ตอนที่ 2014 เปิดโปงแผนการ (2)
ดังนั้นนางจึงไม่สนใจสายตามุ่งร้ายเหล่านี้แล้วพูดต่อ “พวกเจ้าคิดว่าตราประทับของอาจารย์จะหาง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ…
…นอกจากอาจารย์แล้วจะมีใครรู้ว่าตราประทับอยู่ที่ไหนเล่า”
ฝูงชนนิ่งคิดทันที พวกเขาถูกครอบงำด้วยความโกรธจนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะมีบางคนรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่สุดท้ายก็เลือกทำตามเสียงส่วนใหญ่
จู่ๆ หลั่งซินเยว่ก็ปลดปล่อยกลิ่นอายก้าวร้าวออกมาจนเปลี่ยนให้อากาศโดยรอบหดหู่ “อวิ๋นเยว่ชิง อย่ามาใช้เหตุผลไม่เข้าท่าเช่นนี้ เจ้าจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าอาจารย์เป็นคนมอบตราประทับให้เจ้าด้วยตัวเอง”
ไป๋หลิงจ้องหน้าหลั่งซินเยว่อย่างเย็นชาและถามอย่างไร้อารมณ์ว่า “อย่างแรก ข้าไม่เคยบอกว่าข้ามีตราประทับอยู่ในมือ เหตุใดเจ้าถึงมั่นใจนักว่าตราประทับอยู่ในมือข้า”
“เพราะว่าเจ้าขโมยมันไปน่ะสิ ในเมื่อท่านประมุขตายแล้ว และข้าก็ผ่านด่านเป็นเซียนจักรพรรดิแล้ว ดังนั้นข้าก็ควรจะได้เป็นประมุขสำนักอิสระ เอาสิ่งเจ้าขโมยไปคืนมา มันควรเป็นของข้า!”
หลั่งซินเยว่กัดฟัน ข้าเองก็เป็นศิษย์ของอาจารย์เหมือนกัน เหตุใดอาจารย์ถึงมอบตราประทับให้อวิ๋นเยว่ชิง เหตุใดเขาถึงปฏิบัติกับอวิ๋นเยว่ชิงเป็นพิเศษ
ไป๋หลิงไม่สนใจหลั่งซินเยว่แล้วหันไปมองผู้อาวุโสทั้งหลาย
“พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าสิบปีมานี้ข้าทำอะไรเพื่อสำนักอิสระบ้าง อาจารย์ปฏิบัติกับข้าอย่างไรแล้วข้าปฏิบัติกับอาจารย์อย่างไร พวกเจ้าตาบอดหรือ ตอนนี้แค่เพราะคำพูดของหลั่งซินเยว่ พวกเจ้าก็โทษว่าเป็นความผิดข้าแล้วหรือ พวกเจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”
ผู้อาวุโสพูดไม่ออก และไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำเดียว
ไป๋หลิงยิ้มเยาะ “อีกอย่าง กองทัพของอาณาจักรทั้งสี่ก็มาถึงประตูเมืองแล้ว ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนจักรพรรดิปลอมๆ จะต่อกรกับพวกเขาได้หรือ…
…ไม่ พวกเจ้าคิดผิดแล้ว นางทำได้แค่ลากสำนักอิสระลงนรกไปกับนางเท่านั้น! ข้ายังมีความผูกพันกับสำนักอิสระอยู่บ้างจึงคิดว่าถ้าพวกเจ้าช่วยข้าจัดการกับหลั่งซินเยว่ ข้าก็จะขอให้พวกเขายกโทษให้สำนักอิสระ…
…น่าเสียดายที่ข้ามาช้าไปและพวกเจ้าก็ถ่ายทอดพลังให้นางแล้ว…”
ไป๋หลิงเป็นศิษย์รักของอดีตประมุขแล้วนางจะไม่รู้วิชาลับของเขาได้อย่างไร เมื่อนางเห็นอัสนีสวรรค์ที่ไร้พลัง นางก็รู้ทันทีว่าหลั่งซินเยว่เป็นแค่ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนจักรพรรดิปลอมๆ!
เมื่อเห็นชายชราทั้งหลายยังคงเงียบ ไป๋หลิงก็พูดต่อ “ถูกแล้ว ตราประทับของอาจารย์อยู่ในมือของข้าจริงๆ! แต่อาจารย์แอบมอบมันให้ข้าตอนที่เขานอนป่วยอยู่บนเตียง ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อ ตอนนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าดูเอง!”
หลั่งซินเยว่ขมวดคิ้ว แต่นางก็ไม่ได้กังวล ถึงอย่างไรอวิ๋นเยว่ชิงก็ทำอะไรเพื่อขู่นางไม่ได้
ไป๋หลิงไม่สนใจหลั่งซินเยว่แล้วหยิบตราประทับออกมาจากกระเป๋าก่อนจะใส่พลังเข้าไปในตราประทับ เมื่อนางทำอย่างนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากภายในตราประทับ
“ข้า เฉินลั่ว ประมุขของสำนักอิสระ ได้มอบหมายให้ศิษย์ของข้า อวิ๋นเยว่ชิงเป็นผู้สืบทอดของข้า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สมาชิกทุกคนของสำนักอิสระจะเชื่อฟังคำสั่งของนางและปกป้องนางตลอดไป!”
