เมื่อได้รับความมั่นใจจากคำพูดของหยางฉีมั่ว เหมยไอ้ย่วนก็ลุกขึ้น หันไปทางหยางฉีมั่วแล้วกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ทีแรกฉันต้องการให้ผู้หญิงคนนี้ทิ้งมือข้างหนึ่งไว้ที่นี่เพื่อใช้หนี้ แต่ตอนนี้เพื่อให้เกียรติแก่คุณหนูเซียว และช่วยให้เธอไม่ต้องยุ่งยากกับการส่งผู้หญิงคนนี้ไปรักษาที่โรงพยาบาล ฉันจะให้ผู้หญิงคนนี้ทิ้งนิ้วไว้แค่นิ้วเดียว”
หยางฉีมั่วลุกขึ้นยืนหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ และยิ้มออกมา “ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอขอบคุณคุณนายเฉินแทนคุณหนูของพวกเราด้วย สำหรับการให้เกียรตินี้”
เหมยไอ้ย่วนยิ้มและพยักหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ” จากนั้นก็หันกลับมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง มองกลุ่มนักเลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “พวกเธอรออะไรอยู่ อยากให้คนตระกูลเซียวมาเห็นเลือดนองบนพื้นหรือไง”
หลินเจียวส่ายศีรษะอย่างสิ้นหวังกับคำพูดของเหมยไอ้ย่วน ไม่…จะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร หลินหรูกับเซียวโหรวต้องไม่กล้าทำแบบนี้กับเธอ พ่อแม่เธอยังอยู่ที่ตระกูลเซียว หลินหรูกล้าปล่อยตามใจเซียวโหรวให้ทำแบบนี้ได้อย่างไร!
เหมยไอ้ย่วนมองหน้าหลินเจียว และรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงส่งสายตามองเธออย่างเย็นชาและกล่าวเย้ยหยัน “กำลังคิดอะไรอยู่หรือ คิดว่าพวกเขาจะไม่กล้าทำแบบนี้กับแกอย่างนั้นใช่ไหม หลินเจียว อย่าคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงสิ จริงๆ แล้วแกก็แค่ลูกเป็ดขี้เหร่ที่ถูกครอบครัวแกตามใจเท่านั้นแหละ! แกไม่มีวันเป็นหงส์ได้หรอก!”
เมื่อกล่าวจบเธอก็หันไปหาลูกน้อง และกล่าวอย่างใจเย็นว่า “อาต๋า จัดการ!”
หลินเจียวเริ่มต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนัก แต่ด้วยความเป็นผู้หญิง เธอไม่สามารถหลบหนีจากการจับกุมของกลุ่มนักเลงได้ น้ำตาเธอไหลพราก เธอจะแก้แค้น! เธอจะต้องแก้แค้นอย่างแน่นอน! อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรออกมา เหมยไอ้ย่วนก็โบกมือ แล้วอาต๋าก็สับลง… นิ้วก้อยเธอขาดกระเด็น
ร่างหลินเจียวกระตุกอย่างรุนแรงด้วยความเจ็บปวด เหงื่อที่หน้าผากเธอแตกพลั่กด้วยความหวาดกลัว ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ยืนดูอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นนิ้วหลินเจียวร่วงลงกับพื้น ทุกคนก็อ้าปากค้างด้วยความสะพรึงกลัว แต่หยางฉีมั่วและเหมยไอ้ย่วนไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย หยางฉีมั่วมองหน้าเหมยไอ้ย่วน มีร่องรอยความเครียดในสายตา เขาเคยได้ยินมาว่าคุณนายเฉินเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และทำให้บริษัทเฮ่อ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำ ล้มละลายลงไม่เหลือซากเมื่อสามปีก่อน เขาคิดว่านั่นเป็นเพียงเพราะบริษัทมีปัญหาอยู่ก่อนแล้ว และคุณนายเฉินเข้ามาจัดการในเวลาที่เหมาะสม แต่วันนี้เขาตระหนักแล้วว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ผู้หญิงคนนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาจากเรื่องนั้น แท้จริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่โหดเ**้ยมจริงๆ
