บทที่ 1274 การต่อสู้ในแม่น้ำ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1274 การต่อสู้ในแม่น้ำ

แปลโดย iPAT

หากเป็นไปได้ ฟางหยวนต้องการใช้วิญญาณความใคร่แลกกับวิญญาณอมตะที่เหมาะสมกับเขามากกว่า

แต่ในแม่น้ำหวนคืน การทำธุรกรรมเป็นไปไม่ได้

เนื่องจากที่นี่ไม่สามารถใช้วิญญาณ วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อนุญาตให้ทั้งสองทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนจึงไม่สามารถใช้ได้เช่นกัน

ฟางหยวนต้องการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะ แต่ไป่เฉินเทียนไม่สามารถนำวิญญาณอมตะออกมาได้ เนื่องจากวิญญาณเหล่านั้นกำลังจำศีลอยู่ เขาไม่สามารถเรียกพวกมันออกมาแม้พวกมันจะอยู่บนร่างกายของเขาก็ตาม

ดังนั้นไป่เฉินเทียนจึงไม่มีสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนต่อรอง

ไป่เฉินเทียนเข้าใจความกังวลของฟางหยวนแต่เขาจะทิ้งโอกาสนี้และรออนาคตที่ไม่แน่นอนได้อย่างไร?

ผู้ใดจะรู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นในอนาคต

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะหายไปแล้ว คฤหาสน์วิญญาณอมตะค่ายนักรบถูกทำลายเช่นกัน หากกลุ่มผู้อมตะภาคกลางต้องต่อสู้อีกครั้ง พวกเขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ผู้อมตะภาคกลางแทบไม่สามารถป้องกันตัว ในเวลาที่พวกเขาหลุดออกจากแม่น้ำหวนคืน พวกเขายังจะสามารถรั้นรออยู่และไม่หลบหนีทันทีได้งั้นหรือ?

เขาไม่มีโอกาสทำธุรกรรมกับฟางหยวนในอนาคต

หากพวกเขาไม่ทำธุรกรรมในตอนนี้ แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร?

ฟางหยวนเป็นผู้อมตะของภาคเหนือขณะที่ไป่เฉินเทียนเป็นผู้อมตะภาคกลาง กระทั่งในสวรรค์สีเหลือง ผู้อมตะภาคกลางก็ไม่สามารถออกคำสั่งผู้อมตะภูมิภาคอื่น

จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากฟางหยวนทำธุรกรรมกับคนอื่น? จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเขาขึ้นราคาในระดับที่ไร้สาระ

มีสถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าที่เป็นไปได้อีกมากมาย

ไป่เฉินเทียนเป็นคนมองการณ์ไกล เขาจะพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายเสมอ ดังนั้นหากเขาไม่สามารถโน้มน้าวให้ฟางหยวนมอบวิญญาณอมตะ เขาก็ต้องฆ่าฟางหยวน

‘ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปด แม้ข้าจะไม่สามารถใช้วิญญาณ แต่ด้วยรากฐานของข้า ข้าจะแพ้ผู้อมตะระดับเจ็ดได้อย่างไร?’

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ไป่เฉินเทียนก็กระโดดลงไปในแม่น้ำและว่ายเข้าไปหาฟางหยวนทันที

ในเวลานี้ความเกลียดชังของเขาเห็นได้ชัดมาก

ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายในและพุ่งเข้าหาไป่เฉินเทียนอย่างไม่เกรงกลัว

ไป่เฉินเทียนเห็นสิ่งนี้และรู้สึกมีความสุข ‘ผู้อมตะภาคเหนือบ้าการต่อสู้และไร้สมองจริงๆ!’

ทั้งสองมีร่างกายที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นพวกเขาจึงพบกันตรงกลางแม่น้ำอย่างรวดเร็ว

“บึม บึม บึม”

ฟางหยวนยกกำปั้นขึ้นและชกไป่เฉินเทียนสามครั้ง

ไป่เฉินเทียนเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งไม้ เขามีความแข็งแกร่งและสายตาที่ดี นี่ทำให้เขาสามารถป้องกันการโจมตีทั้งสามครั้งของฟางหยวน

แต่เขายังตกใจมาก ‘คนผู้นี้ยังดูเด็กมาก แต่เขากลับแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? เขาบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่งงั้นหรือ?’

