“ลานที่ 8 เฟิงหลิน ปะทะ เฟิงเย่!”
รายการการต่อสู้ใหม่ปรากฏขึ้น
เฟิงหลินเดินไปที่ลานประลอง ตั้งแต่เริ่มต้นการจัดอันดับจนถึงตอนนี้ มันผ่านมาสิบหกรอบแล้ว ไม่มีผู้อ่อนแอในหมู่คนที่เหลืออยู่
คราวนี้คู่ต่อสู้ของเฟิงหลินคือผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวอีกคนหนึ่งที่มีพลังชีวิตมากกว่า 30 อย่างไรก็ตามแม้ร่างกายของเขาจะมีกล้ามเนื้อ แต่ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเผชิญหน้ากับเฟิงหลิน
นี่คือสัญชาตญาณในฐานะผู้บ่มเพาะซึ่งทำให้เขารู้สึกถึงการสะกดข่มเบาๆ เนื่องจากความแตกต่างด้านสถานะพลัง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่อาจผ่อนคลายได้
อย่างไรก็ตามในฐานะผู้บ่มเพาะดวงดาว เขาจะกลัวการต่อสู้ได้ยังไง?
เฟิงเย่จ้องเฟิงหลินและพูดว่า “เฟิงหลินนายแข็งแกร่งมาก! ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ แต่ยังไงฉันก็จะเอาชนะนายให้ได้!”
“แน่นอน” เฟิงหลินยิ้มและพยักหน้า เขาสามารถสัมผัสถึงความตั้งใจที่จะต่อสู้อย่างดุเดือด มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่ทำให้เขาน่าสนใจ!
“เขย่าภูผา!”
เฟิงเย่เดินเหยียบย่ำบนพื้นและพุ่งไปข้างหน้า เปลี่ยนเป็นเงาพร่ามัวทันที หมัดของเขาเหมือนค้อนที่หวังบดขยี้ทุกอย่างตรงหน้า
แรงหมัดของเขาทำให้อากาศกระจายตัวเกิดเสียงดังสนั่นด้วยกลิ่นอายที่น่าอัศจรรย์
หวือ!
พื้นสั่นสะเทือน จุดกลางคิ้วของเฟิงหลินพลันเปล่งประกายด้วยแสงสีเงิน พลังจิตกระเพื่อมออกมาทันที แต่มันกลับรู้สึกเหมือนกระแทกเข้ากับกระดานเหล็ก เฟิงหลินไม่สามารถสะกดจิตคู่ต่อสู้รายนี้ได้
ดวงตาของเฟิงเย่นั้นยังคงชัดเจน ยิ่งกว่านั้น หัวใจของเขายังมีความเชื่อมั่นที่ไม่สั่นคลอนและความตั้งใจของเขาเป็นเหมือนเหล็ก นี่คือเหตุผลว่าทำไมการสั่นคลอนจิตใจเขาถึงยาก
นี่ชักน่าสนใจขึ้นแล้วสิ!
เฟิงหลินอดยิ้มไม่ได้
แม้ว่ายีนจิตของเขาจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจนถึงขีดสูงสุด แต่มันก็เป็นเพียงแค่ยีนพื้นฐานเท่านั้นความไม่เสมอภาคในระดับนั้นทำให้มันยากที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บ่มเพาะดวงดาวที่แท้จริง
มันจะเป็นไปได้ถ้ายีนจิตของเขากลายเป็นยีนประเภทจิตขั้นที่สูงขึ้น
เนื่องจากการสะกดจิตไม่เป็นผล นั่นหมายความว่าความสามารถอื่นๆที่ได้รับจากยีนพื้นฐานก็ไม่มีประโยชน์เช่นกัน
ดูเหมือนว่าฉันต้องเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงของฉัน …
เฟิงหลินไม่ได้ตกใจอะไรแต่กลับรู้สึกสนุกแทน ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ คู่ต่อสู้ทั้งหมดของเขาต่างยอมแพ้เพราะการสะกดจิต มันน่าเบื่อเกินไปจริงๆ
ในที่สุดก็มีคู่ต่อสู้ที่น่าสนใจ!
แต่คู่ต่อสู้คนนี้จะสร้างความตื่นเต้นได้มากแค่ไหน? เขาจะรู้ก็ต่อเมื่อได้ลองแลกหมัดดู!
