ย่วน ฉันดีใจมากเลยค่ะ ที่ได้พบคุณพวก”
เซียวจิงยิ้มขณะเดินเข้าไปหาเหมยไอ้ย่วน และยื่นมือออกมา “สวัสดีครับ คุณนายเฉิน ขอโทษที่ทำให้คุณต้องยุ่งยาก คุณคงไม่ว่าอะไรนะครับ” จากนั้นเขาก็หัวเราะและกล่าวต่อไปว่า “น้องสาวผมเกลียดที่คนพวกนี้คุกคามขู่เข็ญคุณป้าผมมาตลอด เธอจึงขอให้เรานำตัวการก่อปัญหาไปให้เธอ เพราะเธอต้องการจัดการกับผู้หญิงคนนี้ด้วยตัวเอง เราไม่เคยปฏิเสธคำขอร้องของน้องสาวเราเลย ดังนั้นผมจึงปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้หนีไปไม่ได้ แต่ผมไม่คิดมาก่อนว่าคุณก็เกลียดผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน…”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามขึ้นว่า “คุณนายเฉิน ยังต้องการจัดการอะไรคนคนนี้อีกไหมครับ ถ้าไม่ต้องการแล้ว เราขอเอาตัวเธอไปกับเราเลยได้ไหม”
คุณนายเฉินไม่คาดคิดว่าเซียวจิ่งจะดู…สุภาพและมีเสน่ห์ขนาดนี้ เธอพยักหน้าอย่างลืมตัวและตอบว่า “คุณพาเธอไปได้เลยค่ะ ตอนนี้ฉันแก้แค้นเสร็จแล้ว โปรดนำความปรารถนาดีของฉันไปให้คุณหนูเซียวโหรวด้วยนะคะ และบอกให้เธอระวังผู้หญิงคนนี้ไห้ดี เพราะผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจมาก บางทีเธอคนนี้อาจเป็นผู้หญิงที่ส่งคุณหนูเซียวไปอยู่ชนบทที่ยากจนในเมือง W ก็เป็นได้”
เซียวส่าซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หรี่ตามองคุณนายเฉิน และถามอย่างจริงจัง “ทำไมคุณถึงพูดอย่างนี้ล่ะครับ คุณนายเฉิน”
เมื่อเห็นทั้งเซียวส่าและเซียวจิ่งจริงจังขึ้นมากับเรื่องนี้ คุณนายเฉินก็กล่าวว่า “เพราะก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้หลุดปากออกมาโดยไม่ตั้งใจ ดูเหมือนเธอจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่คุณหนูเซียวเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี และรู้ถึงขนาดว่าสภาพแวดล้อมที่คุณหนูเคยอยู่เป็นแบบไหน”