ไป่เฉินเทียนรู้สึกแขนชาขณะป้องกันการโจมตีของฟางหยวน แต่ในขณะที่เขาตกใจ เขายังตอบโต้ด้วยมืออีกข้าง

ทั้งสองชกต่อยกันกลางแม่น้ำ

ร่างกายทุกส่วนของฟางหยวนล้วนเป็นอาวุธ เขาใช้ทั้งศีรษะ เข่า ข้อศอก และทุกอย่างที่โจมตีได้

อย่างไรก็ตามไป่เฉินเทียนมีรากฐานที่ไม่น่าเชื่อ ดังนั้นเขาจึงสามารถต่อสู้ระยะประชิดกับฟางหยวนได้อย่างเท่าเทียม

สำหรับฟางหยวน แม้เขาจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เขาเผชิญหน้ากับการต่อสู้แห่งชีวิตและความตายมาตลอด เขาคุ้นเคยกับการต่อสู้ลักษณะนี้เป็นอย่างดี

ทั้งสองต่อสู้กันในน้ำ บางครั้งพวกเขาก็โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและสูดหายใจอย่างหนักหน่วง

พลังงานส่วนใหญ่ของพวกเขาหมดไปกับการว่ายน้ำ

ระหว่างการต่อสู้ของพวกเขา สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความยากลำบาก

บางครั้งท่อนซุงหรือสัตว์ป่าจะลอยมาและบังคับให้พวกเขาหลบเลี่ยงพวกมัน

ผลที่ตามมาคือหลังจากต่อสู้หลายสิบรอบ พวกเขายังไม่สามารถทำสิ่งใดฝ่ายตรงข้าม

‘ผู้อมตะระดับแปดมีรากฐานที่ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง ข้าต้องการฆ่าเขาในแม่น้ำหวนคืน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้’ ฟางหยวนคิด

แต่ไป่เฉินเทียนยิ่งตกใจมากกว่า

‘เป็นไปได้อย่างไร? คนผู้นี้สามารถต่อสู้ได้อย่างเท่าเทียมกับข้า!’

‘ข้าเคยใช้วิญญาณอมตะอสรพิษไพรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายมาก่อน’

‘ข้ายังใช้ท่าไม้ตายอมตะเกราะไม้เพื่อสลักร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าไว้บนร่างกาย ร่างกายของข้ามีการป้องกันที่แข็งแกร่งมาก’

‘นอกจากนั้นข้ายังเปลี่ยนหัวใจของข้าให้เป็นหัวใจไม้และเปลี่ยนเส้นเลือดให้เป็นเลือดสีเขียว พวกมันทำให้ร่างกายของข้าสามารถรักษาตัวมันเอง’

‘ข้าเป็นผู้อมตะระดับแปดที่ผ่านภัยพิบัติมาแล้วนับมากมาย ข้ามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋านับไม่ถ้วน ข้าต้องชนะผู้อมตะระดับเจ็ดอย่างแน่นอน’

‘แต่เหตุใดเขาจึงต่อสู้กับข้าได้อย่างเท่าเทียม!?’

ไป่เฉินเทียนมองฟางหยวนราวกับเห็นสัตว์ประหลาด

ฟางหยวนอาจมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าไม่เท่าผู้อมตะระดับแปดไป่เฉินเทียน แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของเขาก็เหนือกว่าผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่ไปแล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดคือร่างทารกอมตะ

เพราะร่างทารกอมตะถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณอมตะ แล้วร่างมนุษย์ธรรมดาจะสามารถเปรียบเทียบกับร่างทารกอมตะได้อย่างไร?