ขณะมองไปที่หลินเจียวซึ่งนั่งอยู่บนพื้น เหมยไอ้ย่วนคำรามอย่างเลือดเย็น แล้วหันไปมองกลุ่มนักเลง กล่าวอย่างเฉยชา “มีดที่ใช้สะอาดหรือเปล่า อย่าให้แผลเธอติดเชื้อนะ คุณหนูเซียวไม่ต้องการเห็นเธอเป็นศพ ฆ่าเชื้อให้คุณหลินด้วยแอลกอฮอล์ด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหมยไอ้ย่วน หลินเจียวก็สะบัดหน้าขึ้นอย่าแรง จ้องมองเหมยไอ้ย่วนอย่างเกลียดชัง เหมยไอ้ย่วนยิ้มเยือกเย็น จ้องตอบไม่ลดละ “ทำไม เกลียดฉันหรือ แกรู้จักความเกลียดชังด้วยหรือ แต่นี่เป็นข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับแกแล้วนะ นิ้วมือแกแค่นิ้วเดียว แลกกับชีวิตพี่สาวฉัน! รู้ไว้ด้วย”
เมื่อกล่าวจบเหมยไอ้ย่วนก็หันไปมองหยางฉีมั่ว กล่าวด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “ขอโทษนะคะ ที่ทำให้เสียเวลา ประธานหยาง”
หยางฉีมั่วยักไหล่ “ไม่เป็นไรเลยครับ คุณนายเฉิน ผมรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร การแตกแยกของครอบครัว และการตายของบุคคลมักเกิดเพราะสาเหตุจากภายนอก เราไม่ควรตำหนิคนตายว่าอ่อนแอเกินไป แม้ว่าเธอจะอ่อนแอ แต่บุคลิกภาพของเธอก็ถูกหล่อหลอมจากสภาพแวดล้อม ผมรู้สึกเสียใจกับพี่สาวของคุณ การตายของเธอไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เป็นเรื่องของคนเลวที่อยู่รอบตัวเธอ ผมเข้าใจคุณ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ เหมยไอ้ย่วนซึ่งเป็นมนุษย์ที่ไร้ความรู้สึกก็ร้องไห้ออกมาทันที เธอมองลึกลงไปในดวงตาหยางฉีมั่ว และกล่าวอย่างเจ็บปวด “ขอบคุณค่ะ ประธานหยาง” คำพูดของหยางฉีมั่วคัดค้านการตัดสินของมารดาเฮ่อเฉาที่มีต่อพี่สาวเธออย่างสิ้นเชิง นางว่าพี่สาวเธอเป็นโรคจิต พี่สาวเธอเคยมีชีวิตชีวาและร่าเริง แต่หลังจากแต่งงานกับเฮ่อเฉา เหมยไอ้หวาก็แทบไม่มีรอยยิ้ม และกลายเป็นคนขี้ขลาด ซึ่งเป็นเพราะพวกเขา! เพราะฉะนั้นพวกเขาต้องชดใช้!
หยางฉีมั่วพยักหน้า ไม่พูดอะไร เหมยไอ้ย่วนสั่งให้คนของเธอฆ่าเชื้อบาดแผลของหลินเจียว เมื่อแอลกอฮอล์ถูกเทลงบนแผล หลินเจียวก็เกือบหมดสติด้วยความเจ็บปวด ผู้หญิงคนอื่นอุทานและหลับตาลงทันที โอ… คุณนายเฉินช่างแข็งแกร่งจริงๆ! ว่ากันว่าเส้นประสาทที่ปลายนิ้วนั้นเชื่อมโยงกับหัวใจ เมื่อต้องสูญเสียนิ้ว หลินเจียวต้องเจ็บปวดมากอย่างแน่นอน และตอนนี้บาดแผลของเธอถูกกระตุ้นด้วยแอลกอฮอล์ ความเจ็บปวดจะต้องทำให้เธอบ้าคลั่ง
ขณะจ้องมองหลินเจียวซึ่งเกือบจะหมดสติ เหมยไอ้ย่วนยิ้มอย่างเย็นชา สั่งให้ลูกน้องทำแผลให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปที่หลินเจียว ดึงเทปกาวออกจากปากเธอ ในนาทีนั้นหลินเจียวก็พุ่งเข้าหาเหมยไอ้ย่วนอย่างบ้าคลั่ง และกรีดร้องราวกับสัตว์ป่า “ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก!”
