ตอนที่ 674 ฝึกฝนที่เขตแดนจินตภาพ

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 674 ฝึกฝนที่เขตแดนจินตภาพ
ฉินหยุนมองที่ดวงตาอันสับสนของปิงชิง เขาเอ่ยถามเสียงเบา “พี่
สาวปิงชิง คราวนี้ท่านช่วยเหลือข้าฝึกฝนพลังจิตได้หรือยัง?”
เมื่อครู่ ปิงชิงได้สัญญากับฉินหยุน ว่าหากเขามีวิธีกำราบพลังหยิน
ชั่วร้าย นางจะพยายามช่วยเขาฝึกฝนพลังจิตให้แปรเปลี่ยนเป็นจันทรา
นางเดิมคิด ว่าอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าฉินหยุนจะสามารถ
กำราบพลังหยินชั่วร้าย กระนั้นเวลานี้ เขากลับสามารถปลดปล่อย
พลังแห่งความเที่ยงธรรมออกมาได้
หากฉินหยุนสามารถใช้พลังอื่นเพื่อกำราบพลังหยินชั่วร้าย ปิงชิงคง
รู้สึกดีกว่านี้ อย่างไรแล้ว ฉินหยุนก็ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อ
ควบแน่นพลังอันเหนือล้ำสำหรับใช้กำราบ
เพราะวิธีการที่ฉินหยุนคิดใช้ มันกลับกลายเป็นข้อพิสูจน์ ว่าชาติภพ
ก่อนของฉินหยุนหาได้ใช่คนเลวแต่อย่างใดไม่
ปิงชิงยังคงนึกย้อนถึงเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นกับฉินหยุนในชาติภพก่อน
อย่างต่อเนื่อง คิ้วของนางต้องขมวดกันแน่น เป็นนางมั่นใจ ว่าฉินหยุน
คือจอมลวงโลกที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแดนเซียนอ้างว้าง
“พี่สาวปิงชิง ครั้งที่ข้าไปยังเกาะยุทธ์อสูร ข้าได้พบภรรยาข้า นางเอง
ก็กลับชาติมาเกิด เป็นนางกล่าวว่าข้าหาได้ใช่คนลวงโลกไม่ แต่เป็น
คนดีผู้หนึ่ง! เพราะเหตุนั้นนางจึงแต่งงานกับข้า!” ฉินหยุนกล่าว
“ภรรยาเจ้า?” ปิงชิงแทบไม่อาจยอมรับความจริง เรื่องที่ว่าชาติภพ
ก่อนของฉินหยุนเป็นคนดีผู้หนึ่ง
“นามของนางคือเชี่ยวเย่ว์หลาน เป็นพี่สาวของเย่ว์เหม่ย ทั้งสอง
ค่อนข้างคล้ายกันนัก บางที… บางทีชาติภพก่อนของพวกนางอาจ
เป็นพี่น้องกันก็ได้ เรื่องนี้เป็นข้าลืมถาม!” ฉินหยุนกล่าว
“เป็นไปไม่ได้! ในช่วงชีวิตนี้ นางยังจะเป็นภรรยาของเจ้าอีกหรือ?”
ปิงชิงตะโกนถามเสียงดัง ดวงตานั้นเผยความไม่เชื่อ ตอนนี้นางได้
ทราบแล้วว่าภรรยาของฉินหยุนคือผู้ใด
ฉินหยุนกล่าว “พี่สาวปิงชิง ท่านอาจถูกผนึกไว้ในสุสานเซียนก่อน
เวลา ในภายหลัง สักหนึ่งหรือสองหมื่นปี ชาติภพก่อนของข้าอาจจะ
ยังมีชีวิตอยู่เพื่อก่อกรรมดี!”
“ตอนนี้ข้าอายุเพียงยี่สิบกว่าปี นั่นอาจหมายความถึงข้าเพิ่งตายเมื่อ
ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ให้ข้าคาดเดา พี่หยาง เย่ว์หลาน และเย่ว์เหม่ยก็
อาจตายในช่วงเวลาเดียวกันกับข้า จริงด้วย พี่หยางอาจจะตายก่อนข้า
สักเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงกลับชาติมาเกิดใหม่ก่อนข้า จึงได้กลายเป็น
พี่หยางของข้า!”
ปิงชิงรับฟังคำกล่าวของฉินหยุนพร้อมจมดิ่งในห้วงความคิด นาง
ขมวดคิ้ว “หลังข้าถูกผนึก จะบอกว่าเจ้าเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่าง
นั้นหรือ? มันอาจเป็นไปได้ ทว่าอย่างไรแล้วเจ้าก็ยังเป็นคนเลวผู้นั้น!”