กล่าวได้ว่าฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์แบบและเป็นหนึ่งในเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ฟางหยวนสามารถต่อสู้กับไป่เฉินเทียนได้อย่างเท่าเทียม

ฟางหยวนตัดสินใจล่าถอย

แม้เขาจะไม่แพ้ แต่เป้าหมายของเขาคือการสังหารอิงอู๋เซี่ยไม่ใช่ไป่เฉินเทียน

ก่อนหน้านี้เขาสู้กับไป่เฉินเทียนเพราะต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองและดูว่าเขาสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดในแม่น้ำหวนคืนหรือไม่

แต่ความจริงก็คือฟางหยวนมองโลกในแง่ดีมากเกินไป

เขาไม่สามารถทำสิ่งใดไป่เฉินเทีน ดังนั้นเขาจึงต้องยอมแพ้ เขาไม่ต้องการให้ไป่เฉินเทียนเป็นสิ่งกีดขวางในการบรรลุเป้าหมายหลักของเขา

ฟางหยวนต้องการจากไปแต่ไป่เฉินเทียนไม่อนุญาต

หลังจากทั้งหมดวิญญาณความใคร่ยังอยู่กับฟางหยวน

‘แม้จะไม่สามารถเอาชนะ ข้าก็ต้องเก็บเขาไว้ที่นี่ เมื่อพรรคพวกของข้ามาถึง เราจะปิดล้อมเขา ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาหลบหนี!’

‘บัดซบ! ชายผู้นี้ช่างน่ารำคาญนัก!’ ฟางหยวนขมวดคิ้ว

เขาต้องการล่าถอยแต่ความเร็วและความแข็งแกร่งของไป่เฉินเทียนไม่ด้อยกว้าเขา แม้ฟางหยวนจะต้องการจากไป แต่ไป่เฉินเทียนยังพยายามขัดขวาง

สิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อแผนการของฟางหยวน

“หากเป็นเช่นนี้ก็อย่าโทษว่าข้าโหดเหี้ยม!” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นเยียบ

ฟางหยวนหันหลังกลับมาต่อสู้อีกครั้ง

ทั้งสองต่อสู้ด้วยหมัดและเท้า ในช่วงเวลาสำคัญฟางหยวนยื่นวิญญาณความใคร่ออกไปข้างหน้า

ไป่เฉินเทียนต้องการชกลำตัวของฟางหยวนเพื่อทำให้ฟางหยวนสูดเสียอากาศและต้องขึ้นไปสูดหายใจบนผิวน้ำ

นี่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการต่อสู้ใต้น้ำ

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับนำวิญญาณความใคร่ออกมาและยื่นมันไปที่หมัดของไป่เฉินเทียนอย่างกะทันหัน

ไป่เฉินเทียนตกใจมาก เขารีบดึงกำปั้นกลับไปและเผยจุดอ่อนออกมาทันที

ฟางหยวนลอบหัวเราะเสียงเย็นอยู่ภายใน เขาฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าโจมตีไป่เฉินเทียน

เมื่อไป่เฉินเทียนต้องการโจมตีอีกครั้ง ฟางหยวนก็ส่งวิญญาณความใคร่ออกมาอีกหนและทำให้ไป่เฉินเทียนไม่สามารถโจมตี

ฟางหยวนใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ชิงความได้เปรียบและเตะไปที่หน้าท้องของฝ่ายตรงข้าม

ไป่เฉินเทียนพ่นอากาศออกจากปาก นี่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนกลยุทธ์และพยายามหนีขึ้นสู่ผิวน้ำ

แต่ฟางหยวนไม่อนุญาตให้ไป่เฉินเทียนทำเช่นนั้น เขายื่นมือออกไปราวกับคีบเหล็กและจับตัวไป่เฉินเทียนเอาไว้

ไป่เฉินเทียนบิดเอวและพยายามดิ้นรนหลบหนีอย่างยากลำบาก สุดท้ายเขาจึงระเบิดพลังออกมาทำให้แขนของฟางหยวนหลุดออก

ฟางหยวนลอบยกย่องการเคลื่อนไหวนี้ของเขาอยู่ในใจ

ไป่เฉินเทียนเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาไม่มีจุดอ่อนในแง่ของการต่อสู้ใต้น้ำ กล่าวตามตรงเขายังเหนือกว่าฟางหยวนเล็กน้อย

สิ่งที่ต้องกล่าวถึงก็คือฟางหยวนเคยอาศัยอยู่ในทะเลตะวันออกมาเป็นเวลานานในชีวิตแรกของเขา เขามีความเชี่ยวชาญในการว่ายน้ำและการต่อสู้ใต้น้ำ

แต่ไป่เฉินเทียนยังเหนือกว่าเขา!