ไม่นานหลังจากที่เสียงเงียบลง ใบหน้าของชายชราบางคนก็มีน้ำตาอาบแก้ม
“นี่เป็นเสียงของอดีตประมุข เป็นอดีตประมุข…”
ตอนที่ 2015 การตายของหลั่งซินเยว่ (1)
ใบหน้าของหลั่งซินเยว่เปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที นางไม่คิดว่าตราประทับนั่นจะมีความลับแบบนี้ ตราประทับนี้ซ่อนเจตนารมณ์ของอาจารย์ไว้งั้นหรือ
ความจริงแล้วไป๋หลิงบังเอิญพบเรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้เอง ไม่อย่างนั้นนางก็คงกลับมาพร้อมตราประทับตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว น่าเสียดายที่นางพบเรื่องนี้ช้าไปดังนั้นหลั่งซินเยว่กับโอวเหลยจึงสามารถปกครองสำนักอิสระได้อยู่หลายวัน…
หลั่งซินเยว่กัดฟันขณะที่จ้องไป๋หลิงด้วยสายตามาดร้าย “ไม่แน่เรื่องนี้นางอาจเป็นคนทำเองก็ได้ ข้าไม่เคยได้ยินว่าสามารถบันทึกเสียงไว้ในตราประทับได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง ชายชราหลายคนก็ลังเล “ข้าจำได้ว่าตอนที่อดีตประมุขสร้างตราประทับนี้ เขาบอกพวกเราว่าเจตนารมณ์ของเขาจะถูกใส่ไว้ในตราประทับ ดังนั้นข้าเชื่อว่านี่เป็นความจริง”
“แล้วเพราะว่าตราประทับหายไปทำให้เจตนารมณ์ของเขาหายไปด้วย แต่พวกเราไม่คิดเลยว่า…”
พวกเขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะกลับตาลปัตรอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของหลั่งซินเยว่เป็นประกายดุร้ายทันทีแล้วพูดอย่างชั่วช้าว่า “เรื่องนี้ไม่เห็นมีความหมายอะไร อาจารย์ต้องโดนนางบังคับแน่! พวกเจ้าเชื่อสตรีผู้นี้มากกว่าท่านประมุขและข้างั้นหรือ!” นางยกมือขึ้นชี้ไปที่ไป๋หลิง
หลั่งซินเยว่ต้องการมากกว่าแค่ความตายของไป๋หลิง นางต้องการทำลายชื่อเสียงของอีกฝ่ายด้วย!
มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่นางจะแก้แค้นได้!
ผู้อาวุโสเงียบไปทันทีแล้วจ้องหน้าหลั่งซินเยว่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจแกมโกรธแค้น
หลั่งซินเยว่ไม่รู้ว่านางไปพูดอะไรให้ชายชราพวกนี้มองนางด้วยสายตาแบบนี้
“แม่นางหลั่ง เจ้าบอกว่าอดีตประมุขถูกนางบังคับงั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าอดีตประมุขเป็นคนที่สามารถบังคับได้ง่ายๆ หรือ”
“เจ้าพึ่งพูดว่าเจ้าเห็นอวิ๋นเยว่ชิงตามหาตราประทับของอดีตประมุข ถ้านางบังคับให้อดีตประมุขบันทึกเจตนารมณ์ไว้ในตราประทับได้ แล้วเหตุใดนางต้องตามหามันด้วย”
“อีกอย่าง ถ้านางรู้เรื่องเจตนารมณ์อยู่แล้ว นางจะไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกตั้งหลายปีทำไม นางก็คงกลับมาที่สำนักอิสระแล้ว ข้าจึงคิดว่านางคงพึ่งรู้เรื่องเมื่อไม่นานมานี้เอง!”
ผู้อาวุโสทุกคนดูเศร้าโศกและเดือดดาล ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าพวกเขาโดนหลั่งซินเยว่หลอก!
สีหน้าของหลั่งซินเยว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่นานนางก็สงบลง นางยิ้มเยาะแล้วมองผู้อาวุโสทั้งหลายอย่างเหยียดหยาม
“ถูกแล้ว ข้ากุเรื่องขึ้นมาเอง แล้วอย่างไรล่ะ เจ้าไม่คิดหรือว่าพวกเจ้ารู้กันช้าเกินไป ฮะๆ!”
หลั่งซินเยว่หัวเราะลั่น ภายใต้เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีและสายลมกรรโชกก็พัดมาอย่างรุนแรง…
ใช่แล้ว! ต่อให้พวกเขารู้ความจริงแล้วอย่างไร มันสายไปแล้ว…
ตอนนี้หลั่งซินเยว่กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเฟิงอวิ๋น ไม่มีใครที่สามารถเอาชนะนางได้!
“หลั่งซินเยว่ เจ้ามันชั่วช้าเลวทราม!” ชายชราคนหนึ่งชี้หน้าหลั่งซินเยว่อย่างเดือดดาล “เจ้ากล้าหาประโยชน์จากพวกเรา!”
หลั่งซินเยว่หยุดหัวเราะแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มเย็นชา “นั่นก็เพราะพวกเจ้าโง่เกินไป เจ้าเชื่อข้าเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของข้า! แต่มีเรื่องหนึ่งที่ข้าพูดจริง—ศิษย์พี่ของข้า โอวเหลย ถูกคนของอวิ๋นเยว่ชิงสังหารจริงๆ!”