บทที่ 185 งานประมูลการกุศล

รักหวานอมเปรี้ยว

ดังนั้นคนที่ผิดคือใคร มองดูครั้งเดียวก็รู้

จะต้องให้เปปเปอร์รับผิดชอบมายมิ้นท์ให้ได้ เรื่องอะไรจะให้มายมิ้นท์ทุกข์ทรมานคนเดียว !

ขณะที่คิด ทามทอยก็โทรศัพท์หาเปปเปอร์ด้วยสีหน้าที่เย็นชา

ในเวลานี้เปปเปอร์กำลังขับรถอยู่ เตรียมที่จะส่งส้มเปรี้ยวกลับไปยังตระกูลภักดีพิศุทธิ์

เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขาก็ใส่หูฟังบลูทูธ“ใคร?”

“ผมเอง!”ทามทอยตอบอย่างเสียงดัง

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว“มีเรื่องอะไร?”

ขณะที่ทามทอยกำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆก็ได้ยินเสียงออดอ้อนดังออกมาจากข้างกายเขา“เปปเปอร์ ใครเหรอ?”

“เปปเปอร์ ส้มเปรี้ยวอยู่ข้างๆคุณเหรอ?”ทามทอยถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หางตาของเปปเปอร์มองไปยังส้มเปรี้ยวที่นั่งอยู่บริเวณเบาะข้างคนขับ พร้อมอึมอย่างราบเฉย

“งั้นก็ช่างเถอะ อีกสักพักค่อยคุยก็แล้วกัน รอส้มเปรี้ยวไม่อยู่แล้ว คุณก็โทรหาผมแล้วกันนะ”

เมื่อพูดจบ ทามทอยก็วางสายโทรศัพท์ลง

เปปเปอร์หรี่ตาลง

จู่ๆทามทอยก็โทรศัพท์มาหา เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับเขา แต่กลับหลบหลีกส้มเปรี้ยว

ดูเหมือนว่าเรื่องที่ต้องการพูดนี้ ถ้าไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจก็คงเกี่ยวกับมายมิ้นท์

“เปปเปอร์ เมื่อกี้นี้ใครโทรมาเหรอคะ?”เมื่อส้มเปรี้ยวเห็นชายหนุ่มก้มหน้าไม่พูดไม่จาจึงถามขึ้นด้วยความประหลาดใจหนึ่งประโยค

แววตาของชายหนุ่มกระพริบเล็กน้อย“ทามทอย โทรหาผมเพื่อคุยธุระทางธุรกิจ”

“อ่อ”ส้มเปรี้ยวพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไร“ใช่แล้ว เปปเปอร์ อีกไม่กี่วันจะมีการประมูลการกุศุลคุณจะไปไหมคะ?”

“แน่นอนท่านธนวัฒน์เป็นเพื่อนสนิทของคุณปู่ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ร่างกายของคุณย่ายังฟื้นฟูได้ไม่ค่อยดีนักไม่สามารถไปได้ ผมต้องไปแทนหล่อน”เปปเปอร์หมุนทิศทางพวงมาลัยพลางตอบกลับ

ส้มเปรี้ยวปรบมือ“ดีจังเลยค่ะ ถึงเวลานั้นฉันก็จะไปกับคุณพ่อคุณแม่เหมือนกันค่ะ แต่ว่าฉันยังไม่มีชุดราตรีเลย เปปเปอร์พรุ่งนี้คุณไปเป็นเพื่อนฉันซื้อชุดราตรีหน่อยได้ไหมคะ?”

หล่อนมองไปที่เขาอย่างมีความหวัง

สายตาของเปปเปอร์เผยความรู้สึกขอโทษออกมา“ต้องขอโทษด้วยนะครับส้มเปรี้ยว พรุ่งนี้มีนักลงทุนมาจากต่างประเทศ ผมไม่สามารถไปเป็นเพื่อนคุณได้ เดี๋ยวผมจะให้เลขาไปเป็นเพื่อนคุณสองคนนะครับ ”

“ไม่ต้องค่ะ”ส้มเปรี้ยวก้มหน้าอย่างไม่พอใจเล็กน้อย“ฉันให้ผิงไปเป็นเพื่อนฉันก็ได้ค่ะ”

ไม่นานก็มาถึงตระกูลภักดีพิศุทธิ์

เปปเปอร์จำได้ว่าต้องโทรกลับหาทามทอย จึงปฏิเสธที่จะรับประทานอาหารเย็นที่คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เชื้อเชิญ ขับรถกลับบริษัทตระกูลนวบดินทร์

เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน เขาถอดเนคไท้พลางหยิบโทรศัพท์ออกมา และโทรศัพท์กลับหาทามทอย

ทามทอยตั้งตารอโทรศัพท์ของเขา เมื่อเห็นโทรศัพท์ดังขึ้น ก็รีบรับสาย“ส้มเปรี้ยวไปแล้วเหรอครับ?”

