ตอนที่ 387

Taming Master

“วิธีที่ข้าฟักไข่ของ…  เซลิปา?”

“ใช่ครับ”

“โฮ่โฮ่ ทำเจ้าถึงอยากรู้อีกล่ะ? อย่าบอกนะว่ามีไข่แบบนั้นอีกงั้นรึ?”

ดวงตาของกริปเปอร์เป็นประกายในขณะที่ได้ยินคำถามนั้นของเอียน

เอียนส่ายหัวและพูดว่า

“อืม… ไม่ใช่ไข่ใบเดียวกันครับ ผมมีไข่ของอสูรเวทย์มนตร์ระดับ Legendary อยู่สองสามฟองและด้วยความพยายามทั้งหมดที่ผมทำไป ผมยังไม่ได้ฟักไข่สักครั้งเลย ถ้าผมรู้ว่าฟักไข่ของเซลิปายังไง ผมจะได้ใช้ฟักไข่ของผมด้วย…”

“อืม อืม”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น กริปเปอร์ก็ลูบเคราของเขาและตัดสินใจที่จะพูดหลังจากนั้นไม่กี่วินาที

“อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะรู้วิธีที่ข้าฟักไข่ของเซลิปา เจ้าก็ไม่สามารถฟักไข่ของเจ้าได้หรอก”

เอียนอดไม่ได้ที่จะตกใจกับคำตอบที่ได้ยินจากกริปเปอร์

“ห๊าาาา…?”

กริปเปอร์เอนตัวลงบนโต๊ะแล้วพูดต่อ

“ไข่ระดับ Legendary ไม่สามารถฟักได้ในลักษณะเดียวกัน”

“อย่างนั้นหรอครับ?”

“จากสิ่งที่ข้ารู้ มีไข่ในระดับ Legedary มากมายและแต่ละฟองก็มีวิธีฟักไข่ในแบบของตัวเอง”

“…!”

เอียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังที่ได้ยินสิ่งที่กริปเปอร์พูด

มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาสูญเสียปลาที่อยู่ในมือไป

แต่ความผิดหวังก็มีอยู่แค่ชั่วขณะ

แต่ดวงตาของเอียนเริ่มเปล่งประกายอีกครั้ง

‘ถ้าเขารู้ว่าวิธีฟักไข่ระดับ Legendary ที่แตกต่างกัน… ก็อาจมีข้อมูลมากกว่าที่กริปเปอร์พูดหรือเปล่า?’

และเมื่อเห็นเอียนที่ครุ่นคิด กริปเปอร์ก็พูดอีกครั้ง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็นมอนสเตอร์ระดับ Legendary ชนิดใด ถ้าข้ารู้ข้าอาจจะช่วยเจ้าได้”

เอียนที่ได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิ่มเอมใจ

นั่นคือเหตุผลที่เอียนตอบทันที

“อสูรเวทย์มนตร์ระดับ Legendary ไข่ของเบเฮมอธ ไข่ใบนั้นที่ผมได้รับจากเบเฮมอธ – มันเป็นชนิดเดียวกัน 90% จากที่ผมวิเคราะห์ไว้”

“อึก เบเฮมอธ!”

กริปเปอร์แตะคางของเขาแล้วค่อยๆลุกขึ้นจากที่นั่ง

และขอให้เอียนเดินไปหาเขา

“มานี่สิเอียน ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเข้าไปในห้องเก็บเอกสารหลังจากที่ไม่ได้ไปมานาน”

เอียนกระโดดออกจากที่นั่งและเดินตามกริปเปอร์ไป

 

* * *

 

ชั้นวางของที่เต็มไปด้วยฝุ่นอยู่ที่มุมห้อง

กริปเปอร์เขี่ยฝุ่นออกจากชั้นหนังสือและด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโหยหาก็พูดและดึงหนังสือเก่าๆออกมา

“เบเฮมอธ… ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ข้าเคยได้ยินมาบ่อยมาก มันเป็นชื่อของอสูรเวทย์มนตร์ตัวแรกสุด”

ช่วงเวลาที่เขาได้ยินคำว่า ‘ตัวแรกที่สุด’ ดวงตาของเอียนก็ยิ่งโตขึ้น

“อะไรคือมอนสเตอร์ตัวแรกสุดครับ?”

กริปเปอร์เริ่มอธิบาย

“มีอสูรเวทย์มนตร์หลายชนิดในอาณาจักรปีศาจในปัจจุบันและพวกมันยากที่จะนับข้ารู้ว่าเจ้าเคยไปที่อาณาจักรปีศาจด้วย”

“ใช่แล้วครับ”

“และบางทีคนส่วนใหญ่ รวมทั้งเจ้าด้วยก็รู้จักพวกมันทั้งหมดในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้าง (พระเจ้า)”

นี่เป็นครั้งแรกที่เอียนได้ยิน แต่เขาก็ยังรู้สึกมึนงงกับข้อมูลทั้งหมด

“เอาล่ะ ตอนนี้พูดเรื่องนั้นก่อน”

และกริปเปอร์ก็อธิบายต่อไป

“แต่นั่นไม่ใช่ความจริง ในบรรดาสิ่งมีชีวิตที่เราเห็นในปัจจุบัน ไม่ใช่อสูรเวทย์มนตร์ 20 ตัวที่พระเจ้าสร้างขึ้นจริงๆ”

“แล้วตัวอื่นล่ะครับ…?”

“อาจกล่าวได้ว่าพวกมันเกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ท่ามกลางอสูรเวทย์มนตร์เหล่านั้น ดังนั้นไม่ใช่การสร้างโดยตรงของเทพเจ้า พวกมันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ”

เรื่องราวที่กริปเปอร์พูดนั้นค่อนข้างยาว แต่มีเสน่ห์

นั่นเป็นเหตุผลที่เอียนสามารถตั้งสมาธิและฟังมันได้

“เอาล่ะ เรามาพูดถึงต้นกำเนิดของอสูรเวทย์มนตร์… ไปตรงนั้นกันเถอะ”

เอียนรู้สึกตื่นเต้นมาก

“เมื่อเบเฮทอธถูกสร้างขึ้นในช่วงแรก มีอสูรเวทย์มนตร์อีกสองตัวที่ถูกสร้างขึ้นควบคู่ไปกับมัน”

ในขณะที่กริปเปอร์ยังคงพูดอยู่ เขาก็โบกมือไปในอากาศ

น่าแปลกที่โฮโลแกรมปรากฏขึ้นในจุดนั้น

อสูรเวทย์มนตร์ตัวหนึ่งเป็นสิ่งที่เอียนคุ้นเคยและอีกสองตัวเป็นอสูรที่เขาไม่เคยเห็น

จากนั้นก็มีมอนสเตอร์ในวิดีโอที่กำลังมองไปที่เอียน

‘พระเจ้า ฉันกลัวนะเนี่ย’

และกริปเปอร์ยังคงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเอียน

“อสูรเวทย์มนตร์ยุคแรกสุดเป็นสัญลักษณ์ของบางสิ่งบางอย่าง พวกมันมีไว้สำหรับโลก ทะเลและท้องฟ้าและเบเฮมอธเป็นตัวแทนของโลก”

เอียนพึมพำกับตัวเอง

“โลก… ตอนนี้ผมคิดว่ามันดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น”

เอฟเฟกต์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเบเฮมอธมีผลสั่นสะเทือน

เมื่อเขานึกถึงผิวที่แข็งกระด้างของมันที่เหมือนก้อนหิน เอียนรู้สึกพึงพอใจที่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเบเฮมอธว่าเป็นสัญลักษณ์ของโลก

จากนั้นกริปเปอร์ก็ย้ายไปยังอีกสองตัว

“แล้วก็มีมังกรเจ็ดหัวคือลิเวียธานซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทะเลและทะเลของอาณาจักรปีศาจ ‘มาเฮย์’ …”

กริปเปอร์หายใจเข้าลึกๆและชี้ไปที่ตัวที่มีลักษณะคล้ายกริฟฟิน

“และท้ายที่สุด อสูรเวทย์มนตร์ ‘ซุส’ มันคือสัญลักษณ์ของท้องฟ้าในโลกแห่งอาณาจักรปีศาจ”

เรื่องราวของเบเฮมอธนั้นน่าสนใจมากและความคาดหวังของเอียนก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นในขณะที่ฟังเรื่องราวของมัน

เบเฮมอธซึ่งเขารู้จักในฐานะอสูรเวทย์มนตร์เท่านั้นเป็นสิ่งที่พิเศษกว่าที่เขาคิด

‘เขาอธิบายอย่างฉะฉาน… อย่าบอกนะว่าไม่มีทางฟักออกมาได้ คุณจะไม่พูดแบบนั้นใช่ไหม?’