หลินเจียวผลักเหมยไอ้ย่วนล้มลง และกัดมือเธออย่างแรง เหมยไอ้ย่วนขมวดคิ้ว อาต๋าก้าวเข้ามา เตะที่ท้องหลินเจียว ผลักเธอออกไป และพยุงเหมยไอ้ย่วนขึ้นมา มีรอยฟันที่มีเลือดออกซิบๆ บนมือเหมยไอ้ย่วน ในขณะที่หลินเจียวถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มนักเลง ผู้หญิงคนอื่นๆ รีบวิ่งมาจับมือเหมยไอ้ย่วนและกล่าวว่า “แผลนี่ต้องฆ่าเชื้อนะคะ คุณต้องรีบไปโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นมือคุณอาจพิการได้ ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย”
อย่างไรก็ตามเหมยไอ้ย่วนเดินเข้าไปหาหลินเจียว ตบหน้าหลินเจียวอย่างแรง ราวกับเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฉัน… เหมยไอ้ย่วน ไม่เคยกลัวความตายเลยสักนิด ฉันเคยคิดว่าฉันไม่อยากโหดร้ายกับแกเกินไป เพราะอย่างไรก็ตาม ในความเป็นผู้หญิง แกเพียงแค่ยั่วยวนเฮ่อเฉา และสิ่งที่เขาทำกับพี่สาวฉันก็ไม่ใช่ความผิดของแก แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนความคิดแล้ว หลินเจียว ฉันจะทำให้แกทรมานเหมือนตกนรก!”
“ตบปากมัน จนกว่าปากมันจะแตกยับเยิน!” เหมยไอ้ย่วนหันไปหยิบขวดแอลกอฮอล์บนโต๊ะ เทลงบนมือเธอโดยตรง เธอกัดฟัน มองดูพวกนักเลงที่ยังยืนนิ่งแล้วถามว่า “ไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรือไง”
“ตบมัน ผลัดกันตบไปจนกว่าปากมันจะแตกยับเยิน!” เหมยไอ้ย่วนจ้องมองหลินเจียวด้วยสายตาน่าสะพรึงกลัว “มัดมือมัดเท้ามัน แต่ไม่ต้องปิดปาก ให้มันฟังเสียงกรีดร้องของตัวมันเอง”
จากนั้นเธอก็หันกลับไปมองหยางฉีมั่วและถามว่า “ประธานหยาง จะห้ามไม่ให้ฉันทำแบบนี้หรือเปล่าคะ”
ขณะมองหน้าเธอ หยางฉีมั่วยกให้เหมยไอ้ย่วนเป็นผู้หญิงใจเหล็ก “ไม่เลยครับ” เขากล่าวพร้อมกับส่ายศีรษะ “เจ้าหญิงน้อยของเราไม่ได้อยากเห็นหลินเจียวส่งถึงมือเธออย่างสมบูรณ์ทุกประการ คุณนายเฉิน อยากทรมานเธอหนักแค่ไหนก็ได้ ตามที่คุณต้องการ…”
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ขออนุญาตจากเขาจริงๆ หรอก ถ้าเธอจะทำอย่างนั้น เธอต้องถามเขาก่อนออกคำสั่ง
เพราะฉะนั้นปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ระบายความโกรธแค้นออกมา ตราบใดที่หลินเจียวยังมีชีวิตอยู่