เฟิงหลินไม่ได้ใส่ใจอะไร จ้องมองหมัดอันดุเดือดของคู่ต่อสู้ มือข้างหนึ่งก่อตัวเป็นรอยประทับฝ่ามือและเหวี่ยงเข้าอย่างแรง
ผิวฝ่ามือของเขามีลักษณะเป็นหยก เปล่งประกายสลัว
ดูเหมือนฝ่ามือธรรมดา ดูไม่ช้าและก็ไม่เร็ว ราวกับว่าได้กลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นหมัดคู่ต่อสู้ให้สงบ
ปึก!
ด้วยแรงเบาๆ คลื่นพลังงานเกรี้ยวกราดในอากาศกลับสงบลง
พลังอันยิ่งใหญ่ของเฟิงเย่หายไปด้วยฝ่ามือเดี่ยว
“เอ๊ะ?” ชายหนุ่มรูปหล่อสำรวจการเปลี่ยนแปลงของเฟิงหลิน
ในที่สุดเขาก็จะแสดงพลังที่แท้จริงของเขาออกมา?
อืม แม้แต่ร่างกายของเขาก็กลายเป็นสารคล้ายหยก
ยีนอะไร?ยีนเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายประเภทไหน?เขามีความสามารถอื่นๆอีกไหม?
เขาจ้องมองเฟิงหลินอย่างสนใจ
…
“ อะไรกัน?” เฟิงเย่เองก็ตกใจ หมัดที่ทรงพลังที่สุดของเขาถูกคู่ต่อสู้จัดการได้อย่างง่ายดาย?
การโจมตีของเขาล้มเหลว เขาจึงอยากจะหนี
เฟิงหลินยิ้ม เขาพลิกฝ่ามือและคว้าออกมาจับหมัดเฟิงเย่ ไม่ปล่อยให้เขาหนี
สีหน้าของเฟิงเย่เปลี่ยนเป็นสีแดง เขาใช้กำลังทั้งหมดเพื่อดิ้นรน
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่าความแข็งแกร่งของเฟิงหลินนั้นน่าตกใจมาก ฝ่ามือของเขาเหมือนห่วงเหล็กที่ล็อคมือทั้งสองไว้แน่น ไม่ปล่อยให้เขาเป็นอิสระ
เฟิงหลินดูอ่อนแอและผอมมาก ทำไมเขาถึงมีพละกำลังที่ยิ่งใหญ่แบบนี้? เขาปลุกยีนที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งประเภทไหน?
ในระหว่างการต่อสู้แม้จะมีคำถามในใจ แต่จะมีเวลาไตร่ตรองได้ยังไง?
แม้จะเสียเปรียบ แต่เฟิงเย่ก็มีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย ร่างกายของเขาบิดตัว เท้าของเขากระทืบพื้น กระโดดขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยชุดลูกเตะใส่หน้าอกเฟิงหลิน
ตอนนี้เฟิงหลินต้องปล่อยมือ ฝ่ามือของเขาทำหน้าที่เหมือนพัดลม สร้างการป้องกันทางอากาศปิดกั้นการเตะจากเฟิงเย่
“ถล่มภูผา!”
เฟิงเย่หลุดออกมาได้ ตอนนี้มือของเขาเป็นอิสระ เขาวางมือไว้ตรงหน้าหน้าอกและตั้งท่า’หม้อคลั่งเผด็จการ’ หมัดเขาดูเหมือนจะสามารถบดขยี้ขุนเขาได้
ฝ่ามือของเฟิงหลินหมุนเป็นวงกลม เผยให้เห็นข้อบกพร่องในการป้องกัน ไม่ปิดกั้นอย่างสมบูรณ์
“หือ?” ทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ความสับสนฉายบนหน้า
เฟิงเย่คนนี้ทรงพลัง เมื่อหมัดของเขายังโจมตีอย่างต่อเนื่อง หมัดของเขาก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากต่อยเป็นสิบครั้ง แรงหมัดของเขานั้นก็แรงกว่าหมัดแรกถึงสามเท่า
นี่มันอะไร?