ฉินหยุนคิดไปครู่ ก่อนจะรู้สึกว่าหากเขาเปลี่ยนแปลงตนเอง หลังปิง
ชิงถูกผนึก ในช่วงเวลานับหมื่นปี เขาก็เป็นคนดีมาโดยตลอด
“ข้าไม่มีความทรงจำชาติภพก่อนหน้า ดังนั้นจึงไม่อาจทราบว่า
เรื่องราวแท้จริงเป็นอย่างไร และข้ายังไม่กล้าตื่นรู้ความทรงจำด้วย!”
ฉินหยุนกล่าวด้วยสีหน้ายุ่งยาก “พี่สาวปิงชิง พวกเราสมควรเลิกขุด
คุ้ยเรื่องราวชาติภพก่อนของข้ากันได้แล้ว”
ปิงชิงสูดลมหายใจเข้าลึก จิตใจของนางเริ่มสงบลง “เจ้าทราบความ
สัมพันธ์ในชาติภพก่อนของตนเองและเชี่ยวเย่ว์หลานหรือไม่?”
ฉินหยุนที่ไม่คิดอยากขุดคุ้ยมันขึ้นมาอีก กระนั้นพอได้ยินคำถาม
ของปิงชิง เขาพลันเกิดสงสัยขึ้นมา
เขากล่าว “ความสัมพันธ์อันใด? พวกเราสมควรดึงดูดต่อกันอย่าง
มหาศาล ดังนั้นชีวิตนี้พวกเราจึงได้มีชะตาต้องกันอีกครั้งหนึ่ง!”
ปิงชิงเผยเสียงเย็น “หลังข้าถูกผนึกย่อมไม่อาจทราบว่าเกิดอันใดขึ้น!
แต่ก่อนที่ข้าจะถูกผนึก เจ้าและสองพี่น้องนั่นเป็นศัตรูต่อกัน! พวก
นางไล่ล่าสังหารเจ้าในเงามืดมานับพันปี!”
“มีเรื่องเช่นนั้น?” ฉินหยุนเบิกตากว้าง “ข้าไปทำอะไรให้พวกนางไว้
จนถึงขั้นตามล่าสังหารข้ายาวนานเพียงนั้นกัน?”
“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าเล่นกับความรู้สึกของพวกนาง หลอกลวงพวก
นาง และฉกชิงเอาสมบัติล้ำค่าไปมากมาย กระทั่งอาจารย์ของพวก
นางยังถูกเจ้าผนึกเอาไว้ ส่วนสถานที่นั้นไม่มีผู้ใดทราบ อาจารย์ใน
ชาติภพก่อนของพวกนาง คือราชันเซียนผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง!”
ปิงชิงได้เห็นสีหน้ารู้สึกผิดและอับอายของฉินหยุน นางกล่าวต่อ
“หลังจากอาจารย์พวกนางถูกเจ้าผนึกเอาไว้ สมบัติของอาจารย์พวก
นางต่างปรากฏในมือเจ้า!”
“ใช่แล้ว อาจารย์ของพวกนางเป็นสตรี นางเป็นราชันเซียนเพศหญิง
ที่โด่งดังในแดนเซียนอ้างว้าง!”
ฉินหยุนไม่ทราบควรตอบอะไรดี เขาบุ้ยปากพลางยิ้มกล่าว “นั่นเป็น
เรื่องราวชาติภพก่อนที่นานนัก พี่สาวปิงชิง เมื่อใดท่านจะช่วยข้า
ชี้แนะการฝึกฝน? ข้าคิดอยากเปลี่ยนจิตให้เป็นจันทราโดยเร็วที่สุด!”
“ไม่ใช่ว่างานประลองยุทธ์จำกัดแค่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับ
ต้นหรือไร?”
