บทที่ 331 ลาก่อน เส้นหมี่

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

เขาตะโกนเสียงดังไปที่หูของชายหนุ่ม ขาดก็แต่หยิบขวดเหล้าที่อยู่ข้างๆร้านสะดวกซื้อมา แล้วฟาดศีรษะของชายหนุ่มแล้วเท่านั้น

เขาบ้าไปแล้วจริงๆ!

คนแบบนี้ ทำไมยังถูกปล่อยตัวออกมาอีก ? แล้วทำไมยังมีตำแหน่งที่สูงแบบนั้นได้อีก ? คนพวกนั้นตาบอดกันหรือไง ?

ตะโกนไปหลายครั้ง ในที่สุด ชายหนุ่มที่ภายในใจเต็มไปด้วยไอสังหาร สติก็ค่อยๆกลับคืนมา

ทันทีทันใด เขามองไปยังหญิงสาวที่อยู่ในกำมือ ตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ

“สวยใส คุณเป็นอะไรไหม?”

เมื่อคณาธิปเห็น ก็รีบใช้โอกาสนี้ช่วยเส้นหมี่ที่อยู่ในกำมือของผู้ชายที่คลุ้มคลั่งไว้ทันที

เมื่อเส้นหมี่ได้รับการช่วยเหลือ ก็ราวกับปลาที่ใกล้จะตาย ในที่สุดก็ถูกโยนลงน้ำไป กุมไปที่ลำคอของตัวเองสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดลึกๆ แม้แต่นิ้วมือของเธอ ก็ยังคงสั่นสะท้านไปด้วย

เมื่อครู่……เธอเกือบจะตายไปแล้วจริงๆ

“หม่ามี๊……”

หนูรินจังที่เห็นหม่ามี๊ได้รับการช่วยเหลือแล้ว ก็ร้องเรียกพร้อมสะอื้นไห้อยู่ในอ้อมแขนของแด๊ดดี้ไปด้วย

เมื่อคณาธิปเห็น ก็จะไปอุ้มตัวเด็กน้อยมา

แต่จู่ๆ แสนรักก็ราวกับได้สติกลับคืน เขาเห็นสองมือที่ยื่นมาที่เด็กน้อย ทันทีทันใด เขาที่อุ้มเธออยู่ก็เบี่ยงตัวหลบออกอย่างอัตโนมัติ

“คุณจะทำอะไร ?”

“ผมจะทำอะไร ? แสนรัก ผมกำลังช่วยลูกของคุณ คุณไม่รู้หรือไงว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ?หืม?”

ดวงตาของคณาธิปเย็นชา ในตอนนี้ เขาจ้องมาที่ผู้ชายคนนี้ แสดงความสงสารเวทนาออกมา

เส้นหมี่ที่ยังเอามือกุมหน้าอกอยู่ได้ยินเข้า ก็หันมองไปที่เขาทันที

คณาธิป“……”

“ช่วยลูกของผม ? พูดแบบนี้ ร่างกายผมเป็นอะไร คุณก็รู้ทุกอย่างงั้นเหรอ ? คณาธิป คุณเป็นใครกัน ? ทำไมคุณต้องโผล่มาทุกครั้งที่ผมกับเธอมีปัญหากันด้วย แล้วยังปูทางทุกอย่างเอาไว้ให้เธอสร็จสรรพ บอกผม ว่าคุณมีจุดประสงค์อะไร ? เพียงเพื่อต้องการเธอ ? หรือมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง ?”

ไม่คิดมาก่อนว่า จากอารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นของชายหนุ่มเมื่อครู่ กับคำพูดนี้ของคณาธิป ไม่ได้กระตุ้นต่อมใดๆของเขาเลย

ตรงกันข้าม เขากลับถามคำถามที่ใจเย็นและนิ่งสงบออกมา

กิริยาท่าทางของคณาธิปเปลี่ยนไปในทันที!

และเส้นหมี่เอง ก็มองไปที่เขาอีกครั้ง แต่ทว่า สายตาในครั้งนี้ ไม่ได้มีความไว้เนื้อเชื่อใจอีก แต่มีความช็อกเพิ่มเข้ามา

และความโกรธอย่างไม่น่าเชื่อ

คณาธิปเห็นมันชัดเจน ทันใดนั้น เขาก็ตื่นตระหนก “สวยใส คุณฟังผมอธิบายก่อน……”

“อธิบายอะไร ? อธิบายว่าคุณรู้จักเธออยู่แต่แรกแล้ว ? หรือจะอธิบายว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทคลาวน์โปรที่เข้าหาเธอ เพราะมีจุดประสงค์อยู่แต่แรกงั้นเหรอ ? คณาธิป คุณคิดจริงๆเหรอว่าเข้ามาทำลายเราสองคนแล้ว เธอก็จะไปกับคุณ?”

แสนรักพูดขัดเขาขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทีของเขาก็ดูจะยิ่งเสียดสีหนักมากขึ้น!

ใบหน้าคณาธิปซีดเผือดในทันที

เขาไม่คิดว่า สิ่งที่เขาเก็บซ่อนมานาน ในคืนนี้จะถูกผู้ชายคนนี้พูดออกมาจนหมดเปลือก ตั๊กแตนจับจักจั่นนกขมิ้นอยู่ด้านหลัง ดูเหมือนว่า เขาจะไม่เคยเป็นนกขมิ้นตัวนั้นเลย

“แสน-รัก!”

“ทำไม ? ยังไม่พอเหรอ ? หากยังไม่พอ จะให้พูดอีกก็ได้นะ ”

“พอได้แล้ว!”

ในที่สุดก็มีคนยุติการสนทนานี้

ทว่า คนคนนั้นไม่ใช่คณาธิป แต่เป็นเส้นหมี่ สายตาที่เย็นชาของเธอจ้องเขม็งมองไปยังชายทั้งสองคน เค้นคำนี้ลอดออกจากไรฟัน

แสนรักเงียบลงอย่างว่าง่าย

และคณาธิปเอง ก็รอรับการลงโทษด้วยหัวใจที่เหมือนเถ้าถ่าน

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าจะเริ่มมันจากตรงไหน เส้นหมี่ก็สมควรจะตัดขาดกับเขา แล้วกลับไปหาแสนรัก

แต่ว่า ที่ทำเอาทุกคนต่างประหลาดใจก็คือ หลังจากที่เส้นหมี่ตำหนิด้วยคำพูดนั้นจบ ถัดจากนั้น เธอก็หันมองไปที่คณาธิป“ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว”

คณาธิป“……”

ราวกับหัวใจที่แห้งเหี่ยว จู่ๆก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยักหน้าให้อย่างดีอกดีใจ หยิบสัมภาระที่วางอยู่ตรงพื้นขึ้นในทันที

ในทางกลับกัน ทางด้านแสนรัก ก็ถึงกับนิ่งอึ้งไป

หรือจะพูดว่า เขาไม่คิดว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้ จนสองคนนั้นได้ถือสัมภาระจากไปแล้ว เขาก็ยังยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่

จนเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนเห็นหม่ามี๊เดินจากไป ก็ดีดดิ้นไปมาอย่างรุนแรง“หม่ามี๊ หม่ามี๊——”

ทำไม ?

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ?

และแล้วเขาก็หลุดออกจากภวังค์ ในมืออุ้มเด็กน้อยและอารมณ์ก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ปรี่เข้าไปหาราวกับคนบ้า ยื่นมือไปคว้าตัวของหญิงสาวเอาไว้ ดึงกลับเข้ามาอย่างแรง

“ทำไม ? ที่ผมพูด……มันยังไม่ชัดเจนอีกหรือไง ?”

เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะควบคุมอารมณ์โมโหโทโสที่น่ากลัวนั้น ดวงตาแดงก่ำ ถามหญิงสาวออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ใบหน้าเส้นหมี่ขาวราวกับกระดาษ

เธอเห็นดวงตาที่แดงก่ำของเขา และเห็นริมฝีปากที่ซีดเซียวของเขา แต่ว่า เธอก็ยังคงรวบรวมความกล้าที่มี

“เพราะว่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกคุณพ่อลูกทำกับฉันแล้ว สิ่งที่เขาทำ ไม่ได้มีอะไรเลย แสนรัก หากต้องเทียบมันกับการที่ต้องมาบ้านแตกสาแหรกขาด สำหรับฉันเรื่องนี้มันเล็กน้อยแค่ไหนคุณรู้ไหม?”

“……”

ไม่มีเสียงใดๆ

ในตอนนี้เอง คำพูดที่ราวกับคมมีด ทิ่มแทงไปที่หัวใจของชายหนุ่ม ในที่สุดเขาก็รู้สึกได้ถึงความเย็นชาและความมืดมิดอย่างที่สุด ราวกับโลกทั้งใบมืดดับ

ที่แท้ นี่ก็คือนรกเหรอ