ตอนที่ 2016 การตายองหลั่งซินเยว่ (2) / ตอนที่ 2017 การตายของหลั่งซินเยว่ (3)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 2016 การตายองหลั่งซินเยว่ (2)

“ข้าเอาพลังของพวกเจ้าก็เพื่อแก้แค้นให้เขา!” ดวงตาของหลั่งซินเยว่เป็นประกายสังหารแล้วเดินไปหาไป๋หลิงช้าๆ “อวิ๋นเยว่ชิง เหตุใดเจ้าถึงไม่ชอบท่านประมุขล่ะ เหตุใดเจ้าถึงทำร้ายเขาแบบนั้น เท่าที่ข้าเห็น เจ้าไม่คู่ควรกับความรักของท่านประมุขด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับมองข้ามความรักของเขาไปอย่างไม่ไยดี!”

ทุกก้าวที่นางเดินมาข้างหน้า อากาศก็ยิ่งเย็นลงเรื่อยๆ นางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แลดูหยิ่งทะนงและเย็นชา

แต่ว่าภายใต้แรงกดดันที่อึดอัดนี้ ไป๋หลิงก็ไม่แม้แต่จะกะพริบตา เสื้อคลุมสีขาวราวหิมะปลิวไสวไปตามสายลม

หลั่งซินเยว่ริษยานางมาก ตั้งแต่ที่ไป๋หลิงมาที่สำนักอิสระ ตำแหน่งของนางในสำนักก็เริ่มสั่นคลอน อัจฉริยะวัยเยาว์ที่เคยอยู่รอบตัวนาง ทั้งหมดก็ไปหาไป๋หลิง ดังนั้นนางจึงแอบสาบานว่าจะสักวันหนึ่งนางเอาชนะสตรีผู้นี้ให้ได้!

ตอนนี้ ในที่สุดนางก็ทำสำเร็จ!

เมื่อนางจินตนาการว่านางได้เหยียบย่ำไป๋หลิงอยู่ใต้ฝ่าเท้า นางก็ยิ่งหัวเราะดังขึ้นแล้วค่อยๆ กวาดดวงตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามขึ้น

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

เมื่อเห็นหลั่งซินเยว่เดินเข้าไปหาไป๋หลิง ผู้อาวุโสเหล่านี้ที่ยังคงโศกเศร้าก็ลงมือในที่สุด พวกเขาพุ่งเข้าไปหานางด้วยความโกรธ

ประกายดุร้ายพาดผ่านดวงตาของหลั่งซินเยว่ นางหันไปปล่อยหมัดทรงพลังไปยังพวกเขา ชายชราที่อยู่ใกล้นางที่สุดก็โดนโจมตีแล้วหลุมเลือดก็ปรากฏขึ้นบนตัวเขา ทุกคนรอบตัวนางก็ได้รับผลกระทบจนกระเด็นออกไป

ชายชราเหล่านี้เคยเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสและได้รับความเคารพอย่างมาก แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดา

แล้วพวกเขาจะทนรับการโจมตีของหลั่งซินเยว่ได้อย่างไร

แค่ลมหายใจเดียวของหลั่งซินเยว่ก็ทำลายพวกเขาได้แล้ว!

“ผู้อาวุโสสี!”

ใบหน้าของไป๋หลิงเปลี่ยนไปทันที แล้วร่างสีขาวของนางก็พุ่งเข้าไปตรงหน้าชายชราที่ล้มอยู่ที่พื้น

“ผู้อาวุโสสี ท่านเป็นอะไรหรือไม่”

เมื่อได้ยินเสียงของนาง ผู้อาวุโสสีเงยหน้ามองใบหน้าที่คุ้นเคยอย่างยากลำบากแล้วตะโกนด้วยแรงทั้งหมดที่มี “หนีไป!” จากนั้นดวงตาเขาก็ปิดลง มือของเขาร่วงหลุดออกจากมือของไป๋หลิงลงไปยังพื้น หมดสิ้นลมหายใจสุดท้าย

ชายชราพวกนี้เชื่อคำพูดของหลั่งซินเยว่เพราะความไม่รู้ของพวกเขา

แต่ตอนนี้…

เขาเสียชีวิตเพื่อปกป้องนาง!

ตอนนี้ไป๋หลิงเกลียดพวกเขาไม่ลง ไม่ว่าพวกเขาจะทำผิดมากขนาดไหน หัวใจของนางเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและสิ้นหวัง! ผู้อาวุโสคนอื่นก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกันแต่พวกเขาก็ยังดีกว่าผู้อาวุโสสี อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่

“หลั่งซินเยว่ พวกเราเชื่อใจเจ้ามากขนาดที่ถ่ายทอดพลังของพวกเราให้เจ้าเพื่อแก้แค้นแทนท่านประมุข แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าตัวเองโง่ขนาดไหน ข้าทำร้ายเยว่ชิงและสำนักอิสระทั้งหมด!”

ชายชราผมสีดอกเลายืนขึ้นอย่างยากลำบากแล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า “วันนี้ ข้าจะชดใช้ความผิดที่ข้าทำไว้! เยว่ชิง ออกไปจากสำนักอิสระเดี๋ยวนี้! เจ้าหนีไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้! เป็นสำนักอิสระที่ทำร้ายเจ้า ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเราต้องชดใช้แล้ว!”

ไป๋หลิงวางร่างของผู้อาวุโสสีลงบนพื้นช้าๆ แล้วค่อยๆ ยืนขึ้น เส้นผมยาวสีดำสนิทของนางปลิวไปตามสายลม ชุดคลุมสีขาวของนางบริสุทธิ์ราวกับหิมะ นางจ้องหลั่งซินเยว่อย่างเย็นชาแล้วปลดปล่อยกลิ่นอายสังหารออกมา

“ข้ามาที่นี่เพื่อแก้แค้นหลั่งซินเยว่แล้วข้าจะจากไปง่ายๆ ได้อย่างไร”

“เยว่ชิง!” ชายชราผมสีดอกเลาหน้าถอดสีด้วยความกังวล

ไป๋หลิงทำราวกับไม่เห็นสายตาของเขาแล้วเดินไปหาหลั่งซินเยว่

ตอนที่ 2017 การตายของหลั่งซินเยว่ (3)

“เจ้าสังหารผู้อาวุโสสี วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้เขาเอง!”

หลั่งซินเยว่มองไป๋หลิงตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วส่งยิ้มเหยียดหยามให้นาง “ดูเหมือนว่าพิษของเจ้าจะยังถูกถอนออกไม่หมดนะ วันนั้นเจ้าก็แค่โกหกข้า! อีกอย่าง ต่อให้พิษของเจ้าถูกถอนออกหมดแล้ว เจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี”

“ตอนนี้ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าก็จริง แต่ข้าจะยืนหยัดต่อสู้กับเจ้าด้วยชีวิต! เจ้ากล้าต่อสู้กับคนที่ไม่สนชีวิตของตัวเองไหมล่ะ”

ใบหน้าของไป๋หลิงเย็นชาและจริงจัง นางสะบัดมือแล้วกระบี่ยาวก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง

อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังมา…

นางต้องจัดการกับหลั่งซินเยว่ให้ได้ก่อนที่อวิ๋นลั่วเฟิงจะมาที่นี่ เพราะว่านางไม่สามารถ…ปล่อยให้บุตรสาวของตกอยู่ในอันตรายได้ ถึงแม้ว่านางจะต้องทิ้งชีวิตเพื่อสิ่งนี้ นางก็ต้องทำให้มั่นใจว่าบุตรสาวของนางจะปลอดภัย!

“ฮะๆ …”

หลั่งซินเยว่หัวเราะเบาๆ “ถ้าเจ้าอยากตาย ข้าก็จะช่วยเจ้าเอง!”

ภายนอกเมืองของสำนัก

กองทัพพันธมิตรของทั้งสามอาณาจักรมาถึงประตูเมืองแล้ว

อวิ๋นเซียวและอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นคนนำกองทัพมา หนึ่งในพวกเขาสวมชุดสีขาวขณะที่อีกคนสวมสีดำ พวกเขาเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบของกันและกัน

“โจมตี!”

เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงพูดแบบนี้กองทัพพันธมิตรของอาณาจักรทั้งสามก็ใช้กำล้งพังประตูแล้วพุ่งเข้าไปในเมือง

สมาชิกของสำนักอิสระไม่รู้ว่าอีกฝั่งเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงทำตามคำสั่งของหลั่งซินเยว่แล้วเริ่มโจมตีผู้บุกรุกเหล่านี้

ที่ประตู โลหิตไหลนองราวกับสายน้ำและเต็มไปด้วยกองศพ

อวิ๋นลั่วเฟิงยืนอยู่ท่ามกลางซากศพราวกำลังยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแคว้น เมื่อรวมกับกลิ่นอายทรงพลังจึงยิ่งทำให้นางดูน่าเกรงขาม

ไม่ว่ากองทัพของสำนักอิสระจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากอาณาจักรทั้งสามได้ ไม่นานพวกเขาก็ถูกถอนรากถอนโคนอย่างรวดเร็วโดยกองทัพพันธมิตรของอาณาจักรทั้งสาม

“ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา พวกเราไป!”

อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว อาจจะเป็นเพราะนางกำลังคิดถึงไป๋หลิงที่ตอนนี้อยู่ในเมือง ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้า

ตำหนักกลางของสำนักอิสระ

ภายในสวน หลั่งซินเยว่โจมตีเข้าที่หน้าอกของไป๋หลิงและทำให้อีกฝ่ายถอยหลังไปสองสามก้าว

นางรู้สึกถึงก้อนหนืดในลำคอและกระอักเลือดออกมา ไป๋หลิงเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วพุ่งเข้าไปหาหลั่งซินเยาวอีกครั้ง

ผลของการต่อสู้ไม่มีคำว่าแน่นอน!

พิษในร่างของไป๋หลิงยังไม่หมด อีกอย่างหลั่งซินเยว่ก็เป็นถึงเซียนจักรพรรดิแล้ว ดังนั้นไป๋หลิงจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลั่งซินเยว่ อีกทั้งการโจมตีของหลั่งซินเยว่ยิ่งทำให้ร่างกายของนางบาดเจ็บหนัก

แต่ว่า…

ไม่นานชายชราก็พบว่าแทนที่ไป๋หลิงจะหลบการโจมตีของหลั่งซินเยว่แต่นางกับทุ่มพลังไปในการโจมตี ราวกับว่า…นางไม่ได้สนใจชีวิตของตัวเองเลย

นางพยายามจะทำให้หลั่งซินเยว่บาดเจ็บแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!

เมื่อสังเกตเห็นแบบนี้ ผู้อาวุโสทุกคนก็รู้สึกผิด ถ้าพวกเขาไม่ได้หูเบาหลงเชื่อหลั่งซินเยว่ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าไป๋หลิงตายแล้วพวกเขาจะไปอธิบายกับอดีตประมุขหลังจากพวกเขาไปปรโลกว่าอย่างไร!

“อวิ๋นเยว่ชิง เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”

เมื่อหลั่งซินเยว่พลิกฝ่ามือ กระบี่ก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ประกายเย็นเยียบของกระบี่สะท้อนไปทั่วท้องฟ้าจนทำให้ผู้คนตัวสั่น

ถ้าไป๋หลิงโดนกระบี่โจมตี นางอาจจะบาดเจ็บสาหัสหรือแม้แต่ตายได้ แต่ว่านางก็ไม่มีความคิดที่จะหลบการโจมตี ในเวลาเดียวกันกระบี่ยาวของนางก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วฟันลงไปที่หลั่งซินเยว่อย่างโหดเหี้ยม

ถ้าหลั่งซินเยว่ยังโจมตีนางต่อ ตัวเองก็ต้องบาดเจ็บเหมือนกัน ถึงแม้ว่านางจะผ่านด่านเลื่อนระดับเป็นเซียนจักรพรรดิ แต่การผ่านด่านของนางยังไม่เสถียร ดังนั้นต่อให้กระบี่นี้โดนไป๋หลิง นางเองก็คงบาดเจ็บไม่น้อย