ปิงชิงหยุดพูดถึงเรื่องชาติภพก่อนของฉินหยุน นางเองย่อมได้เห็น ว่า
ฉินหยุนหลังได้รับฟัง ดวงตาของเขาต้องอัดแน่นด้วยความโศกศัลย์
และรู้สึกผิดเพียงใด
นางขณะนี้เชื่อจากใจ ว่าฉินหยุนตอนนี้แตกต่างจากชาติภพก่อน เขา
ไม่ใช่คนผู้นั้น แม้ว่าบางครั้งจะเจ้าเล่ห์ไปบ้างก็ตามที
อย่างไรแล้ว ลึกลงไปภายในใจของฉินหยุนก็ยังมีความโศกคงอยู่
เป็นเพราะเขารู้สึก ว่าชาติภพก่อนของตนเองช่างเลวร้ายนัก เป็นเขา
ทำร้ายเชี่ยวเย่ว์หลานและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยอย่างสาหัสยิ่ง
“เสี่ยวหยุน อย่าได้เศร้าไปแล้ว! มันต้องมีเหตุผลว่าทำไมเย่ว์หลาน
จึงรักชอบเจ้าในช่วงชีวิตนี้ นอกจากนี้ เย่ว์เหม่ยและพี่หยางต่างก็ดูแล
เจ้าเป็นอย่างดียิ่ง!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “ปิงชิงถูกผนึกไว้ยาวนาน
นางย่อมไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ดังนั้นมันจะต้องมี
ส่วนใดที่เข้าใจผิดต่อกันเป็นแน่!”
ฉินหยุนนึกย้อนถึงรอยยิ้มหวานงดงามที่เชี่ยวเย่ว์หลานมีครั้งอยู่เกาะ
ยุทธ์อสูร ความโศกศัลย์ภายในใจเขาค่อยเลือนหายไปได้
“ข้าไม่คิดสนใจเรื่องงานประลองยุทธ์อันใดนั่นอีก ที่ข้าต้องการ
ตอนนี้ คือก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง และจะได้ไปยัง
เทือกเขานิราศจันทราเพื่อช่วยเหลือพี่หยาง!” ฉินหยุนกล่าว
“เจ้าไม่ต้องกังวลถึงนางไป! ไม่ใช่เจ้าบอกหรือว่านางได้รับวิญญาณ
ยุทธ์จันทราทมิฬแล้ว? กระทั่งว่าเป็นข้าไป ก็คงไม่อาจหาตัวนางได้
พบ เจ้าจำเป็นต้องทราบว่าเทือกเขานิราศจันทราคือสถานที่เช่นใด ที่
แห่งนั้นคืออาณาเขตของพระราชวังกวงหานของนางที่คงอยู่ในแดน
วิญญาณอ้างว้าง!” ปิงชิงกล่าว
“นี่… เป็นเรื่องจริงหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถามตื่นตระหนก
“ตำหนักจันทราทมิฬ นครจันทราอัคคี และเกาะจันทราปีศาจ ทั้งหมด
ถูกสร้างขึ้นโดยคนของพระราชวังกวงหาน! แน่นอนว่าข้าไม่มั่นใจ
ถึงสถานะของทั้งสามสำนักจันทรานั้นเท่าใดนัก โดยสรุปแล้ว เคล็ด
วิชาทั้งหลายและมรดกที่ตกทอดของสามสำนักจันทรา ทั้งหมดล้วน
มาจากพระราชวังกวงหาน”
ปิงชิงกล่าว “พระสูตรหัวใจตะวันจันทราของข้า ก็เป็นสิ่งที่พี่หยาง
ของเจ้าถ่ายทอดให้มา!”
ฉินหยุนพลันนึกถึงการดูแลอันเป็นพิเศษยิ่งของเกาะจันทราปีศาจที่
มีต่อเขา มันจะต้องเป็นเพราะหยางฉีเย่ว์!
หยางฉีเย่ว์ก่อนหน้านี้ตกลงเข้าร่วมตำหนักจันทราทมิฬ ทว่านั่นเป็น
เรื่องก่อนที่นางจะได้รับความทรงจำกลับคืน หลังนางตื่นรู้ความทรง
จำ นางจึงมายังแดนวิญญาณอ้างว้างและได้ทราบถึงสามสำนักจันทรา
ฉินหยุนพิจารณาให้ถี่ถ้วน จึงพบว่าเกาะจันทราปีศาจยังคงภักดีต่อ
พระราชวังกวงหาน เพราะเหตุนั้นหยางฉีเย่ว์คงได้บอกต่อเกาะ
จันทราปีศาจ ให้พวกนางช่วยดูแลเขาเป็นพิเศษ
“พี่สาวปิงชิง พี่หยาง เย่ว์หลาน และเย่ว์เหม่ย นามในชาติภพก่อน
ของพวกนางคืออันใด?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย
“ข้าไม่คิดบอกเจ้า ข้ากังวลว่าจะไปกระตุ้นความทรงจำของเจ้าให้ตื่น
ขึ้นมา!” ปิงชิงจงใจไม่เอ่ยถึงนามของพวกนาง เพราะนางมีเหตุผล
ฉินหยุนตอนนี้โล่งใจ อย่างน้อย หยางฉีเย่ว์ก็จะไม่ถูกพบตัวโดยง่าย
ทว่า นางก็คงต้องอยู่ที่ภายในเทือกเขานิราศจันทราอย่างแน่นอน
“ในเมื่อเจ้าเร่งรีบแปรเปลี่ยนจิตสู่จันทรา อย่างนั้นก็เริ่มกันได้เลย!
แม้ได้ข้าช่วยเหลือ เจ้าก็อาจไม่สำเร็จ ในกรณีของเจ้า กระบวนการ
น่าจะเป็นไปอย่างยากลำบากนัก”
“กลับไปยังที่พักเจ้า จัดการห้องลับให้พร้อม จากนั้นค่อยวางแก่นเต๋า
ดวงดาวในค่ายอาคม พร้อมชักนำพลังดวงดาวสู่ภายใน!”
“หลังจากนั้น จงกินเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดทั้งหมดที่มี เข้าสู่
เขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ และมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้องห้าม
เพื่อพบข้า!”
ปิงชิงกล่าวคำจบ นางจึงกระโดดลงสู่สระเซียน นางกำลังเข้าสู่เขต
แดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์
ฉินหยุนกลายเป็นรู้สึกตื่นเต้น จนต้องเร่งรีบวิ่งออกไปประหนึ่งสาย
ลมหอบ
เมื่อกลับถึงห้อง เขาจึงเข้าไปในห้องลับที่เงียบงัน ทำตามที่ปิงชิง
ชี้แนะและจัดแจงหลายสิ่งอย่างด้วยความรวดเร็ว
ภายในห้องลับนี้ผนึกอย่างสมบูรณ์ มันจะไม่มีออร่าใดหลุดรอด
ออกไป
เขาวางกองแก่นเต๋าดวงดาวจำนวนมหาศาล จากนั้นจึงใช้ค่ายอาคม
เพื่อชักนำพลังดวงดาวให้มารวมตัวกันหนาแน่น
ฉินหยุนกินเม็ดยาลึกล้ำวิญญาณต้นกำเนิดกว่าหนึ่งร้อยเม็ด พร้อม
นอนลงบนเตียงเพื่อเข้าสู่เขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ ทันทีเมื่อ
ปรากฏตัวในเขตเมือง เขาจึงตรงดิ่งมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้องห้ามด้วย
ความเร็วแสง
ครั้งนี้เขาได้รับอนุญาตแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหวาดเกรงต่อบทลงโทษ
ใดยามเข้าสู่พื้นที่ต้องห้าม
ฉินหยุนพุ่งทะยานสุดกำลัง ในเวลาครึ่งวัน เขาค่อยมาถึงดินแดน
แห่งน้ำแข็งและหิมะ ก่อนจะเข้าไปถึงสระเซียนซึ่งอยู่ภายในภูเขา
เมื่อมาถึง เขาจึงได้เห็นปิงชิงนั่งอยู่ข้างสระเซียนอยู่ก่อนแล้ว
ปิงชิงสวมใส่ชุดสีขาวงดงามดังหิมะ มันทั้งบริสุทธ์ิ เย็นเยือก และ
งดงาม ทั้งยังรัญจวนใจ นางนั่งไขว้ขาอยู่ข้างสระเซียน รัศมีส่อง
ประกายออกงดงามและศักด์ิสิทธ์ิ นี่จึงค่อยเป็นความรู้สึกที่บ่งบอก
ถึงความเป็นเซียนผู้หนึ่ง
“มาที่นี่ นั่งลง!” ปิงชิงกล่าว
ฉินหยุนสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของนางคล้ายแปลกออกไป ชั่วขณะนี้
ปิงชิงคล้ายเพิ่งกินดินปืนเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น น้ำเสียงของนางเย็น
ชาและคล้ายมีความโกรธเจือปน
ฉินหยุนไม่กล้ากล่าวอันใด เขาเพียงเดินไปและนั่งที่ตรงข้ามนาง ทั้ง
สองเวลานี้อยู่ค่อนข้างใกล้ชิดกันมากนัก
ฉินหยุนมองใบหน้าเซียนงดงามหมดจดของปิงชิง ภายในอดไม่ได้ที่
จะกล่าวอุทานชื่นชม
“เจ้ากำลังคิดเรื่องลามกอยู่หรือ?” ปิงชิงเผยเสียงเย็นเยือกขนาดทำฉิน
หยุนสั่นกลัว
“ย่อมไม่ใช่!” ฉินหยุนไม่กล้าคิดอื่นใดอยู่แล้ว เขาเพียงแต่นับถือต่อ
ความงดงามของปิงชิง
“เหอะ!” ปิงชิงขมวดคิ้วบาง คิดถึงเรื่องราวที่ทำให้นางต้องมีโทสะ
ครั้งล่าสุด เป็นนางเปลื้องผ้าที่นี่ และฉินหยุนได้มาพบเห็นนาง เรื่อง
นี้ยังคงสร้างความยุ่งยากอยู่ภายในใจของนาง โดยเฉพาะที่นี่ มันยิ่ง
กระตุ้นให้นางนึกถึงความทรงจำเหล่านั้น
ฉินหยุนขณะนี้ค่อยเข้าใจ ว่าเหตุใดปิงชิงมีโทสะ
เขาพลันกล่าวคำขึ้น “พี่สาวปิงชิง ครั้งนั้น… ข้าต้องขออภัยต่อ
เรื่องราวครั้งก่อน ข้าไม่ได้คิดอื่นใดแม้เพียงนิด! ท่านก็น่าจะจำได้
ทันทีเมื่อข้าเห็นท่าน ข้าได้สังหารท่านในพริบตา ดังนั้นข้าย่อมไม่มี
ความคิดสกปรกใดเจือปน!”
“หากข้าเป็นคนต่ำช้า เช่นนั้นข้าคงหลบซ่อนรับชมตักตวงให้ได้มาก
ที่สุดแล้ว!”
ปิงชิงโพล่งเสียงดังตอบ “หุบปาก อย่าได้พูดถึงเรื่องนี้อีก!”
ในมิติมายาของฉินหยุน หลิงหยุนเอ๋อเผยยิ้มกว้างกล่าวคำ “เสี่ยว
หยุน ที่นางเกลียดเจ้าก็เพราะเจ้าไม่มองให้ดี เพราะเหตุนั้นนางจึง
โกรธ! ตัวตนงดงามเลิศล้ำเช่นนางเปลื้องผ้า กระนั้นเจ้ากลับไม่ดูให้
ดี กระทั่งลงมือสังหารต่อนาง หากเป็นข้า ข้าไม่โกรธก็แย่แล้ว!”
ฉินหยุนสบถต่อหลิงหยุนเอ๋ออยู่ภายใน นางมักจะเอาแต่พูดจาอุกอาจ
สร้างเรื่องให้แก่เขา
“พี่สาวปิงชิง พวกเราเริ่มกันได้หรือยัง?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
ปิงชิงเผยเสียงแน่วแน่ “ฉินหยุน ข้าคิดใช้พระสูตรหัวใจตะวันจันทรา
ฝึกฝนกับเจ้า มีแต่ทำเช่นนี้เจ้าจึงสามารถดูดกลืนพลังเซียนจากเขต
แดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ได้รวดเร็ว นอกจากนี้แล้ว ข้าจะยังชี้นำ
ให้เจ้าใช้งานบรรทมเซียนในเขตแดนจินตภาพเซียนยุทธภัณฑ์ เพื่อ
เพิ่มเวลาในการฝึกฝนจิตของเจ้า!”
ฉินหยุนพอได้ยินดังนี้ เขาย่อมเกิดความตื่นเต้นยินดี
ปิงชิงกล่าวเตือน “ทว่าก็ยังมีปัญหา! เพราะข้าไม่มั่นใจว่าตนเองเชื่อ
ใจเจ้าถึงระดับใด ดังนั้นพวกเรามีแต่ต้องทดลองดู!”
“นี่ออกจะอันตรายไปบ้าง หากมีอันใดผิดพลาด นั่นจะทำให้จิตของ
เจ้าเกิดเสียหาย ส่วนทางด้านของข้านั้นจะไม่เป็นไร เจ้ายังคิดอยาก
ลองหรือไม่? นี่ถือเป็นวิธีการรวดเร็วที่สุดที่จะแปรเปลี่ยนจิตของเจ้า
เป็นจันทรา ไม่เช่นนั้น พวกเราก็คงต้องไปหาวิธีการอื่น”
“ได้ ให้ข้าได้ลอง! เพราะข้าเชื่อใจท่าน!” ฉินหยุนเผยความแน่วแน่
อย่างไม่ลังเลแม้เพียงนิด