เมื่อความแข็งแกร่งของมนุษย์ถึงขีดจำกัด มันคงเป็นเรื่องยากที่เพิ่มความแข็งแกร่งแม้เพียงเล็กน้อย แต่นี่กลับมากถึงสามเท่า
แรงในการชกของเฟิงเย่หนักขึ้นเรื่อยๆ
คนๆนี้มีสถานะพลังประมาณ 30 เป็นไปได้ยังไงที่ความแข็งแกร่งของเขาจะสูงกว่าของฉัน เฟิงหลินไม่เชื่อเรื่องนี้
ความแตกต่างของสถานะพลังที่สูงมากไม่ใช่สิ่งที่สามารถกำจัดได้ด้วยการโจมตีแบบโมเมนตัม
เฟิงหลินสกัดหมัดอีกครั้งด้วยความประหลาดใจ เขาค้นพบว่าระดับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้เขาไม่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม แรงในการชกของเขานั้นกลับหนักขึ้นจนคล้ายกับเหล็กทุบ
ในขณะนี้เขาสัมผัสระลอกคลื่นของพลังงานที่คุ้นเคยมากในอากาศ
ยีนแรงโน้มถ่วง?
เฟิงหลินจำได้ว่านี่เป็นยีนแรกเริ่มขั้นสูง ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมแรงโน้มถ่วงไร้รูปแบบในการกำจัดผู้อื่น เพิ่มพลังโดยตรง เสริมการโจมตี ผลที่ได้นั้นไม่เลวเลย
เห็นได้ชัดว่าเฟิงเย่ใช้พลังแรงโน้มถ่วงมหาศาลเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ทุกครั้งที่เขาชกหมัด หมัดของเขาจะเป็นเหมือนค้อนขนาดใหญ่ทุบมาทางเฟิงหลิน
ยิ่งเขาใช้แรงโน้มถ่วงมากเท่าไร หมัดของเขาก็ยิ่งหนักขึ้นเท่านั้น!
หลังจากค้นพบความจริง เฟิงหลินก็ไม่สนใจที่จะเสียเวลาอีกต่อไป
รอยประทับค้อนพลิกฟ้า!
มือทั้งสองของเขาเหมือนค้อนในตำนานที่ทุบลงมา
แม้เฟิงเย่จะเป็นเหมือนภูเขา เขาก็ยังถูกกระแทกออกไป
แม้ว่าหมัดของเฟิงเย่จะหนัก แต่ความแข็งแกร่งที่ปล่อยออกมายังคงเหมือนเดิม เขาจะต้านการโจมตีที่เกินกำลังตัวเองถึงสามเท่าได้ยังไง?
เฟิงเย่ถูกเหวี่ยงไปในอากาศและกระแทกเข้ากับพื้นด้านล่างลานประลอง
“เฟิงหลิน ชนะ! เวลาที่ใช้: หนึ่งนาที”
ปัญญาประดิษฐ์แจ้งผล
“อะไรนะแม้แต่เฟิงเย่ก็ยังแพ้”
“สถานะพลังของเฟิงเย่สูงถึง 32.6 แต่เขาก็ทนได้เพียงหนึ่งนาที!”
“การเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของเฟิงหลินทรงพลังมาก ศิลปะการต่อสู้นี้คืออะไร?”
…
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจ มันไม่ง่ายที่พวกเขาจะได้เห็นเฟิงเย่ลงมือ แต่การต่อสู้กลับจบเร็วนัก?
คู่ต่อสู้ของเขาถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์ และความสามารถของเฟิงหลินก็ค่อยๆเปิดเผยทีละเล็กน้อย
การเคลื่อนไหวมหัศจรรย์ที่เขาใช้นั้นเพียงเสี้ยววินาที ดังนั้นมันยากที่จะเห็นอย่างชัดเจนว่าต้นกำเนิดของมันคืออะไร
เฟิงหลินเดินไปตามลานประลองอย่างช้าๆ และจ้องมองไปรอบๆ เขาค้นพบว่ามีคนเหลืออยู่เพียงสี่สิบคนเท่านั้น โดยที่พวกเขาส่วนใหญ่เป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว
แต่ผู้ที่สามารถสู้กับเขาได้มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น งคือเฟิงหลี่ เฟิงจินเผิงและอัจฉริยะอื่นๆของตระกูลที่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ก็นั่นแหละ ทำอะไรเขาไม่ได้มากหรอก
หากเขายังคงต่อสู้ต่อไปแบบนี้ จะต้องใช้เวลาอีกแค่ไหนก่อนการแข่งขันจะจบลง
เฟิงหลินหงุดหงิดมากขึ้น คิ้วของเขากระตุกขณะพยายามคิดวิธีที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด