บทที่ 1273 วิญญาณความใคร่

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1273 วิญญาณความใคร่ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนถือวิญญาณที่เหมือนแมงกะพรุนเอาไว้ในมือและมองมัน

ในเวลาต่อมาดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น

วิญญาณอมตะ!

แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นวิญญาณอมตะระดับใด

เพราะแม่น้ำหวนคืนไม่สามารถใช้วิญญาณ วิญญาณที่ตกลงสู่แม่น้ำหวนคืนจะถูกผนึกและไม่สามารถตวรจสอบกลิ่นอายของพวกมัน

เมื่อไป่เฉินเทียนเตือน ฟางหยวนจึงตระหนักได้ว่ามันคือวิญญาณ

หากมันไม่ได้อยู่ในแม่น้ำหวนคืน กลิ่นอายของมันจะรั่วไหลออกมา ฟางหยวนจะสามารถตรวจสอบมันจากระยะไกล

แต่มันจะเป็นวิญญาณชนิดใด นั่นขึ้นอยู่กับความรู้ของผู้อมตะ

‘วิญญาณอมตะดวงนี้ดูเหมือนจะเป็น…วิญญาณความใคร่?’ ฟางหยวนมีความรู้กว้างขวาง หลังจากเห็นวิญญาณดวงนี้ เขาสามารถคาดเดาได้ว่ามันคือสิ่งใด

เส้นทางแห่งปัญญาประกอบด้วยความคิด เจตจำนง และอารมณ์ความรู้สึก

เมื่อมีความรัก ย่อมมีความใคร่

เมื่อวิญญาณแห่งความรักปรากฏ วิญญาณความใคร่ก็มาเยือนเช่นกัน

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาตระหนักถึงความจริง

ไป่เฉินเทียนระงับความร้อนใจและป้องหมัดกล่าว “สหาย วิญญาณดวงนี้เป็นของภาคกลาง เหตุใดเจ้าไม่มอบมันให้ข้า หากเจ้ามอบมันให้ข้า เจ้าจะได้รับมิตรภาพจากภาคกลาง”

ฟางหยวนหรี่ตามอง “ข้ารู้ แต่นี่คือวิญญาณชนิดใด? เจ้าต้องบอกข้ามาก่อน”

ไป่เฉินเทียนตอบ “มันคือวิญญาณความใคร่บนเส้นทางแห่งปัญญา”

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาหายากมาก ไป่เฉินเทียนเน้นย้ำว่ามันเป็นวิญญาณความใคร่บนเส้นทางแห่งปัญญาเพราะเขาคิดว่าฟางหยวนไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา วิญญาณความใคร่ไม่มีประโยชน์ต่อผู้อมตะส่วนใหญ่

การแบกมันไว้เป็นเพียงภาระเท่านั้น

เพราะเหตุใด?

โดยปกติแล้วผู้อมตะมักใช้เจตจำนงช่วยทำธุระเช่นการประชุมในองค์กรหรือใช้มันซื้อขายสินค้าในสวรรค์สีเหลือง

แต่วิญญาณระดับมนุษย์สามารถบรรลุเป้าหมายนี้

ไม่จำเป็นต้องใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเช่นวิญญาณความใคร่

นอกจากนั้นการใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางที่แตกต่างจะทำให้ประสิทธิภาพของมันต่ำลง ในเวลาเดียวกันมันยังเป็นเรื่องยากที่ผู้อมตะบนเส้นทางสายอื่นจะใช้วิญญาณความใคร่เพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะ

เว้นเพียงพวกเขาจะมีวิธีการพิเศษบางอย่างหรือท่าไม้ตายที่จำเป็นต้องใช้วิญญาณความใคร่โดยเฉพาะ

ไม่ใช่วิญญาณอมตะทุกดวงที่ผู้คนจะต้องการ

มีเพียงวิญญาณอมตะที่เหมาะสมกับตนเองเท่านั้นจึงจะมีคุณค่าสำหรับพวกเขา

แต่ไป่เฉินเทียนไม่คิดว่าฟางหยวนจะเป็นคนพิเศษ

ประการแรก เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา บุคคลเช่นนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

ประการที่สอง ร่างทารกอมตะของฟางหยวนไม่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งระหว่างพลังงานแห่งเต๋า เขาสามารถบ่มเพาะได้ทุกเส้นทาง

ประการสุดท้าย ฟางหยวนรู้สึกไม่สบายใจมาตลอด เพราะกระทั่งเขาจะมีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่เขายังขาดแคลนวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

ดังนั้นวิญญาณความใคร่จึงมีความสำคัญมากสำหรับฟางหยวน

ด้วยเหตุนี้เขาจึงเก็บมันไว้ในกระเป๋าของตนเอง

ในแม่น้ำหวนคืน ผู้อมตะไม่สามารถเปิดมิติช่องว่างของตน พวกเขาต้องพกวิญญาณอมตะไว้กับตัวเท่านั้น

หัวใจของไป่เฉินเทียนจมดิ่งลงเมื่อเห็นสิ่งนี้ เขากล่าวด้วยความกังวล “สหาย นำวิญญาณอมตะออกมา เราไม่ใช่ศัตรู เราสามารถทำธุรกรรม!”

ฟางหยวนมองไป่เฉินเทียนและกล่าว “เราสามารถทำธุรกรรมแต่ไม่ใช่ที่นี่”