เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 467
ทันใดนั้น สีหน้าของเสวี่ยบาชะงักไป ในแววตาทั้งสองข้างของเขา เต็มไปด้วยความงุนงง

ลูกไฟขนาดใหญ่พร้อมกับดาบหัวผีในมือเขา ร่วงลงพื้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ลู่ฝานกับเสวี่ยบาโดนโจมตีพร้อมกัน กระแทกลงบนพื้นอย่างแรง

“พี่ใหญ่!”

ซานเจียวยันตะโกนอย่างตกใจ

เดิมทีควรเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีปัญหาอะไร ทำไมตอนนี้ถึงอยู่ในสภาพนี้

ดูเหมือนสถานการณ์ผิดปกติแล้ว

“อ๊าก!”

เสวี่ยบาร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดอยู่ในลูกไฟ สะบัดดาบหัวผีฟันไปทางลู่ฝาน

โจมตีไปสิบกว่าดาบ ลู่ฝานไม่สามารถหลบได้ แต่ตอนที่เสวี่ยบาใช้กระบวนท่า ลู่ฝานใช้วิชาชิงวิญญาณออกมาอีกครั้ง

ครั้งนี้ลู่ฝานสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของเสวี่ยบา โดนเขาโจมตีจนเป็นรอยแยก ในหัวของเสวี่ยบามีควันขาวลอยขึ้นมา เหมือนเปลวไฟแผดเผาเข้าไปในหัวของเขา

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ลูกไฟอันน่ากลัวระเบิดอย่างต่อเนื่อง เสียงดังขึ้นสิบกว่าครั้งจึงหยุดลง

ลู่ฝานกับเสวี่ยบานอนอยู่บนพื้น ลู่ฝานเลือดเต็มตัว เกราะเกล็ดมังกรบนตัวพังเสียหาย ไม่รู้ต้องใช้ปราณชี่ฟื้นฟูนานแค่ไหนจึงจะกลับเป็นเหมือนเดิม

ดูเหมือนเสวี่ยบาไม่ค่อยเป็นอะไรมาก แค่ด้านหลังโดนเผาจนแดงเถือก มีควันดำลอยขึ้นมา มีกลิ่นเนื้อย่างลอยออกมาเล็กน้อย

แต่สิ่งสำคัญคือหัวของเขา เสวี่ยบากุมหัวตัวเอง ร้องอย่างเจ็บปวดสุดชีวิต

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้ซานเจียวยันกับเสี่ยวอู่ช็อกไปเลย

การเป็นหัวหน้านักฆ่าชั้นยอดของสำนักโลหิตพิฆาต ไม่ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บอะไร ถึงแขนขาขาด เสวี่ยบาก็ไม่ขมวดคิ้ว

แต่ตอนนี้เหมือนเสวี่ยบากำลังจะตาย ร้องโอดครวญเหมือนหมูถูกเชือด รู้เลยว่าเขาบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน

ครั้งนี้ซานเจียวยันไม่สนใจคนอื่น พุ่งเข้าไปหาเสวี่ยบาทันที

นักฆ่าของสำนักโลหิตพิฆาตประคองเสวี่ยบาขึ้นมา และใส่พลังปราณเข้าไปในตัวเสวี่ยบา

เสวี่ยบาจับหัวตัวเอง เหงื่อไหลออกจากหน้าผากเป็นหยดๆ

ความเจ็บปวดแบบนี้ยากจะอธิบาย เหมือนมีกรรไกรแยกหัวสมองเขาออกทีละนิ้ว เสวี่ยบามองลู่ฝานด้วยแววตาอาฆาต

ส่วนตอนนี้ลู่ฝานลุกขึ้นมาช้าๆ

“แค่กๆ!”

ลู่ฝานกระอักเลือดลงบนพื้น ถึงมีเจดีย์เสวียนเก้ามังกรช่วยฟื้นฟูบาดแผลให้เขาสุดกำลัง ตอนนี้เขาก็ยังบาดเจ็บสาหัส

“ผ่านไปแล้วสิบกระบวนท่า พวกนายไปได้แล้ว!”

ลู่ฝานพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ทุกคำที่พูด เขารู้สึกเจ็บที่ท้องเหมือนโดนไฟเผา

เขาสบประมาทพลังธาตุไฟขั้นสูงสุด ผู้แข็งแกร่งแดนปราณชีวิตชั้นหกแท้จริง แข็งแกร่งจนน่ากลัวตามคาด ตอนนี้เขาไม่สามารถจัดการได้

ยังดีที่เขาได้เรียนวิชาชิงวิญญาณจากอาจารย์หวูเฉิน โจมตีศัตรูอย่างรุนแรงจนคาดไม่ถึง ไม่งั้นเขาต้องน่าเวทนายิ่งกว่านี้แน่นอน

“นายทำอะไรฉันกันแน่”

เสวี่ยบาจับหัวตัวเองแล้วเอ่ยขึ้น เหมือนเขาไม่ได้ยินที่ลู่ฝานพูดว่าผ่านไปแล้วสิบกระบวนท่า เอาแต่ถามเสียงดังใส่ลู่ฝาน

ลู่ฝานตอบอย่างราบเรียบว่า “เคล็ดวิชาคลื่นเสียงเท่านั้น นายไม่น่าจะไม่รู้”

แน่นอนว่าลู่ฝานบอกไม่ได้ว่านั่นเป็นวิชาชั่วร้ายวิชาชิงวิญญาณ จึงบอกไปว่าเป็นเคล็ดวิชาคลื่นเสียง เพราะรูปแบบการโจมตีของทั้งสองวิชาไม่ต่างกันมากนัก ล้วนโจมตีอวัยวะภายในของร่างกาย คนทั่วไปก็แยกแยะไม่ออก

เสวี่ยบาตะโกนออกมาว่า “เป็นไปไม่ได้ นักบู๊แดนปราณนอกธรรมดาๆ ถึงใช้วิชาอสูรเข้าสิง ก็ไม่สามารถใช้เคล็ดวิชาคลื่นเสียงทำร้ายฉันได้ ไอ้เด็กน้อย นายอย่ามาหลอกฉัน นายใช้วิชานอกรีดอะไร รีบพูดออกมา!”