เอียนพยายามกลืนความรู้สึกวิตกกังวลที่อยู่ในใจอย่างกะทันหันและถามกริปเปอร์ว่า

“ยังไงก็ตามกริปเปอร์”

“หือ…?”

“ผมเคยไปรอบอาณาจักรปีศาจ แต่ผมไม่เคยเห็นทะเลในอาณาจักรปีศาจที่ไหนเลย ทะเลตั้งอยู่ที่ไหนหรอครับ?”

เอียนอยากรู้อยากเห็น

เมื่อเขาเข้าสู่อาณาจักรปีศาจในโซนที่ 127 เอียนสามารถไปยังโซนที่ 13 เขาได้ไปมากกว่า 100 โซน แต่เขาไม่เคยเห็นคำว่า ‘ทะเล’ ในแผนที่ของอาณาจักรปีศาจ

กริปเปอร์หัวเราะและพยักหน้า

“มันเป็นเรื่องจริงที่เจ้าไม่เคยเห็นสิ่งนั้นในอาณาจักรปีศาจ ทะเลในอาณาจักรปีศาจมีแนวคิดที่แตกต่างจากทะเลที่เรารู้จัก”

“แนวคิด…”

“ทะเลอาณาจักรปีศาจเป็นผืนดินขนาดใหญ่ที่มีหลายส่วนของอาณาจักรปีศาจ มันหมายความว่ามันคือมิติทั้งหมดที่เรียกว่า ‘ปาฏิหาริย์’

“อืมมม…?”

เอียนรู้สึกสับสนและเห็นกริปเปอร์หัวเราะ

“โฮะโฮะ บางทีเมื่อเจ้าเข้าใจแนวคิดนี้ เจ้าจะไม่แสดงออกเช่นนั้น”

“ผมก็คิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญคือฟักไข่เบเฮมอธออกมา”

“ใช่ เรื่องนั้น ข้าบอกให้เจ้ารู้ว่ามีอะไรเขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้”

ส่วนหลักของเรื่องราวได้ผ่านไปแล้วและตอนนี้สำคัญที่สุด

ในที่สุดเรื่องราวของการฟักไข่ของเบเฮมอธก็มาถึง

 

* * *

 

โชคร้ายที่ไข่ของเบเฮมอธไม่สามารถฟักออกมาได้

มันต้องการวัตถุดิบบางอย่าง

และการเตรียมการพวกมันมีสองแบบ

อย่างแรกคือ ‘เพลิงสุดขีด’ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเพลิงแห่งอาณาจักรปีศาจซึ่งให้ความร้อนที่รุนแรง

จากคำอธิบายของกริปเปอร์กล่าวว่า ‘เพลิงสุดขีด’ เป็นปัจจัยสำคัญในการฟักไข่ของมอนสเตอร์ระดับ Legendary

ไข่ของอสูรเวทย์มนตร์ทั่วไปเพียงแค่ต้องการเวทย์มนตร์พื้นฐานในการฟักไข่ แต่อสูรที่ได้รับการจัดระดับเป็นระดับ Legendary นั้นต้องการเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งกว่า

และสามารถหาเพลิงสุดขีดได้โดยการไปที่แท่นบูชาของเทพแห่งอาณาจักรปีศาจ

สิ่งที่สองที่จำเป็นคือหินผนึกเวทย์วิญญาณซึ่งมีตราเวทย์ของเบเฮมอธ

มันเป็นเงื่อนไขพิเศษที่เบเฮมอธมีและมันเป็นเงื่อนไขที่สำคัญจริงๆ

“ลูกของเบเฮมอธเป็นที่รู้กันว่าดูดซับพลังวิญญาณของแม่เบเฮมอธ… แต่บางที… ไข่น่าจะตายทันทีที่มือของเจ้าสัมผัสพวกมัน”

“จริงหรอครับ?”