เปปเปอร์ อึม หนึ่งที“คุณอยากจะคุยอะไรกันแน่?”

“ผมอยากจะบอกคุณเรื่องที่มายมิ้นท์ท้อง”ทามทอยตอบกลับ

เปปเปอร์หรี่ตาครู่หนึ่ง

ที่แท้ที่หลบหลีกส้มเปรี้ยว ไม่ใช่เรื่องธุรกิจแต่ต้องการพูดเรื่องมายมิ้นท์

“มายมิ้นท์เป็นอะไรเหรอครับ?”เปปเปอร์เม้มริมฝีปากพลางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม น้ำเสียงเผยความเป็นห่วงออกมา

ทามทอยฟังออก แต่ไม่เปิดโปง ทำทีเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ตอนนี้เปปเปอร์ยังไม่กระจ่างชัดถึงความรู้สึกที่ตนมีต่อมายมิ้นท์

หากเขาเปิดโปงว่าเปปเปอร์เป็นห่วงมายมิ้นท์มาก เดี๋ยวเปปเปอร์อาจจะรู้ถึงความรู้สึกที่ตนมีต่อมายมิ้นท์เร็วขึ้น

เมื่อถึงเวลานั้น หนทางในการจีบมายมิ้นท์ของเขาก็จะเจออุปสรรคไม่น้อยเลย

“เธอไม่ได้เป็นอะไร แต่เธอวางแผนจะทำแท้ง”ทามทอยตอบพลางนอนอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์

สีหน้าของเปปเปอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย“เอาเด็กออก?”

“ใช่แล้ว”

“คุณรู้ได้ยังไง?”มือของเปปเปอร์กำโทรศัพท์แน่นมาก

ทามทอยยักไหล่“แน่นอนว่าเธอบอกผมกับปากของเธอเอง”

บอกด้วยปากของเธอเอง……

ริมฝีปากของเปปเปอร์เม้มจนเป็นเส้นตรง สีหน้าไม่ค่อยดีนัก ในใจมีความรู้สึกโกรธและหงุดหงิดประทุขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เขาเป็นพ่อของเด็กแท้ๆ สุดท้ายแล้วลูกของตนจะอยู่หรือตายก็ต้องมาได้ยินจากปากของคนอื่น

“เปปเปอร์ คุณยังอยู่ไหม?”เมื่อทามทอยพบว่าคู่สนทนาไม่มีการตอบกลับ จึงเอ่ยปากตะโกนขึ้นมาหนึ่งประโยค

เปปเปอร์หดเปลือกตาลงมา พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“มายมิ้นท์บอกคุณเมื่อไหร่ว่า เธอวางแผน……วางแผนเอาเด็กออก?”

เมื่อพูดเอาเด็กออกคำนี้ เขาชะงักลงครู่หนึ่ง ในใจรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย

แม้ว่าเขาจะทำใจไว้แล้วว่า มายมิ้นท์อาจจะไม่ต้องการเด็กคนนั้น

แต่ว่าพอได้ยินเข้าจริงๆ ในใจก็รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก

“สองวันแล้วครับ”ทามทอยปัดผมหน้าพลางตอบ

ลมหายใจรอบกายของเปปเปอร์ลดลงต่ำอย่างกะทันหัน “แล้วคุณเพิ่งจะมาบอกผมตอนนี้?”

“ก็ผมลืมหนิ?”ทามทอยยักไหล่พลางยิ้ม“อีกอย่างผมก็คิดว่ามายมิ้นท์จะบอกคุณ แต่พอถามเธอเมื่อกี้นี้ถึงรู้ว่าเธอไม่ได้บอกคุณ”

เปปเปอร์รับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่โอ้อวดของเขา ลมหายใจรอบกายของเขาก็ลดลงต่ำมากขึ้น

“แล้ววันนี้คุณโทรหาผมคุณต้องการอะไร?”น้ำเสียงของเปปเปอร์ถามขึ้นอย่างไม่ค่อยดีนัก

ทามทอยรู้ดีว่าเขาหึงก็เลยโกรธ ริมฝีปากงุ้มขึ้น“ที่ผมโทรมา ก็เพราะต้องการบอกคุณว่า มายมิ้นท์จะผ่าตัดอีกสองวัน คุณก็ควรรับผิดชอบหน่อยใช่ไหม”

เมื่อการสนทนาสิ้นสุดลง เปปเปอร์ขมวดคิ้วเป็นรูปตัวชวน

การผ่าตัดในอีกสองวันต่อมา……

มายมิ้นท์ไม่ยอมบอกเขาว่าจะเอาเด็กออกก็แย่อยู่แล้ว แม้แต่จะเอาออกวันไหนก็กลับไม่ยอมบอกเขาอีก

สีหน้าดำคล้ำของเปปเปอร์กดเข้าไปในวีแชทของมายมิ้นท์

เทนเดอร์กรุ๊ป

มายมิ้นท์ยังคงกำลังจัดการกับเอกสารอยู่ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่น จึงหยิบขึ้นมาดูครู่หนึ่ง

เมื่อเห็นZ-Hส่งข้อความมา สันหลังของเธอก็ยืดตรงครู่หนึ่ง กดแล้วอ่านข้อความ :คุณวางแผนจะทำแท้

เหรอครับ?

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง:คุณรู้ได้ยังไง?

Z-H:ทามทอยบอกผม

พริบตาเดียวมายมิ้นท์ก็นึกถึงโทรศัพท์ของทามทอยเมื่อสักครู่นี้ ในใจพลิกตาขาวขึ้น

คนปากมาก!

หลังจากถอนหายใจ มายมิ้นท์ก็พิมพ์ข้อความ:ใช่ ฉันวางแผนเอาเด็กออก

Z-H:ทำไมไม่บอกผม?

มายมิ้นท์กัดริมฝีปาก:ไม่มีความจำเป็น ไม่ใช่เหรอคะ?

Z-H:แต่ว่าผมเป็นพ่อของเด็ก

มายมิ้นท์:แล้วยังไงเหรอคะ?ถ้าบอกคุณ คุณก็เห็นด้วยอยู่แล้ว แล้วฉันจะต้องทำให้ยุ่งยากทำไม ก็แค่เอาเขาออกเลยจะดีกว่า?

เมื่อเปปเปอร์เห็นมายมิ้นท์ตอบกลับ ใบหน้าหล่อเหลาก็ขรึมลง

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง

เขาไม่ต้องการเด็กคนนั้น การเอาเด็กออก แน่นอนว่าเขาต้องเห็นด้วย ดังนั้นจะบอกหรือไม่บอกเขาก็ไม่สำคัญ แต่ว่า……

นิ้วมือเรียวยาวของเปปเปอร์พิมพ์ตัวอักษร:ผมเคยพูดว่า ไม่ว่าคุณจะอยากเอาเด็กไว้หรือไม่ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง

มายมิ้นท์:ไม่ต้องหรอกค่ะ ก็เอาแบบนี้ล่ะกัน ต่อไปไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก

เมื่อส่งออกไป เธอก็ออกจากวีแชททันที แม้ว่าหลังจากนี้จะส่งข้อความอะไรมา เธอก็ไม่ได้ดูอีก

เมื่อเปปเปอร์เห็นว่าข้อความที่ตนส่งไปหลังจากนี้ ไม่มีการตอบกลับมาเลย ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหนื่อยล้า

เขาอยากจะบอกกับเธอต่อหน้าว่า อย่าดื้อรั้นอย่างนี้ได้ไหม

แต่ว่าไม่ได้ หากทำเช่นนั้นสถานะของเขาก็จะถูกเปิดเผย

“เหมันตร์”เปปเปอร์ขมวดคิ้วพลางตะโกนเรียก

ผู้ช่วยเหมันตร์ผลักประตูเข้ามา“ประธานเปปเปอร์ มีอะไรจะมอบหมายเหรอครับ?”

“ไปถามธนาคารสิว่า เทนเดอร์กรุ๊ปกู้เงินไปเท่าไหร่”เปปเปอร์เอ่ยปาก

แม้ว่าผู้ช่วยเหมันตร์จะคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้ารับปาก“ครับ”

อีกทางด้านหนึ่ง มายมิ้นท์วางโทรศัพท์ไปไม่นาน เลขาซินดี้ก็กลับมา ในมือถือการ์ดเชิญอยู่หนึ่งใบ “ประธานมายมิ้นท์ นี่คือการ์ดเชิญที่ตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์มอบให้กับท่าน”

“การ์ดเชิญอะไร?”มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้น รับการ์ดเชิญสีดำทองจากซินดี้

ซินดี้ตอบกลับว่า“เป็นการ์ดเชิญงานประมูลการกุศล ตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์เป็นตระกูลนักการกุศลที่มีชื่อเสียงในเมืองเดอะซี หลายปีมานี้มีความกระตือรือร้นที่จะปกป้องสัตว์ป่า ดังนั้นเงินที่ได้จากการประมูลการกุศลในครั้งนี้ ทั้งหมดจะนำไปปกป้องสัตว์ป่า”

“เป็นอย่างนี้นี่เอง”มายมิ้นท์พยักหน้า แสดงออกว่าเข้าใจแล้ว

ซินดี้มองไปที่เธอ“ประธานมายมิ้นท์ คุณวางแผนจะไปไหมคะ?หากต้องการจะไป ฉันจะได้จัดตารางงานวันนั้นใหม่อีกครั้ง”

“ต้องไปแน่นอน ถึงยังไงก็ต้องให้เกียรติตระกูลลิลิตประกายสิทธิ์ แต่ว่าฉันจำได้ว่างานประมูลการกุศล แขกที่ได้รับเชิญจะต้องบริจาคเพื่อประมูลสิ่งของใช่ไหม?”มายมิ้นท์ถาม