“นั่นคือเหตุผลที่เจ้าต้องการผนึก”

เอียนได้รับไอเทมที่เรียกว่า ‘หินผนึกเวทย์วิญญาณ’ จากกริปเปอร์และตรวจสอบข้อมูลของไอเทม

 

– – – –

 

หินผนึกเวทย์วิญญาณ –

 

การจัดหมวดหมู่ – เบ็ดเตล็ด

อันดับ – ฮีโร่

 

นี่คือสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถใช้เพื่อปิดผนึกวิญญาณของอสูรเวทย์มนตร์ที่เฉพาะเจาะจงได้ซึ่งสร้างขึ้นโดยผู้รักษาประตูมิติโดยใช้วิศวกรรมเวทย์มนตร์ของเขา

หากท่านประมวลผลผนึกบนอสูรเวทย์มนตร์ ท่านจะสามารถรับส่วนวิญญาณของอสูรเวทย์มนตร์เฉพาะนั้นได้

สามารถผนึกได้ครั้งละหนึ่งวิญญาณเท่านั้นและเมื่อใช้แล้วจะไม่สามารถใช้งานได้อีก มันสามารถใช้ได้ครั้งเดียว

ในช่วงเวลาของการปิดผนึกวิญญาณ ท่านสามารถรับวิญญาณขั้นต่ำ 30 ถึงสูงสุด 100 ดวงโดยการสุ่ม

ไม่สามารถใช้ได้กับมนุษย์และกึ่งมนุษย์

 

– – –

 

เอียนที่เพิ่งตรวจสอบหน้าต่างข้อมูลของไอเทมนั้นดวงตาของเขาเป็นประกาย

‘โอ้ นี่มัน… เป็นไอเทมที่จะไร้ประโยชน์หลังจากใช้งานเพียงครั้งเดียวสินะ?’

ผนึกที่สามารถสกัดวิญญาณได้อย่างน้อย 30 ถึง 100 ดวง

และเมื่อพิจารณากับ 10 หินวิญญาณที่ดรอปเมื่ออสูรเวทย์มนตร์ถูกฆ่านี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าทึ่ง

และเก็บหินผนึกวิญญาณใส่ไว้ในคลังของเขาและคำพูดของกริปเปอร์ก็ดำเนินต่อไป

“นำวิญญาณของเบเฮมอธกลับคืนมาด้วยหินผนึกวิญญาณนี้และเจ้าจะสามารถฟักไข่ได้”

ตอนนี้กริปเปอร์ยิ้มแสดงว่าพูดเสร็จแล้ว

แต่เกิดปัญหาขึ้น

ปัญหาที่ร้ายแรงแน่นอน

“แต่… ผมควรจะเอาวิญญาณของเบเฮมอธได้ยังไง?”

เมื่อได้ยินคำถามของเอียน กริปเปอร์ตอบราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่

“นั่นเป็นเรื่องง่าย หลังจากการล่าเบเฮมอธ เจ้าเพียงแค่ต้องเปิดใช้งานผนึกบนร่างกายของมันและเจ้าจะสามารถดึงหินวิญญาณออกจากมันได้ แต่ต้องทำภายในหนึ่งนาทีหลังจากที่มันตาย”

ปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วหรอ?

ไม่เลยล่ะ

หากพบเบเฮมอธเอียนคงพยายามอย่างหนักในการฟักไข่

แม้ว่าการล่าจะเป็นงานที่ยากลำบาก แต่เอียนก็ต้องทำเพื่อรวบรวมวิญญาณ

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เอียนสับสนอย่างมาก

“ไม่ว่าผมจะมองไปทางไหนในอาณาจักรปีศาจผมก็ไม่เจอเบเฮมอธเลย แล้วผมควรจะทำยังไงดี?”

เป็นครั้งแรกที่กริปเปอร์ขมวดคิ้วในบทสนทนาเช่นนี้

“อืม… ถึงแม้ว่าอสูรเวทย์มนตร์ดึกดำบรรพ์จะเป็นมอนสเตอร์ที่หายาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีอยู่จริง”

“…แล้วถ้าทำไม่ได้ มีวิธีอื่นอีกไหมครับ?”

กริปเปอร์หลับตาและครุ่นคิดสักพัก

เอียนกำลังรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นกริปเปอร์ก็เบิกตาเหี่ยวย่นของเขา

“มีวิธีสิ”

“เอ่อ… เป็นแบบไหนครับ?”

เอียนกระตือรือร้นและลุกขึ้นยืน ทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากัน

และกริปเปอร์พูดว่า

“เจ้าต้องตรงไปที่ปรโลกและค้นหาวิญญาณของเบเฮมอธที่หลงอยู่ที่นั่น พูดง่ายๆก็คือเจ้าต้องนำวิญญาณของเบเฮมอธไปอยู่ในตราประทับจากนรกโดยตรง”

คราวนี้เป็นการแสดงออกของเอียนที่บิดเบี้ยว